ทริปนี้เริ่มจากการทำงานกลุ่มล้วนๆ เนื่องจากเราเป็นนิสิตมหาลัยแห่งหนึ่งและเพราะเราเป็นเด็กการโรงแรมและท่องเที่ยวด้วยสิ จึงต้องเรียนวิชาระบบขนส่งในการท่องเที่ยว และอาจารย์ก็ได้สั่งงานมาชิ้นนึง กลุ่มเราก็จับฉลากได้กลุ่มรถไฟ-ทะเล เพื่อนๆก็ตื่นเต้นกันกันสุดขีด ถึงขนาดแบบไปวันนี้เลยได้มั้ย5555 ทุกคนช่วยกันหาข้อมูลและได้เจอ"ขบวนรถไฟนำเที่ยว"กรุงเทพ-หัวหินและสวนสนประดิพัทธ์ ราคาถูกดี 240 กับ 120บาท
พอตกลงกันได้ก็จัดการซื้อตั๋วเลยจ้าได้ที่นั่งชั้น3 ราคา 120 บาทเองง
เช้าวันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน ทั้ง 10 คนพร้อมกันเวลา 06.00 น.ที่สถานีหัวลำโพง ตื่นเต้นกันจนมาถึงก่อนเวลานัดอีก
ระหว่างรอเวลา ก็แยกย้ายกันหาข้อมูล ที่นี่ขณะพักรถไฟก็มีพนักงานมาทำความสะอาด
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกก่อนละกัน^^
จะทำงานทั้งทีกองทัพต้องเดินด้วยท้องเนอะ5555
ที่นี่มี KFC ด้วยนะแต่ไม่มีตังแค่ถ่ายรูปก็ได้55555
เดินทางไกลขอพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ละกัน จะได้ปลอดภัยหายห่วง -_-
ได้เวลาออกเดินทางแย้วว
ชานชลาที่11 มีรถไฟสองขบวน คือรถไปน้ำตก กับ รถไปสวนสนฯ ซึ่งในระยะแรกจะไปด้วยกัน
เราไปขบวน 911 คันที่ 7 กรุงเทพ-หัวหินและสวนสนประดิพัทธ์
ถ้าไม่รู้จะไปขบวนไหน ตู้ไหน ที่นั่งอะไร ถามข้อมูลการเดินทางจากเจ้าหน้าที่ได้เลย เจ้าหน้าที่ใจดีมากมากมาก
ออกเดินทางจากสถานีหัวลำโพงเวลา 06.32 น. ในกำหนดการสามารถสายได้ไม่เกิน 6นาทีเจ้าหน้าที่ก็แนะนำสถานีต่อไปที่สามารถขึ้นรถทันให้กับเพื่อนๆผู้ตกรถ หากคิดว่าขึ้นที่หัวลำโพงไม่ทันหรือเดินทางไม่สะดวก สามารถขึ้นที่สถานีอื่นๆได้ สอบถามได้ที่ 1690
ผู้โดยสารชั้น3 ธรรมดาจะมีน้อยกว่าชั้น2 ที่เป็นปรับอากาศ และขบวนรถไฟไปน้ำตกน่าจะมีคนสนใจเยอะเพราะมีผู้โดยสารมากกว่าขบวนไปทะเล
มาดูสิ่งอำนวยความสะดวกบนรถไฟบ้างดีกว่า
มีพัดลม
เบาะที่นั่ง
มีราวจับสำหรับยืนและชั้นวางของ
ถ้าแดดส่อง สามารถเอาม่านลงมาได้
ห้องน้ำ
07.10 น. มีพนักงานมาตรวจตั๋วเรียกว่า “ พนักงานห้ามล้อ ” ซึ่งจะตรวจแค่ 1 ครั้งรวมไป-กลับ ระหว่างทางก็จะแวะรับผู้โดยสารรายทางตามสถานีที่ผ่าน
ถ้าตั๋วที่ตรวจเสร็จแล้วจะเจาะให้เป็นรูไว้
มีพนักงานประชาสัมพันธ์เป็นระยะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แนะนำวิธีเดินทางและให้กลับทันเวลา
ตั้งใจฟังกันใหญ่เลยยย สู้ ๆ นะนิสิต
ถึงสถานีนครปฐมเวลา 07.55 น. แวะให้นักท่องเที่ยวนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ และเลือกซื้ออาหาร ให้เวลา 40 นาที จากกำหนดการจะถึงสถานีนี้เวลา 07.40 น. ซึ่งสายไป 15 นาที
08.00 น. พอดียืนตรงกันหมดเลย คนไทยน่ารักจิงๆเลย
ไม่ว่าจะนักท่องเที่ยวจากที่ไหนก็จะต้องแวะมานมัสการองค์พระปฐมเจดีย์กันทั้งนั้นเลย
น้องๆจากโรงเรียนอื่นเค้าก็มาทัศนศึกษากันนะ
ของกินเยอะแยะเลย !!!
