หนึ่งวันในเกียวโตบนจักรยาน ปั่นชมแม่น้ำคาโมะ หลงไปร่วมเทศกาลสุดฮิปใน ม. เกียวโต รูปเยอะเขียนยาวตามเคย



                                                              พระอาทิตย์ กระทู้ก่อนหน้าของผม พระอาทิตย์

                                   "ปั่นจักรยานเที่ยวคนเดียวแบบค่ำไหนนอนนั่นจากหนองคาย รู้ตัวอีกทีไปถึงปาย"
                                                              http://ppantip.com/topic/34453956

                                                             "ปั่นจักรยานจากโอโนมิจิไปอิมาบาริ"
                                                               http://ppantip.com/topic/32997922

                                                เพจของผมเข้าไปพูดคุยกันได้ครับอัพเดตทุกวัน
                                    https://www.facebook.com/Two-Wheeled-Animal-1711013355795532/

                                             เยี่ยม อ่านแล้วชอบกดโหวตให้ด้วยนะครับ ขอบคุณครับ เยี่ยม


                                                                       ยิ้ม ต้นเรื่อง ยิ้ม
            ปีที่แล้วช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ผมมีโอกาสไปแบกเป้เที่ยวประเทศญี่ปุ่น 9 วัน แต่วันที่ประทับใจมากที่สุดวันนึงคือวันที่ได้มีโอกาสปั่นจักรยานเที่ยวในเมืองเกียวโต   ในกระทู้นี้ผมเลยเอาประสบการณ์มาฝากทุกคนกันครับ แม้เวลาจะผ่านไปปีนึงแล้วแต่ผมยัง จำทริปวันนั้นได้ค่อนข้างดี (รึเปล่า) เรื่องราวอาจจะไม่ Based on  True Story ซะทีเดียว เพราะมีการตัดต่อใหม่บ้างตามความทรงจำบอกจินตนาการของผมเอง ขอ เรียกกระทู้นี้ว่า Based on My Surreal Memories

            ในทริปนี้ผมไปกับเพื่อนผู้ชายหนึ่งคนชื่อกอล์ฟฟี่แต่มันไม่ได้มาปั่นกับผมวันนี้ เพราะมันชอบจะไปเที่ยววัดมากกว่า ในขณะที่ผมไม่ชอบเข้าวัด เลยขอตัวมันไปเช่าจักรยานปั่นดีกว่า และเผอิญโชคดีที่น้องคนนึงที่ผมบังเอิญรู้จักที่สถานีรถไฟสุราษฎร์เมื่อหลายปีก่อน พอดีนางมาเที่ยวที่เกียวโตคนเดียวเหมือนกันชื่อน้องนุช นางเป็นคนเชียงใหม่ รู้จักกันตอนที่นางแบกเป้เที่ยว และบังเอิญได้แชร์ค่าแท็กซี่จากสถานีรถไฟสุราษฎร์เข้าไปในตัวเมืองกับผม ตั้งแต่นั้นมานางกับผมก็ติดต่อกันมาตลออดทางเฟสบุ๊ค เป็นเรื่องบังเอิญมากที่เราจองตั๋วมาญี่ปุ่นในเวลาไล่เลี่ยกัน แถมมาเมืองเดียวกันอีก ผมเฟสบุ๊คไปหานางว่าตอนนี้อยู่เกียวโตพรุ่งนี้สนใจไปปั่นจักรยานเที่ยวกันไหม นางตอบโอเคทันที  คืนนั้นผมเพิ่งเดินทางมาจากฮิโรชิม่ามาพักที่โฮสเทลในเกียวโต ส่วนนางเหมือนจะจองที่พักจาก Airbnb


          ขอพูดถึงที่พักผมนิดนึง ที่พักผมเป็นบ้านของสองสามีภรรยาชาวญี่ปุ่นที่ดูแลทุกอย่างกันเอง แถมมีลูกสาวอายุสักห้าหกขวบ คอยมาช่วยโอโต๊ะซัง ทำโน่นทำนี้เล็กๆ น้อยๆ ด้วย น่ารักมาก รู้จักช่วยพ่อแม่ตั้งแต่เล็กๆ ที่นี้เป็นโฮสเทลเล็กๆ กึ่งๆ โฮมสเตย์ที่ตั้งอยู่บนเนินเขา ห้องนอนจะอยู่บนอาคารที่พักเนินเขาที่เป็นจุดสูงสุด เดินหอบกันเลยทีเดียว และห้องนอนจะแยกชายญิง ส่วนที่ทานอาหารจะอยู่ชั้นหนึ่ง เดินลงมาหน่อย มาดูบรรยากาศกันครับ อ้อราคาสนนอยู่ที่คนละ 3,000 เยนต่อคนครับ

