เพื่อนๆ คิดว่ายังไง กับความเห็นของ บอ.บู๋ ครับ
เวย์น รูนี่ย์ กระหน่ำตาข่ายให้แมนฯ ยูไนเต็ด ไปแล้วทั้งหมด 237 ประตู ตามหลังดาวซัลโวอันดับหนึ่งตลอดกาลอย่าง เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน อยู่เพียงแค่ 12 ประตูเท่านั้น โอกาสที่จะแซงขึ้นเป็นอันดับหนึ่งตลอดกาลไม่น่าจะใช่เรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญอะไรนัก
แต่นาทีนี้ดูเหมือนมันจะกลายเป็นการเข็นภูเขาขึ้นครกสำหรับ ''เสี่ยหมู'' ซะแล้ว
ความจริงอายุ 30 สำหรับกองหน้าก็ยังไม่ถือว่ามากไม่มายสักเท่าไหร่ ยังน่าจะมีอายุใช้งานและยิงได้อย่างต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อยๆ 2-3 ปี เหมือนที่กองหน้าระดับตีนพระกาฬอย่าง อลัน เชียเรอร์, เท็ดดี้ เชอริงแฮม หรือ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา เคยแสดงให้เห็นเป็นตัวอย่าง ทว่าตอนนี้ เวย์น รูนี่ย์ เหมือนเป็นกองหน้าวัยดึกที่มีอายุประมาณ 37 ปี ซะมากกว่า
สไตล์การเล่นของนักเตะที่เพื่อนๆ เรียกว่า ''แวซซ่า'' นั้นใช้พละกำลังมหาศาลจากการวิ่งพล่านและซอยยิกๆๆๆๆ ไปทั่วสนาม เรียกว่าเป็นกองหน้าสายบ้าพลังมากกว่าสายพลิ้ว
บางทีไอ้ความบ้าพลังตอนหนุ่มมันอาจส่งผลกระทบมาถึงตัวเขาในปัจจุบัน...ก็..เป็น...ได้
เท่านั้นไม่พอ
พี่แกยังตะบันชีวิตแบบคนอังกฤษร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม ว่าแล้วก็ทำตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญแห่งการยัดห่า ทั้งเนื้อ-นม-ไข่ และเบียร์ (รวมถึงบุหรี่) พ่อล่อหมด เรียกว่าต่อม-ส์แตกเป็นที่เรียบร้อยจึงปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้จ้ำม่ำมากกว่าเดิม โดยไม่ยอมดูดาวเตะรุ่นเดียวกันอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นตัวอย่าง
อดีตกัปตันทีมปีศาจแดงในตำนานอย่าง รอย คีน ออกโรงมาวิจารณ์ว่าหุ่นทุเรศแบบนี้ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งจ่าฝูงของทีมเลยจริงๆ
ในการศึกครั้งล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เวย์น รูนี่ย์ ถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 68 ซึ่งเป็นเพียงครั้งที่ 2 ในพรีเมียร์ลีกเท่านั้นที่ หลุยส์ ฟาน กัล กล้าๆ ถอดกองหน้าผู้นี้ออกในระหว่างเกม
เข้าใจว่าลุงอ้วนเหน็บชาแกคงทนไม่ไหว - ไม่ได้บาดจ่งบาดเจ็บอะไรหรอก เพราะตลอด 68 นาทีที่ผ่านมา แมนฯ ยูไนเต็ด เหมือนเล่นแค่ 10 คน
