เราเป็นโรคซึมเศร้า รักษามาหลายปีแล้วค่ะ
บุคลิกภายนอก ดูไม่ออกแน่ว่าเป็นซึมเศร้า เพราะเราจะยิ้ม หัวเราะ
แต่เรามักจะกลับมาเก็บตัว และคิดอะไรไปเรื่อยคนเดียวในห้อง
เราเป็นลูกคนกลางค่ะ เด็กๆ(จนถึงตอนนี้) มักจะรู้สึกน้อยใจพ่อแม่เสมอ ว่ารักและสนใจเราน้อยกว่าพี่ๆน้องๆ
บ้านเราอยู่ตจว.นะคะ พอเข้ามหาวิทยาลัย ก็เข้ามาอยู่หอ...เรียนมหาวิทยาลัยระดับต้นๆค่ะ ด้วยความอยากจะมีตัวตนให้พ่อแม่เห็น
เรียนยังไม่จบ ก็มีบ.เก่าแก่ ที่มีคนอยากเข้าเยอะ มารับ พอเรียนจบก็เริ่มทำงานที่นั่นเลย
หลายครั้งที่เราเบื่อ ท้อ กับการทำงาน อยากจะลาออกไปทำอย่างอื่น
ที่บ้านก็จะพูดกับเราว่า อย่าลาออก บ.นี้ใครๆก็อยากเข้า จะลาออกทำไม
...เราผิดเอง ที่เรายอมฟัง และไม่ลาออกสักที
เวลาผ่านไปเรื่อย เราแก้เบื่อด้วยการเรียนป.โท ที่สถาบันเดิม
เรียนจบ ก็เข้าสู่วังวนเดิม เบื่องาน เบื่อคน และที่บ้านไม่ให้ลาออก
จนถึงจุดพีค เราทนไม่ไหวแล้ว เราลาออก หลังจากที่ทำงานที่นั่นมา 9 ปี
เป็นระดับซีเนียร์แล้ว แต่ถ้าอยู่ต่อไป เราคงเป็นบ้า
เราตกงานอยู่ครึ่งปี โดนว่า โดนกดดันสารพัด เหมือนเราเป็นคนไร้ค่า...
ทั้งๆที่ระหว่างไม่มีงานทำ เราก็ไม่ได้ขอเงินที่บ้านใช้
คอนโด รถ ที่ซื้อ เราก็ออกเงินเองทั้งหมด ตอนตกงานก็ไม่ได้ขอเงินมาผ่อน
แต่ก็ยังโดนว่า...คอนโดเล็กเท่ารูหนู ชั้นจะไม่มาเหยียบหรอก...
สุดท้าย ไม่ว่าใครจะมาทำอะไรที่กทม. ก็มานอนที่คอนโดเรา ปฏิเสธไม่ได้
เราอยากจะยกห้องให้เค้าอยู่ แล้วออกไปอยู่ข้างนอกเอง...เราเครียดมาก เหมือนโดนจับผิดตลอดเวลา
ตอนนี้ เราตกงานอีกครั้ง เราทนกับการแทงข้างหลังของเพื่อนร่วมงาน การเอาเปรียบของบริษัทไม่ไหว
พอไม่มีงาน ก็ไม่มีเงินเดือน คชจ.แต่ละเดือนเราตกประมาณ สามหมื่น เพราะต้องผ่อนคอนโด กับรถ
ที่ผ่านมาเราส่งเงินให้ที่บ้านตลอด...แต่ไม่อยากกลับบ้าน กลับไปก็ไม่มีความสุข
พอตอนนี้ เราไม่มีเงินเดือน ต้องใช้เงินเก็บอย่างประหยัด ก็เลยให้เงินที่บ้านบ้าง ไม่ได้ให้บ้าง ก็โดนว่า
ตอนนี้ความรู้สึกเราคือ อยากขายคอนโดทิ้ง แล้วหนีไปอยู่ไกลๆๆๆๆๆๆ ไม่อยากเจอครอบครัว
ไม่ก็เอาเงินเก็บที่มีให้เค้าไป แล้วก็จะไม่กลับบ้านอีก
หรือสุดท้าย ฆ่าตัวตาย ให้เค้าเอาเงินประกันเราไปใช้ คงได้หลายอยู่ มันคงพอทดแทนบุญคุณเค้าได้
