" H o n e y m o o n" นี้ ที่ J A P A N เที่ยวญี่ปุ่นไปกับ "สองเรา"(Part6:Day5 Tokyo-Nagoya (ซากุระ+ใบไม้เปลี่ยนสี)

Tokyo-Nagoya (ซากุระ+ใบไม้เปลี่ยนสีที่ Obara กันค่ะ)


วันนี้เราจะไปดูใบไม้เปลี่ยนสีพร้อมกับชมดอกซากุระบานที่ Obara จังหวัด Achi กันค่ะ
แต่ก่อนอื่นเราต้องเดินทางจาก Tokyo - Nagoya กันก่อนค่ะ ตามนี้เล้ยย

ระยะทาง ก็ประมาณ 280 Km. ระยะเวลาการเดินทางประมาณ 100 นาที โดย Shinkansen ตามภาพเลย




บ่ายวันที่ 14 เราเดินทางออกจากทะเลสาบ Kawaguchiko เพื่อจะเดินทางไปที่ Tokyo Station เพราะเราต้องไปจองตั๋ว ชินคันเซ็นเพื่อจะเดินทางไปที่ Nagoya การเดินทางจาก Tokyo - Nagoya ใช้เวลา 109 นาที โดยรถ Shinkansen Hakari ค่าโดยสารที่ไม่มี JR Pass อยู่ที่ 6,260 yen ค่ะ แต่สำหรับเรา ซื้อ JR Pass มา เมื่อถึงสถานีเราก็นำบัตร JR Pass ของเราไปยื่นกับเจ้าหน้าที่แล้วก็ทำการจองที่นั่งได้เลยค่ะ เราแจ้งกับเจ้าหน้าที่ว่าเราจะไป  Nagoya เจ้าหน้าที่ก็จะดูเวลาแล้วก็ทำการจองตั๋วให้เราเลยค่ะ


ปล. JR pass ไม่สามารถใช้กับ Shinkansen Nozomi ได้นะคะ ถ้าขึ้นสายนี้ไปเราต้องจ่ายเงินเพิ่ม แต่ถ้าไปจองกับเจ้าหน้าที่เขาก็คงจะไม่จองสายนี้ให้กับเราแน่นอนค่ะ

ขอยืมภาพจาก Google มาให้เพื่อนๆดู ออฟฟิตที่เราไปจองตั๋ว ชินคันเซ็นมา หน้าตาแบบนี้นนะคะ เราก็ไปต่อแถวในกรณีที่คนเยอะ แล้วพอเค้าเตอร์ไหนว่างเขาก็จะชูมือขึ้นแล้วเราก็เข้าไปติดต่อกับเจ้าหน้าที่คนนั้นได้เลย ขอบอกว่าเจ้าหน้าที่เขาน่ารักมาก จะพยายามพูดคุยกับเราและช่วยเหลือเราอย่างเต็มที่ ไม่ต้องกังวลในการสื่อสารนะคะ ...



หลังจากที่เราได้ทำการจองตั๋วมาแล้ว เราก็จะได้เจ้าตั๋วนี้มาค่ะ จากตั๋วเราก็ดูรายละเอียดตามตั๋วเลย เช่น เวลาที่รถมาถึง 19.03 น. เราต้องขึ้นรถ หมายเลข 14 ที่นั่ง 18-c จากนั้นเราก็เดินตามป้ายที่ทางสถานีมีบอกเป็นระยะไปเลยค่ะ อย่างเช่นของเรา Shinkansen Hikari529 เราก็ดูป้ายตามสายรถของเราก็เดินไปตามทางเพื่อไปรอรถที่ชานชลา จากนั้นเราก็มองหาหมายเลข 14 ตรงพื้นบริเวณที่ยืนรอรถ แล้วเราก็ต่อแถวตามหมายเลขของเราเพื่อรอขึ้นรถไฟได้เลยค่ะ

ตามตารางเราออกเดินทางจาก Tokyo เวลา 19.03 น. เราจะถึง Nagoya 21.09 น.ค่ะ


ตรงบริเวณชานชาล ก็จะมีป้ายบอกรายละเอียดของขบวนต่อไป


และพอรถไฟมาจอดเทียบชานชาลา ก็จะมีเจ้าหน้าที่ชุดสีชมพูขึ้นไปทำความสะอาดบนขบวนที่พึ่งมาถึงก่อนที่ผู้โดยสารชุดต่อไปจะขึ้น มารยาทการต้อนรับและการบริการเขาดีๆจริงๆค่ะ



*********************************************************

จาก Tokyo Station ที่ มาถึง Nagoya Station ก็ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. ก็เดินทางมาถึง Nagoya  

เมื่อมาถึงที่ Nagoya แล้ว เราก็ดิ่งเข้าที่พักก่อนเพราะช่วงเวลานั้นก็เริ่มดึกแล้ว และฝนก็ตกปรอยๆ ที่พักเราอยู่ห่างจากสถานี Nagoya ไป 2 สถานีก็ถึง เราพักที่ APA Hotel อยู่สถานี Sakae ค่าโดยสารจาก Nagoya ไปที่พักเราก็ 200 เยน  


