+++ รบกวนฝากเพจด้วยจ้าา เพิ่งเปิดใหม่ เอาไว้แชร์ เรื่องเด็ดๆ ของกินอร่อยๆ ระหว่างการเดินทาง หรือสอบถามเรื่องการท่องเที่ยว ชอบ ถ้ารู้เราจะช่วยตอบจ้า
https://www.facebook.com/Vacation-Time-1650213711897127/
บทนำ Japan 11Day We can do it!!
http://ppantip.com/topic/34503016
Day 1 Fukuoka->Kumamoto->Beppu
http://ppantip.com/topic/34507010
Day 2 Beppu->Yufuin->Kyoto
http://ppantip.com/topic/34511190
Day 3 Kyoto->Osaka
http://ppantip.com/topic/34519365
Day 4 Osaka->Shirakawago->Tokyo
Day 5 Tokyo->Kawaguchigo->Sapporo
Day 6 Sapporo->Otaru->Sapporo
Day 7 Sapporo->Hakodate->Tokyo
Day 8 Tokyo
Day 9 Tokyo->Mie->Osaka
Day 10 Osaka->Fukuoka
Day 11 Fukuoka -> Airport -> Thailand
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Zzzz…เฮ้ยยย กี่โมงแล้ว จขกท เด้งตัวขึ้นมาจากเตียงนอนอย่างรวดเร็ว เอามือควานหาโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา ตายห่านนน!! 8 โมงครึ่งแล้ว หันหน้าไปหาอิเพื่อนร่วมทริป ที่กำลังเอาผ้าคลุมโปงนอนอยู่อย่างสบายใจ คืออะไร ทำไม ยังไง นาฬิกาถึงไม่ปลุก หันไปโทษโทรศัพท์ว่ามันไม่ดี แต่จริงๆ แล้ว จขกท ตั้งปลุกแต่ลืมเปิดเสียง...เฮ้อออ
จากแพลนที่วางไว้จะไปดูบ่อน้ำพุร้อนสีฟ้า เพราะชั้นอุตสาห์มานอนที่ Beppu เพื่ออะราย!! หลังจากทำใจได้แล้ว เราก็ตัดสินใจว่าจะไปแช่ออนเซนที่โรงแรม เป็นออนเซนรวม แต่ตอนที่เราไปแช่ เรียกมันได้ว่าเป็นออนเซนส่วนตัวก็ยังได้ โอ๊ยๆๆ มันฟินมาก
ไหนๆก็วางแผนมาเพื่อมาเที่ยวบ่อน้ำพุร้อนแล้ว จะขอเล่ารายละเอียดทริปของเราซักหน่อยเพื่อเพื่อนๆคนไหนอยากได้ข้อมูล บ่อแรกที่เราจะไปคือ Umi Jigoku เป็นน้ำพุร้อนสีฟ้า การเดินทาง จากโรงแรมเราเดินมาไม่ไกลก็ถึงสนานีรถไฟ Beppu จากสถานีรถไฟให้เดินออกไปทางอีกด้านตรงข้ามตัวเมืองรอรถป้ายรถเมล์ สายที่ผ่านมีรถบัส สาย 5 กับ 41 (มีทุกครึ่งชม.) ป้ายที่เราจะไปลง ที่จะไปน้ำพุแรก ลงที่ Umijigoku Mae หลังจากนั้นสามารถเดินเที่ยวได้ทั้ง 6 บ่อ (ระยะทางประมาณ 500 เมตร) หลังจาก ครบ 6บ่อแล้วป้ายรถเมล์ที่ใกล้ที่สุดก็ Kannawa นั่งรถบัสสายเดิมกลับมาที่ สถานีรถไฟเบบปุได้ค่ะ
รูปแผนที่จากกระทู้ใน Pantip ขอโทษ จริงๆค่ะ หาที่มาไม่เจอ
กลับมาที่คนอดไปบ่อน้ำพุร้อน หลังจากออนเซนกันสบายใจก็เก็บกระเป๋าหอบเสื้อผ้า ออกจากโรงแรมเราจะไปเที่ยวต่อกันที่ Yufuin แต่ก่อนอื่นกองทัพต้องเดินด้วยท้อง เราเลยแวะ Family Mart จัดโอเด้งของโปรดกันคนละถ้วย