สังเกต สอบถามข้อมูลการทำงานให้ได้มากที่สุด
เมื่อถึงสถานีหนองปลาดุก รถไฟขบวนน้ำตก กับ รถไฟขบวนสวนสนฯ ต้องแยกสายกันที่นี่
ตลอดการเดินทางเจ้าหน้าที่บริการดีมาก ยิ้มแย้มแจ่มใส ขณะเดินทางขาไป ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะไม่จอดให้ซื้อของฝาก ถ้าต้องการของฝากให้สั่งได้ตามรายการที่กำหนดทางเจ้าหน้าที่มีเมนูมาให้ดูและจ่ายเงินเลย
จากการได้ลองกินพบว่า (ก๋วยเตี๋ยวราชบุรี เป็นก๋วยเตี๋ยวแห้งลูกชิ้นปลา เพราะชาวมุสลิมที่เดินทางด้วยรถไฟจะได้ทานได้ด้วย)
ขนมหวานเพชรบุรีก็อร่อย หอมหวานนน
ระหว่างทางยังไม่ง่วงก็นั่งคุยกัน นั่งถ่ายรูปสวยๆไปเรื่อย
วิวสองข้างทางสวยมากชวนถ่ายรูปมาก ถึงเพชรบุรีแล้วดูจากต้นตาลของดีที่นี่เลย
เวลา 10.55 น. ถึงสถานีชะอำ จ.เพชรบุรี จอดให้ผู้โดยสารที่เลือกท่องเที่ยวที่ชายหาดชะอำลงสถานีนี้ พร้อมเจ้าหน้าที่นัดเวลารถไฟกลับ
เวลา 11.19 น. ถึงสถานีหัวหิน จอดให้ผู้โดยสารที่เลือกท่องเที่ยวที่ชายหาดหัวหินลงสถานีนี้ จากกำหนดการจะถึงสถานีนี้เวลา 10.30 น. ซึ่งสายไป 49 นาที
11.30 น. ในที่สุดรถไฟก็ใกล้ถึงที่หยุดรถสวนสนประดิพัทธ์ ซึ่งเป็นสถานีปลายทางของโปรแกรมนี้ ให้เวลาในการท่องเที่ยวชายทะเลสวนสนประดิพัทธ์ 4 ชั่วโมง ซึ่งจากกำหนดการจะถึงสถานีนี้เวลา 10.40 น. ซึ่งสายไป 50 นาทีก่อนลงเจ้าหน้าที่นัดเวลารถไฟเที่ยวกลับ และแจกเบอร์โทรย้ำแล้วย้ำอีกเรื่องเวลา เพราะไม่อยากให้มีใครตกรถไฟ 5555 พร้อมทั้งแนะนำร้านอาหารให้ ร้านอาหารมีน้อยแต่เพียงพอกับนักท่องเที่ยวเนื่องจากอยู่ในความดูแลของทหาร ตอนลงรถไฟ ต้องกดปุ่มเพื่อให้ประตูเปิด ไฟเขียวแสดงสถานะว่าประตูพร้อมเปิดติดจึงกดได้
ถึงสักทีสวนสนประดิพัทธ์
ลุยโลดดด ..
ที่หาดสวนสนฯนั้น หันหน้าออกทะเล ทางซ้ายเป็นเขาตะเกียบ ทางขวาเป็นเขาเต่า
ถึงที่นี่จะอยู่ในความดูแลของทหาร แต่ก็มีของขายเยอะนะทั้งของกิน ของฝากเลย
โรงอาหารที่นี่ สมาคมแม่บ้านทหารจัดกลุ่มขายกันเอง อร่อยทุกอย่าง..คอนเฟิร์ม..
