เที่ยวรอบกาญจน์ 3 วัน 2 คืน พร้อมเดอะแก๊งงบเพียง 1,500 บาท

กระทู้สนทนา

สวัสดีครับเพื่อนๆชาว พันทิป ทุกท่านผมจะมาเล่าประการณ์ การเดินทางเที่ยวเมืองกาญจนบุรีในราคาแสนประยัด เที่ยวจุใจ 3 วัน 2 คืนให้ฟังครับ เรื่องมันมีอยู่ว่า แก๊งพวกผมบางคนเรียนจบแล้วกำลังจะไปฝึกงานกันพวกผมจึงวางแผนการเที่ยวกันทั้งแก๊ง แรกเริ่มเดิมทีทั้งแก๊งมีทั้งหมด 11 คน (มั้ง) แต่ฝึกงานกันคนละจังหวัด (เพื่อนผมฝึกงานแถวบ้านนอกน่ะ 55555 แซวเพื่อน) ทำให้สามารถรวมตัวกันได้เฉพาะคนที่อยู่ใน กทม. ตอนนี้ยอดที่ไปเหลือเพียง 5 คน  วันที่ 2 พ.ย. 2558  ตอนเย็นก็เริ่มรวมตัวกันที่บ้านไอ้ปอนด์ใน กทม. สะใจมากวันนั้นเจ้าของห้อง (ไอ้เปียกปอนด์) นอนบนโซฟานอกห้อง เพื่อนๆนอนบนเตียงเปิดแอร์ในห้อง ฮ่าๆๆ แต่มีหนึ่งคนไปรอที่ กาญจน์แล้วคือ ลูกน้ำ  (เขามีญาติที่นั้นนะ) ปายยยยยย ได้เวลาออกเดินทาง
     ณ 04.00 น. เป็นช่วงเวลาที่ทุกคนนัดกันตื่น แต่ด้วยแรงดึงดูดจากเตียงนอนที่มีมากเกินไปทำให้ทุกคนพร้อมเดินทางเกือบ 06.00 น. และเมื่อทุกอย่างพร้อมก็ขึ้นรถกันเลย  Toyota Yaris รถไอ้ปอนด์  <<เอ้ๆๆ ลืมบอกไปเลยเราไปเที่ยวแบบนี้มีรถขับไปเอง เราควรซื้อเสบียงไปด้วยนะครับจัดเลยครับบ่ายวันที่รวมตัวไป บิ๊กซี แม็กโคร โลตัส ครับซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้า เครื่องดื่ม เครื่องใช้ ขนม บลาๆๆๆ ออกตังค์กันคนละ 500 บาทครับจ่ายไปวันนั้น 1,000 บาทผมจะตีเป็นตัวเลขกลมๆนะครับดูง่ายๆ แต่ก็ยังซื้อของไม่ครบ ไม่เป็นไรซื้อตอนเดินทางก็ได้ 5555 อ่อใช่เติมน้ำมันด้วย 500 บาทเตรียมเดินทางพรุ่งนี้ เหลือเงินกลุ่ม 1,000 บาทแฮร่ๆๆ>>

     ป่ะเดินทางกันต่อยังไม่ถึงไหนเลยโม้เยอะไปหน่อย (แต่ยังไม่หมดนะนี่ยังไม่ได้เล่าตรงที่เปิดประตูบ้านออกมาหมาที่บ้านวิ่งหนีออกไปข้างนอกเสียเวลาเดินหากันเกือบ  ชม. เลยนะเนี้ยฮ่าๆ) สายแบบสายมากๆหล่ะเดินทางกัน เราเดินทางออกจาก กทม. น่าจะใช้เวลา ชั่วโมงนิดๆนะ ถึงกาญจน์แล้วจร้า นัดเจอลูกน้ำที่ศาลหลักเมือง พอถึงก็มีข้าวเหนียวหมูทอดจาก คุณแม่เพื่อนรอเลยคือทุกคนหิวมาก โซ้ยกันข้างถนนเลยครับ พออิ่มก็ได้เวลาเข้าไปไหว้ศาลหลักเมืองหล่ะ  ขอพรกันก่อนเมื่อทุกคนพร้อมก็เลยกางแผนที่ออกมาเพื่อเลือกว่าจะไปไหน (ความตั้งใจเดิม ไปเขื่อน ล่องแพ เล่นน้ำตก บลาๆๆ แพลนมาจากบ้านมาดูกันว่าจะได้ไปไหม) แต่ตอนนี้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงได้ทุกๆ 5 นาที สถานที่แรกที่เลือกไปคือ “สะพานข้ามแม่น้ำแคว”

