ช่วยวิเคราะห์หน่อยคะ เห็นด้ว หรือไม่เห็นด้วยกับบทความข้างล่าง เพราะ อะไร

กระทู้คำถาม
การค้าเสรีช่วยทุกคน
ในตอนต้นของทศวรรษที่ 90 กลุ่มผู้สนับสนุนข้อตกลงการค้าเสรีอเมริกาเหนือ หรือ NAFTA ได้ให้ความเห็นว่า การค้าเสรีจะเป็นการเปิดประตูให้แก่เศรษฐกิจของเม็กซิโก จะทำให้เกิดการนำเข้าสินค้าจากทั้งสหรัฐอเมริกาและแคนาดาเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังมีการระบุอีกว่า NAFTA จะยังสามารถลดจำนวนผู้อพยพเข้าเมืองได้โดยการเพิ่มมาตรฐานการครองชีพให้แก่กลุ่มคนทำงานชาวเม็กซิกัน อย่างไรก็ตาม ได้มีการต่อต้าน NAFTA เกิดขึ้น ซึ่งมีการดำเนินการอย่างรุนแรงโดยอดีตหัวหน้าของระบบข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์  และอดีตผู้สมัครประธานาธิบดี Ross Perot ในความคิดเห็นของ Perot  เขาคิดว่า NAFTA จะทำให้ค่าจ้างแรงงานในสหรัฐอเมริกาสูงขึ้น โดยเป็นการเร่งให้เกิดการอพยพของบุคคลที่  “มีความโลภ” ในการทำธุรกิจ               บริษัทต่างๆจะย้ายเข้าสู่เม็กซิโก  นอกจากนี้นักจัดรายการโทรทัศน์และอดีตผู้สมัครประธานาธิบดี Pat Buchana ได้เข้าร่วมเป็นแกนนำฝ่ายค้านอนุรักษ์นิยม  โดยการโต้แย้งว่า NAFTA “ยอมศิโรราบ” ต่ออำนาจของสหรัฐอเมริกา  Ralph Nader นักปฏิบัติการเพื่อผู้บริโภคที่มีประสบการณ์แสดงให้เห็นว่าสนธิสัญญาดังกล่าวเป็นเพียงแค่เครื่องมือสำหรับ “การทุจริต” ต่อระบบคณาธิปไตยของเม็กซิโก อีกทั้งหัวหน้าพรรคประชาธิปไตย Jeese Jackson ให้ความเห็นว่าแรงงานที่มีค่าแรงต่ำจะต้องตกงานเนื่องจากการนำเข้าของแรงงานเม็กซิกัน Lane Kirkland ประธานของบริษัท AFL-CIO สหภาพการค้าที่ใหญ่ที่สุดในอเมริกาเหนือ ต่อต้าน NAFTA เนื่องจากความกลัวที่ NAFTA อาจจะเร่งให้เกิดการลดลงของจำนวนสมาชิกสหภาพ ยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด
Ross Perot ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับเรื่อง “ผลกระทบในทางลบ” หรือ Giant sucking sound ซึ่งกระตุ้นทำให้เกิดการโต้เถียงกันเกิดขึ้น เขากล่าวนั่นเป็นเสียงที่คนควรจะได้ยินเสียงเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วหนึ่งครั้งและจากนั้นสหรัฐเมริกา
จะสูญเสียงานหลายล้านตำแหน่งให้แก่คนงานชาวเม็กซิกันค่าแรงต่ำ แต่อย่างไรก็ตาม ความจริงด้านเศรษฐกิจก็ยังน่ากลัวน้อยกว่าวาทศิลป์ด้านการเมืองอย่างมากมายนักในช่วงที่มีการบังคับใช้ข้อตกลง NAFTA ในวันที่ 1 มกราคม ปีคริสต์ศักราช 1994 สหรัฐอเมริกาและแคนาดาก็มีข้อตกลงด้านการค้าเสรีเรียบร้อยแล้ว ซึ่ง NAFTA เป็นเพียงข้อตกลงที่ขยายข้อตกลงเดิมโดยให้รวม เม็กซิโก และการอนุญาตเรื่องสินค้าปลอดภาษีและโควตาการขนส่งสินค้าทั่วอเมริกาเหนือเข้าไปในสัญญา บางทีสิ่งที่ดูจะเป็นการประชดประชันมากที่สุดของการโต้เถียงเรื่อง NAFTA ก็คือโอกาสการส่งต่องานมากมายที่ถูกทำให้เกิดความกลัวโดย Ross Perot และนักวิจารณ์คนอื่นๆ ได้เกิดขึ้นก่อนหน้าที่จะมีการลงนามข้อตกลง NAFTA แล้ว ในช่วงทศวรรษที่ 60 Johnson