เปรียบเทียบ TOEFL IELTS และรีวิวที่สอบมาค่ะ

กระทู้สนทนา
สวัสดีค่ะ จขกท.เพิ่งได้ผลสอบ IELTS รอบที่ 3 มาค่ะ หลังจากที่ทนพยายามมานาน ที่มารีวิวเพราะเคยขอพรกับพระไว้ว่าถ้าได้ IELTS หรือ TOEFL ถึงสกอร์ที่ตัวเองต้องการจะมารีวิวให้เพื่อนๆเพราะที่ผ่านมาก็สูบความรู้และประสบการณ์จากเพื่อนๆชาวพันทิปมาตลอดค่ะ

จขกท.สอบ IELTS 3 หนที่ IDP ค่ะ
ครั้งที่ 1  ได้  overall 7.0     L 8.0 R 6.5 S 7.0 W 6.0   สอบ 17 May 2014
ครั้งที่ 2  ได้  overall 7.0     L 7.0 R 6.5 S 7.0 W 6.5   สอบ 10 Oct  2015
ครั้งที่ 3  ได้  overall 7.5     L 7.5 R 8.0 S 7.5 W 6.5   สอบ 7   Nov 2015

TOEFL สอบที่ OBAC ค่ะ สอบ 1 หนเท่านั้น ได้ 88  L 22 R 19 S 20 W 27 สอบ 31 Oct 2015 คะแนนกิ๊งก๊องมาก 55555555
เกินจะทนจริงๆค่ะ ยากมากกกก ก ก ก ก ก คือ เข้าไปแล้วอ่านไม่ออกอ่ะค่ะ 555555555555555555555 ยากกว่าที่ซ้อมมากบวกกับอ่านในคอมพ์ด้วยซึ่งไม่ถนัดเลยเพราะขีดไม่ได้ ทำแล้วรู้แต่แรกเลยว่าเน่าแน่ๆ แอบภาวนาให้ถึง 90 แต่ก็ไม่ถึงจริงๆค่ะ

คงไม่ต้องบอกว่าสำหรับเรา IELTS ง่ายกว่ามาก ทั้งการเตรียมตัวและข้อสอบ ตอนเราเตรียมสอบ TOEFL ท้องเสียทุกวันเลยค่ะ คือเครียดมากเพราะดูแนวข้อสอบแล้วทำไม่ได้เลยค่ะ แม้ตัวคำถามจะไม่ได้ลึกเหมือนเนื้อหาที่ต้องอ่านหรือฟัง แต่พอเราฟังและอ่านไม่เคลียร์ สมองเลยตันไปก่อน 50 เปอร์เซ็นต์

จะไม่ขอ review พูดถึงแนวข้อสอบนะคะเพราะมีกระทู้รีวิวไว้เยอะแล้ว แต่จะขอให้แนวคิดไรบางอย่าง

IELTS
Listening
IELTS ไม่รู้คิดไปเองรึป่าว แต่เราว่าวันที่สอบร่วมกับ General ง่ายกว่าอ่ะ 555555555 (เพื่อนก็แอบบอกมา ไม่รู้เป็นความรู้สึกไปเองรึป่าวนะ) รอบที่ได้ 8 กับ 7.5 สอบร่วมกับ general ค่ะ วันที่ได้ 7.0 น่าจะได้สำเนียงออสค่ะ พูดเร็วมาก เข้าไปพาร์ทแรกที่ปกติเป็นพาร์ทเก็บคะแนนพลาดไปฟรี 3 ข้อค่ะ เสียดายมาก ยังไงถ้าเพื่อนๆคนไหนจะสอบก็ลองเลือกวันที่สอบกับ general ก็ได้นะคะ 55555 ไม่เสียหาย
>>เราเขียนตัวพิมพ์ใหญ่หมด<<