''รูน'' เป็นกองหน้าที่มีความอดทนต่ำมากนะครับ เมื่อไม่มีส่วนร่วมกับเกมนานๆ เขาจะถอนตัวเองลงมาล้วงลูกในแดนกลาง ส่งผลให้ตำแหน่งไปทับกับมิดฟิลด์...ซะอย่างนั้น
บ่อยครั้งที่ฉีกตัวเองไปทางด้านข้างเพื่อเรียกบอลจากปีก พูดง่ายๆ ว่าไปเล่นเป็นตัวริมเส้นเอง แล้วถามว่ามีประโยชน์อะไร ในเมื่อปีกก็มีหน้าที่เปิดเข้าไปตรงกลางอยู่แล้ว และเมื่อพี่แกออกมาเล่นเป็นตัวริมเส้น เท่ากับศูนย์หน้าจะหายไปทันที 1 ตัว
จังหวะวิ่งทำทางหรือวิ่งหาช่องเพื่อรอรับบอลจากเพื่อนร่วมทีมก็เชื่องช้าและอืดอาดระดับเต่าเกาะปุ่มสตั๊ดเลยทีเดียว
ชัดเจนนะครับว่า เวย์น รูนี่ย์ ไม่ได้ฟอร์มตก
ใครบอกว่า ''ชายอู๊ด'' ของผมฟอร์มตก ขอเถียงหัวชนฝา เขาไม่ได้ฟอร์มตก แต่เรียกว่า ''หมดสภาพ'' ต่างหาก
กูรูลูกหนังอย่าง พอล สโคลส์ ที่ตอนนี้ตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์กับ หลุยส์ ฟาน กัล บอกว่าด้วยวิธีการเล่นอันน่าเบื่อของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เน้นการครองบอลจนเกินงาม ต่อให้ใครเป็นกองหน้าก็คงจะประสบปัญหาในการผลิตสกอร์ เพราะไม่ได้รับการเปิดป้อนที่ดีและถี่พอจากเพื่อนร่วมทีม
อันนี้มันก็ถูกของ ''เฮียหมา'' อยู่เหมือนกัน ระบบการเล่นแบบสโลว์ไลฟ์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด และนาทีนี้มีส่วนในการทำฆาตกรรมกองหน้า แต่ความจริงที่ต้องยอมรับหลังจากที่เฝ้าดูและพยายามเอาใจช่วยคุณพี่เขามาหลายนัด คือ เวย์น รูนี่ย์ หมดสภาพแล้ว ไม่ว่าจะเล่นตำแหน่งไหนในแนวรุก
ย้ำอีกครั้งว่า หมดสภาพ
ในฐานะศูนย์หน้าตัวเป้า คือสากกะเบือดีๆ นี่เอง หมดสิ้นแล้วซึ่งความรวดเร็วและสัญชาตญาณนักฆ่า
ส่วนในฐานะ ''หน้าต่ำ'' ที่ใครหลายคนบอกว่าน่าจะเหมาะกับนักเตะตราหมูตัวเดียวมากกว่า สังเกตได้เลยว่าไม่ต่างกันเลย
คือพลิกหนีตัวประกบไม่ได้ เพราะไม่มีความคล่องแคล่ว ไม่มีลูกพลิกแพลง ความเร็วในการกระชากหนีคู่แข่งที่เคยมีอยู่บ้างก็ถูกลักพาตัวไปหั่นไปชิ้นๆ แล้วยัดลงโถส้วม ก่อนกดชักโครกซ้ำ 2 ครั้ง แถมไม่มีลูกแทงทะลุช่องสวยๆ หรือเปิดป้อนแบบ ''คิลเลอร์พาสส์''
สิ่งที่เห็นเป็นประจำ คือแปะบอลออกข้างสลับกันส่งคืนหลัง
ขนาดจังหวะ 1 ต่อ 1 ยังไปไม่ได้บ้าง และไม่กล้าไปบ้างเลยครับคุณ
ถ้าแค่แปะบอลออกข้างใกล้ๆ กับส่งคืนหลัง - เอาเด็กเยาวชนจากทีมลูกกรอกคะนอง ชุดอายุต่ำกว่า 13 มาเล่นก็ได้มั้ง
ในเมื่อ ''หน้าเป้า'' ก็ไม่ได้ ''หน้าต่ำ'' ก็ไม่ได้ แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะ ถอยลงมาเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางเลยดีไหม?