Beppu ของชั้นน แล้วจะมาใหม่นะ
จาก Beppu ไป Yufuin ใช้เวลาประมาณ 80 กว่านาที นั่งรถไฟไปเรื่อยๆ ดูวิวข้างทาง ทุ่งหญ้า เพลินๆ ก็ไม่นาน
ถึง Yufuin เราก็จัดการเช่าจักรยานเพื่อปั่นเที่ยว รอบๆเมือง ค่าเช่าขักรยานประมาณ 300 บาท/วัน (ถ้าเป็นบ้านเราเช่ามอเตอร์ไซค์ได้แล้ว ราคานี้อ่ะ)จริงๆ แล้วเดินเที่ยวก็พอไหว แต่เราต้องเก็บแรงไว้อีกหลายวัน เลยเลือกที่จะปั่นแทนดีกว่า
ถนนหน้าสถานีรถไป รถยนต์ไม่ค่อยมีค่ะ ปั่นจักรยานสบายๆ ออกมาจากสถานีก็ตรงไปตามถนนเส้นนี้เลยค่ะ เค้ามีแผนที่แจกไม่หลงแน่ค่ะ เมืองไม่ค่อยใหญ่ แต่น่ารักสุดๆ
ปั่นๆไปซักพัก เริ่มหิว แวะกินชีสเค้กร้านดังของเมือง ร้าน Milch รู้สึกว่ารสออกหวานมากไปหน่อย ไม่ค่อยโดนสำหรับความรู้สึกส่วนตัวของ จขกท นะ
เลยร้านชีสเค้กมาซักพัก ก็ถึงทางเข้า Yufuin Floral Village ข้างในเหมือนเป็นเมืองจำลอง บรรยกาศคล้ายๆปาย บ้านเรา มีร้านขายของฝากน่ารักๆ และที่ถ่ายรูปเยอะดีค่ะ
แหะๆ ขออณุญาติ เพื่อน จขกท ลงรูปนามมา ณ ที่นี้ด้วย ฮ่าๆๆ
และแล้วก็เดินมาเจอ กาชาปอง ของโปรดของเพื่อน หยอดที่ละ 300 – 400 เยน เพื่อน จขกท จัดมาเบาๆ แค่ไข่ 12 ฟอง
อ่านรีวิวมา ของน่าซื้อที่ญี่ปุ่นอีกอย่างคือ ร่ม จขกท ลองซื้อมา 1 อัน โครงสร้างแข็งแรง ดูน่าจะใช้ได้นานอยู่ อันละประมาณ 1000 -3000 เยน คุณภาพก็ตามราคาค่ะ
ที่นี่มีร้านช็อปปิ้ง ดังๆ ก็เป็นร้านสนู๊ปปี้ แต่ราคาก็ค่อนข้างสูงอยู่ค่ะ ได้แต่มอง แล้วก็ถ่ายรูปกับน้อง สนู๊ปปี้
มาญี่ปุ่นทั้งที ต้องทำตัวฮิปเตอร์ กินไอติมร้าน Bee Honey ก็ต้องถ่ายรูปแบบ ฮิปๆ กันหน่อย
ปั่นมาเรื่อยๆ ตามทาง ที่ยอดนิยมของเมืองนี้อยูที่ทะเลสาบ Kinrinkoมันงดงามจริงๆค่ะ ที่ทะเลสาบ ถ้าใบไม้เปลี่ยนสีทั้งหมด คงจะฟินน
หลังจากกินบรรยากาศจนตัวบวม เราก็ต้องหาอะไรรองท้องก่อนกลับจัดไปค่ะ ไก่ย่างที่หารีววิจากใน Pantipนี้แหละ คนละ 3 ไม้พออยู่ท้อง
กลับมาที่สถานี คืนรถจักรยาน เค้าจะเก็บเงินหลังจากเอามาคืนค่ะ เนื่องจากยืมเป็น ชม. ก็ได้ สำหรับพรุ่งนี้แผนของเราคือ Kyoto แล้วจะไปยังไงละ ตามที่หาข้อมูลไว้จะมีรถบัสนอนของ Willer Express เราจองล่วงหน้า และจ่ายเงินมาจากไทย ราคาประมาณ 6700เยน มันดีตรงที่ตื่นเช้ามาเราจะถึง Kyoto แล้วเที่ยวต่อได้เลย แต่ข้อเสียคือ ที่นั่งที่ จขกทเลือกคือราคาถูกที่สุด ขนาดเบาะและความกว้างของพนักเลยแคบ นั่งทั้งคืนตื่นมาก็ ปวดๆ เมื่อยๆ แต่เทียบกับความคุ้มค่า และไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางช่วงกลางวัน ก็โอเคเลยค่ะ สำหรับการเดินทางวิธีนี้