Reading
รอบแรกทำไม่ทันไปประมาณ 6-7 ข้อค่ะ แบบมั่วหมดเลย ครั้งที่ 2 ทำได้ค่ะ แต่คะแนนได้เท่าเดิม ทุกวันนี้ก็งงมากว่าทำไม ครั้งที่ 3 ความรู้สึกทำได้เหมือนครั้งที่ 2 และคะแนนเพิ่มขึ้นตามความรู้สึกค่ะ วิธีอ่านให้ทันเราไม่มีเทคนิค นอกจากตอนซ้อมจับเวลาให้ทันเองค่ะ พยายามทำให้ได้ แรกๆก็ยังไม่ทันค่ะ เลยไป 15 นาทีแล้วก็ค่อยๆลดจนวันที่ได้สกอร์ 8 เสร็จก่อนประมาณ 7 นาทีค่ะ
>>เราเขียนตัวพิมพ์ใหญ่หมด และข้อสอบ 90 เปอร์เซ็นต์เรียงตามลำดับ บางข้อเท่านั้นที่กระโดดไปมาค่ะ ดังนั้นถ้าหาข้อ 1 และ 3 เจอแล้ว ข้อ 2 ปกติจะอยู่ระหว่าง 1 กับ 3 ค่ะ แต่ข้อ 2 อาจเป็น not given ซึ่งถ้าเป็นจริง มันก็จะหาใน psg ไม่เจอ อยากเตือกว่า ถ้าหาอะไรไม่เจอก้อย่าไปเสียเวลาหามันนานก็ได้ค่ะเพราะมันอาจเป็น not given และเราเขียน TRUE, FALSE, NOT GIVEN เต็มคำค่ะ ไม่ได้เขียนแค่ T, F, NG อาจจะทำได้เหมือนกันแต่เราเอาชัวร์ค่ะ<<

Speaking
พูดอย่าหยุดอ่ะค่ะ ครั้งที่ 1 ตื่นเต้นมากกก จำได้ว่าระรานเพื่อนที่เคยสอบไปสุดๆ ปรากฏว่า examiner ใจดีมาก เราตื่นเต้นจนคิดคำว่าตะวันออกเฉียงเหนือไม่ออก 5555555 examiner ก็ต่อให้ค่ะ ครั้งที่ 2 กลางๆค่ะแต่พูดวนไปหน่อยตรงพูดพาร์ท 2 ที่พูด 2 นาที ครั้งที่ 3 เราว่าเราได้ examiner ใจดีด้วย เป็นวัยรุ่น ดูเขาไม่ซีเรียสเลยว่าเราจะพูดอะไร เขาพยักหน้าๆแล้วก็ดูขำเราตลอดเวลา คะแนนเลยขึ้นและที่สุดของความโชคดีคือ ตรงพูด 2 นาทีได้หัวข้อเดิมเหมือนครั้งที่ 2 ค่ะ เรื่อง favourite movie ค่ะ ตอนเห็นข้อสอบตกใจมาก เราเห็น examiner เปิดหนังสือสุ่มหัวข้ออ่ะค่ะ ดังนั้นลองเตรียมๆไปดูก็ได้นะคะ คือถ้าได้อันเดิมเหมือนเราคือแจ๊กพอตแตก ครั้งที่ 3 นี่ตอนพูด 2 นาทีเราไม่พูดวนเลยค่ะ และน่าจะเป็นที่มาของคะแนนที่เพิ่มขึ้นด้วย

Writing
ครั้งที่ 1 เขียนแบบไม่รู้เรื่องเลยค่ะ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าควรจะเขียนยังไง เข้าไปดุ่มๆ คะแนนก็ 6.0 ตามสภาพ 555 คร้งที่ 2 เตรียมไปมากขึ้น ดูไปว่าต้อง pattern ยังไง ต้องมี counter argument ใน Task 2 ไรงี้ ครั้งที่ 3 พยายามโฟกัสไปที่คำสวยหรูแต่คะแนนก็ไม่ขึ้นอ่ะค่ะ ยอมจริงๆ ให้คะแนนโหดมากกเมื่อเทียบกับโทเฟลซึ่งเป็นพาร์ทเดียวที่เราได้คะแนนดี 5555555555555555

TOEFL
จริงๆไม่อยากรีวิวเลยอ่ะค่ะเพราะคะแนนไม่ดีเลย แย่มาก แย่กว่าที่ซ้อม ตอนซ้อมเราได้ L+R 25 อ่ะ แต่พอไปทำเหลือ 19 กับ 22 5555555555 สอบครั้งแรกและคงเครียดด้วยอ่ะค่ะ ตอนสอบเสร็จอยากร้องไห้ พาลหมด ได้สอบที่ OBAC ซึ่งติดสนามบินมาก ได้ยินเครื่องบินแน่นอนค่ะ แต่หลักๆคือตัวเองทำไม่ได้เองนะ แต่พอมีเครื่องบินด้วยยิ่งโมโห 555555555555555 สอบ 4 ชั่วโมงทรมานมาก ทุกพาร์ทติดกันหมดจนจะเป็นบ้าค่ะ ทำ reading ไม่ได้แต่แรกก็เสียสมาธิไปหมดเลย

