บทนำ Japan 11Day We can do it!!
http://ppantip.com/topic/34503016
Day 1 Fukuoka->Kumamoto->Beppu
http://ppantip.com/topic/34507010
Day 2 Beppu->Yufuin->Kyoto
http://ppantip.com/topic/34511190
Day 3 Kyoto->Osaka
http://ppantip.com/topic/34519365
Day 4 Osaka->Shirakawago->Tokyo
Day 5 Tokyo->Kawaguchigo->Sapporo
Day 6 Sapporo->Otaru->Sapporo
Day 7 Sapporo->Hakodate->Tokyo
Day 8 Tokyo
Day 9 Tokyo->Mie->Osaka
Day 10 Osaka->Fukuoka
Day 11 Fukuoka -> Airport -> Thailand
+++ รบกวนฝากเพจด้วยจ้าา เพิ่งเปิดใหม่ เอาไว้แชร์ เรื่องเด็ดๆ ของกินอร่อยๆ ระหว่างการเดินทาง หรือสอบถามเรื่องการท่องเที่ยว ชอบ ถ้ารู้เราจะช่วยตอบจ้า
https://www.facebook.com/Vacation-Time-1650213711897127/ +++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เฮ้ยย ถึงแล้ว เสียงเพื่อนเรียกเมื่อรถจอดที่สถานี Kyoto เราเตรียมขนกระเป๋า เพื่อหาห้องน้ำ ล้างหน้าแปลงฟัน บอกเลยงานนี้ อาบน้ำแห้ง ไม่เป็นไรน่า อากาศหนวาๆ เหงื่อไม่ออก ไม่มีใครรู้หลอกน่า พอจัดการธุระเสร็จเรียบร้อย เราก็เดินหาล็อกเกอร์ ฝากกระเป๋าใบใหญ่ และไม่ลืมที่จะถ่ายรูปเก็บไว้ (กลัวลืมอีก)
Kyoto ที่เที่ยวเยอะมากจนคิดว่าวันเดียว คงจะเที่ยวไม่หมด เราเลยเลือกเฉพาะที่อยากไปจริงๆ ในแผนของเราเลือกที่จะไป ศาลเจ้าฟุชิมิ วัดน้ำใส ฮาราชิยาม่า ป่าไผ่ และวัดทอง คินคะคุจิ แน่นเอียดเลยมั้ยคะ เดี๋ยวลองดูว่าจะไปได้ครบมั้ย หึหึ
ที่แรกที่เราจะไปคือ ศาลเจ้าฟูชิมิอยู่ไม่ไกลจากสถานีเกียวโตมากนัก นั่งรถไฟ JR สาย Nara Line ลงสถานี Inari ประมาณ 5 นาที ลงจากสถานีรถไฟแล้วไม่ต้องกลัวหลงเลยค่ะ เดินตามฝูงชน เค้ามีจุดมุงหมายเดียวกับเราทั้งนั้น
เสาแดงโทริอิ ต้นแรก หน้าศาลเจ้า
ก่อนจะเข้าวัดก็ต้องทำความสะอาด ร่างกายก่อนค่ะ ดูคนข้างๆเค้าทำ ก็รองน้ำมาล้างมือ และบ้วนปาก จัดไปตามระเบียบ
ถ้าเดินไปทางขวามือจะเป็นเข้าไปไหว้พระ แต่วันนั้นที่เราไปเค้ากำลังมีพิธีในศาลเจ้าพอดี เราเลยเลือกเดินมาทางซ้าย ไปหาเสาแดงหมื่นต้นแทนค่ะ และก็ไม่ผิดหวัง หมื่นจริงๆค่ะ คนนะ เยอะมาก จนเราคิดว่าที่เค้าถ่ายรูปมารีวิว สวยๆ ที่ไม่ติดคนเลย เค้ามากันตอนไหนนะ