อืมมมม...มันอาจจะเป็นตำแหน่งที่เหมาะกับคุณพี่เขามากกว่าเดิมก็ได้นะ กระนั้นคงไม่ดีกว่าไปมิดฟิลด์ตัวกลางที่มีอยู่แล้วอย่าง บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, มอร์กกาน ชไนเดอร์ลิน หรือ ไมเคิ่ล คาร์ริค
เกมต่อไปหากไม่มีอาการบาดเจ็บคาดว่า เวย์น รูนี่ย์ ก็คงได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเหมือนเดิมนั่นแหละ เหตุเพราะชื่อเสียงและบารมีเก่าๆ รวมถึงปลอกแขนกัปตันทีมทำให้ หลุยส์ ฟาน กัล ยังคงเกรงใจ
แล้วบรรดาเด็กผีทุกหมู่เหล่าก็คงต้องสบถถึงของเหลวในลำไส้เป็นสำเนียงแมนคูเนี่ยนเหมือนเดิม
การเป็นผู้เล่นระดับวีไอพีที่มีความสำคัญ แถมยังรับใช้ทีมมานานขนาดนี้ ผู้จัดการทีมจะไปดร็อปซี้ซั้วไม่ได้นะครับ เพราะตัวเองอาจถูกเลื่อยขาเก้าอี้ แต่มันก็ต้องยอมรับความจริงว่า เวย์น รูนี่ย์ และนาทีนี้หมดสภาพกลายเป็นกองหน้าสายพันธุ์หมูง่อย-ไปโดยบริบูรณ์แบบแล้ว
ทางออกของ แมนฯ ยูไนเต็ด คือต้องลืมเรื่องเก่าๆ และลืมเรื่องการทำสถิติถล่มประตูสูงสุดของดาวเตะผู้นี้ซะ พลางหาทางโละออกจากทีมไปเถอะ
อาจจะดูใจร้าย อาจจะเหมือนไม่แคร์ แต่สุกรโลกันตร์มันกลายเป็นอดีตของ เวย์น รูนี่ย์ เป็นที่เรียบร้อย
พรีเมียร์ลีกที่เข้าบอลกันอย่างรวดเร็วและหนักหน่วง มิหนำยังอุดมด้วยผู้เล่นคุณภาพสูงมากกว่าลีกอื่นๆ ดูจะเป็นสมรภูมิแข้งที่ฮาร์ดคอร์เกินไปสำหรับดาวเตะวัยสามหมิบผู้นี้
บางที ไชนิส ซูเปอร์ลีก ของจีน หรือ เมเจอร์ลีก ของสหรัฐฯ อาจเป็นสมรภูมิแข้งที่เหมาะสมกับนักเตะที่ฝีเท้าแก่เกินอายุอย่าง ''ชายหมู'' มากกว่า
วิธีสุดท้ายคือประกาศแขวนสตั๊ดไปเลย หลังจบฤดูกาล
ในเมื่อหมดสภาพแล้วก็อย่าฝืน เงินทองและเกียรติยศที่เคยสะสมไว้ก็มากมายก่ายกอง ถลุงไปอีก 4 ชาติก็น่าจะเหลือเก็บ ว่าแล้วเลียนแบบ เอริก คันโตน่า ที่ประกาศเลิกเล่นบนวัยเพียงแค่ 31 ไปเลยดีกว่า
''ก็องโต้'' ถอดสตั๊ดไปแขวนทั้งที่ยังเล่นต่อได้สบายๆ เหตุผลของพี่แกคือหงุดหงิดตัวเองที่ไม่ปราดเปรียวเหมือนเก่า จึงเกิดอาการ ''ติสต์-'' ว่าแล้วก็ประกาศอำลาสนามแบบไม่ต้องการความเข้าใจใดๆ ทั้งสิ้น
ตอนนี้ เวย์น รูนี่ย์ เหมือนคนที่ตายไปแล้ว เพียงแต่วิญญาณยังไม่รู้ว่าตัวเองนั้นเด๊ดห่าไปแล้ว
หวังว่าวิญญาณของคุณชายหมูคงจะรู้ตัวและคิดได้ในเร็วๆ นี้
