CPF กับวิกฤติในตุรกี

ต้องขอกล่าวก่อนว่านี้คือในมุมมองของผม
cpf ทำธุรกิจแบบครบวงจรเริ่มตั้งแต่จัดหาพ่อแม่พันธ์จนส่งออกอาหารแช่แข็ง ซึ่งใชช่วงหลังได้มีการขยายไปลงทุนในต่างประเทศมากขึ้น ซึ่งหนึ่งในนั้นคือตุรกี ซึ่งดำเนินการในชื่อ CPS โดยดำเนินการดังนี้
1. ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์โดยเน้นที่วัวกับไก่
2. ธุรกิจการเลี้ยงสัตว์ปละแปรรูป โดยเน้นที่ไก่ไข่กับไก่เนื้อ
3. ธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารทั้งในประเทศและส่งออกไปยังตะวันออกกลาง
4. ธุรกิจร้านค้าปลีก ผลิตภันฑ์ภายในเครือ
ซึ่งจากข่าวร้ายด้านการเมืองภายในและระหว่างประเทศ (กับรัสเซีย) ส่งผลให้ธุรกิจขาดทุนติดต่อกันถึง 5 ปี โดยมีปัจจัยคู่แข่งที่ยังกดดันซ้ำเติม ซึ่งปัญหาล่าสุดระหว่างตุรกีกับรัสเซียจะทำให้สภาพเศรษฐกิจแย่ลงไปอีกแน่นอน ทำให้กำลังซื้อผู้บริโภคอาจจะต่ำลงไปอีก รวมทั้งการส่งออกไปตะวันออกกลางในตะวันออกกลางต้องเจอกับปัญหาผู้ก่อการร้าย โดยตอนนี้วิธีที่เจ้าสั่วเลือกใช้คือขายธุรกิจไก่เนื้อออกไปและพยายามเข้าซื้อกิจการคู่แข่งเพื่อแย่งส่วนแบ่งตลาดและลดจำนวนคู่แข่งลง แต่ยังคงบอกไม่ได้ว่าธุรกิจจะเริ่มฟื้นตัวได้ไหมในสภาพการเมืองโลกในปัจจุบัน ซึ่งถ้าย้อนกลับมาที่ประเทศไทยก็ยังมีพิษการเมืองเล่นงานจากเรื่องแรงงานทาส และมุมมองของชาติตะวันตกต่อการเมืองไทย ยังไม่รวมถึงกุ้งที่มีปริมาณน้อยเนื่องจากโรค EMS และโรคท้องร่วงในหมูที่ทำได้เพียงรักษาฐานลูกค้าเดิมเอาไว้ ส่วนไก่ก็ยังมีราคาที่ตกต่ำ
ติดตามเพจได้ที่ https://www.facebook.com/Investment-for-student-1519848498288167/
หรือกดค้นหา Investment for student

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่