ทริปนี้เกิดขึ้นจากอารมณ์ล้วนๆ เผลอไผลไปสอยโปรหางแดง ดอนเมือง-หาดใหญ่ แบบไปแล้วต้องกลับ
สอยกันแบบข้ามปีข้ามชาติ นานจนแบบ ห๊ะ อะไรนะ เอาจริงดิ เอาไงดีๆๆๆ เอางี้ หาแนวร่วมดีกว่า จะไปคนเดียวก็ใช่เรื่อง
เรามันเป็นคนมีเพื่อน เราต้องชวนเพื่อน 555 ไปๆมาๆ สรุปได้มาทั้งหมด 9 คน หลีเป๊ะจึงบังเกิดขึ้นได้ซักที
สิ่งที่ทำการจองล่วงหน้าก่อนออกเดินทางจริง
- ตั๋วเครื่องบินไปแล้วต้องกลับ (สนามบินหาดใหญ่หรือตรังก็ได้นะ แต่หาดใหญ่แลดูหารถไปท่าเรือง่ายกว่า)
- จองที่พัก (จากการสังเกตของเรา ที่พักส่วนใหญ่บังคับให้ต้องนอนพักติดกัน 2 คืน)
- จองรถตู้ให้มารับที่สนามบินเพื่อไปส่งที่ท่าเรือปากบารา (จริงๆใครไม่จองรถตู้สามารถนั่งรถสองแถวหน้าสนามบิน 30 บาทไปลงตลาดเกษตร แล้วต่อรถตู้อีกคนละ 100 ไปลงท่าเรือปากบาราได้นะ) แต่เนื่องจากของเราสมาชิกเยอะ เราเลยใช้วิธีการเหมารถตู้เลย
- จองเรือเฟอร์รี่สปีดโบ๊ท ไป-กลับ (จองพร้อมรถตู้เลย)
Day 1 : 12.11.2015
ได้ข่าวว่าจองไฟล์ทบินรอบ 6.30 น. แล้วอะไรดลใจให้มาถึงดอนเมืองตอนตี 2 ครึ่ง ... คือออองี้ ขึ้นเครื่องครั้งแรกไง
เลยตื่นเต้นไปหมด ปกตินี่นั่งรถทัวร์นะ อิอิ ทำการบ้านมาด้วยละว่านั่งตรงไหนวิวดี ติดปีกเครื่องนิดๆพอเซ็กซี่
มาถึงสนามบินหาดใหญ่ 8 โมงตรงเป๊ะ รถตู้ที่ทำการจองไว้ล่วงหน้าก็มารอรับ ให้เดินออกประตู 8
(ก่อนเดินทาง 1 วันคนขับรถจะโทรมาคอนเฟิร์มละ) นั่งเขย่าหัวไป 2 ชม. พอถึงท่าเรือ เราก้รีบแจ้นไปบริษัททัวร์
ที่เราทำการจองรถตู้และเรือเฟอร์รี่เอาไว้ เพื่อชำระเงินที่ยังค้างจ่าย แล้วก็รับตั๋วสำหรับขึ้นเรือมาด้วยเลย
จริงๆเราทันรอบเรือ 10.30 น. นะ แต่เราไม่พร้อม เราหิว เราเลยบอกบริษัททัวร์ว่าเราจะไปรอบถัดไป คือรอบ 11.30 น.
