รบกวนปรึกษาเกี่ยวกับเรื่อง โดนโครงการ ศุภาลัยเวลลิงตัน บอกยกเลิกสัญญาและ ยึดเงินดาวน์

รบกวนขอความเห็นและคำปรึกษาเกี่ยวกับเรื่องโดนโครงการ ศุภาลัยเวลลิงตัน บอกยกเลิกสัญญาและ ยึดเงินดาวน์  
เหตุผลเพราะ จขกท ไม่ยอมโอนห้อง เนื่องจากทางโครงการยังแก้ไข Defect ไม่เสร็จตามใบแจ้งซ่อม
ทั้งๆ เป็น Defect ตั้งแต่รอบแรก  แต่ไม่ได้รับการแก้ไข ให้เรียบร้อย จนแจ้งให้มีการแก้ไขรอบที่ 3
ซึ่งทุกครั้งได้มีการแจ้งกับทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายโอนว่าถ้าห้องมีการแก้ไขเรียบร้อย ทางจขกท ก็พร้อมที่จะโอน
แต่ทางฝ่ายโอนและฝ่ายซ่อมไม่ได้มีการประสานงานกันเลย ฝ่ายโอนส่งเอกสารนัดโอนเข้ามา
ทั้งๆที่ห้องไม่ได้มีการแก้ไขให้เรียบร้อย เข้าไปตรวจเช็คก็มีจุดที่ไม่เรียบร้อย ทั้งนี้ในการตรวจ Defect จขกท
จะตรวจพร้อมช่างของโครงการ แล้วมีเอกสารแจ้งซ่อมทุกครั้ง  ในระหว่างที่มีการซ่อม defect
ฝ่ายโอนก็มีจดหมายแจ้งโอนเข้ามา ซึ่งทุกครั้งจขกท ก็แจ้งว่า ห้องยังไม่เสร็จ ถ้าอยากให้โอนให้ฝ่ายโอน
ไปเร่งให้ช่างซ่อมห้องของจขกท.ให้เรียบร้อย เมื่อแจ้งไปฝ่ายโอนก็หายไป
     จนกระทั่งไปตรวจรอบที่ 3 ก็ยังพบ defect ที่ยังไม่เสร็จจากการแจ้งซ่อมตั้งแต่ครั้งที่ 1
ซึ่งทางจขกท.ก็แจ้งช่างไปว่า defect ที่เจอนี้ไม่ได้เป็น defect ที่เจอใหม่ แต่เป็น defect ที่ทางช่างซ่อมไม่เสร็จ
ซึ่งได้มีการเขียนลงในใบแจ้งซ่อม ทั้งนี้ในใบแจ้งซ่อมมีระบุว่าจะซ่อมหากโอน แต่ทางจขกท ไม่ยินยอม
พร้อมแจ้งว่าจะไม่เซ็นต์ชื่อในเอกสาร หากช่างไม่รับปากว่าจะซ่อมให้เรียบร้อยก่อนการโอน
เพราะ defect เป็น defect ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข ช่างเลยแจ้งให้จขกท ขีดฆ่าตรงข้อความที่ระบุว่าจะซ่อมเมื่อมีการโอน
และรับปากว่าจะซ่อมให้แล้วเสร็จ จขกท.เลยยินยอมเซ็นต์ชื่อเลยในเอกสารแจ้งซ่อม ในระหว่างนั้นฝ่ายโอนได้โทรมานัดหมาย
ให้ทำการโอนอีกครั้ง ซึ่งจขกท.ก็แจ้งทางเจ้าหน้าที่ไปว่า ห้องยังไม่มีการแก้ไขให้เสร็จเรียบร้อย
หากเจ้าหน้าที่ต้องการให้จขกท.เร่งโอน ให้ประสานงานกับทางช่าง เพื่อทำการแก้ไขห้องให้เสร็จเรียบร้อยตามที่ตกลง
หากห้องเสร็จแล้วให้เจ้าหน้าที่แจ้งมาอีกครั้ง ช่วงนั้นจขกท ก็ได้รอการติดต่อกลับของทั้งช่าง
และเจ้าหน้าที่ จนกระทั่งกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่แจ้งว่าห้องเสร็จเรียบร้อย จขกท.อยู่ต่างจังหวัด
จึงขอเลื่อนนัดตรวจไปอีกอาทิตย์หนึ่ง โดยทางช่างก็แจ้งมาว่าถ้าว่างก็สามารถมาตรวจได้ตลอดเวลา
พออาทิตย์ถัดไปลูกสาวจขกท.ได้เข้าโรงพยาบาลทำให้ไม่สามารถไปตรวจห้องดังกล่าวได้
     ในระหว่างนั้นเองในวันที่ 7 ตุลาคม มีหนังสือขอยกเลิกสัญญาและริบเงินดาวน์ห้องชุดจากโครงการ แจ้งว่าจขกท.
