[CR] สิงคโปร์กันเอง ตอนของหายได้คืนนะจ๊ะตัวเธอ 14-16 nov 15



ทริปนี้เกิดจากพี่ๆเพิ่งทำพาสปอร์ตเลยอยากลองใช้งานดู พี่ชายอยากกินข้าวมันไก่ พี่สาวอยากเห็น merlion แค่นี้นางก็จิ้มกันมาว่าจะไปสิงคโปร์ จะไป จะไป อ่ะๆไปก็ไปจ๊ะไม่ต้องงอแงกันน้าาาา

คุณเพื่อนเคยไปเองมาแล้วและภาษาอังกฤษแข็งแรงที่สุด นางเลยรับหน้าที่เป็นหัวหน้าทัวร์ จัดการตั๋ว วางแผนเที่ยวทั้งหมด ส่วนเราไม่มีหน้าที่ใดๆแค่ตามๆเค้าไป ไปนอนเป็นเพื่อนคุณเพื่อนให้สมาชิกครบจองห้องง่ายๆแค่นั้นล่ะ

ส่วนตัวเราสิงคโปร์ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ละ ครั้งแรกมาทำงาน มาสบาย กินอยู่สบาย
แต่ครั้งนี้คุณเพื่อนบอกไว้เลยว่าจะพาไปสัมผัสชีวิต สิงคโปร์แบบ real real เดินกับขึ้นรถสาธารณะเท่านั้นนะจ๊ะ เอาๆไปๆลองดู

ขาไปไฟล์ท 6 โมงเช้าวันเสาร์ นัดกันที่ดอนเมืองตีสี่ครึ่ง คำนวณเวลาเดินทางไปสนามบิน ติ๊กตอก...ติ๊กตอก… เฮ้ย!!! ต้องตื่นตีสองเว้ยเฮ้ย!!! เจริญละ เหอๆๆๆๆ เอ้าๆลุยๆเอาไว้ไปนอนต่อบนเครื่องละกัน


ข้อดีของการบินไฟล์ทเช้าคือได้เห็นแสงแรกที่สนามบินนะเออ หุหุ





หลับๆตื่นๆ 2 ชม.ก็มาถึงสนามบินชางฮีละ งัวเงียลงเครื่องแบกแป้ขึ้น monorail ไปต่อรถไฟ MRT เข้าเมืองกัน
คุณเพื่อนจัดการเรื่องซื้อบัตรและเติมเงิน easy link ให้เรียบร้อยแล้วก็ออกเดินทางกัน
ชอบ MRT ที่นี่เพราะกว้างดีวางกระเป๋าและยืนกันสบายๆเลย


MRT ที่นี่วิ่งทั้งลอยฟ้าและมุดลงใต้ดินขึ้นๆลงๆกันไป
ก่อนมาดูพยากรณ์อากาศบอกว่าฝนจะตก 80% แต่เอาจริงคือฟ้าเปิดแดดแรงร้อนเหงื่อชุ่มเลยคร้า

แผนแรกของพวกเราคือเอากระเป๋าไปฝากที่โรงแรมก่อนแล้วค่อยออกเที่ยวกัน

ทริปนี้เราพักที่ ibis singapore novena จองช่วงที่มีโปรลดราคา 30-40% ก่อนไปไม่กี่วันเอง ห้องละ 115 SGD ราคาเกือบ 3,000 บาท/ห้อง/คืน ไม่รวมอาหารเช้าแต่แลกมาด้วยความสบายใจและได้มาตรฐานของโรงแรม เราโอเค (วันที่เราเข้าพักราคา 204 SGD ส่วนวันที่เรา check-out ราคา 240 SGD)

นั่ง MRT ไปลงสถานี novena คุณเพื่อนทำการบ้านมาว่าโรงแรมอยู่ห่างจากสถานีพอเดินได้ คุณเพื่อนศึกษาเส้นทางมาก็จริงแต่พอเดินออกมาจากสถานีแล้วหลงทิศกันเล็กน้อย แล้วด้วยความที่ไม่มี internet ใช้ เราเลยเดินหลงๆงงๆกันแป๊บนึง เดินมาได้หน่อยก็เจอคนสิงคโปร์เลยถามทางเค้าหน่อย เค้าก็ใจดีเปิดเนทดู map ให้แล้วก็บอกว่าเดินไปอีกเกือบ 2 km ไกลพอควรนั่งแท็กซี่ไปดีกว่าอย่าเดินเลย เราก็จัดการโบกแท็กซี่ไปกันเลย นั่งไปสบายๆ (ชีวิตไม่มีเนทนี่มันก็ไม่ง่ายนะ หึหึ)

