สวัสดีครับ (สำเนียงคนเหนือ) ด้วยความที่เห็นรีวิวเชียงใหม่เริ่มเยอะ จขกท เองก็ดันอยากจะเที่ยว ตัดสินใจวันเดียวแล้วก็มา ด้วย จขกท เอง ก็เป็นคนเหนือแต่ไม่ได้อยู่ที่เชียงใหม่ ได้มาเที่ยวเชียงใหม่เลยอยากจะเล่าเรื่องที่ไปเที่ยวสถานที่ต่างๆ มาให้ได้อ่าน เนื่องจากเข้าฤดูหนาว ซึ่งยังไม่หนาว และไม่รู้จะหนาวเมื่อไหร่ แฮ่ !!!  ด้วยความที่อยู่ภาคเหนือแล้วจะขอข้ามไปที่เรื่องเที่ยวเลยละกันนะครับ เพราะ จขกท นั่งรถไปตอนเช้า 3 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึง “เชียงใหม่”

วันที่ไปลุย : 19 – 20 พฤศจิกายน 2558

พร้อมมั้ย พร้อมมั้ยยย?
Are you ready?

* * * * *
* * *
*

(พฤหัสบดี) 19.11.2558

พอถึงสถานีขนส่งผู้โดยสาร อาเขต จขกท ก็เดินออกจากตัวอาคารแล้วไปหาเช่ารถที่ร้าน Bikky ตึกสีเหลืองตรงสามแยกโรงแรม Diamond Grand ขออนุญาตนำรูปจาก Facebook: Bikky Chiangmai มาใช้นะครับ เพราะเจ้าของกระทู้ไม่ได้ถ่ายรูปเอาไว้ Bikky มีหลายสาขานะครับ จขกท เลือกเช่าที่สถานีขนส่งเพราะจะได้เอามาคืนตอนกลับด้วย เช่าไป 2 วันครับ ใครสนใจเที่ยวเชียงใหม่โดยเช่ารถมอเตอร์ไซด์ ลองหาข้อมูลไว้ได้ครับ






✦ วัดพระธาตุดอยสุเทพ

พอมาถึง จขกท อยากไปไหว้พระขอพรซะก่อน พอได้รถแล้วก็เลือกที่จะขึ้นดอยครับ แต่ด้วยอากาศเริ่มร้อน เวลาใกล้เที่ยง เลยเลือกที่ใกล้ตัวเมือง วัดพระธาตุดอยสุเทพก็เป็นตัวเลือกที่ 1 ไปกันครับ! ทางขึ้นไม่ยาก ถึงจะไม่ชินทางแต่ถ้าขับหรือขี่รถคล่องแล้ว สบายครับ จะมีโค้งหักศอก 1 โค้ง ก่อนถึงวัดครับ  

เมื่อพูดถึง วัดพระธาตุ แน่นอนครับ หลายคนต้องนึกถึงบันไดหลายขั้นและสูง จขกท เลือกมาวันธรรมดาเพราะคิดว่า นักท่องเที่ยวจะได้น้อยกว่าช่วงวันหยุดเสาร์ อาทิตย์ แต่ความจริงแล้วก็ยังมีคนเยอะอยู่นั่นแหละครับ แต่ไม่เยอะเท่าวันหยุดเท่านั้นเอง




ไหว้พระเสร็จ ของที่มีอยู่คู่วัด นั่นคือ “เซียมซี” ครับ ส่วนตัวเจ้าของกระทู้ชอบ (ดูดวงก็เช่นกัน) ฮ่าๆ เหมือนงมงายมั้ย แต่มันก็เหมือนเป็นจิตวิทยาอย่างหนึ่งเลยนะ ถ้าได้อันที่ดี เราก็จะรู้สึกดี แต่ถ้าได้อันไม่ค่อยจะดี นั่นก็จะทำให้เราใช้ชีวิตระมัดระวังมากขึ้น



เลขที่ออกคือ 26 ครับ (เตรียมซื้อหวย) โชคดีครับ ได้ใบที่ดี (ยิ้ม) ในใจนี่แอบคิด มาถึงวัดแล้ว เขาว่าได้คู่มักจะเป็นคู่แท้ รีบหาใหญ่เลย ไหนล่ะไหน ฮ่าๆ




“ระฆังดัง เมื่อคนตี  คนดีไม่ต้องตีก็ดัง”



ออกมาดูวิวข้างนอกวิหารของวัด ก็จะได้เจอวิวของตัวเมืองเชียงใหม่ครับ ฮือ ทำมาเป็นถ่ายรูปคู่ เรามาคี่ (T^T)




เสร็จแล้วต้องเดินลงครับ ที่วัดมีบริการ  รถรางไฟฟ้า (Automatic Cable Car) ค่าบริการก็เที่ยวละ 10 บาทต่อคน แต่ จขกท เดิมครับ เอาหอบเหมือนกัน (นี่ก็มากันเป็นคู่อีกแล้ว)





