กล่าวทักทายทุกท่านด้วยนะคะ เราขอบรรยายสั้น ๆ ถึงเหตุผลที่เราอยากเขียนริวิวนี้ก่อน เพื่อให้คนอ่านเข้าใจความเป็นมาของการรีวิวเราสักหน่อย

เนื่องจากเราต้องพาญาติเรามาทำเลสิคที่กรุงเทพเลย และเค้าต้องพาเรามาด้วยเพื่อให้เราคอยดูแลเค้านั่นเอง เรามาอยู่บ้านญาติแถวอโศกค่ะ ต้องมาอยู่เป็นเวลาประมาณ 2 อาทิตย์ ด้วยความที่ไม่ใช่คนพื้นที่แต่เมื่อ 5-6 ปีที่แล้วก็เคยมาเรียนที่เมืองกรุง ก็เลย นั่งเชคตาม google pantip ว่าแถวนี้มีอะไรกินบ้าง แล้วก็บังเอิญไปเจอกระทู้ นึงแนะนำให้ลองมาชิม food court ที่ Terminal 21 ถูกและดี เดินมาได้ สะดวกเราดี

เมื่อมาถึง เย็นวันแรกก็ไม่รอช้า ไปแวะ Terminal ซะเลย วันนั้น เราเดินเล่นประมาน 2 ชั่วโมง ลืมไปเลยว่ายังไม่ได้กินข้าว มัวแต่ตื่นตาตื่นใจกะร้านค้า บ้านนอกเข้ากรุงก็งี้ เราก็เลยแวะไปที่ food court ชั้น 5 มั้งถ้าจำไม่ผิด เรียกว่าคนเยอะมาก หาที่นั่งแทบไม่ได้เราเลยรีบกลับบ้านเดี๋ยวพี่จะงอแง เลยตัดสินใจซื้อกลับบ้านแทน ก่อนจะได้กินอาหารมือนี้ไม่ได้คิดว่าอยากเขียนรีวิว แต่พอได้ชิมอาหารเท่านั้นละ เอ้ยน่าสนใจดีอยากรีวิวเขียนบ้าง

ครั้งแรกที่เราไปเราซื้อของมาทั้ง หมด 2 อย่าง ก็คือ ยำไก่ทอด (ไม่มีรูปนะคะ เพราะว่ากินหมดก่อนถ่าย)
และ อีกอันคือก๋วยเตี๋ยวเส้นปลา สนน ราคาสองอย่างไม่เกินร้อย ถือว่าดีงาม
เย็นวันนั้นเรากินยำไก่ทอดซึ่งไม่ได้รูป เพราะไม่คิดว่าจะเขียนรีวิวอะไร
แต่พอได้ลองทานเราว่ารสชาติดีมาก ไก่ทอดกรอบ แถมยำก็รสชาติแบบที่เราชอบ
แต่กว่าจะคิดได้ว่า อยากเขียนรีวิวอาหาร ยำของเราก็หมดละ

พอวันรุ่งขึ้นเรายังเหลือก๋วยเตี๋ยวเราเลยนึกได้ว่ายังไงวันนี้ก็ขอเขียน กะ ถ่ายรูปนิดนุง
สำหรับเมนู พอทานเสร็จ กลายเป็นเมนูโปรดเลยค่ะ
เราชอบรสชาติที่เค้าต้มยำมา ปกติเราไม่ทานเผ็ด เราก็เลยขอให้เค้าใส่พริกน้อย ๆ
แต่เราทานรสจัดนะคะ เพียงแต่ว่าไม่เผ็ด จานนี้รสจัดทีเดียว มี ความเปรี้ยว หวานกำลังดี
พวกลูกชึ้นหรือว่า ปลาก็สด ดีค่ะ เส้นปลาก็ดี ผักก็เยอะอ่ะ แต่เยอะก็หมดเรียกว่าทานหมด
แทบจะยกซด มีข้อเสียอย่างนึงค่ะ เวลาเอาอาหารกลับบ้านเค้าคิดเงินค่ากล่องเพิ่ม 5 บาท แอบไม่อยากให้คิด

เรียกว่าครั้งแรกที่ลองอาหารจากศูนย์อาหารประทับใจมาก  ราคาถูกอีกต่างหากในอาทิตย์นี้คงต้องกลับมาอีกแน่นอน