เราไปถึงโรงแรมก่อนเวลาเช็คอิน แต่ทางโรงแรมทำห้องเสร็จแล้วพนักงานเลยให้เข้าห้องได้เลย โชคดี โชคดี

เข้าห้องวางกระเป๋าล้างหน้าล้างตาเตรียมตัวออกไปเที่ยวกัน เราก็เห็นว่ามีโทรศัพท์มือถือเสียบชาร์ตแบตอยู่ในห้อง พร้อมป้ายบอกว่าสามารถโทรภายในประเทศ มาเลเซีย และประเทศรอบๆสิงคโปร์บางประเทศฟรี และ 3G unlimited ฟรี เอ๊ะๆๆๆๆ ยังไง ยังไง เลยจัดการถามที่ front ว่าอะไรยังไง ก็ได้ความว่าใช้ฟรีจริงรอทางโรงแรม activated เครื่องประมาณ 15 นาทีก็ใช้ได้เลย สบายละทริปนี้ หุหุ


กว่าจะได้ออกจากโรงแรมก็เกือบบ่ายโมงละ หิวมากกกกกก
ตอนแรกกะว่าจะลองนั่งรถเมล์ชิลๆ แต่ไม่ไหวหิวเกิน เลยโบกแท็กซี่ไปหาของกินดีกว่า
สิ่งแรกที่ต้องจัดตามความตั้งใจของทริปนี้คือ ข้าวมันไก่สิงคโปร์ที่ Maxwell แถว china town


ความตั้งใจอยากจะลองร้านดัง แต่ๆๆๆๆๆๆๆ แถวยาวมากกกกก


ด้วยความหิวจะเป็นลม เลยจัดข้าวมันไก่ร้านอื่นแทน คนขายพูดไทยได้เลย เอาๆ จัดๆ


รสชาติใช้ได้นะ อร่อยดี ข้าวมันเหมือนๆกับบ้านเรา ที่ต่างกันน่าจะเป็นเนื้อไก่ที่ฉ่ำกว่าบ้านเรา แล้วก็น้ำราดเนื้อไก่ที่ออกหวานๆเค็มๆนิดๆกินกับน้ำจิ้มอร่อยดี
ที่นี่มีหลายร้านให้เลือก ก็ลองกันซะหน่อยอ่ะนะ



กินอิ่มแล้วก็เริ่มตระเวนกัน ไปๆ
ที่แรกเข้าวัดไหว้พระเสริมสิริมงคลกันหน่อย เดินจาก Maxwell นิดเดียวก็ถึง วัดพระเขี้ยวแก้ว








ที่นี่มี 4 ชั้น และมีสวนอยู่ชั้นบนสุดด้วย สงบดี





ไหว้พระเสร็จก็แวะลองกาแฟซะหน่อย ร้านน่านั่งและดูน่าจะเป็นร้านเก่าแก่อยู่ ร้าน Nanyang Old Coffee
กาแฟที่นี่เข้มและไม่หวานดี กินกับ kaya toast เข้ากันดีเลย ติดใจเมนูนี้มาก หุหุ




รอบๆบริเวณวัดเป็นตึกสวยดี อารมณ์ตึกชิโนโปรตุกิสที่ภูเก็ตบ้านเราเลย



ด้านข้างวัดเป็นที่ขายของที่ระลึก และ food street ของ china town
อารมณ์เหมือนของขายข้างถนนสีลม-พัฒพงษ์ บ้านเราอ่ะประมาณนั้น ช๊อปปิ้งกันเล็กน้อย

แล้วเราก็เดินเรื่อยๆไปที่ people park เพื่อซื้อบัตรเข้ายูนิเวอร์แซล , ดูโชว์ wings of time และ ขึ้นไปเดินบนสะพานด้านบน garden by the bay คุณเพื่อนหาข้อมูลมาบอกว่าที่นี่ขายถูกกว่าไปซื้อหน้างานเอง
ระหว่างทางเจอร้านขายน้ำสมุนไพรจีน เราลองเก็กฮวย ออกขมนิดๆ ไม่หวานเหมือนบ้านเรา แต่แก้กระหายได้ดีเลย ชอบเครื่องดื่มที่นี่ที่ไม่ค่อยหวานทุกอย่างเลย ดีๆ