บอ.บู๋
http://www.siamsport.co.th/Column/151203_038.html
สุกรโลกันตร์ตายไปแล้ว? บอ.บู๋
เวย์น รูนี่ย์ กระหน่ำตาข่ายให้แมนฯ ยูไนเต็ด ไปแล้วทั้งหมด 237 ประตู ตามหลังดาวซัลโวอันดับหนึ่งตลอดกาลอย่าง เซอร์ บ็อบบี้ ชาร์ลตัน อยู่เพียงแค่ 12 ประตูเท่านั้น โอกาสที่จะแซงขึ้นเป็นอันดับหนึ่งตลอดกาลไม่น่าจะใช่เรื่องที่ยากเย็นแสนเข็ญอะไรนัก
แต่นาทีนี้ดูเหมือนมันจะกลายเป็นการเข็นภูเขาขึ้นครกสำหรับ ''เสี่ยหมู'' ซะแล้ว
ความจริงอายุ 30 สำหรับกองหน้าก็ยังไม่ถือว่ามากไม่มายสักเท่าไหร่ ยังน่าจะมีอายุใช้งานและยิงได้อย่างต่อเนื่องไปอีกอย่างน้อยๆ 2-3 ปี เหมือนที่กองหน้าระดับตีนพระกาฬอย่าง อลัน เชียเรอร์, เท็ดดี้ เชอริงแฮม หรือ ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา เคยแสดงให้เห็นเป็นตัวอย่าง ทว่าตอนนี้ เวย์น รูนี่ย์ เหมือนเป็นกองหน้าวัยดึกที่มีอายุประมาณ 37 ปี ซะมากกว่า
สไตล์การเล่นของนักเตะที่เพื่อนๆ เรียกว่า ''แวซซ่า'' นั้นใช้พละกำลังมหาศาลจากการวิ่งพล่านและซอยยิกๆๆๆๆ ไปทั่วสนาม เรียกว่าเป็นกองหน้าสายบ้าพลังมากกว่าสายพลิ้ว
บางทีไอ้ความบ้าพลังตอนหนุ่มมันอาจส่งผลกระทบมาถึงตัวเขาในปัจจุบัน...ก็..เป็น...ได้
เท่านั้นไม่พอ
พี่แกยังตะบันชีวิตแบบคนอังกฤษร้อยเปอร์เซ็นต์เต็ม ว่าแล้วก็ทำตัวเป็นผู้เชี่ยวชาญแห่งการยัดห่า ทั้งเนื้อ-นม-ไข่ และเบียร์ (รวมถึงบุหรี่) พ่อล่อหมด เรียกว่าต่อม-ส์แตกเป็นที่เรียบร้อยจึงปล่อยเนื้อปล่อยตัวให้จ้ำม่ำมากกว่าเดิม โดยไม่ยอมดูดาวเตะรุ่นเดียวกันอย่าง คริสเตียโน่ โรนัลโด้ เป็นตัวอย่าง
อดีตกัปตันทีมปีศาจแดงในตำนานอย่าง รอย คีน ออกโรงมาวิจารณ์ว่าหุ่นทุเรศแบบนี้ไม่เหมาะสมกับตำแหน่งจ่าฝูงของทีมเลยจริงๆ
ในการศึกครั้งล่าสุดเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เวย์น รูนี่ย์ ถูกเปลี่ยนตัวออกในนาทีที่ 68 ซึ่งเป็นเพียงครั้งที่ 2 ในพรีเมียร์ลีกเท่านั้นที่ หลุยส์ ฟาน กัล กล้าๆ ถอดกองหน้าผู้นี้ออกในระหว่างเกม
เข้าใจว่าลุงอ้วนเหน็บชาแกคงทนไม่ไหว - ไม่ได้บาดจ่งบาดเจ็บอะไรหรอก เพราะตลอด 68 นาทีที่ผ่านมา แมนฯ ยูไนเต็ด เหมือนเล่นแค่ 10 คน
''รูน'' เป็นกองหน้าที่มีความอดทนต่ำมากนะครับ เมื่อไม่มีส่วนร่วมกับเกมนานๆ เขาจะถอนตัวเองลงมาล้วงลูกในแดนกลาง ส่งผลให้ตำแหน่งไปทับกับมิดฟิลด์...ซะอย่างนั้น