✦ บ้านข้างวัด

หลังจากลงดอยเสร็จ ไหว้พระเสร็จแล้ว ก็มุ่งหน้าไปบ้านข้างวัดครับ

“โครงการบ้านข้างวัด” ที่มาที่ไปน่าจะมาจาก ตัวโครงการอยู่ใกล้กับวัดอุโมงค์และวัดร่ำเปิง เลยได้ชื่อว่า “บ้านข้างวัด” อยู่ไม่ไกลจากตัวเมืองนะครับ แป๊บเดียวถึง ในตัวโครงการก็จะมีบ้านแบบครึ่งปูนครึ่งไม้ครับ มีประมาน 8 หลัง (ถ้าจำไม่ผิด) แหะๆ จะมีคาเฟ่ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร ให้ลองนั่ง ลองชิมกันได้ครับ รวมไปถึงงานศิลปะ เครื่องปั้นดินเผา มาวัดธรรมดาเลยทำให้บางบ้านก็ปิดครับ









จากบ้านข้างวัด จขกท ไม่ได้แวะนั่งร้านไหนเลย เพราะ จขกท ตั้งใจจะไปอีกร้านนึงที่อยู่นิมมาน


✦ หอมปากหอมคอ

หอมปากหอมคอ คือเพลงหนึ่งของ ว่าน ธนกฤต ครับ (หรือจะเถียง?) ฮ่าๆ ไม่เล่นก็ได้ ร้านหอมปากหอมคอ ตั้งอยู่เกือบสุดซอยนิมมานเหมินทร์ ซอย 1 อยู่ไม่ลึกนะครับ ร้านจะอยู่ฝั่งขวามือ จะมีป้ายตั้งอยู่ข้างหน้า




เป็นร้านเล็กๆ ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวคือ มีเครื่องดื่มไม่กี่อย่าง ขนมไม่กี่ชนิด แต่เป็นของที่ดีจริง และ Signature ของร้านก็คือ Iced Cocoa ที่เป็นโกโก้เข้มข้น ขนาดน้ำแข็งยังทำมาจากโกโก้เลย ใครคือ Cocoa Lover ไม่ควรพลาด หากชิมแล้วรู้สึกเข้มเกินไปสามารถขอนมจืดมาผสมได้นะครับ



นี่เป็นภาพของพี่เจ้าของร้าน เห็นในรีวิวบอกว่า “พี่เจ้าของร้านสวย” แต่ จขกท มาไม่เจอครับ เพราะพี่เขามีน้อง




✦ 2 Gals and the Pig Boutique Hostel | Nimmanhaemin Soi15

นอนที่นี่กันครับ หืม! ฟังดูไม่ค่อยจะดีใช่มั้ยครับที่ชวนคนอื่นนอนด้วย ฮ่าๆ เป็นครั้งแรกที่นอนโฮสเทลครับ แถมเป็นโฮสเทลใหม่เพิ่มเปิดเมื่อ 14 พฤศจิกายน 2558 ที่ผ่านมานี้เอง ตอนแรก จขกท จอง บ้านเมฆ โฮสเทล ใน Booking ไว้ แต่พอไปเช็คอินแล้ว ห้องดันเต็มเพรามีคน walk in มาจองก่อนแล้ว แต่ทางโฮสเทลปิดการจองผ่าน Booking ไม่ได้ (แอบเสียใจเพราะตอนเดินเข้าไปแอบเห็น Caucasian นั่งอ่านหนังสืออยู่ตรงมุมอ่านหนังสือ) โชคยังดีที่มีโฮสเทลเปิดใหม่ พนักงานบ้านเมฆเลยเดินมาติดต่อให้ ราคาเริ่มต้นที่ 480 บาท/คืน นะครับ เป็นโฮสเทล ห้องเดี่ยว/เตียง แต่ห้องน้ำรวม





จขกท ไม่ได้ถ่ายรูปห้องน้ำมาด้วยนะครับ ลืมเฉยเลย ขอโต๊ดดดด แต่ห้องอาบน้ำสะอาดครับ มีม่านอาบน้ำกั้นส่วนพื้นที่แห้ง-เปียก ส่วนห้องน้ำ (สุขา) ก็แยกออกมาเป็นห้องอีกทีนึงครับ

ที่นี่มีกุญแจห้องกับระบบ Keycard ให้นะครับ ก็เสีย 200 เป็นค่าประกัน ได้คืนตอนเช็คเอ้าท์

สามารถลงมาดู TV ได้ที่ Lobby ครับ พนักงานเป็นกันเอง บอกว่าทำตัวตามสบายเลย เหมือนอยู่บ้านตัวเอง อุปกรณ์ในครัวก็สามารถใช้ได้ พอค่ำ จขกท ก็ลงมาดูทีวีครับ (คนเดียว) ก็มีคนเข้ามาสอบถามเรื่องที่พัก จขกท เลย สวมบทเป็น พนักงานแทนครับ ฮ่าๆ แล้วก็ลงเอยด้วยการ โทรหาพนักงานตัวจริง

สำหรับคืนนี้ ฝันดีเน้อครับ