ปั่นจักรยานเที่ยว "น่าน" ... นครแห่งความเนิบ :)

น่าน...นครแห่งวัฒนธรรม นครแห่งความเนิบ และนครแห่งธรรมชาติ ใครได้ไป ยังไงก็หลงรัก เหมือนที่พวกเราเป็นมาแล้วแน่นอน  ^ ^

ระหว่างวันที่ 12-16 พ.ย. 2015 ที่ผ่านมาเรามีโอกาสไปปั่นจักรยานเที่ยวเมือง “น่าน” เมืองต้องห้ามพลาดอีกหนึ่งเมือง มีทั้งปั่นสบาย ๆ ในเมือง ปั่นแบบโหดขึ้นดอยเสมอดาว ไปล่องแก่งน้ำว้า และปั่นไหว้พระ 9 วัด บรรยากาศความสนุกสนาน ความฮา และความป่วนของพวกเราทีมจักรยานหมีปั่น จะเป็นอย่างไร ไปดูกันเลยจ้า
ปล. หากสนใจร่วมทริปกับเรา หรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมในการปั่นจักรยานเที่ยว inbox มาหาเราได้เลยที่ https://www.facebook.com/Spinningbear2013 ยินดีต้อนรับค่ะ
---------
ก่อนอื่น...ไปชมวีดีโอรวบรวมบรรยากาศของ "ทริปหมีปั่น...ป่วนน่าน" กันก่อนนะคะเรียกน้ำย่อยกันหน่อยจ้า
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
---------
พวกเราเดินทางไปกับสายการบินนกแอร์จ้า แต่เนื่องจากว่าเป็นเครื่องใบพัด ทำให้พวกเราไม่สามารถนำจักรยานทั้ง 9 คันขึ้นเครื่องไปกับเราได้ จึงต้องใช้บริการ Nim Express ส่งจักรยานไปและกลับจากน่านแทน (ค่าใช้จ่ายอิ่มแจ้งไว้ด้านล่างนะจ๊ะ)

วันที่ 1: 12 พ.ย. 2558 (25 กม.)
ถึงน่าน 10.30 น. เดินทางไปบ้านน้องอาร์ท (หนึ่งในสมาชิกทีมหมี) แล้วรีบจัดแจงประกอบน้องจั๊กเลย ตื่นเต้นไม่ไหวแล้ว อยากปั่น ! จับคู่เป็นบัดดี้ช่วยกันประกอบ ไม่เกิน 2 ชั่วโมงเสร็จเรียบร้อย


และแน่นอน ประกอบเสร็จแล้ว ชาวหมีอย่างเราก็หิวสิคะ รีบมุ่งหน้าไป “ร้านวันดา” ใกล้แม่น้ำน่านทันที


เมนูต้องลองมี "ข้าวซอย, ขนมจีนน้ำเงี้ยว, และหมูสะเต๊ะ" มาน่าน ห้ามพลาดข้าวซอยเด็ดขาด รสชาติแตกต่างจากกรุงเทพฯ แน่นอน ไม่เลี่ยนแต่แซ่บ และกลมกล่อม คนไม่ทานข้าวซอย ยังบอกว่าอร่อยเลย !


อิ่มกายสบายท้อง ทีมหมีก็ปั่นไปสักการะ "พระธาตุแช่แห้ง" มีเนินหน้าวัดเล็กน้อยให้พอตกใจเล่นจ้า วัดพระธาตุแช่แห้ง เป็นวัดสำหรับผู้ที่เกิดปีเถาะ ควรมาสักการะเพื่อความเป็นสิริมงคลสักครั้งในชีวิตค่ะ


จอดน้องจั๊กกันให้เป็นระเบียบเรียบร้อยนะจ๊ะ


ระหว่างทางกลับเข้าเมืองจากวัดพระธาตุแช่แห้ง มีทุ่งนางาม ๆ อยู่ข้างทาง วิวสวยขนาดนี้ต้องแวะถ่ายรูปกันหน่อย


ปั่นมาไม่กี่กิโล ทีมหมีแวะเติมพลังกันอีกแล้ว ! คราวนี้แวะที่ “คาเฟ่สุดกองดี” ชื่อน่ารักมาก มีความหมายว่า สุดซอยพอดี หรือ สิ้นสุดการรอคอยเสียทีค่า


ตกแต่งร้านน่ารักมาก ๆ บรรยากาศร่มรื่น ปั่นมาเหนื่อย ๆ ได้นั่งผ่อนคลายใต้ต้นไม้ใหญ่ เยี่ยมยอดไปเลยจ้า



ห้ามพลาดเมนู "กาแฟสุดกองดี และ ฮันนี่โทสต์" เด็ดขาด !