บ่อยครั้งที่ฉีกตัวเองไปทางด้านข้างเพื่อเรียกบอลจากปีก พูดง่ายๆ ว่าไปเล่นเป็นตัวริมเส้นเอง แล้วถามว่ามีประโยชน์อะไร ในเมื่อปีกก็มีหน้าที่เปิดเข้าไปตรงกลางอยู่แล้ว และเมื่อพี่แกออกมาเล่นเป็นตัวริมเส้น เท่ากับศูนย์หน้าจะหายไปทันที 1 ตัว
จังหวะวิ่งทำทางหรือวิ่งหาช่องเพื่อรอรับบอลจากเพื่อนร่วมทีมก็เชื่องช้าและอืดอาดระดับเต่าเกาะปุ่มสตั๊ดเลยทีเดียว
ชัดเจนนะครับว่า เวย์น รูนี่ย์ ไม่ได้ฟอร์มตก
ใครบอกว่า ''ชายอู๊ด'' ของผมฟอร์มตก ขอเถียงหัวชนฝา เขาไม่ได้ฟอร์มตก แต่เรียกว่า ''หมดสภาพ'' ต่างหาก
กูรูลูกหนังอย่าง พอล สโคลส์ ที่ตอนนี้ตั้งตัวเป็นปฏิปักษ์กับ หลุยส์ ฟาน กัล บอกว่าด้วยวิธีการเล่นอันน่าเบื่อของ แมนฯ ยูไนเต็ด ที่เน้นการครองบอลจนเกินงาม ต่อให้ใครเป็นกองหน้าก็คงจะประสบปัญหาในการผลิตสกอร์ เพราะไม่ได้รับการเปิดป้อนที่ดีและถี่พอจากเพื่อนร่วมทีม
อันนี้มันก็ถูกของ ''เฮียหมา'' อยู่เหมือนกัน ระบบการเล่นแบบสโลว์ไลฟ์ของ แมนฯ ยูไนเต็ด และนาทีนี้มีส่วนในการทำฆาตกรรมกองหน้า แต่ความจริงที่ต้องยอมรับหลังจากที่เฝ้าดูและพยายามเอาใจช่วยคุณพี่เขามาหลายนัด คือ เวย์น รูนี่ย์ หมดสภาพแล้ว ไม่ว่าจะเล่นตำแหน่งไหนในแนวรุก
ย้ำอีกครั้งว่า หมดสภาพ
ในฐานะศูนย์หน้าตัวเป้า คือสากกะเบือดีๆ นี่เอง หมดสิ้นแล้วซึ่งความรวดเร็วและสัญชาตญาณนักฆ่า
ส่วนในฐานะ ''หน้าต่ำ'' ที่ใครหลายคนบอกว่าน่าจะเหมาะกับนักเตะตราหมูตัวเดียวมากกว่า สังเกตได้เลยว่าไม่ต่างกันเลย
คือพลิกหนีตัวประกบไม่ได้ เพราะไม่มีความคล่องแคล่ว ไม่มีลูกพลิกแพลง ความเร็วในการกระชากหนีคู่แข่งที่เคยมีอยู่บ้างก็ถูกลักพาตัวไปหั่นไปชิ้นๆ แล้วยัดลงโถส้วม ก่อนกดชักโครกซ้ำ 2 ครั้ง แถมไม่มีลูกแทงทะลุช่องสวยๆ หรือเปิดป้อนแบบ ''คิลเลอร์พาสส์''
สิ่งที่เห็นเป็นประจำ คือแปะบอลออกข้างสลับกันส่งคืนหลัง
ขนาดจังหวะ 1 ต่อ 1 ยังไปไม่ได้บ้าง และไม่กล้าไปบ้างเลยครับคุณ
ถ้าแค่แปะบอลออกข้างใกล้ๆ กับส่งคืนหลัง - เอาเด็กเยาวชนจากทีมลูกกรอกคะนอง ชุดอายุต่ำกว่า 13 มาเล่นก็ได้มั้ง
ในเมื่อ ''หน้าเป้า'' ก็ไม่ได้ ''หน้าต่ำ'' ก็ไม่ได้ แล้วจะทำอย่างไรดีล่ะ ถอยลงมาเป็นมิดฟิลด์ตัวกลางเลยดีไหม?
