เจ็บไข้ได้ป่วย นอกจากคุณหมอแล้ว ก็ต้องสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วล่ะ!!!
เมื่อแม่เส้นเลือดในสมองแตกครั้งที่ 3 ครั้งที่ 3 แล้ว มันมากเกินไปสำหรับครอบครัวของเรา ปี 58 นี้เป็นปีชงทั้งบ้าน ชงแล้วชงเล่า คิดว่าเหลทอเวลาอีกไม่กี่เดือนแล้วเชียวน๊า แต่ก็มาอีกจนได้ รวมๆ ปีนี้แม่เส้นเลือกในสมองแตกไปสองครั้งแล้ว คนเหล็กมากกก ตอนนั้นจิตใจย่ำแย่สุดๆๆๆ หมดอารมณ์สนุกสนานไปเลย คิดว่าแม่คงไม่รอดแล้วแน่ๆ ซึ่งนอกจากคุณหมอที่เราให้ความไว้วางใจแล้วคงไม่มีใครให้นึกถึงไปได้มากกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ค่ะ
ของอย่างนี้เรามักได้ยินบ่อยๆว่า “ไม่เชื่ออย่าลบหลู่” ซึ่งเป็นความเชื่อเฉพาะบุคคลจริงๆค่ะ ไม่สามารถดูถูกกันได้ เพราะในเวลาแบบนั้น ใครแนะนำอะไรมาก็ทำหมด จนตอนนี้แม่ของเรารอดปลอดภัยดีแล้ว พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือทีเดียว กลับมาหายใจเองและค่อยๆฟื้นตัวอย่างช้าๆ วันนี้เราก็เลยจะมาแนะนำ สิ่งที่ครอบครัวของเราทำเพื่อเสริมสร้างกำลังใจกันค่ะ
ขั้นที่ 1
เราคิดว่าการเจ็บป่วยของคนที่เรารักหรือแม้แต่ตัวเองมันนำความทุกข์ใจมาให้อย่างแสนสาหัส ฉะนั้นจะต้องสร้างกำลังใจให้ตัวเองก่อน ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเล็กน้อยก็ตามที
ตอนที่เราเห็นแม่ในสภาพครึ่งเป็นครึ่งตายนั้นเศร้ามาก ทุกข์มาก แต่ก็พยายามมองหาข้อดีอย่างตอนที่เข้าไปเห็นแม่ตอนแรก โอยหน้าชามากค่ะ ร้องไห้เป็นเผาเต่า แต่คิดว่า “เออ อย่างน้อยเครื่องช่วยหายใจมันก็ทำให้แม่ยังมีชีวิตอยู่นะ ตัวก็อุ่นดีด้วย ถ้าถอดแล้วจะต้องตายไปเลยก็ขอให้ใส่ไว้ก่อนละกัน ใส่ไปเรื่อยๆ ใส่ไปจนกว่าตังค์จะหมด” ตอนที่แม่โดนโกนผมเพื่อเตรียมผ่าตัด ตอนนั้นใจสลายมาก แต่ก็คิดว่า “อืม แม่โกนหัวแบบนี้ก็น่ารักดีนะ เหมือนแม่ชีเลย เอ๊ะ หรือว่าพระเส้าหลินนะ” จากนั้นก็เข้าไปกราบขออโหสิกรรมกรรมเลย อย่าน้อยถ้าลมยาแล้วไม่ฟื้น หรือผ่าตัดแล้วไม่ได้ผลก็จะได้สบายใจว่าขอขมาไปแล้ว เรื่องเล็กไน้อยๆเหล่านี้แม่มันอาจจะเทียบกับความทุกข์ไม่ได้แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ยิ้มได้(เล็กๆ)นะคะ
ขั้นที่ 2
นึกถึงคุณพระคุณเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลกเลยค่ะ อันนี้เราไม่รู้ว่าท่านจะช่วยได้จริงรึเปล่า แต่อย่างน้อยนี่คือการแสวงหาเครื่องยึดเหนี่ยวทางใจให้แก่ญาติๆของคนไข้ค่ะ ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะคะ ว่าเราเป็นลูกครึ่ง ดูจากหน้าตาแล้วอาจจะคิดว่ามาจากฝั่งยุโรปอะไรอย่างนี้ คิคิ อันนี้คิดเองเออเองค่ะ จริงๆแล้วผสมมั่วไปหมด ทั้ง ไทย จีน เวียดนาม และลาว (เพื่อนๆคงพอจะเดาหน้าตาได้ ว่าสวยสุด) แต่หลักๆแล้วเป็นลูกครึ่งสองศาสนาค่ะ คุณแม่เป็นคริสต์ตัง คุณพ่อเป็นชาวพุทธ เราก็เลยได้รับอิทธิพลมาจากทั้งสองฝั่งเลย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราจะเอ่ยถึงจึงปนๆกันไปนะคะ เริ่มที่แรกกันเลยค่ะ
[CR] เจ็บไข้ได้ป่วย นอกจากพึ่งคุณหมอ ก็ต้องสิ่งศักดิ์สิทธิ์แล้วล่ะ!!!