จากนั้นก็ทำการเดินหาร้านข้าว แล้วก็ต่อด้วย 7-11 ซื้อน้ำเปล่ายกแพ็คตุนไป 2 แพ็ค และก็มาลีบู 1 ขวดกับน้ำสัปปะรด 2 กล่อง
ช่วงที่กำลังจะเดินเข้าท่าเรือ จะต้องผ่านอาคารเล็กๆจะมีโต๊ะขายตั๋วค่าธรรมเนียมการใช้ท่าเรือ
คนละ 20 บาท พอซื้อเสร็จเดินต่อเข้าไปที่ท่าเรือจะมีเจ้าหน้าที่ยืนตรวจอยู่ด้วย
หากต้องยืนรอขึ้นเรือ ไม่ต้องรอไกลมากนะคะ เพราะเค้าเรียกขึ้นเรือตามคิว บัตรคิวที่เราได้มา
จะมีเลขคิวเขียนชัดเจนเลย ขึ้นก่อนก็มีโอกาสเลือกที่นั่งก่อน แค่นั้นเอง
ขนาดนี่ขึ้นก่อน สรุปเรือหันหน้าหันหลังไม่รู้ทิศรู้ทาง ก้ตากแดดอยู่ดี
หลับตลอดทางที่อยู่บนเรือ 5555 หลังจากไม่ได้นอนติดต่อกันมาสิบแปดคืน เนื่องจากตื่นเต้นตามประสา คนจะได้ไปเที่ยว
สุดหล่อที่ยืนกอดเสาหลับนี่ แย่งซีนเนอะ
นั่งหลับกันไปถึงโป๊ะ ประมาณ 13.00 น. ก็ทำการซื้อตั๋วเรือหางยาว คนละ 50 บาท เสียค่าจัดการขยะ
ภายในเกาะอีกคนละ 20 บาท สบายใจกันละ ก็รอคิวขึ้นเรือหางยาว ส่งถึงหน้าที่พักกันเลยเทียว
[CR] >>> First time in Lipe … หลีเป๊ะ เตรียมตัวมา 1 ปีเต็ม นานไปไหมมมม ตอบบบ <<<
สอยกันแบบข้ามปีข้ามชาติ นานจนแบบ ห๊ะ อะไรนะ เอาจริงดิ เอาไงดีๆๆๆ เอางี้ หาแนวร่วมดีกว่า จะไปคนเดียวก็ใช่เรื่อง
เรามันเป็นคนมีเพื่อน เราต้องชวนเพื่อน 555 ไปๆมาๆ สรุปได้มาทั้งหมด 9 คน หลีเป๊ะจึงบังเกิดขึ้นได้ซักที
สิ่งที่ทำการจองล่วงหน้าก่อนออกเดินทางจริง
- ตั๋วเครื่องบินไปแล้วต้องกลับ (สนามบินหาดใหญ่หรือตรังก็ได้นะ แต่หาดใหญ่แลดูหารถไปท่าเรือง่ายกว่า)
- จองที่พัก (จากการสังเกตของเรา ที่พักส่วนใหญ่บังคับให้ต้องนอนพักติดกัน 2 คืน)
- จองรถตู้ให้มารับที่สนามบินเพื่อไปส่งที่ท่าเรือปากบารา (จริงๆใครไม่จองรถตู้สามารถนั่งรถสองแถวหน้าสนามบิน 30 บาทไปลงตลาดเกษตร แล้วต่อรถตู้อีกคนละ 100 ไปลงท่าเรือปากบาราได้นะ) แต่เนื่องจากของเราสมาชิกเยอะ เราเลยใช้วิธีการเหมารถตู้เลย
- จองเรือเฟอร์รี่สปีดโบ๊ท ไป-กลับ (จองพร้อมรถตู้เลย)
ได้ข่าวว่าจองไฟล์ทบินรอบ 6.30 น. แล้วอะไรดลใจให้มาถึงดอนเมืองตอนตี 2 ครึ่ง ... คือออองี้ ขึ้นเครื่องครั้งแรกไง
เลยตื่นเต้นไปหมด ปกตินี่นั่งรถทัวร์นะ อิอิ ทำการบ้านมาด้วยละว่านั่งตรงไหนวิวดี ติดปีกเครื่องนิดๆพอเซ็กซี่
(ก่อนเดินทาง 1 วันคนขับรถจะโทรมาคอนเฟิร์มละ) นั่งเขย่าหัวไป 2 ชม. พอถึงท่าเรือ เราก้รีบแจ้นไปบริษัททัวร์
ที่เราทำการจองรถตู้และเรือเฟอร์รี่เอาไว้ เพื่อชำระเงินที่ยังค้างจ่าย แล้วก็รับตั๋วสำหรับขึ้นเรือมาด้วยเลย
จากนั้นก็ทำการเดินหาร้านข้าว แล้วก็ต่อด้วย 7-11 ซื้อน้ำเปล่ายกแพ็คตุนไป 2 แพ็ค และก็มาลีบู 1 ขวดกับน้ำสัปปะรด 2 กล่อง
คนละ 20 บาท พอซื้อเสร็จเดินต่อเข้าไปที่ท่าเรือจะมีเจ้าหน้าที่ยืนตรวจอยู่ด้วย
จะมีเลขคิวเขียนชัดเจนเลย ขึ้นก่อนก็มีโอกาสเลือกที่นั่งก่อน แค่นั้นเอง
ขนาดนี่ขึ้นก่อน สรุปเรือหันหน้าหันหลังไม่รู้ทิศรู้ทาง ก้ตากแดดอยู่ดี
สุดหล่อที่ยืนกอดเสาหลับนี่ แย่งซีนเนอะ
ภายในเกาะอีกคนละ 20 บาท สบายใจกันละ ก็รอคิวขึ้นเรือหางยาว ส่งถึงหน้าที่พักกันเลยเทียว