..."กรรมลิขิต" คนเราหนีไม่พ้นกรรม !...

กระทู้คำถาม
ตอนเป็นเด็กๆ เคยเห็นคนที่จะไปกลั่นแกล้งคนอื่นให้ได้รับความอับอาย  แต่แล้วทำไปทำมา ปรากฏว่าตนเองนั่นแหละกลับโดนเสียเอง จึงมีคำพูดในเชิงธรรมะว่า “ทุกขะโต ทุกขะฐานัง ให้ทุกข์แก่ท่าน ทุกข์นั้นถึงตัว” แต่มีคนไปแปลงถ้อยคำให้เข้ากับยุคสมัยว่า “ทุกขะโต ทุกขะฐานัว จะเล่นตรรูดเขา เลยเข้าตรรูดตัว” ประมาณนี้..เรียกว่ากรรม !

พุทธศาสนาสอนเรื่อง “กรรม” ที่แปลว่า “การกระทำ”เป็นคำกลางๆ  ทำดีเรียก “กุศลกรรม”  ถ้าทำชั่วเรียก “อกุศลกรรม” ไม่ดีไม่ชั่วเรียกอัพยากฤต คงได้ยินตอนพระสวดพระอภิธรรมในงานศพกันบ้างเป็นภาษาบาลีว่า “กุสลา ธัมมา อกุสลา ธัมมา อพยากตา ธัมมา..” นั่นแหละ


ในคัมภีร์ชั้นสูงๆของศาสนาพุทธ ยังแยกย่อย กรรม หรือ กัมมะ ไปอีกมายหลายประการ อธิบายขยายความไปถึงการก่อกรรม ที่ประกอบไปด้วยกายกรรม วจีกรรม และมโนกรรม เรียกว่า “กรรมบถ 10 อย่าง”  ลึกซึ้งไปถึง “การรับผลของกรรม”ที่ตนเองได้กระทำไปแล้วด้วย..ชนิดลึกซึ้ง



จะรวบรัดตัดตอนพูดถึง “การรับผลของกรรม” ย่อๆ ชนิดไม่ตกยกตัวอย่าง เพราะสามารถเห็นกันได้ทุกวันๆ..สัก 2 ชนิด


คือ “ทิฎฐธรรมเวทนียกรรม” กรรมทันตาเห็นหรือกรรมที่ให้ผลชาตินี้  เรียกให้เห็นภาพก็คือกรรมติดจรวด หรือมากไปกว่านั้น ก็อาจเรียกว่า “กรรมออนไลน์”..ว่าไปนั่น


กรรมชนิดนี้ จะให้ผลในชาติปัจจุบันหรือกรรมที่ให้ผลทันตาเห็น  เป็นกรรมที่มีพลังอำนาจให้ผลในชาตินี้เลยทีเดียว ไม่มีแรงกรรมไปถึงชาติหน้าหรือชาติอื่นๆ มีทั้งที่ให้ผลทันตาภายในเจ็ดวัน (ปริปักกทิฐธรรมเวทนียกรรม) และหลังเจ็ดวันล่วงไปแล้ว แต่ไม่ข้ามภาพข้ามชาติคงให้ผลเฉพาะในชาตินี้เท่านั้น (อปริปักกทิฐธรรมเวทนียกรรม)


ส่วนอีกกรรม ที่ให้ผลชาติหน้า เรียกว่า “อุปปัชชเวทนียกรรม” กรรมที่ให้ในชาติหน้า เป็นกรรมที่บุคคลใดได้กระทำแล้วย่อมมีพลังอำนาจให้ผลในชาติหน้า อันเป็นชาติที่ 2 ต่อจากชาตินี้ เป็นกรรมที่ให้ผลหนักหน่วง รุนแรง ไม่ว่า “กรรมดำ”หรือ “กรรมขาว”ที่ได้กระทำลงไป ประเภทว่า ถ้าทำดีก็ให้ผลดีอย่างแรง ถ้าทำชั่วก็ให้ผลชั่วอย่างมหาศาล..ทบทวีคูณ


ส่วน คำว่า“พรหมลิขิต” นั้น เป็นความเชื่อแบบฮินดู หรือพรามหณ์ ที่เชื่อว่าชีวิตที่เกิดมานั้นแล้วแต่พระพรหมจะลิขิตให้เป็นไป  สับสนปนเปมากับศาสนาพุทธ แนบชิดชนิดแยกไม่ออกถ้าไม่ศึกษาว่าอันไหนพุทธ อันไหนพรามหณ์ เช่น พิธีตั้งศาลต่างๆ หรือยกศาลอะไรทำนองนั้น..คงคุ้นเคยกันดี !


คนเราหนีกรรมไปไม่พ้น ไม่ว่ากรรมดีหรือกรรมชั่ว สุดแต่ว่า “กรรมที่ทำลงไปนั้น”จะให้ผลทันตา หรือรอให้ผลเมื่อหมดบุญไปแล้ว หรือรอชาติหน้า แต่ทุกคนต้องได้รับกรรมทั้งนั้น..ทุกคน !


นี่คือพุทธภาษิต ที่สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านตรัสสอนไว้..ฟังนะ


น อนฺตลิกฺเข น สมุทฺทมชฺเฌ น ปพฺพตานํ วิวรํ ปวีสํ
น วิชฺชตี โส ชคติปฺปเทโส   ยตฺรฏฺฐิโต มุญฺเจยฺย ปาปกมฺมา.


บุคคลที่ทำกรรมชั่วไว้ หนีไปแล้วในอากาศ ก็ไม่พึงพ้นจากกรรมชั่วได้, หนีไปในท่ามกลางมหาสมุทร ก็ไม่พึงพ้นจากกรรมชั่วได้, หนีเข้าไปสู่ซอกแห่งภูเขา ก็ไม่พึงพ้นจากกรรมชั่วได้, (เพราะ) เขาอยู่แล้วในประเทศแห่งแผ่นดินใด พึงพ้นจากกรรมชั่วได้, ประเทศแห่งแผ่นดินนั้น หามีอยู่ไม่.



ไม่วันนี้ ก็พรุ่งนี้ หรือวันต่อๆไป ไม่ว่าในชาตินี้ หรือชาติไหน  ไม่ว่าจะลึกลับซับซ้อนสักเพียงไหน  ถ้าว่าเมื่อกรรมเริ่มส่งผล  คนเราก็หนีกรรมไปไม่พ้น..เชื่อเถอะครับ !!!
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่