ผมหลงไหลกับสิ่งเสพติดประเภทนี้มาหลายปีแล้ว พยายามหยุดแล้วครั้งนึง แต่สุดท้ายก็แพ้ใจตัวเอง ซึ่งเหตุผลหลักๆแล้ว ใจผมไม่มั่น รวมทั้งสภาพแวดล้อมรอบข้างที่ทำผมดิ่งเหวไปกว่าครั้งก่อนอีก เพราะสิ่งเสพติดประเภทนี้ไม่ค่อยมีผลในการปราบปรามอย่างจริงจัง โทษก็ไม่หนัก(ประเภทที่ 5)
ส่วนผลเสียด้านสุขภาพ ก็ไม่ส่งผลร้ายกับร่างกายมากเท่าประเภทอื่น...
งั้นเพื่อความเข้าใจง่ายๆ ผมจะแยกประเภทดังนี้ครับ...
ผลเสีย :-
1. เสียสุขภาพ แต่ไม่ค่อยส่งผลเป็นประจักษ์นัก เมื่อมองเผินๆแล้ว เหมือนคนปกติ
2. เสียเงิน ในกรณีผมแล้ว จะต้มน้ำวันละ 2-3 ชุด (1 ชุด ประกอบด้วย ใบกระท่อม 100 บาท = 30-40 ใบ ,ยาแก้ไอ 100 บาท สามารถผสมได้ 3 ชุด , โค้ก น้ำแข็ง 20 บาท ผสมได้ 2 ครั้ง และที่ขาดไม่ได้คือ บุหรี่การัม {(บุหรี่สัญชาติมาเลย์)} 20 บาท = 3 มวน) ซึ่งถ้าเฉลี่ยต่อวันแล้ว ต้องเสียเงินประมาณ 200 - 300 บาทต่อวัน ถือว่าเยอะพอสมควร (พอๆกับยาเสพติดประเภทที่ 1 เลยแน่ะ)
3. มีผลข้างเคียง ถ้าหากขาดมันเมื่อไหร่ จะไม่สบายเอย จามบ่อยๆเอย ปวดท้องเอย ไม่เจริญอาหาร เป็นต้น(แล้วแต่บางคน) แต่ทุกคนจะมีอาการข้างเคียงแน่นอน
ผลดี :-
1. จะอารมณ์ดีทั้งวัน สนทนากันถูกคอมาก และจะช่วยเหลือเพื่อนในกลุ่มเสมอ
2. จะมีอาการสลึมสะลือ แบบถ้าหลังแนบเพดานแล้ว ตาจะเคลิ้มๆหรือหลับตาคล้ายๆง่วงนอน แต่หูไว(คล้ายๆแมวแฮ่ะ 55)
3. พืชกระท่อมเป็นยารักษาโรคเบาหวานชั้นดี (อันนี้อิงจากนิตยสาร คสคส.ระบุถึงการวิจัย และอเมริกาเองก็มีโครงการปลุกพืชชนิดนี้กันแล้ว เอ่อ..แต่ผมจำไม่ได้ว่านิตยสารดังกล่าวฉบับใหน..แฮ่ะ 😜😜😜
....
...
..
อนึ่ง ผมต้องขออภัยเพื่อนๆด้วยที่ อธิบายวิธีการอย่างละเอียดพอสมควร (เจตนาแล้วมิใช่เพื่อชี้โพรงให้กระรอกนะครับ แต่เพื่อเผื่อบางคนในนี้ไม่รู้จัก หรือไม่เคยผ่านหูผ่านตา จะได้แยกแยะ สังเกตอาการ รวมทั้งเพื่อป้องกันลูกหลานของตัวเองให้ห่างไกลจากสิ่งเสพติดชนิดนี้ด้วยครับ)
.......
.....
...
ปัจฉิมลิขิต 1...น้ำกระท่อม คือชนิดเดียวกันกับ 4 คูณ 100 (ตามสื่อที่ออกข่าวแถวภาคใต้ และกรุงเทพฯครับ)
ปัจฉิมลิขิต 2...ขอวิธีที่เจตนาถึงความหวังดี ไม่หยาบคาย ให้แง่คิดอย่างสร้างสรรค์ ด่าตรงๆก็ได้ เพียงแต่อย่าถึงบรรพบุรุษก็พอครับ เพราะส่วนตัวแล้ว ผมมีการศึกษาสูงพอสมควร แต่ก็มิใช่ว่าสิ่งเสพติดที่มีทั่วประเทศนั้นแยกแยะได้ ดังนั้นการหลงไหลในสิ่งที่ไม่ดี ให้โทษหรือบั่นทอนสุขภาพกายใจนั้น ไม่ได้อยู่ที่การศึกษาหรือปัญญาหรอก ... แต่มันอยู่ที่จิตสำนึกและความดี...ครับ
😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊
😲😲😲😲😲😲😲😲😲😲😲
😝😝😝😝😝😝😝😝😝😝😝
อยากเลิกน้ำกระท่อมครับ...เพื่อนๆพอมีวิธีใหมครับ?