แชะภาพริมแม่น้ำน่านกันก่อนลุยต่อ !



เติมพลังเรียบร้อย ! จากนั้นลุยต่อขึ้น "วัดพระธาตุเขาน้อย" ชมวิวพระอาทิตย์ตกดิน เป็นอันจบทริปวันแรก นวดน่องกันเบา ๆ กับวิวที่งดงาม
ปล.ทางขึ้นวัดพระธาตุเขาน้อย ค่อนข้างชัน ค่อย ๆ ปั่นขึ้นใช้เกียร์ต่ำ (หน้าเล็กหลังใหญ่) อย่ารีบร้อน บริหารลมหายใจ เดี๋ยวก็ถึงยอดแล้วจ้า


อ๊ะเกือบลืม ! เราทานอาหารค่ำแบบขันโตก ที่ร้าน "เฮือนฮอม" (เยื้อง ๆ กับศาลหลักเมือง) ควรลองเมนู “ไก่ทอดมะแขว่น, น้ำพริกอ่อง, ยำผักกูด, ปลาคังราดซอสมะขาม และอีกมากมาย”



ปิดท้ายด้วย "ขนมหวานป้านิ่ม" ไม่อ้วนให้มันรู้ไป ราคาขนมหวานจะอยู่ที่ประมาณ 35-50 บาท ค่อนข้างสูงเมื่อเทียบกับการใช้ชีวิตที่น่าน แต่ต้องยอมให้กับไอเดียการขายขนมและรสชาติขนมหวานของป้านิ่มแกจริง ๆ จ้า


วันที่ 2: 13 พ.ย. 2558 (80 กม.)
มุ่งหน้า อ.เวียงสา ทุ่งนาข้างทางสวยงามอีกแล้ว !



แวะชมจักรยานโบราณ ณ "เฮือนรถถีบ" (ในปั๊มเชลล์ อ.เวียงสา) คุณอาสุพจน์ ผู้เป็นเจ้าของเคยเปิดร้านจักรยานชื่อ “เต็งไตรรัตน์” ก่อนเลิกกิจการไปและตัดสินใจสะสมจักรยานอันมีค่าเหล่านี้ไว้ค่ะ จักรยานล้อใหญ่ จักรยานดับเพลิง จักรยานไร้โซ่ (ใช้เพลา) แกมีหมดเลยค่ะ เบาะ Brooks ทั้งนั้นเลย





จากนั้นแวะเติมพลังแบบชาวหมีที่ "ร้านบ้านไม้คนเมือง" (หลังวัดบุญยืน ไม่ไกลจากเฮือนรถถีบ) อร่อยทุกเมนู ! ข้าวซอย, เตี๋ยวหมู, ขนมจีนน้ำยาปลา, ขนมจีนแกงไก่, ลองช่องแตงไทย สุดยอดทุกอย่าง !



จากนั้น พวกเรารีบมุ่งหน้าขึ้น "ดอยเสมอดาว" ไปกัน 9 คัน ถึงดอยด้วยจักรยานเพียง 3 หน่อเท่านั้น ไม่ไหวก็โบกรถกันไป จากเวียงสาจนถึงนาน้อย เนินเยอะจริง ๆ ยิ่งพอใกล้ถึงดอยแล้วด้วย มันส์ดีเหลือเกิน และเช่นเดิม หน้าเล็กหลังใหญ่ค่อย ๆ หายใจ ถ้าหัวใจเต้นแรงไปก็หยุดพัก และที่สำคัญ ห้ามท้อ !



หยุดพักลมหายใจนิดนึงจ้า



อันนี้พลังหมดแล้วจริง ๆ ต้องแวะต้มชากันกลางทางเลยจ้า


ขึ้นดอยไม่ต้องกลัวจะลำบากนะจ๊ะ พวกเราปิดท้ายคืนนี้ด้วยการทาน "หมูกระทะ" ภายใต้หมู่ดาวคร้าบ (ไม่ได้ถ่ายภาพมานะ ขอกินก่อน เหนื่อยเหลือเกินจ้า)

วันที่ 3: 14 พ.ย. 2558 (83 กม.)
ตื่นแต่เช้าลุกขึ้นมาชมพระอาทิตย์ขึ้น และทะเลหมอก สดชื่นดีจริง ๆ อย่าลืมถ่ายภาพกับผาหัวสิงห์ด้วยนะจ๊ะ