บ่ายเบี่ยงไม่รับโอนห้อง ทั้งๆที่ห้องมีการแก้ไขเรียบร้อยแล้ว พร้อมทั้งริบกุญแจห้อง จขกท.เลยทำการติดต่อไปยังบริษัท
เพื่อขอกุญแจห้องชุดดังกล่าวเพื่อขอเข้าไปเช็คห้องอีกครั้งว่าเป็นไปตามที่โครงการแจ้งรึไม่ แต่ทางโครงการบ่ายเบี่ยง
ไม่ยอมให้กุญแจตรวจห้อง พร้อมทั้งยืนยันจะให้กุญแจห้องเมื่อมีการโอนแล้วเท่านั้น ซึ่งทางจขกท. คิดว่าไม่ยุติธรรม
เพราะจากการตรวจสอบตั้งแต่ครั้งที่ 1 ห้องก็ยังไม่ได้รับการแก้ไขให้เรียบร้อยจนกระทั่งมาถึงปัจจุบัน
ทั้งๆที่โครงการแจ้งว่ามีการแก้ไขแล้ว เมื่อไปตรวจก็ยังพบ Defect เหมือนเดิม
     จึงได้ทำหนังสือขอยกเลิกส่งไปให้ทางโครงการอีกครั้ง พร้อมทั้งแจ้งความจำนงค์ว่าต้องการดูห้องอีกครั้ง
หากห้องชุดดังกล่าวมีการแก้ไขเรียบร้อยทางจขกท.ก็พร้อมที่จะดำเนินการโอนห้อง แต่ทางโครงการก็ได้ส่งเอกสาร
ยืนยันการยกเลิกมาอีกครั้ง และบอกว่าจขกท.เพิกเฉยในการติดตามห้องชุด จขกท.เลยส่งจดหมายชี้แจงไปอีกครั้งว่า
จขกท.ไม่ได้เพิกเฉยเลย ได้เป็นผู้ติดตามห้องชุดดังกล่าวตลอดและแจ้งความประสงค์เช่นเดิมว่าจะขอเช็คห้องอีกครั้ง
หากห้องเสร็จเรียบร้อยจขกท.ก็พร้อมโอน  แต่ทางโครงการก็ยังส่งจดหมายยืนยันที่จะยกเลิกสัญญาและริบเงินดาวน์
โดยอ้างว่า ห้องได้มีการแก้ไขเสร็จเรียบร้อยแล้ว และไม่เป็นไปตามที่ จขกท.อ้างถึง ทั้งนี้ จขกท.มีเอกสารแจ้งซ่อม
ทุกอย่างครบ  ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่ทางโครงการจะมากล่าวหาว่าจขกท.อ้างว่าห้องไม่เสร็จ ทั้งๆที่ห้องเสร็จแล้ว
เพราะเหมือนที่จขกท.แจ้งตั้งแต่แรกว่าการตรวจเช็ค Defect จขกท.ต้องตรวจเสร็จพร้อมช่าง
ดังนั้นในการเขียนเอกสารการซ่อม เจ้าหน้าที่ต้องรับทราบ หากรายการที่แจ้งไม่เป็นความจริง เจ้าหน้าที่คงไม่มี
การเซ้นต์ชื่อกำกับ รวมทั้งในสัญญาจะซื้อจะขาย และเอกสารในการนัดหมายโอน ไม่มีการแจ้งกำหนดว่า
จะมีการยึดกุญแจ และสามารถบอกยกเลิกสัญญาพร้อมทั้งริบเงินดาวน์  และเหตุผลหลักที่จขกท.ไม่โอนคือ
ห้องยังมีการแก้ไข Defect ไม่เสร็จ
     ดังนั้นจขกท.จึงอยากรบกวนปรึกษาและขอความคิดเห็นว่าควรจะดำเนินการยังไงดีในกรณีแบบนี้ เพราะโครงการ
บีบให้จขกท.โอนห้องชุดดังกล่าว ทั้งๆที่ยังไม่ได้ตรวจว่าห้องเสร็จเรียบร้อยตามที่โครงการแจ้งรึไม่
โครงการศุภาลับยเวลลิงตันเป็นโครงการที่มีปัญหามากที่สุดของบริษัทศุภาลัย
ตั้งแต่ผิดสัญญาที่แจ้งว่าจะแล้วเสร็จในเดือนธันวาคม 57  แต่กลับสร้างแล้วเสร็จในเดือนมกราคม 58