เสาแดงจะมี 2 ด้านนะคะ ตอนแรกเราก็ งงๆ เสาที่มีภาษาญี่ปุ่นมันอยู่ไหนเดินหาซักพัก กำลังจะหันหลังก็บ ก็เจอกับเสาแดงที่เราต้องการทันที่ หึหึ ซื่อ..(บื้อออ) ไม่เคยเปลี่ยน
หลังจากที่เรา ฝ่าฟันสู้กับ มวลมหาประชาชนไม่ไหวแล้ว เลยตัดสินใจที่จะโหวดตัวเองออกมา หาของกินดีกว่า ตั้งใจว่าจะไปกินข้าวหน้าปลาไหล แต่ระหว่างทางมันก็ถูกยั่วยวนด้วยของกิน
หอยย่าง อร่อยมากค่ะ ไม้ละ 600 เยน
มาถึงข้าวหน้าปลาไหลก็เต็มไปครึ่งท้องละ ร้าน Nezameya
ดเราเพลิดเพลิน กับของกินนานไปหน่อย จึงทำให้เวลาที่เราจะไปวัดน้ำใสมันหมดลง จึงต้องตัดทิ้งออกจากแผน เพราะคิดว่าใบไม้คงยังไมค่อยแดงเท่าไหล่ ไว้มาใหม่ครั้งหน้าละกันนะ พอตัดทริปวัดน้ำใสออก เราก็จะไปต่อกันที่ ฮะราชิยาม่า การเดินทางก็ไม่ยาก เรานั่งรถไฟ JR จากศาลเจ้าไปลงที่สถานี SAGAARASHIYAMA
จากหน้าสถานีเราเลือกที่จะเดินไปที่ฮะราชิยาม่า ก่อน เดินไปคุยไป ไม่นานก็ถึง แต่ๆ เท้าที่เดินมา 3 วันมันเริ่มจะไม่ไหว เลยได้แต่ถ่ายรูปสะพานอยู่ไกลๆ
ที่ริมน้ำมีเรือถีบให้เช่า และ เรือพาย ที่จะมีคุณลุงพายให้เรานั่ง ชมวิวชิวๆ ด้วยค่ะ
นั่งพักเหนื่อยริมน้ำซักพัก แล้วเราก็เดินลากขาต่อไปที่ ป่าไผ่
ระยะทางที่ป่าไผ่ กับ ฮะราชิยาม่า จะไม่ไกลกันมาก สามารถเดินถึงกันได้เลยค่ะ
ที่ป่าไผ่ มีคุณพี่ผู้ชาย รูปร่างกำยำ ล่ำบึกคอยเป็น คนลาก 3 ล้อให้เที่ยวชมด้วยค่ะ ไม่รู้เค้าคัดเลือกหน้าตาหรือเปล่า เพราะบางคนหล่อ มว๊ากกก จริงๆ จขกท นี่มองน้ำลายหก แทบอยากจะขึ้นไปขี่พี่เค้าเลยค่ะ
มีไอศกรีม ที่ไหน มีชีวิตฮิปเตอร์ที่นั่น
ยังๆ วันนี้ยังอีกยาวไกล เราต้องเก็บให้หมด ที่ต่อไปเราจะไปหาอิ๊กคิวซังกันค่ะ นัดไว้ตอนเย็นๆ ไปยังไงเหรอ ก็กลับมาที่สถานีเดิมของเรา SAGAARASHIYAMA แล้วนั่งไปลงที่สถานี EmMaCHI เดินออกจากสถานีเลี้ยวขวาไป 4 แยกแล้วเลี้ยวซ้ายไปตรงป้ายรถเมล์ สาย 204, 205 แล้วต่อรถเมล์ไปลงที่ป้าย Kinkakuji-michi ประมาณ 10 นามีถึงวัด
มาวัดต้องแวะซื้อเครื่องรางค่ะ
เมื่อเข้ามาแล้ว จะมีทางออกแค่ทางเดียว ห้ามเดินย้อนกลับทางที่เข้ามานะคะ จขกท โดนคุณพี่ยามดุมาแล้ว
คืนนี้เราจะไปนอนกันที่ OSAKA ค่ะ ต้องกลับมาเริ่มต้นที่สถานี Kyoto เอากระเป๋าที่ฝากในล็อกเกอร์ แล้วนั่ง JR ต่อมาที่สถานี Osaka ฝากเตือนเพื่อนๆ นะคะ ถ้าจำเป็นต้องฝากกระเป๋า ให้เตรียมเหรียญ 100 เยนไว้เยอะๆ เลยค่ะ เพราะบางสถานีไม่มีที่แลกเหรียญให้นะคะ