ยังๆ ความตื่นเต้นมีตลอดทริป หลังจากที่กลับมาถึงที่ สถานี Hakata เพื่อจะขึ้นรถบัสนอน Willer Express เราแวะเอากระเป๋าใบใหญ่ ที่ฝากไว้ตั้งแต่วันแรกที่มาถึง มันทำให้เราจำล็อกเกอร์ที่ฝากกระเป๋าไม่ได้ ยังไงละที่นี้ เดินหาซิคะ ยิ่งเดินยิ่ง งง กว่าจะหาเจอเล่นเอาเหนื่อย ความตื่นเต้นต่อไป ใกล้ถึงเวลาที่รถบัสจะออกแล้ว ยังไงละยังหาที่จอดรถไม่เจอ ลองคิดสภาพวิ่งลากกระเป๋าใบใหญ่ กับเป้อีก 1 ใบทั่วสถานี โอ๊ยๆ ยังกะคนบ้า เพราะถ้าตกรถ คงจะนั่งร้องไห้น้ำตาตกใน ไหนจะเงินที่จองไปแล้ว แพลนเที่ยวพรุ่งนี้ ล่มหมด
แต่ด้วยผลบุญที่ทำกันมา ทำให้เรารอดจากการตกรถ สาธุ…จริงๆแล้ว ที่จอดรถบัสอยู่ไม่ไกลจาสถานี Hakata เลยค่ะ ออกจาดสถานี Hakata ทางออก 6 ในแผนที่จะเป็นจุด Check in และนั่งรอได้ค่ะ ถ้าถึงเวลาเจ้าหน้าที่จะพาเราไปที่ Bus Stop อีกที รถออกจาก Hakata ประมาณ 21.30 น ถึง Kyoto 09.30 น กระเป๋าใบใหญ่ สามารถโหลดใต้รถได้คนละ 1 ใบค่ะ
กลับมาที่เรา หลังจากได้ขึ้นรถแล้ว ก็จัดเตรียมพื้นที่สำหรับนอน บนรถมีที่เสียบช๊าตแบทได้ค่ะ ไม่ต้องกังวลว่าแบทจะหมด คืนนี้นอนบนรถ พรุ่งนี้เช้าตื่นมา เราจะลุย Kyoto กันคร๊าบ...
…To be Continue…
[CR] <++Day 2 ++> Japan 11 Day We can do it!! (Beppu->Yufuin->Kyoto)
บทนำ Japan 11Day We can do it!! http://ppantip.com/topic/34503016
Day 1 Fukuoka->Kumamoto->Beppu http://ppantip.com/topic/34507010
Day 2 Beppu->Yufuin->Kyoto http://ppantip.com/topic/34511190
Day 3 Kyoto->Osaka http://ppantip.com/topic/34519365
Day 4 Osaka->Shirakawago->Tokyo
Day 5 Tokyo->Kawaguchigo->Sapporo
Day 6 Sapporo->Otaru->Sapporo
Day 7 Sapporo->Hakodate->Tokyo
Day 8 Tokyo
Day 9 Tokyo->Mie->Osaka
Day 10 Osaka->Fukuoka
Day 11 Fukuoka -> Airport -> Thailand
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Zzzz…เฮ้ยยย กี่โมงแล้ว จขกท เด้งตัวขึ้นมาจากเตียงนอนอย่างรวดเร็ว เอามือควานหาโทรศัพท์ขึ้นมาดูเวลา ตายห่านนน!! 8 โมงครึ่งแล้ว หันหน้าไปหาอิเพื่อนร่วมทริป ที่กำลังเอาผ้าคลุมโปงนอนอยู่อย่างสบายใจ คืออะไร ทำไม ยังไง นาฬิกาถึงไม่ปลุก หันไปโทษโทรศัพท์ว่ามันไม่ดี แต่จริงๆ แล้ว จขกท ตั้งปลุกแต่ลืมเปิดเสียง...เฮ้อออ
