ย้อนไปฤดูหนาวสามปีที่แล้ว ผมเป็นไข้หวัด อาการคือมีน้ำมูกไหล ไอ มีเสมหะ และเจ็บคอ ไม่มีอาการตัวร้อนหรือปวดหัว
ผมไปซื้อยาที่ร้านขายยา เภสัชกรถามถึงอาการไม่สบายของผมก่อนจ่ายยา
ตอนนั้นผมอยากเรียนหมอ ผมจึงชอบดูยาที่เภสัชกรจัดให้ ยาที่ผมได้มีห้าตัวคือ
1. ยาแก้ปวดลดไข้
2. ยาละลายเสมหะ
3. ยากดไอ
4. ยาลดน้ำมูก
5. ยาปฎิชีวนะ
ตอนนั้นผมก็คิดว่า โอ้โห ดีมากๆ เลย ได้ยาตรงกับอาการแบบนี้เดี๋ยวก็หาย คราวหน้าเป็นอะไรไม่ต้องไปพบแพทย์แล้ว มาร้านขายยาเอาก็ได้ ตอนนั้นผมจำไม่ได้แล้วว่าหายจากอาการหวัดเร็วหรือช้าอย่างไร
มาถึงตอนนี้ ตอนที่ผมมีความรู้มากขึ้น ถึงได้รู้ว่าการจัดยาของเภสัชกรตอนนั้นไม่ถูกต้อง ไม่แน่ใจว่าเพราะเขาไม่มีความรู้หรือเพราะเขาต้องการขายยากันแน่ ถึงได้จัดยามาให้เกินความจำเป็นมากมายขนาดนี้ มาดูกันทีละตัวเลยนะครับ
1. ยาแก้ปวดลดไข้
ยาชนิดนี้ใช้ในการ "ลด" อาการ
ตอนจ่ายยาควรแนะนำให้ชัดเจนว่าให้ใช้ยาเฉพาะเวลาที่มีไข้ หรือมีอาการปวด
นอกเหนือจากนั้นไม่ควรใช้ เพราะเกินความจำเป็น ไม่มีผลดี และจะส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว
ซึ่งในกรณีของผมคือไม่มีไข้ ไม่มีการปวด ได้รับยาฟรีไปครับ แต่ตอนนั้นผมก็ไม่กินหรอกนะ เพราะกินยาตัวนี้เป็นอยู่แล้ว
2. ยาละลายเสมหะ
ตัวนี้ก็โอเค ให้ได้เพราะผมมีเสมหะ ยาตัวนี้จะช่วยในเรื่องของการขับเสมหะออกได้ง่ายขึ้น
แนะนำเพิ่มเติมนะครับว่าหากมีเสมหะ หรืออาการไอ ให้ทานน้ำมากๆ มันช่วยได้เยอะจริงๆ
อาจารย์บางท่านแนะนำด้วยซ้ำว่าการทานน้ำมากๆ มีผลดีมากกว่าการทานยาละลายเสมหะบางตัวซะอีกครับ
3. ยากดไอ
ตัวนี้ไม่ควรให้เด็ดขาด นอกจากจะไม่ช่วยรักษาโรคแล้วยังเป็นผลเสียอีกต่างหาก
ต้องเข้าใจก่อนว่าการไอ เป็นการตอบสนองที่ดีของร่างกายในการกำจัดเชื้อโรคออกจากร่างกาย
โดยเมื่อมีอาการไอ จะทำให้เชื้อที่อยู่ในเสมหะถูกขับออกมาข้างนอก หรือถูกส่งไปทำลายในระบบทางเดินอาหาร(กลืน)
ถ้าเรามีเชื้อโรคอยู่ แล้วได้ยาตัวนี้ซึ่งทำให้เราไม่ไอ ก็ทำให้เรากำจัดเชื้อโรคออกจากร่างกายได้น้อยลง
ส่งผลให้หายจากโรคหวัดช้าลง หรือถ้าแย่กว่านั้นอาจทำให้การติดเชื้อรุนแรงขึ้นได้
ยาตัวนี้จะใช้ในการไอแบบแห้งๆ หรือผู้ที่มีอาการไอรุนแรงจนส่งผลต่อการใช้ชีวิต หรือตามการพิจารณาของแพทย์
ซึ่งในกรณีของผมนั้นไม่ควรให้อย่างยิ่ง เพราะผมไอไม่มากเลย
4. ยาลดน้ำมูก
ยาตัวนี้สามารถให้ได้ เหมาะสมดีแล้วครับ เพียงแต่ต้องระวังผลข้างเคียงคือความง่วง
5. ยาปฎิชีวนะ
อันนี้ไม่สมควรให้อย่างรุนแรงครับ!!!!