มาถึง OSAKA อย่างแรกที่นึกถึงคือของกินค่ะ คืนนี้ยังไม่จบ เราจะไปตะลุยกันต่อที่ ถนน Dotonburi อย่างแรกที่ไปจัดคือ ของทอดเสียบไม้ ร้าน คุชิคัตซึ ดารุมะ คนรอคิวเยอะเลยค่ะ มันมีทีเด็ดที่น้ำจิ้มค่ะ อร่อย มากๆ แต่น้ำจิ้มเป็นน้ำจิ้มรวมนะคะ ถ้าจิ้มแล้วเอาไม้ที่เรากินแล้วไปจิ้มต่อไม่ได้นะคะ
เมื่อกี้เป็นแค่รองท้องค่ะ มา Osaka ทั้งที่ เราต้องไปจัดกระดองปูปิ้งไฟร้าน Isomsru Suisan ข้างในใส่มันปูที่ปรุงรสมาแล้ว เอามาปิ้งบนเตาซักพักให้เดือนปุดๆ กินคลุกกับข้าวสวย อร่อยมากกกก กไก่ล้านตัวค่ะ
อิ่มท้องแล้วเราไม่พลาดที่จะไปถ่ายรูปกับแลนด์มาร์คของเมืองนี้ พี่ผู้ชายชูเต่า
คืนนี้เรานอนที่ Hotel Shin-Imamiya ห้องส่วนตัวเตียงสองชั้น ห้องน้ำรวม คนไทยนอนเยอะมาก ข้อเสีย ไม่มีที่เสียบปลั๊ก แต่เสียบที่ห้องพักผ่อนรวมไว้ทั้งคืนก็ไม่หายนะ กลับมาถึงห้องเท้าบวมยังกับเท้าช้าง อยากจะเอาขามาพาดไว้บนหัว โอ๊ยๆ หมดแรง
สรุปวันนี้เป็นวันที่ยาวนานมากที่สุดในทริปนี้ Kyoto และ Osaka ที่เที่ยวเยอะมาก ถ้าจะเก็บให้หมดจริงๆ ต้องเผื่อเวลา
2 วันเป็นอย่างต่ำ ส่วน Day 4 เราจะไปเที่ยวหมู่บ้านวัฒนธรรม Shirakawa go Go Go Go!!
….To be Continue…
[CR] <++Day 3 ++> Japan 11 Day We can do it!! (Kyoto->Osaka)
Day 1 Fukuoka->Kumamoto->Beppu http://ppantip.com/topic/34507010
Day 2 Beppu->Yufuin->Kyoto http://ppantip.com/topic/34511190
Day 3 Kyoto->Osaka http://ppantip.com/topic/34519365
Day 4 Osaka->Shirakawago->Tokyo
Day 5 Tokyo->Kawaguchigo->Sapporo
Day 6 Sapporo->Otaru->Sapporo
Day 7 Sapporo->Hakodate->Tokyo
Day 8 Tokyo
Day 9 Tokyo->Mie->Osaka
Day 10 Osaka->Fukuoka
Day 11 Fukuoka -> Airport -> Thailand
+++ รบกวนฝากเพจด้วยจ้าา เพิ่งเปิดใหม่ เอาไว้แชร์ เรื่องเด็ดๆ ของกินอร่อยๆ ระหว่างการเดินทาง หรือสอบถามเรื่องการท่องเที่ยว ชอบ ถ้ารู้เราจะช่วยตอบจ้า https://www.facebook.com/Vacation-Time-1650213711897127/ +++
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
