ซีพีลุยธุรกิจร้านกาแฟเต็มสูบ ปูพรมสาขาทั้งในเซเว่นฯ-ร้านค้าปลีกใน-นอกเครือ เผย "ออลล์ คาเฟ่" โตก้าวกระโดด ปีเดียวเปิด 1,600 แห่ง ปั้นแบรนด์ใหม่ "โฮม คอฟฟี่ บาย ซีพี รีเทลลิงค์" ป้อนคู่ค้า ซุ่มเปิดมุมกาแฟ "มวลชน" ในร้านเชสเตอร์กริลล์
ตลาดกาแฟที่เปิดกว้างและยังมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากอัตราการบริโภคกาแฟของคนไทยยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการหลาย ๆ ค่ายต่างมีความเคลื่อนไหวเพื่อขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ "ซีพี ออลล์" ค้าปลีกรายใหญ่ในเครือซีพี ที่นอกจากจะมีแบรนด์ ร้านกาแฟ "คัดสรร" และมุมกาแฟ "ออลล์ คาเฟ่" ที่เปิดให้บริการในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นแล้ว ยังมีแบรนด์ร้านกาแฟที่เปิดให้บริการนอกร้านเซเว่นฯด้วย ล่าสุด ได้ประกาศแผนจะขยายสาขาแบรนด์ร้านกาแฟต่าง ๆ ที่มีอยู่ในมือชนิดก้าวกระโดด ทั้ง "เบลลินี่" ร้านกาแฟพรีเมี่ยม และร้านกาแฟที่อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัท ซีพี รีเทลลิงค์ จำกัด บริษัทลูกของซีพี ออลล์ อาทิ ร้านกาแฟมวลชน และ "โฮม คอฟฟี่ บาย ซีพี รีเทลลิงค์" ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่
นายปิยวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (ประเทศไทย) ผู้บริหารเซเว่นอีเลฟเว่น กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า บริษัทได้ให้น้ำหนักธุรกิจร้านกาแฟมากขึ้น โดยเฉพาะออลล์ คาเฟ่ ที่เป็นแบรนด์ย่อยในร้านเซเว่นฯ จากตลาดที่ขยายตัวมากขึ้น ตามพฤติกรรมคนไทยมีแนวโน้มดื่มกาแฟมากขึ้น และกาแฟเป็นธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูง
แหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า นอกจากบริษัทจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาแบรนด์ร้านกาแฟของตัวเองแล้ว อีกด้านหนึ่ง บริษัท ซีพี รีเทลลิงค์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของซีพี ออลล์ ยังรับออกแบบและสร้างแบรนด์ให้คู่ค้า อาทิ "โฮม คอฟฟี่ บาย ซีพี รีเทลลิงค์" เพื่อเปิดในร้านซีพีเฟรชมาร์ท ปัจจุบันมี 10 สาขา และล่าสุด ได้ทดลองเปิดมุมกาแฟ "มวลชน" ในร้านเชสเตอร์กริลล์ สาขาเซ็นจูรี่ ซึ่งถือเป็นการซินเนอร์ยี่ธุรกิจในเครือ
จากปัจจุบันร้านกาแฟมวลชนมี 50 สาขาทั่วประเทศ พื้นที่ตั้งแต่ 9 ตร.ม. ไปจนถึง 100 ตร.ม. ใช้งบฯลงทุน 8 แสน-2 ล้านบาทต่อสาขา และเนื่องจากร้านกาแฟมวลชนเป็นโมเดลที่ค่อนข้างนิ่งและมีความพร้อมในแง่ของการดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ คือ หาเมล็ดกาแฟ คิดสูตร มีหน่วยฝึกอบรมการชงกาแฟ ฯลฯ ปี 2559 จึงมีแผนจะเปิดสาขาอย่างก้าวกระโดด 200 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ทั้งเป็นสาขาที่ลงทุนเองและขยายไปกับพันธมิตร รวมถึงการศึกษาระบบแฟรนไชส์ที่จะทำให้สามารถขยายสาขารวดเร็ว