ตอนเช้าเราต้มมาม่า กินขนมปังกรอบจิ้มปลากระป๋องกันง่าย ๆ ตรงเต็นท์แหละจ้า


อยู่กับธรรมชาติแล้วเป็นสุขจริง ๆ จ้า


บอกลา "ดอยเสมอดาว" แวะชม "คอกเสือ" (บริเวณนี้ชาวบ้านใช้ฆ่าเสือ ที่ลอบมากินสัตว์ของชาวบ้าน) จากนั้นเราแวะไปทานกลางวันที่ "บ้านไม้คนเมือง" กันอีกครั้ง (อร่อยจริง ๆ นะ) ก่อนมุ่งหน้าเข้าเมือง พักผ่อนตามอัธยาศัยจ้า



วันที่ 4: 15 พ.ย. 2558
วันนี้เราทิ้งจักรยานไว้บ้าน แล้วออกไปลุยล่องแก่งน้ำว้า ! แก่งเบา ๆ แต่ร่วงน้ำไป 1 จ้า...

คนร่วงลงไปนี่ใจหายนะ แต่คนที่อยู่บนเรือ ขำกันไม่หยุด ! แหม่ ! เป็นห่วงจริง ๆ นะ !

พี่เด่น บุรุษผู้ร่วงลงไปในน้ำ ขึ้นมาได้บอก ขอหายใจก่อน !


กลับมาพักผ่อน แล้วไปทานขนมจีนแกงไก่ฝีมือป้าน้องอาร์ท (อร่อยหรือเปล่าไม่รู้ รู้แค่ว่าจัดไปคนละ 3 ชาม)  จากนั้นเราจบคืนสุดท้ายด้วยการไปฉลองกันที่ "คาเฟ่สุดกองดี" อีกรอบจ้า

วันที่ 5: 16 พ.ย. 2558 (10 กม.)
วันสุดท้าย ! เดินเล่นตลาดเช้า ซื้ออะไรไปทานกันริมน้ำ แล้วชาวหมีขอตระเวน ไหว้พระ 9 วัด เพื่อความเป็นสิริมงคลก่อนกลับบ้านจ้า
วันนี้วันที่ 16 แหมมมม แผงล็อตเตอรี่ คนแน่นเชียว



1) วัดอภัย



2) วัดศรีพันต้น


3) วัดมิ่งเมือง (ศาลหลักเมือง)



4) วัดภูมินทร์ และภาพกระซิบรักบันลือโลก




5) วัดพระธาตุช้างค้ำ



เก็บภาพใต้ต้นลีลาวดี หน้าพิพิธภัณฑ์น่าน เสียดาย ตอนนี้ในพิพิธภัณฑ์ปิดซ่อมบำรุงอยู่ค่ะ



6) วัดหัวข่วง


7) วัดหัวเวียงใต้


8) วัดสวนตาล


9) วัดอรัญญาวาส


จากนั้นกลับบ้านมาแพ็ครถไปส่ง Nim Express อาบน้ำ ทานกลางวันที่เฮือนฮอม แล้วเตรียมตัวกลับบ้านจ้า

ทริปคราวนี้เหมือนยาวนานตั้ง 5 วัน แต่ไม่รู้ทำไมผ่านไปไวเหลือเกิน ทั้งเหนื่อย ทั้งสนุก มีครบทุกรส ! ใครอยากไปบ้าง อย่ารอช้า...แล้วคุณจะหลงรัก "เมืองน่าน" แห่งนี้
---------
ค่าใช้จ่ายหลัก ๆ
1) ตั๋วเครื่องบินนกแอร์ ไป-กลับ = 1,830 บาท
2) ค่าขนจักรยานไปและกลับโดย Nim Express = 1,000 บาท (ถ้าสะดวกใช้บริการนิ่มซี่เส็ง จะถูกกว่าค่ะ)
3) ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติศรีน่าน (ดอยเสมอดาว) = คนละ 50 บาท
4) ค่าล่องแก่งน้ำว้า แบบไม่เสียวมาก = 500 บาท / คน
4) ค่าทานอาหารที่น่าน เมนูละประมาณ 30-45 บาท ถ้าเข้าร้านอาหาร ก็ตกคนละประมาณ 160 บาท
---------
ขอขอบคุณทุก ๆ ท่านที่ติดตามอ่านกันจนจบนะจ๊ะ ไว้เราไปปั่นที่ไหน จะเอามาฝากกันอีกนะคะ ^ ^ อย่าลืมแวะเข้ามาทักทายกันได้ที่ www.facebook.com/Spinningbear2013 นะคะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่