ซึ่งมีเพื่อนของจขกท.หลายคนที่ทำเรื่องยกเลิกของคืนเงิน แต่ทางจขกท.ก็ยังยืนยันที่จะรอเพราะอยากซื้อไว้ให้ลูกสาวอยู่ในอนาคต
แต่กลับเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นมา ทางโอนไม่มีการประสานงานกับทางฝ่ายซ่อม เร่งแต่จะโอน
****สรุปเหตุการณ์*****
-  03 มีนาคม 2555 จองคอนโดโครงการศุภาลัย เวลลิงตัน
-  01 เมษายน  2555 ทำสัญญาจองคอนโดโครงการศุภาลัย เวลลิงตัน
- 10 มีนาคม 2556 ทำสัญญาจะซื้อจะขายคอนโดโครงการศุภาลัย เวลลิงตัน ตามกำหนดในสัญญาจะคอนโดจะแล้วเสร็จพร้อมโอน  19 ธันวาคม 2557
- 22 มกราคม 2558 โครงการทำหนังสือแจ้งโอนกรรมสิทธิ์ ครั้งที่ 1 ทั้งๆที่ยังไม่มีการนัดหมายตรวจห้อง
- 24 มกราคม 2558 จขกท.ตรวจห้องชุดดังกล่าวรอบที่ 1 ทั้งนี้ตรวจพบ Defect เป็นจำนวนมาก
- 11 มีนาคม 2558   โครงการทำหนังสือแจ้งโอนกรรมสิทธิ์ ครั้งที่ 2 ทั้งๆที่ห้องยังซ่อมไม่เสร็จ
- 25 เมษายน 2558 จขกท.ตรวจห้องชุดดังกล่าวรอบที่ 2 ทางช่างแจ้งว่าดำเนินการซ่อมเสร็จแล้ว แต่ยังพบหลายจุดที่ไม่มีการแก้ไข
- 27 กรกฏาคม 2558 โครงการทำหนังสือแจ้งโอนกรรมสิทธิ์ ครั้งที่ 3  
- 01 สิงหาคม 2558 จขกท.ตรวจห้องชุดดังกล่าวรอบที่ 3 พร้อมช่างของโครงการ ยังพบ Defect ที่ไม่ได้รับการแก้ไขตั้งแต่การแจ้งซ่อมครั้งที่ 1 จึงแจ้งให้ช่างของโครงการซ่อมห้องให้เรียบร้อยก่อน หากห้องซ่อมเรียบร้อยแล้ว ทางจขกท.จึงจะโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดดังกล่าว
- กลางเดือนสิงหาคม เจ้าหน้าที่ฝ่ายโอนกรรมสิทธิ์ ได้โทรศัพท์เข้ามาเพื่อขอนัดหมายวันเวลาในการโอนกรรมสิทธิ์ แต่ทางจขกท.แจ้งว่าห้องยังไม่เสร็จ ให้ทางเจ้าหน้าที่โอนกรรมสิทธิ์ประสานงานกับทางช่างเพื่อให้ซ่อมห้องให้เรียบร้อย และหากห้องเรียบร้อยทางจขกท.จะนัดโอนห้องชุดดังกล่าว
- ต้นกันยายน  เจ้าหน้าที่ฝ่ายโอนกรรมสิทธิ์ติดต่อมาอีกครั้ง จขกท.จึงแจ้งว่าถ้าห้องชุดเสร็จให้ทางช่างของโครงการโทรแจ้งเพื่อที่จขกท.จะได้เข้าไปเช็คความเรียบร้อยของห้อง
- อาทิตย์ถัดมา มีช่างโครงการโทรเข้ามาแจ้ง จขกท.ว่าห้องชุดดังกล่าวเสร็จเรียบร้อยแล้วให้เข้ามาตรวจเช็ค แต่จขกท.ไม่อยู่ไปต่างจังหวัด จึงแจ้งช่างของโครงการไปว่าคงต้องขอไปตรวจห้องอาทิตย์อื่น ซึ่งทางช่างแจ้งว่าถ้าสะดวกสามารถเข้ามาเมื่อไหร่ก็ได้ ทั้งนี้อาทิตย์ถัดไปลูกสาวของจขกท.เข้าโรงพยาบาลทำให้ไม่สามารถไปตรวจห้องได้
