ไม่มีหมวกกันน็อค ห้ามเข้ามหาลัยเด็ดขาด !!!

เรื่องที่จะเล่าต่อไปนี้เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริงและได้มีผู้เขียนไว้ เล่าเพื่อขอความคิดเห็นจากเพื่อนๆ
เกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าว ว่าถ้าเป็นคุณ คุณจะแก้ไขสถานการณ์ดังกล่าวอย่างไร ทั้งนี้เพื่อใช้เป็นกรณีศึกษาเกี่ยวกับ
การเรียนนะค่ะ ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำให้อาชีพใดอาชีพหนึ่งเสียหาย หรือกระทบกับนักศึกษาหรือยามแม้แต่ประการใดนะค่ะ
ขอย้ำว่าเป็นเพียงการทำกรณีศึกษาเท่านั้นค่ะ
                 เรื่องราวนี้เกิดขึ้นเมื่อหลายปีมาแล้ว เรื่องมีอยู่ว่า มีนักศึกษาหญิงคนหนึ่งกำลังเรียนอยู่ปี 2 มหาวิทยาลัยต่างจังหวัดแห่งหนึ่ง
พักอาศัยอยู่ที่หอพักหญิงในมหาวิทยาลัย วันหนึ่งออกไปทำธุระกับเพื่อนที่นอกมหาวิทยาลัย ขับรถมอเตอร์ไซต์
ออกจากหอพักประมาณเทียง ไปทานข้าวกับเพื่อนก่อน หลังจากนั้นเพื่อนบอกว่าเอารถไปคันเดียวพอ
เดี๋ยวไปด้วยกัน รถเธอจอดไว้หน้าร้านนี่แหละ เพราะว่าอาจจะใช้เวลาไม่นานเดี๋ยวก็กลับมาถึงกันแล้ว
เราก็ล็อครถเป็นอย่างดี เอาสายหมวกกันน็อค ใส่ไว้ใต้เบาะรถที่นั่ง เพราะมันจะมีตะขอเหล็กและมีที่เกี่ยวใต้เบาะพอดี
ป้องกันไว้หน่อยเผื่อใครจะเอาหมวกกันน็อคไป
                 ปรากฏว่าใช้เวลาในการทำธุระนานกว่าที่กำหนด เพราะรถดันไปเสียและต้องใช้เวลาซ่อมที่นานมาก
ตอนแรกวางแผนไว้ว่าจะกลับมาให้ถึงประมาณหกโมงเย็น แต่ที่ไหนได้กลับมาถึงสี่ทุ่ม มาถึงด้วยความหิว
จึงไปซื้อข้าวเอากลับไปกินที่ห้อง แล้วเพื่อนก็มาส่งที่รถมอเตอร์ไซต์ จากนั้นก็ขับกลับไปเลยเพราะว่าง่วงมากแล้ว
แถวนั้นก็ไม่ค่อยมีใครเท่าไหร่ นศ. เดินไปที่รถ เกิดอะไรขึ้น "หมวกกันน็อคหาย" มันหายไปได้อย่างไร
ล็อคไว้แล้ว พอดูดีๆ มันโดนตัดสายออกไป เหลือไว้แต่เพียงสายดำๆนิดหน่อยให้เจ็บใจ
ปัญหาก็คือ "ถ้าไม่ใส่หมวก ยามที่ประตูมหาวิทยาลัย จะไม่อนุญาตให้เข้าไป" แต่ป่านี้แล้ว ห้าทุ่มกว่าๆแล้ว
จะไปหาหมวกกันน็อคที่ไหนละนี่ เพื่อนก็กลับไปแล้ว บ้านมันก็อยู่ไกล จะทำงัยดี ตอนนั้นโทรศัพท์มือถือ
ก็ยังไม่มีกัน เนื่องจากตอนนั้นราคาแพงมาก ไม่มีเงินซื้อกัน คิดไรไม่ออกแล้ว ดึกก็ดึก ง่วงก็ง่วง กลัวก็กลัวๆ
นศ. เลยตัดสินใจขับรถมอเตอร์ไซต์กลับหอ ซึ่งเชื่อว่า ถ้าบอกกับยามตรงๆเค้าน่าจะไม่ว่าไร น่าจะให้เข้ามหาวิทยาลัยไปหอพักได้
                 พอขับไปที่ป้อมยาม ก็ชะลอรถ ยามถามว่าไหนหมวกกันน็อค ก็เลยบอกไปตามตรงว่า หมวกกันน็อคโดนขโมยไปค่ะ

*** ข้อมูลเพิ่มเติม...โดยส่วนใหญ่แล้วในมหาวิทยาลัยจะให้แค่นักศึกษาปีที่ 1 อยู่เท่านั้น ส่วนปีอื่นก็มีบ้างแต่ไม่เยอะ แล้วแต่กรณี
โดยปี 1 ห้ามใช้รถมอเตอร์ไซต์เด็ดขาด***
                เมื่อมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้น สิ่งที่มักจะเกิดขึ้นตามมาก็คือ การเจรจาต่อรองระหว่าง นศ. กับ ยาม นั่นเอง