     มันอยู่ใน อ.เมือง ใกล้ที่สุดขับรถแปบเดียวก็ ว๊าวววว!! ถึงแล้วที่แรก ฮึๆๆ ตื่นเต้นเยอะ แน่นอนครับที่นั้นมีของขายเยอะพอสมควร ของกิน ของฝาก ของที่ระลึก (ฝากไว้ครับใครอยากซื้อหมวกแว่น มาหาซื้อแถวที่เที่ยวได้นะครับดูเหมือนจะถูกกว่าคือเขาลดราคาแข่งกันนะครับ ผมซื้อหมวกมา 250 มาเจอที่นี้ 100 เงิบสิครับฮ่าๆๆ) จัดเลยครับถ่ายรูปกันจนความจำเครื่องเกือบเต็มฮ่าๆลืมไปเลยว่านี่มันที่แรก มีรถไฟวิ่งด้วยนะพอรถไฟวิ่งผ่านตื่นเต้นยังกับไม่เคยเห็น นี่เลย บรรยากาศ!!

     หลังจากเก็บภาพบรรยากาศกันอย่างสาสมใจแล้วนั้น ก็ถึงเวลาใกล้เที่ยง ได้เวลาออกเดินทางไปสถานที่ต่อไปครั้งนี้ทุกคน ตกลงกันจะไป “สะพานมอญ” ยกเว้นผม คือไม่รู้ว่าเพื่อนตกลงกันตอนไหนรู้แค่ว่าต้องขึ้นรถ 555

     ตลอดการเดินทางสนุกมากวิวด้านข้าง มีธรรมชาติ ต้นไม้ ภูเขา ทำให้รู้สึกเหมือนชีวิตกำลังช้าลง ร่างกายกำลังชาร์ตแบต แต่มองนานไปเริ่มเวียนหัว เพราะรถเคลื่อนที่ตลอดเวลา ก็หันมาเม้ามอยกับเพื่อน กินขนม นินทาชาวบ้าน ชีวิตนี้ เพอร์เฟค 55555555 จนถึงช่วงเวลาที่ต้องขับรถขึ้นเขา ช่วงนี้ทุกคนเริ่มง่วงและหิวไปพร้อมๆกัน แต่จอดไม่ได้สองข้างทางมีแต่ป่ากับภูเขา ทำให้เพื่อนทุกคนพร้อมใจกันหลับ ยกเว้นผมที่นั่งหน้าและคนขับรถที่หลับไม่ได้จริงๆ (หลับมารถลงเขาสิครับท่านผู้ชมฮ่าๆ)