ขอรีวิวสถานที่สอบเป็นหลักนะคะ เพราะคุณภาพงานไม่มีอะไรจะรีวิว 5555555555555
Listening
นอกจากฟังออกบ้างไม่ออกบ้างแล้ว หูฟังมันเด่ๆอ่ะค่ะ ฟังไม่ถนัดเลยแม้จะเปิด volumn ดังสุดแล้วก็ตาม ฟังไม่ถนัดเหมือนที่บ้านซึ่งเอาหูฟังยัดหูเลย

Reading
เราได้ตัวเพิ่มเป็น reading จึงต้องทำ 4 psg ทรมานมากกกกกกกกกกกกกก ยาวมากก เรื่องนึงเป็นเรื่องโครงสร้างกระดูกช้างไรเนี่ยค่ะ อ่านไม่ออกเลยอ่ะ 555555555 แต่ตรงคำศัพท์ไม่ยากเลยนะคะที่เลือก synonym อ่ะ เราว่าเราตอบถูกหมด แต่ตรง paraphrase และสรุปความที่คะแนนมากสุดนี่ลงเหวค่ะ ตัวเลือกยาวมากก เรามั่วเกือบหมดเลยอ่ะเพราะทำไม่ทัน ไม่ทันแบบไมได้อ่านช้อยส์ทุกอันอ่ะค่ะ ทุกอย่างดูยากกว่าที่ซ้อมไปหมด แหะๆ

Speaking
ไมค์ไม่มีปัญหาอะไรค่ะ ติดดี ตอนสอบเสียงตีกันนิดหน่อยแต่ไมได้รบกวนอะไร เราเกลียดเสียงปี๊บๆมาก please prepare your answer after the beep please begin to answer after the beep เนี่ย เหมือนจะทำให้ประสาทเสียค่ะ กดดันมาก แต่ใครจะเอาดีทางโทเฟลก็ต้องชนะเสียงนางไปให้ได้ค่ะ pattern ที่เราว่าดีคือ notefull ค่ะ ดีงามจริงๆ เราเอาเทมเพลตเขามาตอบเลยไม่งั้นคะแนนคงแย่กว่านี้แน่

Writing
เราก็เอาเทมเพลตมาจาก notefull อีกอ่ะค่ะ โจเซฟดีงามจริงๆ เราว่าใครเตรียมสอบ TOEFL ดู notefull เลยค่ะ เป็นประโยชน์มากๆ เราว่าพาร์ทนี้ต้องเขียนเยอะๆอ่ะ ยิ่งเยอะยิ่งได้คะแนนเยอะ เพื่อนเราเขียน Task 1 ไปเกือบ 400 คำ Task 2 ไปเกือบ 600 คำ ได้ 29 อ่ะค่ะ เราเขียน Task 1 300 กว่า Task 2 400 ปลายๆเกือบ 500 ค่ะ ได้ 27 ค่ะ เราว่าถ้าเอาเทมเพลตจาก notefull มาและเขียนออก เราว่า 25 อัพชัวค่ะ ไม่ต้องประโยคสวยหรูมากแต่ก็ไม่ใช่ทื่อๆขนาด present simple หมดนะคะ

หวังว่ากระทู้จะเป็นประโยชน์มากนะคะ เราขอเป็นกำลังใจให้ทุกคนที่เตรียมสอบและกำลังจะสอบอยู่ค่ะ

ปล.กระทู้นี้ไม่ได้มีเจตนาโอ้อวดคะแนน IELTS หรือไม่สำเหนียกในคะแนน TOEFL แต่อย่างไร เราแค่อยากแชร์ประสบการ์และที่สำคัญขอพรไว้กับพระเจ้าค่ะ อย่าด่าหรือดราม่านะคะ ขอบคุณค่ะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่