และแล้วยังคงต้องกลับมาที่ Terminal 21 อีก
เนื่องด้วยเราต้องพาเจ้าของบ้านที่เรามาพักไปทานข้าวเพื่อเลี้ยงขอบคุณที่ใจดีมากให้เรากับญาติมาพัก ฟรีๆ 2 อาทิตย์เต็มๆ
เราเป็นคนถามว่าอยากทานอะไรกัน สุดท้ายเจ้าของบ้าน ก็บอกว่าเค้าชอบทานอาหารร้าน มูมมาม ไปร้านนี้แล้วกัน
ชื่อร้านฟังตลกดี ก่อนไป search ดูหน้าตาร้านว่าเป็นไง ต่างจากที่คิดไว้อยู่เหมือนกัน
เนื่องจากญาติที่ทำตา ตายังไม่โอเค ไม่อยากให้ออกมา เราเลยมาแค่ 3 คนเอง อยากบอกว่า ญาติเราพลาดมาก


ตามภาพที่ใส่ไว้ข้างบน เราว่า บรรยากาศร้านดีมาก คือกระจกมันเป็นบานใหญ่ วิวดี มองเห็น วิว รถไฟฟ้า
แถมที่นั่งก็ยังสบายมาก เหมือนมานั่งชิวมากกว่าทานข้าวอีก
แต่สิ่งที่เราชอบสุดคือรสชาติอาหาร เสียดายสั่งน้อยไปหน่อย เราเชื่อว่าเพราะญาติเราเกรงใจที่เราต้องเลี้ยง และร้านอาหารร้านนี้ก็ราคาไม่ถูกค่ะ
ราคาก็เป็นหลัก 100-600 อัพ มื้อนี้สั่งไป 3 อย่าง เราให้เจ้าของบ้านสั่งเลย
เพราะเค้าแนะนำร้านนี้เชื่อว่า เค้าน่าจะรู้ดีกว่าเราค่ะ

จานแรกที่สั่งทานเป็น ซาซิมิ สลัด มีปลาประมาน 4 อย่าง แซลม่อน ทูน่า ปลาโอ ปลาหมึกแล้วก็ปูอัด
ปกติ น้ำจะยำมาเลย แต่อย่างที่บอกว่าเราทานไม่เผ็ด เราเลยขอแยกน้ำ
รสชาติจานนี้ก็โอเคค่ะ เราว่าเหมือนทั่วไป ปลาสด น้ำจิ้มแซ่บอยู่
แต่ว่าไม่ได้ตื่นเต้นมาก เพราะว่า เคยกินบ่อย ๆและไม่ได้โดดเด่น ว้าวออกมา


จานต่อมาที่มาเสริฟ ก็คือ ข้าวผัดปลาสลิดค่ะ จานนี เป็นเมนูโปรดของป้าเราเลย
เราลองทานแล้วอร่อยมากจริง ๆ ด้วย คือ ข้าวมันเข้าเนื้อกับเครื่องปรุง และเหมือนเค้าผัดแบบขึ้นกระทะ
มันเลยมีความหอมกระทะด้วย ส่วนกระเพรากรอบก็เทอดกรอบแบบไม่อมน้ำมัน
สรุปจานนี้อร่อยมากเราชอบสุด ๆ ถ้าได้มาครั้งหน้าก็จะสั่งแน่นอน


และมาถึงจานสุดท้ายของร้านนี้ เรียกว่าเป็น highlight เด็ด ของร้านนี้ (ในความคิดเรา)เลยนะคะ
เค้าเรียกว่า burger พลาม่า แฮม สักอย่าง ทั้งที่หน้าตาเหมือนพิซซ่ามาก ๆ  คือเราว่ามัน ‘Strong’ มากกกกก
(แอบเลียนแบบคำพูดเมนเทอร์ลูกเกด อุๆ) รสชาติดี ชีสมาเต็ม พลาม่าแฮม ก็ไม่เค็มไป
คือพอทานแล้วกลมกล่อม แต่ทีเด็ดคือ แป้งค่ะ แป้งมันช่างอร่อยมากกกก
ปกติเราไม่ชอบกินขอบ ๆ แต่นี่กลายเป็นชอบไปเลย คือแป้งมีความหวานเล็กน้อย ขนาดทานเปล่าๆยังอร่อย >w< ติดใจเลย