อืมมมม...มันอาจจะเป็นตำแหน่งที่เหมาะกับคุณพี่เขามากกว่าเดิมก็ได้นะ กระนั้นคงไม่ดีกว่าไปมิดฟิลด์ตัวกลางที่มีอยู่แล้วอย่าง บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์, มอร์กกาน ชไนเดอร์ลิน หรือ ไมเคิ่ล คาร์ริค
เกมต่อไปหากไม่มีอาการบาดเจ็บคาดว่า เวย์น รูนี่ย์ ก็คงได้ลงเล่นเป็นตัวจริงเหมือนเดิมนั่นแหละ เหตุเพราะชื่อเสียงและบารมีเก่าๆ รวมถึงปลอกแขนกัปตันทีมทำให้ หลุยส์ ฟาน กัล ยังคงเกรงใจ
แล้วบรรดาเด็กผีทุกหมู่เหล่าก็คงต้องสบถถึงของเหลวในลำไส้เป็นสำเนียงแมนคูเนี่ยนเหมือนเดิม
การเป็นผู้เล่นระดับวีไอพีที่มีความสำคัญ แถมยังรับใช้ทีมมานานขนาดนี้ ผู้จัดการทีมจะไปดร็อปซี้ซั้วไม่ได้นะครับ เพราะตัวเองอาจถูกเลื่อยขาเก้าอี้ แต่มันก็ต้องยอมรับความจริงว่า เวย์น รูนี่ย์ และนาทีนี้หมดสภาพกลายเป็นกองหน้าสายพันธุ์หมูง่อย-ไปโดยบริบูรณ์แบบแล้ว
ทางออกของ แมนฯ ยูไนเต็ด คือต้องลืมเรื่องเก่าๆ และลืมเรื่องการทำสถิติถล่มประตูสูงสุดของดาวเตะผู้นี้ซะ พลางหาทางโละออกจากทีมไปเถอะ
อาจจะดูใจร้าย อาจจะเหมือนไม่แคร์ แต่สุกรโลกันตร์มันกลายเป็นอดีตของ เวย์น รูนี่ย์ เป็นที่เรียบร้อย
พรีเมียร์ลีกที่เข้าบอลกันอย่างรวดเร็วและหนักหน่วง มิหนำยังอุดมด้วยผู้เล่นคุณภาพสูงมากกว่าลีกอื่นๆ ดูจะเป็นสมรภูมิแข้งที่ฮาร์ดคอร์เกินไปสำหรับดาวเตะวัยสามหมิบผู้นี้
บางที ไชนิส ซูเปอร์ลีก ของจีน หรือ เมเจอร์ลีก ของสหรัฐฯ อาจเป็นสมรภูมิแข้งที่เหมาะสมกับนักเตะที่ฝีเท้าแก่เกินอายุอย่าง ''ชายหมู'' มากกว่า
วิธีสุดท้ายคือประกาศแขวนสตั๊ดไปเลย หลังจบฤดูกาล
ในเมื่อหมดสภาพแล้วก็อย่าฝืน เงินทองและเกียรติยศที่เคยสะสมไว้ก็มากมายก่ายกอง ถลุงไปอีก 4 ชาติก็น่าจะเหลือเก็บ ว่าแล้วเลียนแบบ เอริก คันโตน่า ที่ประกาศเลิกเล่นบนวัยเพียงแค่ 31 ไปเลยดีกว่า
''ก็องโต้'' ถอดสตั๊ดไปแขวนทั้งที่ยังเล่นต่อได้สบายๆ เหตุผลของพี่แกคือหงุดหงิดตัวเองที่ไม่ปราดเปรียวเหมือนเก่า จึงเกิดอาการ ''ติสต์-'' ว่าแล้วก็ประกาศอำลาสนามแบบไม่ต้องการความเข้าใจใดๆ ทั้งสิ้น
ตอนนี้ เวย์น รูนี่ย์ เหมือนคนที่ตายไปแล้ว เพียงแต่วิญญาณยังไม่รู้ว่าตัวเองนั้นเด๊ดห่าไปแล้ว
หวังว่าวิญญาณของคุณชายหมูคงจะรู้ตัวและคิดได้ในเร็วๆ นี้
บอ.บู๋
http://www.siamsport.co.th/Column/151203_038.html