เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต้แถลงหลังประชุมพันธมิตรทางทหารที่สำนักงานใหญ่ของนาโต้ในบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม เมื่อวันอังคาร(24พ.ย.)
เอเอฟพี - เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต ระบุ ในวันอังคาร (24 พ.ย.) พันธมิตรทางทหารแห่งนี้พร้อมยืนหยัดเคียงข้างรัฐสมาชิกตุรกี ตามหลังเหตุยิงเครื่องบินรบรัสเซียตกตามแนวชายแดนซีเรีย ขณะที่สหรัฐฯบอกอังการามีสิทธิ์ปกป้องเขตแดนของตนเอง แต่เรียกร้องสองฝ่ายลดความตึงเครียดเพื่อไม่ให้สถานการณ์ลุกลามบานปลาย
“เราย้ำมาตลอดว่า เรายืนหยัดเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับตุรกี และสนับสนุนบูรณภาพแห่งดินแดนของสมาชิกพันธมิตรนาโต ตุรกี” สโตลเทนเบิร์ก กล่าว หลังประชุมฉุกเฉิน 28 ชาติสมาชิกตามคำร้องขอของอังการา “ผมหวังเห็นการติดต่อประสานงานเพิ่มเติมระหว่างอังการา และมอสโก และเรียกร้องขอทุกฝ่ายอยู่ในความสงบและลดความตึงเครียด การทูตและความพยายามลดความตึงเครียดคือสิ่งสำคัญสำหรับช่วยคลี่คลายสถานการณ์นี้” เขากล่าว
อังการาบอกว่า เครื่องบินเอฟ 16 ของพวกเขา 2 ลำยิงเครื่องบินรบ ซู-24 ของรัสเซียตก หลังละเมิดน่านฟ้าของตุรกีติดกับชายแดนซีเรียถึง 10 ครั้ง ภายในช่วงเวลาแค่ 5 นาที แต่ทางมอสโกยืนยันว่าเครื่องบินรบของพวกเขาอยู่ในน่านฟ้าของซีเรีย
นายสโตลเทนเบิร์ก บอกว่า เขาเคยเตือนมาแล้วหลายครั้งถึงความเสี่ยงจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ของรัสเซียต่อกบฏซีเรีย ที่ต้องการขับไล่ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด พันธมิตรเก่าแก่ของมอสโก “เหตุการณ์นี้ย้ำถึงความจำเป็นต้องมีข้อตกลงที่ได้รับการเคารพเพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ลักษณะนี้อีกในอนาคต”
ส่วนทูตของนาโตคนหนึ่งบอกว่าตุรกีได้รับแรงสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจากที่ประชุมฉุกเฉิน แต่ก็มีเสียงเรียกร้องให้มีมาตรการตอบสนองเพื่อรับประกันว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก
ตุรกี ชาติมหาอำนาจทางทหารใหญ่สุดอันดับ 2 ในนาโต รองจากสหรัฐฯ เคยร้องขอความสนับสนุนจากพันธมิตรแห่งนี้มาแล้วหลายครั้ง สืบเนื่องจากความขัดแย้งซีเรียที่ทะลักข้ามพรมแดน
ขณะที่ทางนาโตก็ตอบสนองด้วยการประจำการขีปนาวุธแพทริออต ที่สามารถสอยเครื่องบินหรือขีปนาวุธที่ย่างกรายเข้ามา ในทางตอนใต้ของตุรกี แต่พวกเขามีกำหนดถอนขีปนาวุธเหล่านั้นออกไปในช่วงสิ้นปีนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ทางนาโต้เผยว่าอยู่ระหว่างทบทวนแผนดังกล่าว
ในวิกฤตใหม่ที่ปะทุขึ้นมากลางสมรภูมิรบซีเรีย ฝรั่งเศส สหรัฐฯ และสหประชาชาติ เดิมตามรอยนาโตเรียกร้องทั้งตุรกีและรัสเซียละเว้นการขยายความตึงเครียด ตามหลังอังการายิงเครื่องบินรัสเซียตก
ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งอเมริกา แถลงไม่นานหลังหารือกับประธานาธิบดี ฟรังซัวส์ ออลลองด์ ที่ทำเนียบขาว เรียกร้องขอทุกอย่างอยู่สงบและเปิดทางให้ความเคลื่อนไหวด้านการทูตทำงาน
“ผมคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับเรา ที่ตอนนี้ต้องทำให้แน่ใจว่าทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นรัสเซียและตุรกี จะพูดคุยกัน และหาคำตอบว่าแท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่ รวมถึงใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อป้องกันสถานการณ์ที่ลุกลามใด ๆ” โอบามาบอกกับผู้สื่อข่าว
“ตุรกี ก็เหมือนกับทุกประเทศที่มีสิทธิ์ปกป้องเขตแดนและน่านฟ้าของตนเอง” โอบามา กล่าว แต่ระบุว่า เป้าหมายต้น ๆ ของเรา คือ “จะหาทางรับประกันว่าสถานการณ์นี้จะไม่ลุกลามบานปลาย” เขากล่าว “หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ณ เวลานี้ทุกฝ่ายจะสามารถถอยหลังคนละก้าวและคำนวณว่าแนวทางไหนที่จะเป็นประโยชน์ต่อพวกเขามากที่สุด”
ด้าน นายออลลองด์ เรียกเหตุการณ์ทางอากาศนี้ ว่า “ร้ายแรง” และ “น่าเสียใจอย่างยิ่ง” พร้อมระบุตุรกีกำลังให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องแก่นาโต้ เพื่อช่วยสรุปว่าอะไรเกิดขึ้นกันแน่ “เราต้องปกป้องไม่ให้สถานการณ์ลุกลามที่จะก่อความเสียหายร้ายแรง เราต้องหาทางออกแก่วิกฤตซีเรีย เพราะไม่อย่างนั้นเราก็อาจเห็นความเสี่ยงอื่น ๆ อีก”
ส่วน นายบันคีมูน เลขาธิการสหประชาชาติ เรียกร้องให้มีมาตรการเร่งด่วนสำหรับลดความตึงเครียด โดยบอกว่าการตรวจสอบเหตุการณ์อย่างละเอียด และน่าเชื่อถือจะช่วยให้ความกระจ่างว่าเกิดอะไรขึ้นและช่วยป้องกันเหตุการณ์ซ้ำรอย
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000130552
นาโตกร้าวอยู่ข้างตุรกีเหตุสอย ซู-24 รัสเซียร่วง สหรัฐฯวอนลดตึงเครียดแต่ชี้อังการามีสิทธิ์ปกป้องตนเอง
เอเอฟพี - เยนส์ สโตลเทนเบิร์ก เลขาธิการนาโต ระบุ ในวันอังคาร (24 พ.ย.) พันธมิตรทางทหารแห่งนี้พร้อมยืนหยัดเคียงข้างรัฐสมาชิกตุรกี ตามหลังเหตุยิงเครื่องบินรบรัสเซียตกตามแนวชายแดนซีเรีย ขณะที่สหรัฐฯบอกอังการามีสิทธิ์ปกป้องเขตแดนของตนเอง แต่เรียกร้องสองฝ่ายลดความตึงเครียดเพื่อไม่ให้สถานการณ์ลุกลามบานปลาย
“เราย้ำมาตลอดว่า เรายืนหยัดเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันกับตุรกี และสนับสนุนบูรณภาพแห่งดินแดนของสมาชิกพันธมิตรนาโต ตุรกี” สโตลเทนเบิร์ก กล่าว หลังประชุมฉุกเฉิน 28 ชาติสมาชิกตามคำร้องขอของอังการา “ผมหวังเห็นการติดต่อประสานงานเพิ่มเติมระหว่างอังการา และมอสโก และเรียกร้องขอทุกฝ่ายอยู่ในความสงบและลดความตึงเครียด การทูตและความพยายามลดความตึงเครียดคือสิ่งสำคัญสำหรับช่วยคลี่คลายสถานการณ์นี้” เขากล่าว
อังการาบอกว่า เครื่องบินเอฟ 16 ของพวกเขา 2 ลำยิงเครื่องบินรบ ซู-24 ของรัสเซียตก หลังละเมิดน่านฟ้าของตุรกีติดกับชายแดนซีเรียถึง 10 ครั้ง ภายในช่วงเวลาแค่ 5 นาที แต่ทางมอสโกยืนยันว่าเครื่องบินรบของพวกเขาอยู่ในน่านฟ้าของซีเรีย
