สวัสดีคะนี้เป็นการเขียนกระทู้แรกของเราถ้ามีอะไรผิดผลาดต้องขออภัยด้วยนะคะ

คือพ่อเราเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งตามสิทธิบัตรทองด้วยอาการไข่บวมตรงนี้ต้องบอกก่อนว่าพ่อเราเข้าๆออกๆโรงพยาบาลบ่อยๆอยู่แล้วและพ่อเราพิการคะ ในวันนั่นพ่ออาการหนักต้องเข้าไอซียูเลยเนื่องจากความดันต้ำมากให้ยายังไงก็ไม่ขึ้น ตกดึกพยาบาลไอซียูโทรมาแจ้งอาการของพ่อวิกฤตมากเราและครอบครัวจึงไปที่โรงพยาบาลในคืนนั่นและหมอแจ้งว่าคนไข้มีอาการเส้นเลือดหัวใจตีบหายใจเองไม่ได้ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ ความดันต่ำ และในคืนนั่นคนไข้หัวใจหยุดเต้นไปแต่หมอช่วยให้กลับมาได้ คือรักษาตรงไหนก็แย่ไปส่วนอื่น และที่ตรวจพบคือไตวายเฉียบพลันต้องล้างไตก่อนถึงจะไปรักษาในส่วนอื่นได้ วันต่อมาพยาบาลโทรมาแจ้งช่วงเช้าว่าญาติต้องนำเงินไปจ่ายก่อนพ่อถึงจะได้รับการฟอกไต เราเลยสงสัยว่าถ้าเราไม่มีเงินพ่อเราจะเป็นยังไง ช่วงเที่ยงๆเราก็หาเงินมาจ่ายตามที่พยาบาลห้อง ICU ได้โทรมาแจ้งในช่วงเช้าจำนวน 3,000 บาท เราก็ขึ้นไปจ่ายที่ห้องฟอกไต ทางหัวหน้าศูนย์ฟอกไตได้แจ้งว่าค่าฟอกไตตามจริงอยู่ที่ 4,000 บาท แต่ทางเค้าเบิกกับบัตรทองได้ 2,000 บาท ส่วนที่เหลือเราต้องจ่ายเองเพราะพ่อเราไม่สามารถขึ้นมาฟอกไตที่ชั้น 8 ได้ คือพ่อเราอยู่ไอซียู และครั้งแรกเค้าให้เราจ่าย 3,000 เป็นค่าส่วนต่างฟอกไต 2,000 ค่าคนค่าขนเครื่องลงไป ICU 1,000 บาท หลังจากนั่นก่อนจะฟอกไตทาง ICU ก็จะโทรมาแจ้งให้เราไปจ่ายเงินก่อนเค้าถึงจะฟอกให้ ทั้งหมดรวมแล้ว 4 ครั้ง เป็นเงิน 9,000 บาท เราสงสัยว่าเรารักษาสิทธิบัตรทองเราต้องเสียเงินตรงนี้ด้วยหรือถ้าเกิดเราไม่มีเงินตรงนี้พ่อเราจะเป็นยังไง เราเลยโทรไป 1330. สปสช สอบว่าถึงกรณีแบบนี้ ทาง สปสช. บอกว่ากรณีผู้ป่วยเป็นไตวายเฉียบพลันจะได้รับการฟอกไตฟรี 60 วัน เราเลยบอกกับทาง สปสช. ว่าทางโรงบาลเรียกเก็บเงินเราแบบนี้ทาง สปสช. ก็บันทึกเสียงและประสานงานกับทางโรงพยาบาลเพื่อให้โรงพยาบาลคืนเงินส่วนนี้ให้เรา ตรงนี้ต้องบอกก่อนว่า สปสช. ทำงานรวดเร็วประสานงานในทันที ตรงนี้เราขอบคุณมาก ทาง สปสช. ก็ให้เราโทรติดต่อไปที่ ผู้ชายคนนึงที่อยู่แผนกประกันสุขภาพของโรงพยาบาล เราก็ติดต่อไปแต่ติดต่อไปกี่ครั้งเค้าไม่เคยอยู่ให้พนักงานคนอื่นรับเรื่องไว้คือติดต่อไปกี่ครั้งก็ไม่ได้คุย เรื่องนี้เป็นอาทิตย์แล้ว เราแค่อยากรู้ว่าเรื่องราวเป็นยังไงคุณไม่คุยกับเราแล้วเรารู้จากตรงไหน