เมื่อแม่เส้นเลือดในสมองแตกครั้งที่ 3 ครั้งที่ 3 แล้ว มันมากเกินไปสำหรับครอบครัวของเรา ปี 58 นี้เป็นปีชงทั้งบ้าน ชงแล้วชงเล่า คิดว่าเหลทอเวลาอีกไม่กี่เดือนแล้วเชียวน๊า แต่ก็มาอีกจนได้ รวมๆ ปีนี้แม่เส้นเลือกในสมองแตกไปสองครั้งแล้ว คนเหล็กมากกก ตอนนั้นจิตใจย่ำแย่สุดๆๆๆ หมดอารมณ์สนุกสนานไปเลย คิดว่าแม่คงไม่รอดแล้วแน่ๆ ซึ่งนอกจากคุณหมอที่เราให้ความไว้วางใจแล้วคงไม่มีใครให้นึกถึงไปได้มากกว่าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ค่ะ
ของอย่างนี้เรามักได้ยินบ่อยๆว่า “ไม่เชื่ออย่าลบหลู่” ซึ่งเป็นความเชื่อเฉพาะบุคคลจริงๆค่ะ ไม่สามารถดูถูกกันได้ เพราะในเวลาแบบนั้น ใครแนะนำอะไรมาก็ทำหมด จนตอนนี้แม่ของเรารอดปลอดภัยดีแล้ว พลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือทีเดียว กลับมาหายใจเองและค่อยๆฟื้นตัวอย่างช้าๆ วันนี้เราก็เลยจะมาแนะนำ สิ่งที่ครอบครัวของเราทำเพื่อเสริมสร้างกำลังใจกันค่ะ
ขั้นที่ 1
เราคิดว่าการเจ็บป่วยของคนที่เรารักหรือแม้แต่ตัวเองมันนำความทุกข์ใจมาให้อย่างแสนสาหัส ฉะนั้นจะต้องสร้างกำลังใจให้ตัวเองก่อน ไม่ว่าเรื่องนั้นจะเล็กน้อยก็ตามที
ตอนที่เราเห็นแม่ในสภาพครึ่งเป็นครึ่งตายนั้นเศร้ามาก ทุกข์มาก แต่ก็พยายามมองหาข้อดีอย่างตอนที่เข้าไปเห็นแม่ตอนแรก โอยหน้าชามากค่ะ ร้องไห้เป็นเผาเต่า แต่คิดว่า “เออ อย่างน้อยเครื่องช่วยหายใจมันก็ทำให้แม่ยังมีชีวิตอยู่นะ ตัวก็อุ่นดีด้วย ถ้าถอดแล้วจะต้องตายไปเลยก็ขอให้ใส่ไว้ก่อนละกัน ใส่ไปเรื่อยๆ ใส่ไปจนกว่าตังค์จะหมด” ตอนที่แม่โดนโกนผมเพื่อเตรียมผ่าตัด ตอนนั้นใจสลายมาก แต่ก็คิดว่า “อืม แม่โกนหัวแบบนี้ก็น่ารักดีนะ เหมือนแม่ชีเลย เอ๊ะ หรือว่าพระเส้าหลินนะ” จากนั้นก็เข้าไปกราบขออโหสิกรรมกรรมเลย อย่าน้อยถ้าลมยาแล้วไม่ฟื้น หรือผ่าตัดแล้วไม่ได้ผลก็จะได้สบายใจว่าขอขมาไปแล้ว เรื่องเล็กไน้อยๆเหล่านี้แม่มันอาจจะเทียบกับความทุกข์ไม่ได้แต่อย่างน้อยมันก็ทำให้ยิ้มได้(เล็กๆ)นะคะ
ขั้นที่ 2
นึกถึงคุณพระคุณเจ้าและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายในสากลโลกเลยค่ะ อันนี้เราไม่รู้ว่าท่านจะช่วยได้จริงรึเปล่า แต่อย่างน้อยนี่คือการแสวงหาเครื่องยึดเหนี่ยวทางใจให้แก่ญาติๆของคนไข้ค่ะ ก่อนอื่นต้องขอบอกก่อนนะคะ ว่าเราเป็นลูกครึ่ง ดูจากหน้าตาแล้วอาจจะคิดว่ามาจากฝั่งยุโรปอะไรอย่างนี้ คิคิ อันนี้คิดเองเออเองค่ะ จริงๆแล้วผสมมั่วไปหมด ทั้ง ไทย จีน เวียดนาม และลาว (เพื่อนๆคงพอจะเดาหน้าตาได้ ว่าสวยสุด) แต่หลักๆแล้วเป็นลูกครึ่งสองศาสนาค่ะ คุณแม่เป็นคริสต์ตัง คุณพ่อเป็นชาวพุทธ เราก็เลยได้รับอิทธิพลมาจากทั้งสองฝั่งเลย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เราจะเอ่ยถึงจึงปนๆกันไปนะคะ เริ่มที่แรกกันเลยค่ะ