เฮ้ยย ถึงแล้ว เสียงเพื่อนเรียกเมื่อรถจอดที่สถานี Kyoto เราเตรียมขนกระเป๋า เพื่อหาห้องน้ำ ล้างหน้าแปลงฟัน บอกเลยงานนี้ อาบน้ำแห้ง ไม่เป็นไรน่า อากาศหนวาๆ เหงื่อไม่ออก ไม่มีใครรู้หลอกน่า พอจัดการธุระเสร็จเรียบร้อย เราก็เดินหาล็อกเกอร์ ฝากกระเป๋าใบใหญ่ และไม่ลืมที่จะถ่ายรูปเก็บไว้ (กลัวลืมอีก)
Kyoto ที่เที่ยวเยอะมากจนคิดว่าวันเดียว คงจะเที่ยวไม่หมด เราเลยเลือกเฉพาะที่อยากไปจริงๆ ในแผนของเราเลือกที่จะไป ศาลเจ้าฟุชิมิ วัดน้ำใส ฮาราชิยาม่า ป่าไผ่ และวัดทอง คินคะคุจิ แน่นเอียดเลยมั้ยคะ เดี๋ยวลองดูว่าจะไปได้ครบมั้ย หึหึ
ที่แรกที่เราจะไปคือ ศาลเจ้าฟูชิมิอยู่ไม่ไกลจากสถานีเกียวโตมากนัก นั่งรถไฟ JR สาย Nara Line ลงสถานี Inari ประมาณ 5 นาที ลงจากสถานีรถไฟแล้วไม่ต้องกลัวหลงเลยค่ะ เดินตามฝูงชน เค้ามีจุดมุงหมายเดียวกับเราทั้งนั้น
ก่อนจะเข้าวัดก็ต้องทำความสะอาด ร่างกายก่อนค่ะ ดูคนข้างๆเค้าทำ ก็รองน้ำมาล้างมือ และบ้วนปาก จัดไปตามระเบียบ
ถ้าเดินไปทางขวามือจะเป็นเข้าไปไหว้พระ แต่วันนั้นที่เราไปเค้ากำลังมีพิธีในศาลเจ้าพอดี เราเลยเลือกเดินมาทางซ้าย ไปหาเสาแดงหมื่นต้นแทนค่ะ และก็ไม่ผิดหวัง หมื่นจริงๆค่ะ คนนะ เยอะมาก จนเราคิดว่าที่เค้าถ่ายรูปมารีวิว สวยๆ ที่ไม่ติดคนเลย เค้ามากันตอนไหนนะ
เสาแดงจะมี 2 ด้านนะคะ ตอนแรกเราก็ งงๆ เสาที่มีภาษาญี่ปุ่นมันอยู่ไหนเดินหาซักพัก กำลังจะหันหลังก็บ ก็เจอกับเสาแดงที่เราต้องการทันที่ หึหึ ซื่อ..(บื้อออ) ไม่เคยเปลี่ยน
หลังจากที่เรา ฝ่าฟันสู้กับ มวลมหาประชาชนไม่ไหวแล้ว เลยตัดสินใจที่จะโหวดตัวเองออกมา หาของกินดีกว่า ตั้งใจว่าจะไปกินข้าวหน้าปลาไหล แต่ระหว่างทางมันก็ถูกยั่วยวนด้วยของกิน
ดเราเพลิดเพลิน กับของกินนานไปหน่อย จึงทำให้เวลาที่เราจะไปวัดน้ำใสมันหมดลง จึงต้องตัดทิ้งออกจากแผน เพราะคิดว่าใบไม้คงยังไมค่อยแดงเท่าไหล่ ไว้มาใหม่ครั้งหน้าละกันนะ พอตัดทริปวัดน้ำใสออก เราก็จะไปต่อกันที่ ฮะราชิยาม่า การเดินทางก็ไม่ยาก เรานั่งรถไฟ JR จากศาลเจ้าไปลงที่สถานี SAGAARASHIYAMA
จากหน้าสถานีเราเลือกที่จะเดินไปที่ฮะราชิยาม่า ก่อน เดินไปคุยไป ไม่นานก็ถึง แต่ๆ เท้าที่เดินมา 3 วันมันเริ่มจะไม่ไหว เลยได้แต่ถ่ายรูปสะพานอยู่ไกลๆ
นั่งพักเหนื่อยริมน้ำซักพัก แล้วเราก็เดินลากขาต่อไปที่ ป่าไผ่
