"เนสท์เล่" ระบุ บริษัทสหรัฐและยุโรปทุกบริษัทที่ซื้ออาหารทะเลจากไทย
ล้วนเกี่ยวข้องกับการละเมิดแรงงานประมงโดยซัพเพลนเชนของตน

บริษัทอาหารรายใหญ่ของโลก “เนสท์เล่ เอสเอ” เปิดเผยด้วยตนเองว่า แรงงานเข้าเมืองที่ยากจนในประเทศไทยถูกขายหรือถูกล่อลวงด้วยสัญญาจ้างเท็จ และถูกบังคับใช้แรงงานให้จับและแปรรูปสัตว์น้ำ ซึ่งสุดท้ายแล้วนำมาป้อนให้กับซัพพลายเชนของเนสท์เล่

การเปิดเผยที่ไม่ค่อยเกิดขึ้นบ่อยนักของบริษัทจากเจนีวารายนี้ เป็นไปตามนโยบายของบริษัทที่รายงานถึงข้อสรุปการสอบสวนเมื่อวันจันทร์ (23 พ.ย.) ที่ผ่านมา ผลการศึกษาพบว่า บริษัทสหรัฐและยุโรปทุกบริษัทที่ซื้ออาหารทะเลจากไทยล้วนเกี่ยวข้องกับการละเมิดแรงงานประมงโดยซัพเพลนเชนของตน

ทั้งนี้ เนสท์เล่เปิดสอบสวนเรื่องนี้ตั้งแต่เดือนธันวาคม 2557 หลังจากสื่อมวลชนและองค์กรพัฒนาเอกชนหลายแห่งรายงานว่า มีการใช้แรงงานอย่างโหดร้ายและผิดกฎหมายในกระบวนการเลี้ยงกุ้งและการผลิตอาหารสัตว์ยี่ห้อ “เพียวรินา” ของเนสท์เล่

แรงงานเหล่านี้มาจากประเทศเพื่อนบ้านของไทยอย่างเมียนมาและกัมพูชาซึ่งยากจนกว่าไทยมาก โดยบรรดานายหน้าเรียกเก็บเงินจากพวกเขาแลกกับการได้งานทำ จากนั้นก็ล่อลวงให้แรงงานไปทำงานบนเรือประมง ท่าเรือ โรงงาน และนากุ้งในประเทศไทย เพื่อหาเงินใช้หนี้เกินกว่าที่แรงงานจะสามารถหาได้
แรงงานเมียนมาคนหนึ่งเปิดเผยกับองค์กรพัฒนาเอกชน “เวอไรท์” ซึ่งได้รับมอบหมายจากเนสท์เล่ว่า บางครั้งอวนหนักมากจนยกไม่ไหว แรงงานประมงหลายคนถึงกับตกน้ำจมหายไปเลย ส่วนแรงงานอีกคนหนึ่งเล่าว่า เขาทำงานบนเรือประมงลำนี้มานานถึง 10 ปี แต่ยังไม่มีเงินเก็บ การดำรงชีวิตยากลำบากจนแทบจะเอาชีวิตไม่รอด

ด้านรองประธานบริหารฝ่ายปฏิบัติการของเนสท์เล่ “นายแม็กดี บาตาโต” มีแถลงการณ์ระบุว่า ตามที่บริษัทกล่าวมาตลอดว่า จะต้องไม่มีการบังคับใช้แรงงานและละเมิดสิทธิมนุษยชนในซัพพลายเชนของเนสท์เล่ บริษัทเชื่อว่า การทำงานร่วมกับซัพพลายเออร์จะช่วยให้บริษัทจัดหาวัตถุดิบได้อย่างแตกต่างในเชิงสร้างสรรค์

Link : http://www.bangkokbiznews.com/news/detail/675714