***บรรยากาศตอนเรามาถึง Nagoya ฝนก็ตกปรอยๆ เวลาตอนนั้นก็ประมาณ 3-4 ทุ่ม ***

มีคู่รักมาถ่ายพรีเวดดิ้งกันท่ามกลางสายฝนด้วยจ้าาาาา



พาเราออกจากสถานี Sakae มาก็ใช้ google ในการนำทางอยู่พักหนึ่ง เดินผิดทิศ ถูกทิศบ้างก็เดินทางมาถึงที่พักเราจนได้ 555


เราเดินทางมาถึง Nagoya คืนวันที่ 14 พ.ย. 58 แต่เราจอง โรงแรมนี้ไว้ล่วงหน้าคือวันที่ 15 พ.ย. 58 เพราะตามแผนตอนแรกเราจะไปนอนบ้านพี่สาวที่โตเกียวอีกคืน แต่พอดีเปลี่ยนแผนเพราะไม่อยากเสียเวลาเดินทางตอนเช้าวันที่ 15 เลยเดินทางตอนกลางคืนวันที่ 14 เลย ดังนั้นคืนนี้เราเลยยังไม่มีที่พัก จะจองใน Booking ก็เต็มไปแล้ว เราเลยเสี่ยงดวงมาที่โรงแรมที่เราจองไว้วันที่ 15 ปรากฏว่าได้ค่ะ แต่ราคานั้นห่างกับที่เราจองมามากมายเลย เพราะตอนที่เราจองมาจากไทย ราคาห้องต่อคืนอยู่ที่ 2 พันกว่า แต่พอมาจ่ายที่นี้ เราคาตกคืนละ 2 หมื่นกว่าแยน เป็นราคาไทยก็อยู่ที่ 6 พันกว่าบาท แล้วคือ เวลานั้นก็ดึก ฝนก็ตก เราก็เลยเอาก็เอาราคานี้ไปตรงกับวันเสาร์อีก ก็เลยยิ่งแพงไปใหญ่ แล้วเราก็ขี้เกียจไปถามที่อยู่แล้ว แล้วก็ไม่อยากย้ายกระเป๋าก็เลยตกลงนอนที่นี้เลย ****ดังนั้นถ้าเพื่อนๆมีแผนที่จะเดินทางไปไหน ขอให้จองห้องพักมาก่อนเลยนะคะ ไม่งั้นต้องเจอแบบเราแน่นอนจ้า


นี่บรรยากาศในห้องพักค่ะ ห้องค่อนข้างเล็ก วางกระเป๋าก็เต็มแล้ววว อิอิ

สำหรับค่ำคืนนี้ เราก็พักผ่อน เตรียมตัวลุยเที่ยววันต่อไปกันค่ะ



*****************************************************


เช้าวันที่ 15 พ.ย. 58 เราจะเดินทางไปดูซากุระ พันธุ์ที่ออกดอกในช่วงใบไม้เปลี่ยนสี ที่ Obara กันค่ะ


ขออนุญาตเซฟรูปมาใช้ประกอบนะคะ เพราะ Obara ที่เราจะไปอยู่ที่เมือง Toyotachi เขต Achi



วิธีเดินทางไป Obara (จากสถานีที่พักเรานะคะ)  


*** จากภาพคือที่พักเรา อยู่ที่ Sakea station เราก็จะนั่งรถไฟเส้นสีม่วง M05 ไปเปลี่ยนเป็นเส้นสีฟ้าที่สถานี Kamimaeza (M03) แล้วขึ้นรถไฟ เส้นสีฟ้า T09 - T20 เลยจ้าา


เราก็นั่งรถไฟเส้นสีฟ้าแบบนี้ จากสถานี T09-T20 สุดสาย มาลงที่สถานี Akaika เลยนะคะ



เมื่อเรามาถึง สถานี Akaika เราก็จะนั่งรถไฟต่อไปอีกนิดถึงเพื่อไปลงที่ Toyotachi เพื่อจะนั่งรถบัสไป ที่ Obara ค่ะ



เรานั่งรถไฟ สีแดงคันนี้ต่อเพื่อไปลงที่ Toyatachi กันเลยจ้า



บรรยากาศบนรถไฟ วันนี้ตรงกับวันอาทิตย์ คนเลยค่อนข้างเงียบเลยค่ะ

นั่งรถไฟต่อนิดหน่อย ก็มาถึง Toyatachi แล้วค่ะ



***ตอนที่เราเดินทางมาเราใช้ บัตร One day ticket  ราคา 740 เยน มาตลอดการเดินทางจนถึง Toyotachi เลยค่ะ ซึ่งพอเราเดินทางมาถึงที่ Toyotachi แล้ว เราคิดว่าเราสามารถใช้ one day ticket ออกจากสถานีนี้ได้เลย แต่ปรากฎว่าเราต้องจ่ายเงินเพิ่มอีกที่จะออกไปจากสถานีนี้ เพื่อจะไปขึ้นรถบัสไป Obara ค่ะ เราจ่ายไปอีกน่าจะไม่ถึง พันเยน (อันนี้ลืมราคาจริงๆ)  แต่จะบอกว่า one day ticket ที่เราซื้อมาก็จะใช้ได้สุดสายที่ Akaike นะคะ แล้วมาจ่ายเงินเพิ่มที่ทางออก toyotachi ค่ะ