Administration บรรลุข้อตกลงกับเม็กซิโกเพื่ออนุญาตให้บริษัทสัญชาติสหรัฐเข้าไปก่อตั้ง maquiladoras ซึ่งเป็นภาษาสเปน หมายถึง โรงงานผลิตในประเทศเม็กซิโก โรงงานเหล่านี้นำเข้าชิ้นส่วนจากสหรัฐเมริกาตามหลักการปลอดภาษี และจากนั้นส่งออกผลิตภัณฑ์กลับไปยังสหรัฐฯด้วยการจ่ายภาษีเพียงเล็กน้อย ต่อมาในปี 1994 กว่า 2000 โรงงานในเม็กซิโกได้ทำการจ้างแรงงานชาวเม็กซิกันประมาณห้าแสนคน ทำไมถึงจ้างแรงงานเม็กซิกันเพียงแค่ห้าแสนคนเท่านั้น แทนที่จะเป็นหลายล้านคนตามที่คาดการณ์โดย Rodd Perot คำตอบก็คือ ความสามารถการผลิต ช่องว่างระหว่างความสามารถในการผลิตของแรงงานสหรัฐ ฯเมื่อเปรียบกับ เม็กซิโก อยู่ที่ 8:1 โดยประมาณ ซึ่งเป็นจำนวนที่ทำให้เกิดความเท่าทียมกันกับช่องว่าง 8:1 ของเงินเดือนระหว่างสหรัฐฯกับเม็กซิโก
เมื่อมีการตระหนักถึงความแตกต่างในกำลังการผลิต แรงงานชาวเม็กซิกันไม่ได้มีค่าจ้างที่ถูกกว่าแรงงานที่มีค่าแรงสูงแต่มีประสิทธิภาพมากกว่าจากสหรัฐฯและแคนาดาอีกต่อไป การค้าเสรีมีประโยชน์ต่อชาวอเมริกันทุกคนอย่างมากมาย
ไม่ว่าจะเป็นผลประโยชน์ที่มาจาก แคนาดา เม็กซิโก หรือ สหรัฐอเมริกา ก่อนที่จะมีข้อตกลง NAFTA  ค่าธรรมเนียมภาษีของสินค้านำเข้าจากเม็กซิโกที่กำหนดโดยสหรัฐอเมริกาเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 4% ในขณะที่อัตราภาษีสำหรับสินค้านำเข้าจากสหรัฐที่กำหนดโดยเม็กซิโกอยู่ที่เฉลี่ยประมาณ 11% และด้วยข้อตกลง NAFTA เม็กซิโก สหรัฐฯ และแคนาดา จัดตั้งโรงงานและนำเข้าแรงงานของตนเองเป็นจำนวนมากจากการเข้าถึงที่เพิ่มขึ้นทั่วเขตแดนของประเทศ ซึ่งเป็นผลมาจากการยกเลิกภาษีศุลกากร ในการขยายผลประโยชน์หลายๆอย่างของการค้าเสรี สภาคอนเกรสมีการพิจารณาร่างกฎหมายที่จะอาจเป็นการขยายสิทธิประโยชน์ของ NAFTA ไปยังประเทศแถบแคริบเบียน สนธิสัญญาดังกล่าวอาจจะกลายมาเป็นข้อตกลงทางการค้าทั่วโลกที่อาจจะรวมทั้งซีกโลกใต้ และในที่สุดพันธมิตรการค้ายุโรปและเอเชียด้วยเช่นกัน
    ณ ตอนนี้ เป็นที่ชัดเจนอย่างยิ่งว่าข้อตกลงการค้าเสรี เช่น NAFTA ไม่ได้ทำให้การลงทุนใหม่เกิดการล่าช้า หากแต่เป็นการกระตุ้นการเติบโตของเศรษฐกิจ เรื่องที่น่ากลัวเกี่ยวกับ NAFTA และอันตรายของการค้าเสรีทำให้มองข้ามประสบการณ์ของประเทศอื่นๆที่มีค่าแรงต่ำ และปลอดภาษีเข้าสู่ตลาดสหรัฐอเมริกา เช่นประเทศเปอโตริโก หากค่าแรงต่ำเป็นเรื่องที่สำคัญมาก ทำไมจึงไม่ย้ายโรงงานทั้งหมดในสหรัฐฯ ไปตั้งที่ประเทศเปอโตริโก หรือถ้าจะให้ดีไปกว่านั้น ทำไม สินค้าทุกอย่างจึงไม่ติดป้ายว่า ผลิตในประเทศบังกลาเทศ หรือ ผลิตในประเทศเฮติ ซึ่งคำตอบชัดเจนอยู่แล้วว่า เนื่องด้วยการค้าเสรี กิจกรรมทางเศรษฐกิจจะดำเนินไปอย่างราบรื่นในประเทศที่ธุรกิจมีประสิทธิภาพในการผลิตสินค้าและบริการคุณภาพสูงตามความต้องการของลูกค้า ในแต่ละวันของการทำธุรกิจ แรงงานสหรัฐฯที่มีความรู้และความสามารถต้องแข่งขันกันอย่างมีประสิทธิผลกับคู่แข่งที่มีค่าแรงต่ำ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่