นายสโตลเทนเบิร์ก บอกว่า เขาเคยเตือนมาแล้วหลายครั้งถึงความเสี่ยงจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศครั้งใหญ่ของรัสเซียต่อกบฏซีเรีย ที่ต้องการขับไล่ประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด พันธมิตรเก่าแก่ของมอสโก “เหตุการณ์นี้ย้ำถึงความจำเป็นต้องมีข้อตกลงที่ได้รับการเคารพเพื่อหลีกเลี่ยงเหตุการณ์ลักษณะนี้อีกในอนาคต”
ส่วนทูตของนาโตคนหนึ่งบอกว่าตุรกีได้รับแรงสนับสนุนอย่างแข็งแกร่งจากที่ประชุมฉุกเฉิน แต่ก็มีเสียงเรียกร้องให้มีมาตรการตอบสนองเพื่อรับประกันว่าเหตุการณ์ลักษณะนี้จะไม่เกิดขึ้นอีก
ตุรกี ชาติมหาอำนาจทางทหารใหญ่สุดอันดับ 2 ในนาโต รองจากสหรัฐฯ เคยร้องขอความสนับสนุนจากพันธมิตรแห่งนี้มาแล้วหลายครั้ง สืบเนื่องจากความขัดแย้งซีเรียที่ทะลักข้ามพรมแดน
ขณะที่ทางนาโตก็ตอบสนองด้วยการประจำการขีปนาวุธแพทริออต ที่สามารถสอยเครื่องบินหรือขีปนาวุธที่ย่างกรายเข้ามา ในทางตอนใต้ของตุรกี แต่พวกเขามีกำหนดถอนขีปนาวุธเหล่านั้นออกไปในช่วงสิ้นปีนี้ อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้ ทางนาโต้เผยว่าอยู่ระหว่างทบทวนแผนดังกล่าว
ในวิกฤตใหม่ที่ปะทุขึ้นมากลางสมรภูมิรบซีเรีย ฝรั่งเศส สหรัฐฯ และสหประชาชาติ เดิมตามรอยนาโตเรียกร้องทั้งตุรกีและรัสเซียละเว้นการขยายความตึงเครียด ตามหลังอังการายิงเครื่องบินรัสเซียตก
ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งอเมริกา แถลงไม่นานหลังหารือกับประธานาธิบดี ฟรังซัวส์ ออลลองด์ ที่ทำเนียบขาว เรียกร้องขอทุกอย่างอยู่สงบและเปิดทางให้ความเคลื่อนไหวด้านการทูตทำงาน
“ผมคิดว่าเป็นสิ่งสำคัญยิ่งสำหรับเรา ที่ตอนนี้ต้องทำให้แน่ใจว่าทั้งสองฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นรัสเซียและตุรกี จะพูดคุยกัน และหาคำตอบว่าแท้จริงแล้วเกิดอะไรขึ้นกันแน่ รวมถึงใช้มาตรการต่าง ๆ เพื่อป้องกันสถานการณ์ที่ลุกลามใด ๆ” โอบามาบอกกับผู้สื่อข่าว
“ตุรกี ก็เหมือนกับทุกประเทศที่มีสิทธิ์ปกป้องเขตแดนและน่านฟ้าของตนเอง” โอบามา กล่าว แต่ระบุว่า เป้าหมายต้น ๆ ของเรา คือ “จะหาทางรับประกันว่าสถานการณ์นี้จะไม่ลุกลามบานปลาย” เขากล่าว “หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ณ เวลานี้ทุกฝ่ายจะสามารถถอยหลังคนละก้าวและคำนวณว่าแนวทางไหนที่จะเป็นประโยชน์ต่อพวกเขามากที่สุด”
ด้าน นายออลลองด์ เรียกเหตุการณ์ทางอากาศนี้ ว่า “ร้ายแรง” และ “น่าเสียใจอย่างยิ่ง” พร้อมระบุตุรกีกำลังให้ข้อมูลที่เกี่ยวข้องแก่นาโต้ เพื่อช่วยสรุปว่าอะไรเกิดขึ้นกันแน่ “เราต้องปกป้องไม่ให้สถานการณ์ลุกลามที่จะก่อความเสียหายร้ายแรง เราต้องหาทางออกแก่วิกฤตซีเรีย เพราะไม่อย่างนั้นเราก็อาจเห็นความเสี่ยงอื่น ๆ อีก”
ส่วน นายบันคีมูน เลขาธิการสหประชาชาติ เรียกร้องให้มีมาตรการเร่งด่วนสำหรับลดความตึงเครียด โดยบอกว่าการตรวจสอบเหตุการณ์อย่างละเอียด และน่าเชื่อถือจะช่วยให้ความกระจ่างว่าเกิดอะไรขึ้นและช่วยป้องกันเหตุการณ์ซ้ำรอย
http://www.manager.co.th/Around/ViewNews.aspx?NewsID=9580000130552