"ส่วนออลล์ คาเฟ่ ที่เปิดในร้านเซเว่นฯ ปีนี้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเปิดเฉลี่ยวันละ 4-5 สาขา สิ้นปีนี้คาดว่าตัวเลขน่าจะทะลุ 2,200 สาขา จากปีที่ผ่านมามี 600 สาขา เท่ากับว่าปีนี้เปิดเพิ่มถึง 1,600 สาขา และปีหน้าก็จะขยายเข้าไปในร้านเซเว่นฯมากขึ้น"
ขณะที่นายชรัส ลิขิตคุณวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หน่วยงานคัดสรรและเบลลินี่ พรีเมี่ยม คาเฟ่ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านกาแฟและเบเกอรี่ เบลลินี่ เบค แอนด์ บรู บาย ซีพี ออลล์ (Bellinee′s Bake & Brew By CPAll) กล่าวว่า ตลาดร้านกาแฟยังมีช่องว่างและมีโอกาสเติบโตอีกมาก และธุรกิจกาแฟของซีพี ออลล์ มีทั้งร้านคัดสรร และออลล์ คาเฟ่ ที่เปิดอยู่ในเซเว่นฯ แต่เบลลินี่เป็นธุรกิจย่อยที่แยกออกมาจากร้านเซเว่นฯ และมีความเป็นพรีเมี่ยม จับกลุ่มเป้าหมายระดับบีขึ้นไป
ล่าสุด เบลลินี่เพิ่งเปิดสาขาที่ 11 ที่ย่านพระราม 9 และปีหน้าจะเปิด 30-50 สาขา ใช้งบฯลงทุนสาขาละ 3 ล้านบาท พื้นที่เฉลี่ยมีตั้งแต่ 60 ตร.ม. 80 ตร.ม. ถึง 120 ตร.ม. เบื้องต้นจะโฟกัสเขตกรุงเทพฯ ที่ผ่านมาขยายสาขาไปกับแมกซ์แวลู ซูเปอร์มาร์เก็ต และอาคารสำนักงาน รวมทั้งศึกษารูปแบบการขายแฟรนไชส์ และมองโอกาสที่จะไปต่างประเทศด้วย ส่วนแบรนด์คัดสรร ที่เปิดในเซเว่นฯ ปีหน้าจะเปิดสาขาเพิ่ม 130-150 จุด จากปัจจุบันมีกว่า 300 สาขา
นายวิรัตน์ เตชะนิรัติศัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทรู ไลฟ์สไตล์ รีเทล จำกัด ในเครือทรู คอร์ปอเรชั่น ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันตลาดกาแฟมีมูลค่าประมาณ 3.8 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นกาแฟพรีเมี่ยม 20% ทูอินวัน 50% อีก 30% เป็นกาแฟรถเข็นและกลุ่มที่จับตลาดระดับแมส เฉพาะตลาดร้านกาแฟพรีเมี่ยมมีมูลค่า 8,000-9,000 ล้านบาท สำหรับทรูคอฟฟี่มีแผนจะขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยปลายปีนี้ที่จะเปิดสาขาในย่างกุ้ง ส่วนประเทศที่เปิดให้บริการอยู่แล้วก็จะลงทุนขยายสาขาเพิ่ม ทั้งลาวที่จะเพิ่มอีก 3 แห่ง จากที่มี 2 แห่ง กัมพูชา ที่พนมเปญ จะเปิดอีก 3 แห่ง จากที่มี 2 แห่ง ปอยเปตเพิ่มอีก 1 แห่ง และกำลังศึกษาตลาดในเวียดนาม มาเลเซีย จีน ส่วนในประเทศปีหน้าจะเปิดเพิ่มอีก 50 สาขา (ไม่รวมแฟรนไชส์) จากปัจจุบันมี 135 สาขา เน้นเปิดสาขาสแตนด์อะโลน และจะจับมือกับพันธมิตรมากขึ้น นอกจากนี้ที่ผ่านมามีคุยกับปั๊มน้ำมัน 2-3 ราย