     พอทางเริ่มชันขึ้นเรื่อยๆทุกคนก็ถยอยตื่นครับ ไม่ตื่นได้ไงรถจะขึ้นเขาไม่ไหว ดังอืดๆๆ วิ่งที่ความเร็ว 25 กม./ชม. เนื่องจากของบนรถเป็นลังๆก็หนัก คนก็หนัก (อิอิเป็นลังๆ) ลุ้นกันขี้จะแตกฉี่จะราด ถนนก็โค้งเยอะแถมชันมาก (ผมนี่เตรียมเลยถ้ารถเริ่มไหลลงเขาผมกระโดดคนแรกเลยออกง่ายไงนั่งหน้าข้างคนขับ คิดไว้ว่ากระโดดออกไปหาก้อนหินมาหยุดล้อแต่ถ้าไม่อยู่ กูก็รอดหล่ะว่ะ คิดในใจ) หลังจากเสียงตะโกน เสียงดังโวยวายลุ้นรถปีนเขาเงียบลงเราก็มาถึง อ.สังขละบุรี ก็เป็นเวลาประมาณบ่ายสองนิดๆ ใช้เวลาขับรถ 2 ชม. กว่าๆ (แนะนำครับใครจะมาสะพานมอญแนะนำให้มาถึงประมาณ สี่ห้าโมงเย็นนะครับ เพราะช่วงบ่ายเงียบมาก แวะเที่ยววัดสวยๆ  เล่นน้ำตกเย็นๆ  ชมวิวดื่มด่ำกับธรรมชาติก่อนก็ได้แยะมาก ตลอดเส้นทางเลย  แต่ที่เราไม่แวะเพราะตั้งใจจะไปกินข้าวกันที่นั้น) คำถามแรกที่เราสงสัยมีปั้มน้ำมันไหม น้ำมันรถจะหมดแล้ว พอดีเลยขับผ่านปั้มรู้แล้วว่ามีแต่แวะไม่ทันเลยผ่านมาก่อน  คำถามที่สองตามมาติดๆเลย คืนนี้พักที่ไหน ไม่มีการจอง ไม่ตรงตามแผน ทุกคนพร้อมใจกันไปตายเอาดาบหน้ามุ่งตรงไปที่สะพานมอญก่อน สถานที่ที่ทุกคนอยากไป 5555 แล้วทุกคนก็หมดห่วงแถวนี้ที่พักเยอะเลย มีทั้งเป็น รีสอร์ท โรงแรม แต่เราเลือกนอนบนแพเอาบรรยากาศครับ แพเยอะมากหลายเจ้าแต่เราเลือกแพที่มีที่จอดรถให้ครับ คือแพมิตรสัมพันธ์

     พอจอดรถก็ลองไปถามราคาแพครับ 1 หลัง 800 บาทถูกมาก เลยไปดูแพบ้านหลังนั้น บรรยากาศดีมาก มองไปเห็นสะพานมอญ เล่นน้ำได้ มี 1 ห้องนอน นอนได้ 5 คน มีผ้าห่ม หมอน ที่นอนให้ พัดลมอีก 1 ตัว มีห้องน้ำในตัวด้วยนะ (อ่อแนะนำให้ไปช่วง จันทร์- ศุกร์ คนจะไม่เยอะต่อรองราคาก็จะง่ายขออะไรก็ได้ คือ พวกผมขอพัดลมเพิ่มอีกตัวนะ 55555)

     แต่ยังไม่จ่ายเงินนะครับบอกพี่เขาว่าจะมาอีกรอบ ไปหาของกินก่อนคือหิวมาก แต่ที่นั้น ก็มีร้านขายของ ร้านขายข้าว เหล้าเบียร์ มีคาราโอเกะด้วยบนแพ แต่เขาเปิดเย็นๆ เลยไปหาข้าวกินกันก่อน ขับไปสักพักเจอร้านส้มตำจัดเลยครับ หิวโซมาก ร่างกายต้องการปลาร้า (ผมก็บอกเพื่อนแล้วว่าแพ้ปลาร้าแต่ขัดเพื่อนไม่ได้จริงๆ 55555 ) ตั้ม!! จ่ายค่าข้าวรอบนี้ไป ประมาณ 500 บาท ตอนนี้เหลือเงินกลุ่มอยู่ 500 บาทแน่นอนเงินก่อนนี้ต้องเอาไปเติมน้ำมัน เลยต้องออกเพิ่ม อีกคนละ 500 จร้า เดินทางไปเติมน้ำมันเรียบร้อยมาเช็คเงินกลุ่มที่เหลือกัน ตอนนี้เหลือที่รวมกันใหม่คือ 2,500 บาท ยังๆไม่หมดเข้า 7-11 และจ่ายเงินเพื่อนที่ออกค่าซื้อของมาตลอดการเดินทาง คือแวะซื้อตลอดทางอ่ะ 555 ก็หายไปอีก 500 เหลือ 2,000 บาทแล้วจร้า เที่ยวต่อได้ ตอนนี้เวลาก็ล่วงเลยมาจะถึง สี่โมงเย็นทุกคนไปจ่ายค่าแพบ้าน 800 และจ่ายค่าล่องเรือไปวัดด้วยอีก 300 ไปวัดเดียวนะครับ ถ้าไปสามวัดจะเป็น 500 บาทแต่เราจะรีบกลับมาเล่นน้ำที่แพบ้านของเราเลยเลือกวัดเดียว โอ๊ะโอ เงินกลุ่มเหลือ 900 แล้วครับ