ยาตัวนี้ใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อจากแบคทีเรียครับ ซึ่งพบได้น้อยมากๆ เมื่อเทียบกับการติดเชื้อไวรัส
ซึ่งอาการของผมตอนนั้นคือเจ็บคอไม่มากเลย และเป็นมาไม่กี่วันโอกาสที่จะเป็นเชื้อแบคทีเรียคือน้อยซะยิ่งกว่าน้อย
ถ้าเราเป็นหวัดจากการติดเชื้อไวรัสแล้วกินยาปฎิชีวนะจะมีข้อเสียคือ
1) สิ้นเปลือง ตัวยาไม่ช่วยในการรักษาโรคแม้แต่น้อย
2) ทำให้เชื้อดื้อยา การใช้ยาปฎิชีวนะอย่างไม่สมเหตุสมผลแบบนี้จะทำให้เชื้อในร่างกายของเราเกิดการดื้อยา เราจะรักษาการติดเชื้อจากแบคทีเรียยากขึ้นในการรักษาโรคครั้งต่อไป อีกทั้งถ้าเชื้อของเราไปติดคนอื่น เขาก็จะได้รับเชื้อที่ดื้อยาแล้วไป วงจรแบบนี้น่ากลัวมากครับ มันส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่จนถ้าวันหนึ่งเราไม่หยุดใช้ยาปฎิชีวะพร่ำเพรื่อแบบนี้ อาจส่งผลให้เราไม่มียาปฎิชีวนะใช้อีกเลยเพราะเชื้อดื้อยาหมดแล้ว
3) ร่างกายได้รับยาเกินความจำเป็น ส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาว
นี่ล่ะครับ สิ่งที่ผมได้รับจากร้านขายยา ได้ยามาห้าตัว มีประโยชน์ 2 ตัว อีก 3 ตัวไม่เพียงไร้ประโยชน์ แต่กับมีโทษด้วยซ้ำ
ถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่รู้จริงๆ นะครับ ว่าเขาจ่ายมาแบบนั้นเพราะความไม่รู้หรือเพราะต้องการมีรายได้จากการขายยาโดยไม่สนเรื่องจรรยาบรรณ
ผมไม่ได้ซื้อยาพวกนี้มานานมากแล้ว ไม่รู้ว่าร้านขายยาปัจจุบันยังเป็นแบบนี้มากน้อยแค่ไหนนะครับ
แล้วถ้าเป็นหวัดควรทำอย่างไร?
ปกติการติดหวัดจะเป็นเชื้อไวรัสนะครับ ซึ่งร่างกายสามารถสร้างภูมิต้านทานได้เองภายใน 3-15 วันครับ ไม่มียาที่จะช่วยให้เราสร้างภูมิต้านทานได้เร็วขึ้น การกินยาเป็นเพียงการ "ลดอาการ" เท่านั้นครับ การกินน้ำจะช่วยในการขับเสมหะได้ดีมากๆ และการพักผ่อนจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของร่างกายในการสร้างภูมิต้านทานครับ สิ่งที่ต้องระวังมากๆ คือการใช้ยาปฎิชีวนะครับ สมควรใช้ในการติดเชื้อแบคทีเรียเท่านั้นครับ ติดไว้รัสไม่ควรใช้เด็ดขาด!!
รู้ได้ไงว่าเป็นหวัดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย?
ถ้าให้ดีที่สุดควรให้วินิจฉัยโดยแพทย์นะครับ
ถ้าจะดูเองคร่าวๆ คือ ถ้าเจ็บคอก็จะเจ็บมากๆ ครับ อ้าปากดูจะพบหนองเป็นจุดๆ ที่คอหอย โคนลิ้น ลิ้นไก่ ต่อมทอลซิล ครับ ถ้าไม่มีอาการเหล่านี้ก็ให้สงสัยว่าเป็นหวัดจากเชื้อไวรัสไว้ก่อนครับ ยังไม่ควรใช้ยาปฎิชีวะ
ก่อนจากขอทิ้งท้ายหน่อยครับ ช่วงนี้ฤดูหนาว โรคหวัดกำลังจะระบาด ขอความกรุณาผู้ที่เป็นหวัดนะครับ ขอให้สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่เจอผู้อื่นนะครับ เพื่อเป็นการลดการกระจายเชื้อครับ
ถ้ามีข้อมูลส่วนไหนผิดพลาดสามารถแนะนำได้นะครับ และหากท่านใดอยากให้ข้อมูลส่วนไหนเพิ่มเติมก็ยินดีครับ ขอบคุณครับ
หนาวนี้ อย่าเสียที ให้ร้านขายยา !!!!