เราเดินทางมาถึง Toyatachi กันแล้ว จำได้เลยว่าวันนั้นคนเงียบ เมืองเงียบมากจริงๆ ร้านค้าก็ไม่ค่อยเปิดกัน เพราะเราไปตรงกับวันอาทิตย์พอดีเลย เมืองเลยดูเงียบสงบมากก




******************************

จากนั้นเราก็เตรียมตัวรอรถบัสเพื่อจะขึ้นไปที่ Obara กัน คือคนที่เมืองนั้น ส่วนใหญ่ที่เราเจอวันนั้นนะ เจอแต่คนสูงอายุผู้คนก็ไม่เยอะเท่าไหร่ เพราะวันอาทิตย์ เราก็จะถามว่าเราต้องขึ้นรถสายอะไรไป เพราะอ่านรีวิวไป แต่ก็ไม่แน่ใจว่าจะขึ้นถูกหรือเปล่า เราเลยจะถามคนที่นั่นดูเพื่อความแน่ใจ แต่ปรากฏว่าเขาไม่พูดภาษาอังกฤษเลยค่ะ เราก็พยายามบอกว่าเราจะไปเมือง Obaraนะ  เขาก็เหมือนจะพยายามบอกเรา เขาก็บอกว่าให้เราขึ้นหมายเลย 1 ชูนิ้วชี้ เราก็อ่อ ขอบคุณคร้าาาาา เราก็รอๆๆๆๆ พยายามดูป้ายที่ติอยู่ที่บอร์ดก็อ่านไม่เข้าใจ เพราะไม่มีภาษาอังกฤษเลย เราก็อาศัยถามคนเอา แต่พอถามแล้วเราก็เหมือนจะเข้าใจแต่จริงๆก็ไม่เข้าใจเลย5555+ ลุงที่เราถามก็บอกเบอร์ 1 ที่เราต้องขึ้นไป เราก็รอๆๆๆ รอแล้วรออีกก็ไม่มาสักที แต่แกน่ารักมากเลยนะก็พยายามช่วยเรา ซึ่งตอนนั้นเราเตรียมข้อมูลไปบ้างนะ แต่พอไปเจอหน้าป้ายจริงๆ ยอมรับเลยว่า งงมากๆ ไม่กล้าขึ้นไปด้วย กลัวไปผิดสาย พอถามเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นขึ้นกับงงไปใหญ่ 5555+
       วันนั้นคือตื่นเต้นมากจริงๆ เวลาก็ผ่านไปเรื่อยๆ จนบ่าย 2 กว่าแล้วก็ยังไม่เห็นมีมาเลย ไอ้หมายเลขรถที่ลุงแกบอก เอาไงดีนะ กลัวรอไปแล้วมืดไม่เจอซากุระ เสียเที่ยวแน่ๆ เราเลยตัดสินใจให้แท็กซี่พาไปเพื่อความชัวร์ดีกว่า เพราะถ้ารอหมายเลขรถที่ลุงแกบอก วันนี้คงไม่ได้ไปแน่ๆ เพราะรอมานานแล้ววว เราเลยไปขึ้นแท็กซี่แทน ****ค่าแท็กซี่จากที่รอรถบัสไปที่ Obara บอกเลยว่า แพงกว่านั่งรถบัสมากๆ เพราะรถบัส ตกคนละประมาน 600 กว่าเยน แต่แท็กซี่ที่เราเสียขึ้นไป คือ 7500 เยน แต่เวลานั้นแบบ.....เอาน่ายังไงก็ต้องไปแล้วล่ะ เพราะถ้ามันช้ากว่านี้ท้องฟ้ามืดแน่ๆ (ช่วงนั้น 4-5 โมงก็มืดแล้วค่ะ) เราสองคนเลยนั่งแท็กซี่ขึ้นไปกันเลยย



เวลานั้นตื่นเต้นมาก ลุ้นว่าจะได้ไปมั้ยน้อออ......... เข้าห้องน้ำครั้งแล้วครั้งเล่าก๋ไม่มาสักที 5555+ ตื่นเต้นสุดในทริปแล้วจริงๆ

บรรยากาศบริเวณป้ายรถบัสจ้า




********************************

ตอนนั้นตื่นเต้นมาก เลยไม่ได้ถ่ายรูปตอนนั่งแท็กซี่เก็บไว้ ต่อไปเราไปดูรูปที่ถ่ายจาก Obara กันเลยค่ะ ^^


เราไปถึง เวลาประมาณ 3 โมงกว่าๆ เกือบ 4 โมงแล้ว เราดีใจมากๆจริงที่เราได้เห็นซากุระในช่วงนี้ด้วย ^^


แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่