ทางขึ้นโฮสเทล


สภาพห้องนอน ผมนอนชั้นบนครับ


อีกมุม ถึงจะเป็นโฮสเทลเล็กๆ ในครอบครัวทำกันเอง แต่ทุกอย่างสะอาดดีมากครับ


โอโต๊ะซังกำลังทำอาหารเช้าให้เรากิน


เพื่อนร่วมโต๊ะหลากหลายเชื้อชาติ


อิตาดากิมัส กินแล้วนะ


ผมเป็นคนไม่กินกาแฟ เลยขอชามาแก้หนาวหนึ่งแก้ว ที่เกียวโตนี้หนาวกว่าโอซก้ากับฮิโรชิม่าที่ผมไปแมาก่อนหน้านี้เยอะมาก


      ทานอาหารเสร็จผมก็กลับขึ้นไปเก็บของอาบน้ำเตรียมตัวไปเจอนัดกับน้องนุชที่นัดกันไว้สิบโมงหลังสถานีรถไฟเกียวโต ไกล้ๆ กับเกียวโตทาวเวอร์ ก่อนไปก็ได้พูดคุยกับเพื่อนร่วมห้องเป็นชาวฟินแลนด์ เราคุยกันพอหอมปากหอมคอ ได้ความว่ามาเที่ยวกับแฟน แฟนนอนห้องผู้หญิง และจะเที่ยวญี่ปุ่นอีกประมาณเดือนนึง แล้วจะมาเมืองไทย ผมกับเพื่อนเลยให้เฟสบุ๊คไว้ บอกว่ามาเมืองไทยให้บอกมา จะพาไปเที่ยวใน กทม

       รูปของผม และกอล์ฟเพื่อนผม และ มิโกะ เพื่อนใหม่ คนฟินแลนด์นี้ชื่อคล้ายคนญี่ปุ่นเลย (ผมไปอ่านค้นดูทำให้ทราบว่าเขามีรากภาษาเดียวกัน)


       รูปล่างคือตอนที่ผมกับกอล์ฟมาเจอกับมิโกะอีกครั้งราวสองเดือนต่อมาที่ กทม เราพามิโกะเดินเที่ยวย่านเกาะรัตนโกสินทร์ ตอนเรากินข้าวกับมิโกะผมถามว่าเขาทำงานอะไรถึงเที่ยวปีละหกเดือนยาวๆ แบบนี้ คำตอบผมนี้อึ้งเล็กน้อยเขาบอกว่าเป็นช่างก่อสร้าง เขาทำงานหนัก แต่ก็เงินดี ทำให้สามารถเที่ยวได้ คิดแล้วสงสารคนไทยเหมือนกันอาชีพนี้ในเมืองไทยรายได้ไม่มาก ทั้งที่ก็ต้องใช้ทักษะไม่น้อย ไม่มีโอกาสได้ออกไปดูโลกกว้างแบบมิโกะ อีกอย่างเขาบอกว่าค่าครองชีพที่ฟินแลนด์แพงมาก เขาหลบมาอยู่ประเทศแถบนี้ถูกกว่าอีก



วิวจากระเบียงที่พัก อย่างที่บอกว่าที่พักผมอยู่บนเนินเขาที่ล้อมรอบตัวเมืองเกียวโตเหมือนแอ่งกะทะ เลยตื่นมาปุ๊บก็เห็นวิวสวยๆ เลย อากาศวันนี้แค่ 10 องศาเท่านั้น




ใครมีบ้านอยู่แถวนี้แข็งแรงทุกคนต้องเดินขึ้นเขาทุกวัน คนที่นี้ไม่ค่อยอ้วนกันเลย เพราะเดินกับปั่นจักรยานกันเยอะมาก


วิวเมื่อค่ำที่ผ่านมา


         ออกจากโฮสเทลผมก็เดินไปขึ้นรถเมล์เพื่อไปสถานีรถไฟโตเกียวเพื่อไปเจอน้องนุชตามที่นัดไว้ ผมมาอยู่เกียวโตสองวันเริ่มขึ้นรถเมล์ชินแล้ว แต่ก็ไม่ชอบหรอก เพราะผมชินกับจักรยานมากกว่า (ผมอยู่ กทม ปั่นจักรยานไปทำงานทุกวันไปกลับ 30 กิโล) และวันนี้ก็จะได้ปั่นแล้ว คันขามาก ฮาๆๆ ผมมาถึงก่อนน้องนุชเล็กน้อย เรานัดกันตรงท่ารถเมล์ ผมเลยถ่ายรูปโตเกียวทาวเวอร์เล่นพลางๆ

แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่