(ที่มา:ประชาชาติธุรกิจออนไลน์)
′ซีพี′บุกร้านกาแฟเต็มสูบ ลุยทุกช่องทาง ชิงตลาด 4 หมื่นล้าน
ตลาดกาแฟที่เปิดกว้างและยังมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกมาก เนื่องจากอัตราการบริโภคกาแฟของคนไทยยังอยู่ในเกณฑ์ต่ำ เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผู้ประกอบการหลาย ๆ ค่ายต่างมีความเคลื่อนไหวเพื่อขยายตลาดอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะ "ซีพี ออลล์" ค้าปลีกรายใหญ่ในเครือซีพี ที่นอกจากจะมีแบรนด์ ร้านกาแฟ "คัดสรร" และมุมกาแฟ "ออลล์ คาเฟ่" ที่เปิดให้บริการในร้านเซเว่นอีเลฟเว่นแล้ว ยังมีแบรนด์ร้านกาแฟที่เปิดให้บริการนอกร้านเซเว่นฯด้วย ล่าสุด ได้ประกาศแผนจะขยายสาขาแบรนด์ร้านกาแฟต่าง ๆ ที่มีอยู่ในมือชนิดก้าวกระโดด ทั้ง "เบลลินี่" ร้านกาแฟพรีเมี่ยม และร้านกาแฟที่อยู่ภายใต้การบริหารของบริษัท ซีพี รีเทลลิงค์ จำกัด บริษัทลูกของซีพี ออลล์ อาทิ ร้านกาแฟมวลชน และ "โฮม คอฟฟี่ บาย ซีพี รีเทลลิงค์" ที่พัฒนาขึ้นมาใหม่
นายปิยวัฒน์ ฐิตะสัทธาวรกุล รองประธานกรรมการบริหาร บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (ประเทศไทย) ผู้บริหารเซเว่นอีเลฟเว่น กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า บริษัทได้ให้น้ำหนักธุรกิจร้านกาแฟมากขึ้น โดยเฉพาะออลล์ คาเฟ่ ที่เป็นแบรนด์ย่อยในร้านเซเว่นฯ จากตลาดที่ขยายตัวมากขึ้น ตามพฤติกรรมคนไทยมีแนวโน้มดื่มกาแฟมากขึ้น และกาแฟเป็นธุรกิจที่มีมาร์จิ้นสูง
แหล่งข่าวระดับสูงจากบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) กล่าวเสริมว่า นอกจากบริษัทจะให้ความสำคัญกับการพัฒนาแบรนด์ร้านกาแฟของตัวเองแล้ว อีกด้านหนึ่ง บริษัท ซีพี รีเทลลิงค์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของซีพี ออลล์ ยังรับออกแบบและสร้างแบรนด์ให้คู่ค้า อาทิ "โฮม คอฟฟี่ บาย ซีพี รีเทลลิงค์" เพื่อเปิดในร้านซีพีเฟรชมาร์ท ปัจจุบันมี 10 สาขา และล่าสุด ได้ทดลองเปิดมุมกาแฟ "มวลชน" ในร้านเชสเตอร์กริลล์ สาขาเซ็นจูรี่ ซึ่งถือเป็นการซินเนอร์ยี่ธุรกิจในเครือ
จากปัจจุบันร้านกาแฟมวลชนมี 50 สาขาทั่วประเทศ พื้นที่ตั้งแต่ 9 ตร.ม. ไปจนถึง 100 ตร.ม. ใช้งบฯลงทุน 8 แสน-2 ล้านบาทต่อสาขา และเนื่องจากร้านกาแฟมวลชนเป็นโมเดลที่ค่อนข้างนิ่งและมีความพร้อมในแง่ของการดำเนินธุรกิจ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ คือ หาเมล็ดกาแฟ คิดสูตร มีหน่วยฝึกอบรมการชงกาแฟ ฯลฯ ปี 2559 จึงมีแผนจะเปิดสาขาอย่างก้าวกระโดด 200 สาขา ทั้งในกรุงเทพฯและต่างจังหวัด ทั้งเป็นสาขาที่ลงทุนเองและขยายไปกับพันธมิตร รวมถึงการศึกษาระบบแฟรนไชส์ที่จะทำให้สามารถขยายสาขารวดเร็ว