ผมไปซื้อยาที่ร้านขายยา เภสัชกรถามถึงอาการไม่สบายของผมก่อนจ่ายยา
ตอนนั้นผมอยากเรียนหมอ ผมจึงชอบดูยาที่เภสัชกรจัดให้ ยาที่ผมได้มีห้าตัวคือ
1. ยาแก้ปวดลดไข้
2. ยาละลายเสมหะ
3. ยากดไอ
4. ยาลดน้ำมูก
5. ยาปฎิชีวนะ
ตอนนั้นผมก็คิดว่า โอ้โห ดีมากๆ เลย ได้ยาตรงกับอาการแบบนี้เดี๋ยวก็หาย คราวหน้าเป็นอะไรไม่ต้องไปพบแพทย์แล้ว มาร้านขายยาเอาก็ได้ ตอนนั้นผมจำไม่ได้แล้วว่าหายจากอาการหวัดเร็วหรือช้าอย่างไร
มาถึงตอนนี้ ตอนที่ผมมีความรู้มากขึ้น ถึงได้รู้ว่าการจัดยาของเภสัชกรตอนนั้นไม่ถูกต้อง ไม่แน่ใจว่าเพราะเขาไม่มีความรู้หรือเพราะเขาต้องการขายยากันแน่ ถึงได้จัดยามาให้เกินความจำเป็นมากมายขนาดนี้ มาดูกันทีละตัวเลยนะครับ
1. ยาแก้ปวดลดไข้
ยาชนิดนี้ใช้ในการ "ลด" อาการ
ตอนจ่ายยาควรแนะนำให้ชัดเจนว่าให้ใช้ยาเฉพาะเวลาที่มีไข้ หรือมีอาการปวด
นอกเหนือจากนั้นไม่ควรใช้ เพราะเกินความจำเป็น ไม่มีผลดี และจะส่งผลเสียต่อสุขภาพในระยะยาว
ซึ่งในกรณีของผมคือไม่มีไข้ ไม่มีการปวด ได้รับยาฟรีไปครับ แต่ตอนนั้นผมก็ไม่กินหรอกนะ เพราะกินยาตัวนี้เป็นอยู่แล้ว
2. ยาละลายเสมหะ
ตัวนี้ก็โอเค ให้ได้เพราะผมมีเสมหะ ยาตัวนี้จะช่วยในเรื่องของการขับเสมหะออกได้ง่ายขึ้น
แนะนำเพิ่มเติมนะครับว่าหากมีเสมหะ หรืออาการไอ ให้ทานน้ำมากๆ มันช่วยได้เยอะจริงๆ
อาจารย์บางท่านแนะนำด้วยซ้ำว่าการทานน้ำมากๆ มีผลดีมากกว่าการทานยาละลายเสมหะบางตัวซะอีกครับ
3. ยากดไอ
ตัวนี้ไม่ควรให้เด็ดขาด นอกจากจะไม่ช่วยรักษาโรคแล้วยังเป็นผลเสียอีกต่างหาก
ต้องเข้าใจก่อนว่าการไอ เป็นการตอบสนองที่ดีของร่างกายในการกำจัดเชื้อโรคออกจากร่างกาย
โดยเมื่อมีอาการไอ จะทำให้เชื้อที่อยู่ในเสมหะถูกขับออกมาข้างนอก หรือถูกส่งไปทำลายในระบบทางเดินอาหาร(กลืน)
ถ้าเรามีเชื้อโรคอยู่ แล้วได้ยาตัวนี้ซึ่งทำให้เราไม่ไอ ก็ทำให้เรากำจัดเชื้อโรคออกจากร่างกายได้น้อยลง
ส่งผลให้หายจากโรคหวัดช้าลง หรือถ้าแย่กว่านั้นอาจทำให้การติดเชื้อรุนแรงขึ้นได้
ยาตัวนี้จะใช้ในการไอแบบแห้งๆ หรือผู้ที่มีอาการไอรุนแรงจนส่งผลต่อการใช้ชีวิต หรือตามการพิจารณาของแพทย์
ซึ่งในกรณีของผมนั้นไม่ควรให้อย่างยิ่ง เพราะผมไอไม่มากเลย
4. ยาลดน้ำมูก
ยาตัวนี้สามารถให้ได้ เหมาะสมดีแล้วครับ เพียงแต่ต้องระวังผลข้างเคียงคือความง่วง
5. ยาปฎิชีวนะ
อันนี้ไม่สมควรให้อย่างรุนแรงครับ!!!!