ที่นั่งริมหาดเลือกเป็นเช่าเก้าอี้ผ้าใบตัวละ 20บาท ร่มชายหาด50บาท โต๊ะวางของ20บาท มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาตลอด มีเด็กเล่นน้ำ มีห่วงยางให้เช่า
สำหรับเราเสื่อผืนละ 10 บาทก็พอและ อาศัยนั่งหลบแดดตามเงาสนเอา5555
เฮ้ ! เม้ามอยๆ หน่อยย
นั่งรถมาเหนื่อยๆ เห้ออชื่นใจ^^
มาถึงทะเลทั้งทีไม่ได้เล่นน้ำ ก็ขอแอ้บว่ามาเล่นน้ำทะเลสวยๆละกัน
1 2 3 แช้ะ !!!
เอายัง ? แอ้บรอนานละนะะ ><
หนู !!!! จะบินหรอลูก5555555555
Strong มากค้า
เซ็กซี่เลดี้มว๊าากกก ๆๆๆ
คนกลัวแดดอย่างเราก็ได้แต่ถ่ายรูปในร่ม55
เดินไปอีกนึดก็จะถึงอุทยานราชภักดิ์แล้ว
อีกประมาณเกือบ 2 กิโลก็ถึงแล้ว สู้ ๆ 55
เห็นป้ายแล้วว ดีใจจุงง
วีบุรุษของไทย น่าปลื้มใจจริงๆ
15.31 น. ได้เวลาเดินทางกลับแล้ว ไม่อยากกลับเลยจริงๆ
อยู่ต่อเลยได้ไหม อย่าปล่อยให้ตัวฉันไป...
ตอนกลับหมดสภาพกันทุกคน แต่อยากบอกว่าทริปนี้โคตรมีความสุขมากกกกก ก ล้านตัว
การเดินทางด้วยการขนส่งด้วยรถไฟในครั้งนี้ ถือว่ามีความประทับใจและมีสิ่งที่ไม่พึงพอใจบางส่วน พนักงานของการรถไฟมีบริการอยู่ในระดับดี มีความเอาใจใส่ในการบริการดี แนะนำข้อมูลต่างๆตลอด จากการที่ได้ไปทริปกรุงเทพ-หัวหินและสวนสนประดิพัทธ์ ทำให้เพื่อนๆในกลุ่มได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ เช่น เพื่อนบางคนไม่เคยนั่งรถไฟเลยก็ได้นั่งรถไฟครั้งแรกในทริปนี้ และได้เจอความแปลกใหม่นอกเหนือจากการทำงาน
[CR] เมื่อฉันกับเพื่อนๆนั่งรถไฟครั้งแรกโดยใช้การทำงานแลกกับประสบการณ์
พอตกลงกันได้ก็จัดการซื้อตั๋วเลยจ้าได้ที่นั่งชั้น3 ราคา 120 บาทเองง
เช้าวันเสาร์ที่ 16 พฤศจิกายน ทั้ง 10 คนพร้อมกันเวลา 06.00 น.ที่สถานีหัวลำโพง ตื่นเต้นกันจนมาถึงก่อนเวลานัดอีก
ระหว่างรอเวลา ก็แยกย้ายกันหาข้อมูล ที่นี่ขณะพักรถไฟก็มีพนักงานมาทำความสะอาด
ไหนๆก็ไหนๆแล้ว ถ่ายรูปเก็บไว้เป็นที่ระลึกก่อนละกัน^^
จะทำงานทั้งทีกองทัพต้องเดินด้วยท้องเนอะ5555
ที่นี่มี KFC ด้วยนะแต่ไม่มีตังแค่ถ่ายรูปก็ได้55555
เดินทางไกลขอพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ละกัน จะได้ปลอดภัยหายห่วง -_-
ได้เวลาออกเดินทางแย้วว
ชานชลาที่11 มีรถไฟสองขบวน คือรถไปน้ำตก กับ รถไปสวนสนฯ ซึ่งในระยะแรกจะไปด้วยกัน
เราไปขบวน 911 คันที่ 7 กรุงเทพ-หัวหินและสวนสนประดิพัทธ์
ถ้าไม่รู้จะไปขบวนไหน ตู้ไหน ที่นั่งอะไร ถามข้อมูลการเดินทางจากเจ้าหน้าที่ได้เลย เจ้าหน้าที่ใจดีมากมากมาก
ออกเดินทางจากสถานีหัวลำโพงเวลา 06.32 น. ในกำหนดการสามารถสายได้ไม่เกิน 6นาทีเจ้าหน้าที่ก็แนะนำสถานีต่อไปที่สามารถขึ้นรถทันให้กับเพื่อนๆผู้ตกรถ หากคิดว่าขึ้นที่หัวลำโพงไม่ทันหรือเดินทางไม่สะดวก สามารถขึ้นที่สถานีอื่นๆได้ สอบถามได้ที่ 1690