     นัดเรือมารับที่แพ 16.30 น. พวกผมเลยไปขนของจากรถมาไว้ที่แพ เย้ถึงเวลาล่องเรือ อือฮือบรรยากาศโคตรได้ มีไกด์ชาวมอญอายุ 9 ปีคอยแนะนำสถานที่และเป็นกัปตันเรือด้วย 5555 น้องน่ารักมากพูดเหมือนถูกโปรแกรมมา พูดอย่างเดียวไม่สนใจคำถามเลย แปบเดียวก็ถึง วัดจมน้ำ สามารถขึ้นไปไหว้กราบสักการะพระพุธรูปบนนั้นได้ด้วย ที่นั้น ก็จะมีเด็กน้อยชาวมอญมารอขายดอกไม้เต็มเลย เราก็จะได้ยินการสนทนาที่เรา มึนงง อยากรู้ว่าเขาคุยอะไรกัน (ต่อมเผือกทำงานแต่ฟังไม่รู้เรื่อง ก็น้องเขามองเราแล้วก็พูดกันนิใครจะไม่อยากรู่เล่า 5555) ได้เวลาขึ้นเรือกลับ ขากลับนี่ฟิลสุดๆ น้องคนขับเรือก็น่ารัก จอดเรือให้ซึมซับกับธรรมชาติด้วย หลังจากนี้จะให้ภาพอธิบายความรู้สึกของมันเองนะครับ  (บอกเลยใครมาแล้วไม่ล่องเรือเวลานี้พลาดมาก)

     ใช้เวลาประมาณเกือบชั่วโมงก็ล่องเรือเสร็จก่อนจะถึงฝั่ง เราก็นั่งถามโน้นนี่นั้นน้องคนขับเรือกับน้องไกด์ชาวมอญ จนรู้ชื่อน้องไกด์ว่า ชื่อน้องเอ็มร้อย น่ารักดี และน้องคนขับเรือไม่ได้ถามแต่รู้เรื่องที่ต้อง ว๊าววววว คือน้องพูดได้  5 ภาษา โอ้ม่ายก๊อด อายน้องเลย แต่ไม่มีภาษาอังกฤษนะ หลังจากขึ้นฝั่งติดใจน้องเอ็มร้อยเลยให้ทิปไปน้องเลยลงมานำเดินเที่ยวต่อบนบก เสียอีกหลายบาทเลยทีนี้ 555555

     เวลาประมาณ 17.30 น. ขึ้นจากเรือมาเดินเที่ยวฝั่งมอญ ของพื้นบ้านราคาไม่แพงราคาต่อรองได้เยอะมาก ชอปปิ้งกระจายสิครับลืมไปเลยว่ารีบจะกลับไปเล่นน้ำที่แพบ้าน (เงินชอปปิ้งนี้ส่วนตัวนะครับ 555 )

     ตอนเดินกลับพระอาทิตย์ตกดินโอ้แม้เจ้า บรรยากาศบนสะพานมอญ เกินจะบรรยายจริงๆ ยังเจอหนุ่มน้อยชาวมอญคนดังที่คอยดูแลนักท่องเที่ยวเดินอยู่บนสะพานน้องเก่งมาก แต่งตัวแบบชาวท้องถิ่นน้องเล่าให้ฟังน้องเป็นโรคธารัสซีเมียน่าสงสารเลยที่นี้ก็ล่วงทิปให้น้องอีก น้องเล่าถึงประวัติสะพานมอญได้แปะมากใครไปที่นั้นอย่าลืมใช้บริการน้องนะครับ เรากลับมาชื่นชมบรรยากาศของเราต่อ ตามรูปเลยจร้า


<<คนเล่ากำลังสนุก เดี๋ยวมาเล่าต่อนะครับ 5555555 คนเล่าโม้เก่งไปหน่อยเล่าไปสนุกไป>>
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่