ยาตัวนี้ใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อจากแบคทีเรียครับ ซึ่งพบได้น้อยมากๆ เมื่อเทียบกับการติดเชื้อไวรัส
ซึ่งอาการของผมตอนนั้นคือเจ็บคอไม่มากเลย และเป็นมาไม่กี่วันโอกาสที่จะเป็นเชื้อแบคทีเรียคือน้อยซะยิ่งกว่าน้อย
ถ้าเราเป็นหวัดจากการติดเชื้อไวรัสแล้วกินยาปฎิชีวนะจะมีข้อเสียคือ
1) สิ้นเปลือง ตัวยาไม่ช่วยในการรักษาโรคแม้แต่น้อย
2) ทำให้เชื้อดื้อยา การใช้ยาปฎิชีวนะอย่างไม่สมเหตุสมผลแบบนี้จะทำให้เชื้อในร่างกายของเราเกิดการดื้อยา เราจะรักษาการติดเชื้อจากแบคทีเรียยากขึ้นในการรักษาโรคครั้งต่อไป อีกทั้งถ้าเชื้อของเราไปติดคนอื่น เขาก็จะได้รับเชื้อที่ดื้อยาแล้วไป วงจรแบบนี้น่ากลัวมากครับ มันส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่จนถ้าวันหนึ่งเราไม่หยุดใช้ยาปฎิชีวะพร่ำเพรื่อแบบนี้ อาจส่งผลให้เราไม่มียาปฎิชีวนะใช้อีกเลยเพราะเชื้อดื้อยาหมดแล้ว
3) ร่างกายได้รับยาเกินความจำเป็น ส่งผลเสียต่อร่างกายในระยะยาว
นี่ล่ะครับ สิ่งที่ผมได้รับจากร้านขายยา ได้ยามาห้าตัว มีประโยชน์ 2 ตัว อีก 3 ตัวไม่เพียงไร้ประโยชน์ แต่กับมีโทษด้วยซ้ำ
ถึงตอนนี้ผมก็ยังไม่รู้จริงๆ นะครับ ว่าเขาจ่ายมาแบบนั้นเพราะความไม่รู้หรือเพราะต้องการมีรายได้จากการขายยาโดยไม่สนเรื่องจรรยาบรรณ
ผมไม่ได้ซื้อยาพวกนี้มานานมากแล้ว ไม่รู้ว่าร้านขายยาปัจจุบันยังเป็นแบบนี้มากน้อยแค่ไหนนะครับ
แล้วถ้าเป็นหวัดควรทำอย่างไร?
ปกติการติดหวัดจะเป็นเชื้อไวรัสนะครับ ซึ่งร่างกายสามารถสร้างภูมิต้านทานได้เองภายใน 3-15 วันครับ ไม่มียาที่จะช่วยให้เราสร้างภูมิต้านทานได้เร็วขึ้น การกินยาเป็นเพียงการ "ลดอาการ" เท่านั้นครับ การกินน้ำจะช่วยในการขับเสมหะได้ดีมากๆ และการพักผ่อนจะเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของร่างกายในการสร้างภูมิต้านทานครับ สิ่งที่ต้องระวังมากๆ คือการใช้ยาปฎิชีวนะครับ สมควรใช้ในการติดเชื้อแบคทีเรียเท่านั้นครับ ติดไว้รัสไม่ควรใช้เด็ดขาด!!
รู้ได้ไงว่าเป็นหวัดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย?
ถ้าให้ดีที่สุดควรให้วินิจฉัยโดยแพทย์นะครับ
ถ้าจะดูเองคร่าวๆ คือ ถ้าเจ็บคอก็จะเจ็บมากๆ ครับ อ้าปากดูจะพบหนองเป็นจุดๆ ที่คอหอย โคนลิ้น ลิ้นไก่ ต่อมทอลซิล ครับ ถ้าไม่มีอาการเหล่านี้ก็ให้สงสัยว่าเป็นหวัดจากเชื้อไวรัสไว้ก่อนครับ ยังไม่ควรใช้ยาปฎิชีวะ
ก่อนจากขอทิ้งท้ายหน่อยครับ ช่วงนี้ฤดูหนาว โรคหวัดกำลังจะระบาด ขอความกรุณาผู้ที่เป็นหวัดนะครับ ขอให้สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้งที่เจอผู้อื่นนะครับ เพื่อเป็นการลดการกระจายเชื้อครับ
ถ้ามีข้อมูลส่วนไหนผิดพลาดสามารถแนะนำได้นะครับ และหากท่านใดอยากให้ข้อมูลส่วนไหนเพิ่มเติมก็ยินดีครับ ขอบคุณครับ