ไม่อยากอยู่แล้ว ทำไงดี
บุคลิกภายนอก ดูไม่ออกแน่ว่าเป็นซึมเศร้า เพราะเราจะยิ้ม หัวเราะ
แต่เรามักจะกลับมาเก็บตัว และคิดอะไรไปเรื่อยคนเดียวในห้อง
เราเป็นลูกคนกลางค่ะ เด็กๆ(จนถึงตอนนี้) มักจะรู้สึกน้อยใจพ่อแม่เสมอ ว่ารักและสนใจเราน้อยกว่าพี่ๆน้องๆ
บ้านเราอยู่ตจว.นะคะ พอเข้ามหาวิทยาลัย ก็เข้ามาอยู่หอ...เรียนมหาวิทยาลัยระดับต้นๆค่ะ ด้วยความอยากจะมีตัวตนให้พ่อแม่เห็น
เรียนยังไม่จบ ก็มีบ.เก่าแก่ ที่มีคนอยากเข้าเยอะ มารับ พอเรียนจบก็เริ่มทำงานที่นั่นเลย
หลายครั้งที่เราเบื่อ ท้อ กับการทำงาน อยากจะลาออกไปทำอย่างอื่น
ที่บ้านก็จะพูดกับเราว่า อย่าลาออก บ.นี้ใครๆก็อยากเข้า จะลาออกทำไม
...เราผิดเอง ที่เรายอมฟัง และไม่ลาออกสักที
เวลาผ่านไปเรื่อย เราแก้เบื่อด้วยการเรียนป.โท ที่สถาบันเดิม
เรียนจบ ก็เข้าสู่วังวนเดิม เบื่องาน เบื่อคน และที่บ้านไม่ให้ลาออก
จนถึงจุดพีค เราทนไม่ไหวแล้ว เราลาออก หลังจากที่ทำงานที่นั่นมา 9 ปี
เป็นระดับซีเนียร์แล้ว แต่ถ้าอยู่ต่อไป เราคงเป็นบ้า
เราตกงานอยู่ครึ่งปี โดนว่า โดนกดดันสารพัด เหมือนเราเป็นคนไร้ค่า...
ทั้งๆที่ระหว่างไม่มีงานทำ เราก็ไม่ได้ขอเงินที่บ้านใช้
คอนโด รถ ที่ซื้อ เราก็ออกเงินเองทั้งหมด ตอนตกงานก็ไม่ได้ขอเงินมาผ่อน
แต่ก็ยังโดนว่า...คอนโดเล็กเท่ารูหนู ชั้นจะไม่มาเหยียบหรอก...
สุดท้าย ไม่ว่าใครจะมาทำอะไรที่กทม. ก็มานอนที่คอนโดเรา ปฏิเสธไม่ได้
เราอยากจะยกห้องให้เค้าอยู่ แล้วออกไปอยู่ข้างนอกเอง...เราเครียดมาก เหมือนโดนจับผิดตลอดเวลา
ตอนนี้ เราตกงานอีกครั้ง เราทนกับการแทงข้างหลังของเพื่อนร่วมงาน การเอาเปรียบของบริษัทไม่ไหว
พอไม่มีงาน ก็ไม่มีเงินเดือน คชจ.แต่ละเดือนเราตกประมาณ สามหมื่น เพราะต้องผ่อนคอนโด กับรถ
ที่ผ่านมาเราส่งเงินให้ที่บ้านตลอด...แต่ไม่อยากกลับบ้าน กลับไปก็ไม่มีความสุข
พอตอนนี้ เราไม่มีเงินเดือน ต้องใช้เงินเก็บอย่างประหยัด ก็เลยให้เงินที่บ้านบ้าง ไม่ได้ให้บ้าง ก็โดนว่า
ตอนนี้ความรู้สึกเราคือ อยากขายคอนโดทิ้ง แล้วหนีไปอยู่ไกลๆๆๆๆๆๆ ไม่อยากเจอครอบครัว
ไม่ก็เอาเงินเก็บที่มีให้เค้าไป แล้วก็จะไม่กลับบ้านอีก
หรือสุดท้าย ฆ่าตัวตาย ให้เค้าเอาเงินประกันเราไปใช้ คงได้หลายอยู่ มันคงพอทดแทนบุญคุณเค้าได้