ผู้โดยสารชั้น3 ธรรมดาจะมีน้อยกว่าชั้น2 ที่เป็นปรับอากาศ และขบวนรถไฟไปน้ำตกน่าจะมีคนสนใจเยอะเพราะมีผู้โดยสารมากกว่าขบวนไปทะเล
มาดูสิ่งอำนวยความสะดวกบนรถไฟบ้างดีกว่า
มีพัดลม
เบาะที่นั่ง
มีราวจับสำหรับยืนและชั้นวางของ
ถ้าแดดส่อง สามารถเอาม่านลงมาได้
ห้องน้ำ
07.10 น. มีพนักงานมาตรวจตั๋วเรียกว่า “ พนักงานห้ามล้อ ” ซึ่งจะตรวจแค่ 1 ครั้งรวมไป-กลับ ระหว่างทางก็จะแวะรับผู้โดยสารรายทางตามสถานีที่ผ่าน
ถ้าตั๋วที่ตรวจเสร็จแล้วจะเจาะให้เป็นรูไว้
มีพนักงานประชาสัมพันธ์เป็นระยะ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้แนะนำวิธีเดินทางและให้กลับทันเวลา
ตั้งใจฟังกันใหญ่เลยยย สู้ ๆ นะนิสิต
ถึงสถานีนครปฐมเวลา 07.55 น. แวะให้นักท่องเที่ยวนมัสการองค์พระปฐมเจดีย์ และเลือกซื้ออาหาร ให้เวลา 40 นาที จากกำหนดการจะถึงสถานีนี้เวลา 07.40 น. ซึ่งสายไป 15 นาที
08.00 น. พอดียืนตรงกันหมดเลย คนไทยน่ารักจิงๆเลย
ไม่ว่าจะนักท่องเที่ยวจากที่ไหนก็จะต้องแวะมานมัสการองค์พระปฐมเจดีย์กันทั้งนั้นเลย
น้องๆจากโรงเรียนอื่นเค้าก็มาทัศนศึกษากันนะ
ของกินเยอะแยะเลย !!!
สังเกต สอบถามข้อมูลการทำงานให้ได้มากที่สุด
เมื่อถึงสถานีหนองปลาดุก รถไฟขบวนน้ำตก กับ รถไฟขบวนสวนสนฯ ต้องแยกสายกันที่นี่
ตลอดการเดินทางเจ้าหน้าที่บริการดีมาก ยิ้มแย้มแจ่มใส ขณะเดินทางขาไป ทางเจ้าหน้าที่แจ้งว่าจะไม่จอดให้ซื้อของฝาก ถ้าต้องการของฝากให้สั่งได้ตามรายการที่กำหนดทางเจ้าหน้าที่มีเมนูมาให้ดูและจ่ายเงินเลย
จากการได้ลองกินพบว่า (ก๋วยเตี๋ยวราชบุรี เป็นก๋วยเตี๋ยวแห้งลูกชิ้นปลา เพราะชาวมุสลิมที่เดินทางด้วยรถไฟจะได้ทานได้ด้วย)
ขนมหวานเพชรบุรีก็อร่อย หอมหวานนน
ระหว่างทางยังไม่ง่วงก็นั่งคุยกัน นั่งถ่ายรูปสวยๆไปเรื่อย
วิวสองข้างทางสวยมากชวนถ่ายรูปมาก ถึงเพชรบุรีแล้วดูจากต้นตาลของดีที่นี่เลย
เวลา 10.55 น. ถึงสถานีชะอำ จ.เพชรบุรี จอดให้ผู้โดยสารที่เลือกท่องเที่ยวที่ชายหาดชะอำลงสถานีนี้ พร้อมเจ้าหน้าที่นัดเวลารถไฟกลับ
เวลา 11.19 น. ถึงสถานีหัวหิน จอดให้ผู้โดยสารที่เลือกท่องเที่ยวที่ชายหาดหัวหินลงสถานีนี้ จากกำหนดการจะถึงสถานีนี้เวลา 10.30 น. ซึ่งสายไป 49 นาที
11.30 น. ในที่สุดรถไฟก็ใกล้ถึงที่หยุดรถสวนสนประดิพัทธ์ ซึ่งเป็นสถานีปลายทางของโปรแกรมนี้ ให้เวลาในการท่องเที่ยวชายทะเลสวนสนประดิพัทธ์ 4 ชั่วโมง ซึ่งจากกำหนดการจะถึงสถานีนี้เวลา 10.40 น. ซึ่งสายไป 50 นาทีก่อนลงเจ้าหน้าที่นัดเวลารถไฟเที่ยวกลับ และแจกเบอร์โทรย้ำแล้วย้ำอีกเรื่องเวลา เพราะไม่อยากให้มีใครตกรถไฟ 5555 พร้อมทั้งแนะนำร้านอาหารให้ ร้านอาหารมีน้อยแต่เพียงพอกับนักท่องเที่ยวเนื่องจากอยู่ในความดูแลของทหาร ตอนลงรถไฟ ต้องกดปุ่มเพื่อให้ประตูเปิด ไฟเขียวแสดงสถานะว่าประตูพร้อมเปิดติดจึงกดได้
ถึงสักทีสวนสนประดิพัทธ์
ลุยโลดดด ..