ระยะทางที่ป่าไผ่ กับ ฮะราชิยาม่า จะไม่ไกลกันมาก สามารถเดินถึงกันได้เลยค่ะ
ที่ป่าไผ่ มีคุณพี่ผู้ชาย รูปร่างกำยำ ล่ำบึกคอยเป็น คนลาก 3 ล้อให้เที่ยวชมด้วยค่ะ ไม่รู้เค้าคัดเลือกหน้าตาหรือเปล่า เพราะบางคนหล่อ มว๊ากกก จริงๆ จขกท นี่มองน้ำลายหก แทบอยากจะขึ้นไปขี่พี่เค้าเลยค่ะ
ยังๆ วันนี้ยังอีกยาวไกล เราต้องเก็บให้หมด ที่ต่อไปเราจะไปหาอิ๊กคิวซังกันค่ะ นัดไว้ตอนเย็นๆ ไปยังไงเหรอ ก็กลับมาที่สถานีเดิมของเรา SAGAARASHIYAMA แล้วนั่งไปลงที่สถานี EmMaCHI เดินออกจากสถานีเลี้ยวขวาไป 4 แยกแล้วเลี้ยวซ้ายไปตรงป้ายรถเมล์ สาย 204, 205 แล้วต่อรถเมล์ไปลงที่ป้าย Kinkakuji-michi ประมาณ 10 นามีถึงวัด
เมื่อเข้ามาแล้ว จะมีทางออกแค่ทางเดียว ห้ามเดินย้อนกลับทางที่เข้ามานะคะ จขกท โดนคุณพี่ยามดุมาแล้ว
คืนนี้เราจะไปนอนกันที่ OSAKA ค่ะ ต้องกลับมาเริ่มต้นที่สถานี Kyoto เอากระเป๋าที่ฝากในล็อกเกอร์ แล้วนั่ง JR ต่อมาที่สถานี Osaka ฝากเตือนเพื่อนๆ นะคะ ถ้าจำเป็นต้องฝากกระเป๋า ให้เตรียมเหรียญ 100 เยนไว้เยอะๆ เลยค่ะ เพราะบางสถานีไม่มีที่แลกเหรียญให้นะคะ
มาถึง OSAKA อย่างแรกที่นึกถึงคือของกินค่ะ คืนนี้ยังไม่จบ เราจะไปตะลุยกันต่อที่ ถนน Dotonburi อย่างแรกที่ไปจัดคือ ของทอดเสียบไม้ ร้าน คุชิคัตซึ ดารุมะ คนรอคิวเยอะเลยค่ะ มันมีทีเด็ดที่น้ำจิ้มค่ะ อร่อย มากๆ แต่น้ำจิ้มเป็นน้ำจิ้มรวมนะคะ ถ้าจิ้มแล้วเอาไม้ที่เรากินแล้วไปจิ้มต่อไม่ได้นะคะ
เมื่อกี้เป็นแค่รองท้องค่ะ มา Osaka ทั้งที่ เราต้องไปจัดกระดองปูปิ้งไฟร้าน Isomsru Suisan ข้างในใส่มันปูที่ปรุงรสมาแล้ว เอามาปิ้งบนเตาซักพักให้เดือนปุดๆ กินคลุกกับข้าวสวย อร่อยมากกกก กไก่ล้านตัวค่ะ
อิ่มท้องแล้วเราไม่พลาดที่จะไปถ่ายรูปกับแลนด์มาร์คของเมืองนี้ พี่ผู้ชายชูเต่า
คืนนี้เรานอนที่ Hotel Shin-Imamiya ห้องส่วนตัวเตียงสองชั้น ห้องน้ำรวม คนไทยนอนเยอะมาก ข้อเสีย ไม่มีที่เสียบปลั๊ก แต่เสียบที่ห้องพักผ่อนรวมไว้ทั้งคืนก็ไม่หายนะ กลับมาถึงห้องเท้าบวมยังกับเท้าช้าง อยากจะเอาขามาพาดไว้บนหัว โอ๊ยๆ หมดแรง
สรุปวันนี้เป็นวันที่ยาวนานมากที่สุดในทริปนี้ Kyoto และ Osaka ที่เที่ยวเยอะมาก ถ้าจะเก็บให้หมดจริงๆ ต้องเผื่อเวลา
2 วันเป็นอย่างต่ำ ส่วน Day 4 เราจะไปเที่ยวหมู่บ้านวัฒนธรรม Shirakawa go Go Go Go!!