- 7 ตุลาคม 2558 มีจดหมายจากทางบริษัทแจ้งยกเลิกสัญญาและริบเงินดาวน์แก่จขกท.  ทางจขกท.เลยโทรไปสอบถามโครงการว่า จะขอไปตรวจห้องก่อนเพื่อเช็คความเรียบร้อยของห้อง หากห้องชุดดังกล่าวเรียบร้อยจะรีบดำเนินการโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดทันที แต่เจ้าหน้าที่โครงการแจ้งว่าทางฝ่ายโอนได้ยึดกุญแจไป ไม่สามารถเปิดห้องให้จขกท.ดูได้ จขกท.จึงติดต่อไปยังฝ่ายโอนเพื่อเจรจรา แต่ฝ่ายโอนแจ้งว่าต้องเขียนจดหมายชี้แจงเท่านั้นไม่สามารถดำเนินการใดๆได้
-16 ตุลาคม 2558 จขกท. ทำหนังสือขอยกเลิกการยกเลิกสัญญาและริบเงินดาวน์ พร้อมชี้แจงว่าไม่ได้มีเจตนาที่จะบ่ายเบี่ยงไม่โอนกรรมสิทธิ์ แต่ห้องชุดดังกล่าวไม่แล้วเสร็จ ตามที่แจ้งซ่อม ทั้งๆนี้จขกท.ก็ยืนยันเจตนาว่าจะโอนให้ทันทีหากเปิดให้เช็คห้อง ว่าได้แล้วเสร็จตามที่โครงการอ้าง
- 29 ตุลาคม 2558 ทางบริษัทส่งจดหมายยืนยันที่จะยกเลิกสัญญาและริบเงินดาวน์ โดยอ้าวว่าจขกท.เพิกเฉย ไม่ติดตามห้องชุด
- 3 พฤศจิกายน 2558 จขกท.ได้ส่งจดหมายชี้แจงว่าไม่ได้เพิกเฉย และได้มีการติดตามความคืบหน้าห้องชุดดังกล่าวตลอดจากทางโครงการ พร้อมทั้งยังยืนยันว่าจะขอดูห้อง หากห้องมีการซ่อมเรีบยร้อย จขกท.ก็พร้อมโอนกรรมสิทธิ์
- 12 พฤศจิกายน 2558 บริษัทยังคงส่งจดหมายปฏิเสธไม่ยอมรับและยกเลิกการริบเงินดาวน์ พร้อมทั้งอ้างว่าห้องชุดดังกล่าวได้มีการแล้วเสร็จเป็นเวลาเนิ่นนาน ไม่เป็นตามที่จขกท.แอบอ้าง
- 19 พฤศจิกายน 2558 จขกท. ได้อ้างอิงถึงจดหมายทุกฉบับที่ทางบริษัทส่งมา พร้อมทั้งเอกสารการยืนยันการซ่อมห้องชุด เพื่อชี้แจงรอบสุดท้ายว่า จขกท.ไม่ได้มีเจตนาที่จะบ่ายเบี่ยงโอนกรรมสิทธิ์แต่อย่างใด แต่ที่ไม่ได้โอนกรรมสิทธิ์เพราะห้องชุดดังกล่าวแล้วเสร็จตามที่โครงการแจ้งแต่อย่างใด และก็ยังยืนยันว่าพร้อมจะโอนแต่ต้องให้ตรวจห้องอีกครั้ง ไม่ใช่บีบให้โอนกรรมสิทธิ์ทั้งที่ไม่ได้ตรวจห้อง เพราะทุกครั้งที่โครงการแจ้งว่าห้องชุดมีการแล้วเสร็จ เมื่อจขกท.ทำการตรวจสอบก็ยังพบจุดที่ไม่ได้รับการแก้ไข นอกจากนี้ทุกๆครั้งที่จขกท.ทำการตรวจห้อง จะดำเนินการตรวจพร้อมช่างของโครงการ ซึ่งช่างก็เห็นว่ายังมีจุดที่ต้องแก้ไขและต้องเซ็นต์ชื่อรับรองการซ่อมทุกครั้งในใบยืนยันการซ่อม ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่โครงการจะมาบอกว่าห้องเสร็จเรียบร้อยแล้ว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่