ก่อนหน้านี้แผนกไตเทียมได้โทรมาหาเราบอกทางโรงพยาบาลจะประสานงานคืนเงินให้เราเป็นเช็คถ้าล้าช้าหรือติดตรงไหนโทรสอบถามเค้าได้ แต่พอครั้งนี้เราโทรไปก็บอกให้เราติดต่อผู้ชายคนนั่นอย่างเดียว เรารู้สึกว่าโรงพยาบาลไม่ให้คำตอบเรา เราเลยโทรไป สปสช. อีกครั้งและบอกว่าเราไม่สามารถติดต่อผู้ชายคนนั่นได้เลยทาง สปสช. ก็ตามเรื่องให้ สักพักผู้ชายคนนั่นโทรกลับมาใช้เบอร์โรงพยาบาล แต่ก่อนหน้านี้เราโทรไปโรงพยาบาลพนักงานผู้หญิงรับสายและบอกว่าคนนี้ไม่เข้า เข้าอีกทีก็วันจันทร์ แต่อยู่เอาเบอร์โรงบาลโทรมา แล้วพูดประมาณว่า
ก : คุณมีเรื่องอะไร
เรา : อยากจะสอบถามเรื่องค่าใช้จ่ายการฟอกไตของ....คะ
ก : ก่อนจ่ายพยาบาลไม่ได้แจ้งอะไรหรอเห็นว่าคุณพร้อมจ่ายในส่วนนี้
เรา : พยาบาลแจ้งแค่ว่าเราต้องจ่ายส่วนนี้ไม่ได้มีทางเลือกให้เรา และที่เรายอมจ่ายเพราะพ่อเราวิกฤตถ้าไม่จ่ายพ่อเราจะฟอกไตหรือ
ก : พยาบาลคนไหนเป็นคนแจ้ง
เรา : ก็ไอซียูไงคะ
ก : คือส่วนใหญ่คนที่มีฐานะเค้าจะไม่มีปัญหาในส่วนนี้ แต่ถ้าคุณไม่พร้อมจ่ายส่วนนี้เราจะทำเรื่องคืนเงินให้ (มาถึงจุดนี้เรายอมรับเริ่มมีอารมณ์นิดหน่อยคะเพราะนี้คือคำตอบที่ห่วยแตกและมันแปลกๆไม่เป็นธรรมคนที่ไม่รู้ต้องเสียเงินจากตรงนี้ไปกี่รายแล้ว และใช่ฉันไม่ใช่คนรวยฉันหาเงินมาลำบากคะ)
เรา : ถ้าดิฉันรวยมากฉันจะใช้สิทธิบัตรทองทำไม
ก : คงเป็นเดือนๆเพราะต้องยื่นเสนอผู้อำนวยการ
เรา : ตอนเราจ่ายเราจ่ายเงินสดตรงเวลาที่ทางคุณต้องการ เรื่องนี้คุณบอกเป็นเดือนแล้วจะเอาความแน่นอนจากไหนแล้วต่อไปจะสอบถามใครได้เพราะคุณติดตออยากเหลือเกิน
ก : ผมบอกไม่ได้อาจจะเกือบเดือน เดือนนึง
เรา : เดือนนึงนะคะ แล้วเมื่อกี้ทำไมบอกเป็นเดือนๆ
ก : ไม่รู้ผมบอกไม่ได้

อันนี้คร่าวๆนะคะซึ่งมันมีการสนทนากันมากกว่านี้ และนี้คือคำตอบของทางโรงพยาบาลที่พูดออกมาได้ว่า คนมีฐานะเค้าจะไม่มีปัญหาในเงินส่วนนี้ สำหรับเราคิดว่าที่เค้าไม่มีปัญหาเพราะเค้าอาจจะไม่รู้มากกว่าคะ ตอนแจงรายละเอียดก็ไม่มีทางให้เราเลือกให้เราจ่ายอย่างเดียว แล้วตามสิทธิคือ ผู้ป่วยที่เกิดไตวายเฉียบพลันจะได้รับการฟอกไตฟรี 60 วัน พ่อดิฉันครั้งแรกก็ต้องจ่ายแล้วคะ และค่ารถส่งตัวคนไข้ก็เรียกเก็บจากเราอีก 4,516 บาท รวมแล้วก็ 13,516 บาท ซึ่งทาง สปสช. บอกกับเราว่าไม่เสียทางโรงพยาบาลไปเบิกได้ การที่รักษาตามสิทธิบัตรทองแล้วต้องจ่ายเป็นหมื่นแบบนี้มันมีด้วยหรือ กี่รายแล้วที่ต้องจ่ายโดยไม่รู้ต้นสายปลายเหตุ ผิดหวังกับคำพูดแบบนั่นมาก เราทำมาหากินเราไม่ได้รวย อะไรที่เป็นสิทธิของเราตามหลักแล้วเราก็ต้องทวงถามเพื่อความถูกต้อง แต่สิ่งที่ได้คือแบบนี้