ส่วนผลเสียด้านสุขภาพ ก็ไม่ส่งผลร้ายกับร่างกายมากเท่าประเภทอื่น...
งั้นเพื่อความเข้าใจง่ายๆ ผมจะแยกประเภทดังนี้ครับ...
ผลเสีย :-
1. เสียสุขภาพ แต่ไม่ค่อยส่งผลเป็นประจักษ์นัก เมื่อมองเผินๆแล้ว เหมือนคนปกติ
2. เสียเงิน ในกรณีผมแล้ว จะต้มน้ำวันละ 2-3 ชุด (1 ชุด ประกอบด้วย ใบกระท่อม 100 บาท = 30-40 ใบ ,ยาแก้ไอ 100 บาท สามารถผสมได้ 3 ชุด , โค้ก น้ำแข็ง 20 บาท ผสมได้ 2 ครั้ง และที่ขาดไม่ได้คือ บุหรี่การัม {(บุหรี่สัญชาติมาเลย์)} 20 บาท = 3 มวน) ซึ่งถ้าเฉลี่ยต่อวันแล้ว ต้องเสียเงินประมาณ 200 - 300 บาทต่อวัน ถือว่าเยอะพอสมควร (พอๆกับยาเสพติดประเภทที่ 1 เลยแน่ะ)
3. มีผลข้างเคียง ถ้าหากขาดมันเมื่อไหร่ จะไม่สบายเอย จามบ่อยๆเอย ปวดท้องเอย ไม่เจริญอาหาร เป็นต้น(แล้วแต่บางคน) แต่ทุกคนจะมีอาการข้างเคียงแน่นอน
ผลดี :-
1. จะอารมณ์ดีทั้งวัน สนทนากันถูกคอมาก และจะช่วยเหลือเพื่อนในกลุ่มเสมอ
2. จะมีอาการสลึมสะลือ แบบถ้าหลังแนบเพดานแล้ว ตาจะเคลิ้มๆหรือหลับตาคล้ายๆง่วงนอน แต่หูไว(คล้ายๆแมวแฮ่ะ 55)
3. พืชกระท่อมเป็นยารักษาโรคเบาหวานชั้นดี (อันนี้อิงจากนิตยสาร คสคส.ระบุถึงการวิจัย และอเมริกาเองก็มีโครงการปลุกพืชชนิดนี้กันแล้ว เอ่อ..แต่ผมจำไม่ได้ว่านิตยสารดังกล่าวฉบับใหน..แฮ่ะ 😜😜😜
....
...
..
อนึ่ง ผมต้องขออภัยเพื่อนๆด้วยที่ อธิบายวิธีการอย่างละเอียดพอสมควร (เจตนาแล้วมิใช่เพื่อชี้โพรงให้กระรอกนะครับ แต่เพื่อเผื่อบางคนในนี้ไม่รู้จัก หรือไม่เคยผ่านหูผ่านตา จะได้แยกแยะ สังเกตอาการ รวมทั้งเพื่อป้องกันลูกหลานของตัวเองให้ห่างไกลจากสิ่งเสพติดชนิดนี้ด้วยครับ)
.......
.....
...
ปัจฉิมลิขิต 1...น้ำกระท่อม คือชนิดเดียวกันกับ 4 คูณ 100 (ตามสื่อที่ออกข่าวแถวภาคใต้ และกรุงเทพฯครับ)
ปัจฉิมลิขิต 2...ขอวิธีที่เจตนาถึงความหวังดี ไม่หยาบคาย ให้แง่คิดอย่างสร้างสรรค์ ด่าตรงๆก็ได้ เพียงแต่อย่าถึงบรรพบุรุษก็พอครับ เพราะส่วนตัวแล้ว ผมมีการศึกษาสูงพอสมควร แต่ก็มิใช่ว่าสิ่งเสพติดที่มีทั่วประเทศนั้นแยกแยะได้ ดังนั้นการหลงไหลในสิ่งที่ไม่ดี ให้โทษหรือบั่นทอนสุขภาพกายใจนั้น ไม่ได้อยู่ที่การศึกษาหรือปัญญาหรอก ... แต่มันอยู่ที่จิตสำนึกและความดี...ครับ
😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊😊
😲😲😲😲😲😲😲😲😲😲😲
😝😝😝😝😝😝😝😝😝😝😝