เรานั่ง MRT เพื่อไป merlion park เพื่อไปดู merlion อีกจุดหมายของพี่ๆ
ระหว่างทางก็เดินชมเมืองไปเรื่อย



แล้วก็ถึงละ merlion park ไปๆชมวิวกัน







เดินชมวิวไปเรื่อยก็เจอร้านไอติมชื่อดัง คนเยอะใช้ได้เลย ไปๆลองๆ



เริ่มเย็นเริ่มหิวละ ความตั้งใจแรกคุณเพื่อนจะพาไปกินปูที่ร้าน jumbo แต่ดูเวลาแล้วเดี๋ยวเราจะกลับมาดูโชว์และขึ้นไปบน garden by the bay ไม่ทัน เดินผ่านร้าน No Sign Board Seafood พอดี คุณเพื่อนบอกร้านนี้ก็ดังอยู่ ลองที่นี่เลยก็ได้จะได้ไม่เสียเวลา เอ้าไปๆลองเลย จัดๆให้จบๆไป








ปูสดจริง ตัวใหญ่ กินอิ่มแน่นท้องเลย ปูบ้านเราอาจจะตัวไม่ใหญ่เท่าแต่ปูสดบ้านเรานี่เทียบได้แน่ๆในราคาที่ถูกกว่ามากกกก เรื่องของกินยังไงอาหารไทยก็ถูกปากกว่าอยู่แล้วนะเอาจริง

กินอิ่มก็เดินข้ามสะพาน double helix เพื่อไป garden by the bay กัน



ที่นี่จะมีโชว์แสงสีเสียง ประมาณทุ่มกว่าๆ กับ สองทุ่มกว่าๆ ดูฟรีไม่เสียตังค์
แต่ไหนๆมาแล้วเราเลยขึ้นไปดูวิวบนสะพานด้านบนซะหน่อย ขึ้นไปรับลมกัน มาๆ









ดูจบเรียบร้อยเราก็เดินกลับมาทางสะพาน double helix อีกครั้ง
ขอมาเก็บรูปสะพานกับอ่าวตอนมีไฟซะหน่อย สวยดี



คุณเพื่อนยังมีแรงเลยพาเดินไปที่ น้ำพุแห่งความมั่งคั่ง (Fountain Of Wealth)
คุณเพื่อนตั้งใจจะพาไปเดินลูบที่น้ำพุเพื่อเสริมความมั่งคั่ง เดินไกลได้ระยะเลยอ่ะ
ไปถึงก็เห็นน้ำพุเปิดน้ำเปิดไฟสวยดี แต่ความตั้งใจของคุณเพื่อนคือจะไปเดินวนและลูบที่น้ำพุ
นางก็เดินวนหาทางเข้าไปด้านในอยู่นาน จนไปเจอป้ายเค้าบอกว่าจะเปิดให้เข้าไปด้านใน 10.00-12.00 น. กับรอบบ่ายจำเวลาไม่ได้ละ ขณะนี้เวลาสามทุ่มครึ่งกว่าๆ ปิดนะจ๊ะ คุณเพื่อนคอตกนิดหน่อย
แล้วเราก็ตกลงกันว่าเช้าวันกลับเราจะแวะกลับมาใหม่นะ โอ๋ๆๆๆ

เพื่อไม่ให้เสียเที่ยวเราก็เลยจะเดินขึ้นไปถ่ายรูปแสงสีที่น้ำพุซะหน่อยดีกว่า
แต่ๆๆๆๆๆๆ เดินขึ้นมาถึงข้างบนปุ๊บ กำลังจะเปิดกระเป๋าหยิบกล้อง น้ำพุปิดน้ำปิดไฟปั๊บทันที
แหม่.......อดสิคะ อดๆ ไปๆกลับๆ ไปนอนพักเอาแรงดีกว่า
ชื่อสินค้า:   Ibis Singapore Novena วัดพระเขี้ยวแก้ว Nanyang Old Coffee No Sign Board Seafood garden by the bay ทะเลสิงคโปร์ KWAN IM TONG TEMPLE
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่