"ส่วนออลล์ คาเฟ่ ที่เปิดในร้านเซเว่นฯ ปีนี้ขยายตัวอย่างรวดเร็ว โดยเปิดเฉลี่ยวันละ 4-5 สาขา สิ้นปีนี้คาดว่าตัวเลขน่าจะทะลุ 2,200 สาขา จากปีที่ผ่านมามี 600 สาขา เท่ากับว่าปีนี้เปิดเพิ่มถึง 1,600 สาขา และปีหน้าก็จะขยายเข้าไปในร้านเซเว่นฯมากขึ้น"
ขณะที่นายชรัส ลิขิตคุณวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ หน่วยงานคัดสรรและเบลลินี่ พรีเมี่ยม คาเฟ่ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ผู้บริหารร้านกาแฟและเบเกอรี่ เบลลินี่ เบค แอนด์ บรู บาย ซีพี ออลล์ (Bellinee′s Bake & Brew By CPAll) กล่าวว่า ตลาดร้านกาแฟยังมีช่องว่างและมีโอกาสเติบโตอีกมาก และธุรกิจกาแฟของซีพี ออลล์ มีทั้งร้านคัดสรร และออลล์ คาเฟ่ ที่เปิดอยู่ในเซเว่นฯ แต่เบลลินี่เป็นธุรกิจย่อยที่แยกออกมาจากร้านเซเว่นฯ และมีความเป็นพรีเมี่ยม จับกลุ่มเป้าหมายระดับบีขึ้นไป
ล่าสุด เบลลินี่เพิ่งเปิดสาขาที่ 11 ที่ย่านพระราม 9 และปีหน้าจะเปิด 30-50 สาขา ใช้งบฯลงทุนสาขาละ 3 ล้านบาท พื้นที่เฉลี่ยมีตั้งแต่ 60 ตร.ม. 80 ตร.ม. ถึง 120 ตร.ม. เบื้องต้นจะโฟกัสเขตกรุงเทพฯ ที่ผ่านมาขยายสาขาไปกับแมกซ์แวลู ซูเปอร์มาร์เก็ต และอาคารสำนักงาน รวมทั้งศึกษารูปแบบการขายแฟรนไชส์ และมองโอกาสที่จะไปต่างประเทศด้วย ส่วนแบรนด์คัดสรร ที่เปิดในเซเว่นฯ ปีหน้าจะเปิดสาขาเพิ่ม 130-150 จุด จากปัจจุบันมีกว่า 300 สาขา
นายวิรัตน์ เตชะนิรัติศัย ผู้จัดการทั่วไป บริษัท ทรู ไลฟ์สไตล์ รีเทล จำกัด ในเครือทรู คอร์ปอเรชั่น ให้ข้อมูลว่า ปัจจุบันตลาดกาแฟมีมูลค่าประมาณ 3.8 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นกาแฟพรีเมี่ยม 20% ทูอินวัน 50% อีก 30% เป็นกาแฟรถเข็นและกลุ่มที่จับตลาดระดับแมส เฉพาะตลาดร้านกาแฟพรีเมี่ยมมีมูลค่า 8,000-9,000 ล้านบาท สำหรับทรูคอฟฟี่มีแผนจะขยายตลาดต่างประเทศเพิ่มขึ้น โดยปลายปีนี้ที่จะเปิดสาขาในย่างกุ้ง ส่วนประเทศที่เปิดให้บริการอยู่แล้วก็จะลงทุนขยายสาขาเพิ่ม ทั้งลาวที่จะเพิ่มอีก 3 แห่ง จากที่มี 2 แห่ง กัมพูชา ที่พนมเปญ จะเปิดอีก 3 แห่ง จากที่มี 2 แห่ง ปอยเปตเพิ่มอีก 1 แห่ง และกำลังศึกษาตลาดในเวียดนาม มาเลเซีย จีน ส่วนในประเทศปีหน้าจะเปิดเพิ่มอีก 50 สาขา (ไม่รวมแฟรนไชส์) จากปัจจุบันมี 135 สาขา เน้นเปิดสาขาสแตนด์อะโลน และจะจับมือกับพันธมิตรมากขึ้น นอกจากนี้ที่ผ่านมามีคุยกับปั๊มน้ำมัน 2-3 ราย
(ที่มา:ประชาชาติธุรกิจออนไลน์)