จากแพลนที่วางไว้จะไปดูบ่อน้ำพุร้อนสีฟ้า เพราะชั้นอุตสาห์มานอนที่ Beppu เพื่ออะราย!! หลังจากทำใจได้แล้ว เราก็ตัดสินใจว่าจะไปแช่ออนเซนที่โรงแรม เป็นออนเซนรวม แต่ตอนที่เราไปแช่ เรียกมันได้ว่าเป็นออนเซนส่วนตัวก็ยังได้ โอ๊ยๆๆ มันฟินมาก
ไหนๆก็วางแผนมาเพื่อมาเที่ยวบ่อน้ำพุร้อนแล้ว จะขอเล่ารายละเอียดทริปของเราซักหน่อยเพื่อเพื่อนๆคนไหนอยากได้ข้อมูล บ่อแรกที่เราจะไปคือ Umi Jigoku เป็นน้ำพุร้อนสีฟ้า การเดินทาง จากโรงแรมเราเดินมาไม่ไกลก็ถึงสนานีรถไฟ Beppu จากสถานีรถไฟให้เดินออกไปทางอีกด้านตรงข้ามตัวเมืองรอรถป้ายรถเมล์ สายที่ผ่านมีรถบัส สาย 5 กับ 41 (มีทุกครึ่งชม.) ป้ายที่เราจะไปลง ที่จะไปน้ำพุแรก ลงที่ Umijigoku Mae หลังจากนั้นสามารถเดินเที่ยวได้ทั้ง 6 บ่อ (ระยะทางประมาณ 500 เมตร) หลังจาก ครบ 6บ่อแล้วป้ายรถเมล์ที่ใกล้ที่สุดก็ Kannawa นั่งรถบัสสายเดิมกลับมาที่ สถานีรถไฟเบบปุได้ค่ะ
กลับมาที่คนอดไปบ่อน้ำพุร้อน หลังจากออนเซนกันสบายใจก็เก็บกระเป๋าหอบเสื้อผ้า ออกจากโรงแรมเราจะไปเที่ยวต่อกันที่ Yufuin แต่ก่อนอื่นกองทัพต้องเดินด้วยท้อง เราเลยแวะ Family Mart จัดโอเด้งของโปรดกันคนละถ้วย
จาก Beppu ไป Yufuin ใช้เวลาประมาณ 80 กว่านาที นั่งรถไฟไปเรื่อยๆ ดูวิวข้างทาง ทุ่งหญ้า เพลินๆ ก็ไม่นาน
ถึง Yufuin เราก็จัดการเช่าจักรยานเพื่อปั่นเที่ยว รอบๆเมือง ค่าเช่าขักรยานประมาณ 300 บาท/วัน (ถ้าเป็นบ้านเราเช่ามอเตอร์ไซค์ได้แล้ว ราคานี้อ่ะ)จริงๆ แล้วเดินเที่ยวก็พอไหว แต่เราต้องเก็บแรงไว้อีกหลายวัน เลยเลือกที่จะปั่นแทนดีกว่า
ถนนหน้าสถานีรถไป รถยนต์ไม่ค่อยมีค่ะ ปั่นจักรยานสบายๆ ออกมาจากสถานีก็ตรงไปตามถนนเส้นนี้เลยค่ะ เค้ามีแผนที่แจกไม่หลงแน่ค่ะ เมืองไม่ค่อยใหญ่ แต่น่ารักสุดๆ
ปั่นๆไปซักพัก เริ่มหิว แวะกินชีสเค้กร้านดังของเมือง ร้าน Milch รู้สึกว่ารสออกหวานมากไปหน่อย ไม่ค่อยโดนสำหรับความรู้สึกส่วนตัวของ จขกท นะ
เลยร้านชีสเค้กมาซักพัก ก็ถึงทางเข้า Yufuin Floral Village ข้างในเหมือนเป็นเมืองจำลอง บรรยกาศคล้ายๆปาย บ้านเรา มีร้านขายของฝากน่ารักๆ และที่ถ่ายรูปเยอะดีค่ะ
แหะๆ ขออณุญาติ เพื่อน จขกท ลงรูปนามมา ณ ที่นี้ด้วย ฮ่าๆๆ
และแล้วก็เดินมาเจอ กาชาปอง ของโปรดของเพื่อน หยอดที่ละ 300 – 400 เยน เพื่อน จขกท จัดมาเบาๆ แค่ไข่ 12 ฟอง