ที่หาดสวนสนฯนั้น หันหน้าออกทะเล ทางซ้ายเป็นเขาตะเกียบ ทางขวาเป็นเขาเต่า
ถึงที่นี่จะอยู่ในความดูแลของทหาร แต่ก็มีของขายเยอะนะทั้งของกิน ของฝากเลย
โรงอาหารที่นี่ สมาคมแม่บ้านทหารจัดกลุ่มขายกันเอง อร่อยทุกอย่าง..คอนเฟิร์ม..
ที่นั่งริมหาดเลือกเป็นเช่าเก้าอี้ผ้าใบตัวละ 20บาท ร่มชายหาด50บาท โต๊ะวางของ20บาท มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนเข้ามาตลอด มีเด็กเล่นน้ำ มีห่วงยางให้เช่า
สำหรับเราเสื่อผืนละ 10 บาทก็พอและ อาศัยนั่งหลบแดดตามเงาสนเอา5555
เฮ้ ! เม้ามอยๆ หน่อยย
นั่งรถมาเหนื่อยๆ เห้ออชื่นใจ^^
มาถึงทะเลทั้งทีไม่ได้เล่นน้ำ ก็ขอแอ้บว่ามาเล่นน้ำทะเลสวยๆละกัน
1 2 3 แช้ะ !!!
เอายัง ? แอ้บรอนานละนะะ ><
หนู !!!! จะบินหรอลูก5555555555
Strong มากค้า
เซ็กซี่เลดี้มว๊าากกก ๆๆๆ
คนกลัวแดดอย่างเราก็ได้แต่ถ่ายรูปในร่ม55
เดินไปอีกนึดก็จะถึงอุทยานราชภักดิ์แล้ว
อีกประมาณเกือบ 2 กิโลก็ถึงแล้ว สู้ ๆ 55
เห็นป้ายแล้วว ดีใจจุงง
วีบุรุษของไทย น่าปลื้มใจจริงๆ
15.31 น. ได้เวลาเดินทางกลับแล้ว ไม่อยากกลับเลยจริงๆ
อยู่ต่อเลยได้ไหม อย่าปล่อยให้ตัวฉันไป...
ตอนกลับหมดสภาพกันทุกคน แต่อยากบอกว่าทริปนี้โคตรมีความสุขมากกกกก ก ล้านตัว
การเดินทางด้วยการขนส่งด้วยรถไฟในครั้งนี้ ถือว่ามีความประทับใจและมีสิ่งที่ไม่พึงพอใจบางส่วน พนักงานของการรถไฟมีบริการอยู่ในระดับดี มีความเอาใจใส่ในการบริการดี แนะนำข้อมูลต่างๆตลอด จากการที่ได้ไปทริปกรุงเทพ-หัวหินและสวนสนประดิพัทธ์ ทำให้เพื่อนๆในกลุ่มได้รับประสบการณ์ใหม่ๆ เช่น เพื่อนบางคนไม่เคยนั่งรถไฟเลยก็ได้นั่งรถไฟครั้งแรกในทริปนี้ และได้เจอความแปลกใหม่นอกเหนือจากการทำงาน
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น