***การต่อรองครั้งที่ 1
                            หมวกกันน็อคโดนขโมยไปค่ะ ป่านี้แล้วหนูก็ไม่รู้ว่าจะไปหาซื้อได้จากที่ไหน
เพื่อนที่อยู่ข้างนอกก็อยู่ไกลๆ ส่วนเพื่อนที่อยู่ข้างในก็ไม่มีรถจึงไม่มีหมวก หนูอยู่หอพักในมหาวิทยาลัย
นี่ค่ะบัตรนักศึกษา ขออนุญาตเข้าไปได้มั้ยค่ะ    
                            คำตอบที่ได้ก็คือ "ไม่ได้ ไม่มีหมวกกันน็อคห้ามเข้า"

***การต่อรองครั้งที่ 2
                            นศ. ก็บอกไปว่า พี่ค่ะป่านี้แล้ว หนูจะไปหาจากที่ไหนละค่ะ ขอเข้าไปในมหาวิทยาลัยไม่ได้เหรอค่ะ
                            คำตอบที่ได้ก็คือ ยามคนนั้นก็ตะโกนกลับมาว่า...ไม่ได้ ไม่มีหมวก ห้ามเข้า

***การต่อรองครั้งที่ 3
                            นศ. บอกไปอีกว่า ถ้าอย่างงั้นหนูเข็นรถเข้าไปก็ได้ แล้วพอไปไกลๆค่อยขับต่อ เพราะรู้กันดีว่าตรงนั้น
มีกล้องวงจรปิด ถ้าเค้าจับได้ว่าให้คนขับที่ไม่มีหมวกเข้าไป พี่จะโดนว่า

***การต่อรองครั้งที่ 4
                            นศ. บอกไปว่า ถ้าอย่างนั้นให้หนูเข็นรถเข้าไป แล้วไปจอดไว้ที่ข้างๆป้อมยามก็ได้
จากนั้นค่อยเดินกลับหอไปก็ได้ค่ะ พรุ่งนี้ค่อยมาเอารถ พร้อมพาหมวกกันน็อคมาด้วยเลย  เพราะถ้าจอดไว้ข้างนอกกลัวหาย
ให้พี่ยามทำบันทึกข้อความการมาเอารถก็ได้
                            คำตอบก็คือ ยามคนนั้นก็ตอบกลับมาด้วยความโมโหว่า...ยังงัยก็ไม่ได้
บอกแล้วงัยไม่มีหมวกกันน็อคห้ามเข้าเด็ดขาด น้องนี่พูดไม่รู้เรื่องเหรอ

                 เมื่อเป็นเช่นนั้น นศ.หญิงคนนั้นก็เลยตัดสินใจขับรถไปจอดไว้ที่หน้าร้านๆหนึ่ง ล็อคเป็นอย่างดี
ซึ่งห่างจากประตูมหาวิทยาลัยประมาณ 500 เมตร คือนั่นน่าจะใกล้ที่สุดแล้ว จากนั้นก็เดินกลับเข้าไปในมหาวิทยาลัย
ยามคนนั้นก็ไม่พูดไรเลยสักคำ

                ระยะทางจากป้อมยามไปยังหอพักประมาณ 1 กิโลเมตร มืดสลัว และเปลี่ยว เพราะเป็นเวลาดึก
นศ.หญิงคนนั้น ก็เดินกลับไปด้วยความกลัว เพราะเหตุการณ์ที่นั่นมันไม่ค่อยปกติ มีเหตุความไม่สงบเกิดขึ้นอยู่เรื่อยมา
แต่ นศ. ก็เดินต่อไปด้วยใจสู้ ในที่สุดก็ถึงหออย่างปลอดภัย วันรุ่งขึ้นก็ให้เพื่อนคนหนึ่งที่มีรถพาไปซื้อหมวกกันน็อค
แต่ปรากฏว่ารถเธอหายไปละ สิ่งที่ทำได้ก็คือการไปแจ้งความไว้กับตำรวจเท่านั้น
               คำถาม มีดังต่อไปนี้
               1. ถ้าคุณเป็นนักศึกษาหญิงคนนั้น คุณจะทำอย่างไร
               2. ถ้าคุณเป็นยามคุณ จะทำอย่างไร
               3. กฎระเบียบ ที่เกี่ยวกับเรื่องหมวกกันน็อคของมหาวิทยาลัย มันไม่สามารถที่จะยืดหยุ่น
หรือละเว้นผ่อนปรนกันได้บ้างเลยหรือ หรือว่ามันจะสามารถทำได้ หรือจะเป็นอย่างอื่นได้หรือไม่            

               นี่เป็นส่วนหนึ่งของเรื่องการเจรจาต่อรอง และเคยถูกนำมาใช้ในเรื่องจิตบริการด้วย
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับทุกคอมเม้นท์นะค่ะ คำตอบที่ได้จะนำไปใช้ในการ
ศึกษาวิเคราะห์ต่อไป ขอบคุณค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่