อ่านรีวิวมา ของน่าซื้อที่ญี่ปุ่นอีกอย่างคือ ร่ม จขกท ลองซื้อมา 1 อัน โครงสร้างแข็งแรง ดูน่าจะใช้ได้นานอยู่ อันละประมาณ 1000 -3000 เยน คุณภาพก็ตามราคาค่ะ
ที่นี่มีร้านช็อปปิ้ง ดังๆ ก็เป็นร้านสนู๊ปปี้ แต่ราคาก็ค่อนข้างสูงอยู่ค่ะ ได้แต่มอง แล้วก็ถ่ายรูปกับน้อง สนู๊ปปี้
มาญี่ปุ่นทั้งที ต้องทำตัวฮิปเตอร์ กินไอติมร้าน Bee Honey ก็ต้องถ่ายรูปแบบ ฮิปๆ กันหน่อย
ปั่นมาเรื่อยๆ ตามทาง ที่ยอดนิยมของเมืองนี้อยูที่ทะเลสาบ Kinrinkoมันงดงามจริงๆค่ะ ที่ทะเลสาบ ถ้าใบไม้เปลี่ยนสีทั้งหมด คงจะฟินน
หลังจากกินบรรยากาศจนตัวบวม เราก็ต้องหาอะไรรองท้องก่อนกลับจัดไปค่ะ ไก่ย่างที่หารีววิจากใน Pantipนี้แหละ คนละ 3 ไม้พออยู่ท้อง
กลับมาที่สถานี คืนรถจักรยาน เค้าจะเก็บเงินหลังจากเอามาคืนค่ะ เนื่องจากยืมเป็น ชม. ก็ได้ สำหรับพรุ่งนี้แผนของเราคือ Kyoto แล้วจะไปยังไงละ ตามที่หาข้อมูลไว้จะมีรถบัสนอนของ Willer Express เราจองล่วงหน้า และจ่ายเงินมาจากไทย ราคาประมาณ 6700เยน มันดีตรงที่ตื่นเช้ามาเราจะถึง Kyoto แล้วเที่ยวต่อได้เลย แต่ข้อเสียคือ ที่นั่งที่ จขกทเลือกคือราคาถูกที่สุด ขนาดเบาะและความกว้างของพนักเลยแคบ นั่งทั้งคืนตื่นมาก็ ปวดๆ เมื่อยๆ แต่เทียบกับความคุ้มค่า และไม่ต้องเสียเวลาในการเดินทางช่วงกลางวัน ก็โอเคเลยค่ะ สำหรับการเดินทางวิธีนี้
ยังๆ ความตื่นเต้นมีตลอดทริป หลังจากที่กลับมาถึงที่ สถานี Hakata เพื่อจะขึ้นรถบัสนอน Willer Express เราแวะเอากระเป๋าใบใหญ่ ที่ฝากไว้ตั้งแต่วันแรกที่มาถึง มันทำให้เราจำล็อกเกอร์ที่ฝากกระเป๋าไม่ได้ ยังไงละที่นี้ เดินหาซิคะ ยิ่งเดินยิ่ง งง กว่าจะหาเจอเล่นเอาเหนื่อย ความตื่นเต้นต่อไป ใกล้ถึงเวลาที่รถบัสจะออกแล้ว ยังไงละยังหาที่จอดรถไม่เจอ ลองคิดสภาพวิ่งลากกระเป๋าใบใหญ่ กับเป้อีก 1 ใบทั่วสถานี โอ๊ยๆ ยังกะคนบ้า เพราะถ้าตกรถ คงจะนั่งร้องไห้น้ำตาตกใน ไหนจะเงินที่จองไปแล้ว แพลนเที่ยวพรุ่งนี้ ล่มหมด
แต่ด้วยผลบุญที่ทำกันมา ทำให้เรารอดจากการตกรถ สาธุ…จริงๆแล้ว ที่จอดรถบัสอยู่ไม่ไกลจาสถานี Hakata เลยค่ะ ออกจาดสถานี Hakata ทางออก 6 ในแผนที่จะเป็นจุด Check in และนั่งรอได้ค่ะ ถ้าถึงเวลาเจ้าหน้าที่จะพาเราไปที่ Bus Stop อีกที รถออกจาก Hakata ประมาณ 21.30 น ถึง Kyoto 09.30 น กระเป๋าใบใหญ่ สามารถโหลดใต้รถได้คนละ 1 ใบค่ะ
กลับมาที่เรา หลังจากได้ขึ้นรถแล้ว ก็จัดเตรียมพื้นที่สำหรับนอน บนรถมีที่เสียบช๊าตแบทได้ค่ะ ไม่ต้องกังวลว่าแบทจะหมด คืนนี้นอนบนรถ พรุ่งนี้เช้าตื่นมา เราจะลุย Kyoto กันคร๊าบ...