ขออนุญาตระบายความในใจ เพื่อขอรับคำแนะนำจากพี่ๆ ผู้ทำธุรกิจครับ
เรื่องนี้อาจจะยาว แต่อยากเรียนปรึกษา เพราะอึดอัดใจ หดหู่ใจ และหาทางออกด้วยตัวเองไม่ได้จริงๆ
ผมทำธุรกิจสถาบันความงาม ให้บริการสักคิ้ว โดยมีช่างสักที่ฝีมือใช้ได้ ทำงานมาด้วยกันกว่า 3 ปีแล้ว
โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่เคยมีปัญหาเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเลย
วันหนึ่งมีลูกค้า สมมติว่า ชื่อ คุณเจ มาใช้บริการสักคิ้ว สักปาก สักตา กับเราไป
โดยวันแรกที่เข้ามา และก่อนกลับออกไป ลูกค้า Happy มากๆ กับการรับบริการในครั้งนี้
แต่หลังรับบริการไป 2 วัน ลูกค้าติดต่อเข้ามาด้วยท่าทีที่เปลี่ยนไป ว่า ไม่ชอบคิ้วที่สัก
ทางร้านเราจึงได้แจ้งลูกค้าว่าไม่ชอบเพราะอะไร เพราะก่อนกลับก่อนออกไป ก่อนจะถ่ายรูป After ลูกค้าก็ชอบแล้วพึงพอใจเรา
แล้วถึงปล่อยผลงานการสักให้กลับไปได้
แต่ลูกค้า เมื่อไม่ชอบแล้ว ก็ตีความอีกว่าเราผลักความผิดไปที่ลูกค้า
ทั้งที่เรายืนยันว่า เรามองว่าสวยแล้ว และ ลูกค้าก็พอใจแล้ว จึงกลับออกไป
เราได้นัดให้ลูกค้า โดยเว้นเวลาระยะห่าง พอที่จะทำซ้ำได้ เพื่อกลับมาแก้ไข และเติมสี
หลังจากนั้นประมาณเกือบ 1 เดือน ลูกค้ากลับมาเติม
มาโวยวายเรียกร้องถึงมาตรฐานคุณภาพ และได้รับการแก้ไขกับไป
โดยที่เราก็ยืนยันว่า ผลงานโอเคแล้วจึงให้กลับไป
ลูกค้าจะใช้ว่า "นี่หรอมาตรฐานของที่นี่" "นี่หรือคุณภาพ" "นี่งานของคุณเป็นอย่าง" "นี่ฉันใช้ชีวิตเป็นปกติสุขไม่ได้เลยอายมาก"
แต่เราและหลายคนก็มองว่า มันโอเคแล้วจริงๆ
ไม่นานหลังจากกลับไป ลูกค้าติดต่อมาอีกว่า ไม่พอใจในผลงาน คุณภาพผลงานเราไม่มีคุณภาพ คิ้วคนละทรง
(ซึ่งก่อนออกเราดูแล้วว่าสวยเป๊ะ จึงปล่อยผลงานออกไป ให้ลูกค้ากลับบ้าน มีถ่ายรูป After ด้วย ซึ่งถ่าไม่ผ่าน ลูกค้าไม่น่าจะออก)
ปรากฎว่า ลูกค้าเข้ามาต่อว่า ไม่พอใจในบริการ และการดูแลของเรา
พร้อมนำช่าง ซึ่งทีแรกบอกว่าเป็นญาติ เป็นช่างสัก แต่ตอนหลังบอกว่าเป็นแค่ช่างเสริมสวย มาช่วยดู ช่วยออกแบบ ช่วยชี้จุด
ซึ่งทางเราก็มองว่าก่อนหน้านั้น โอเคอยู่แล้ว เลยย้ำสี หรือ ซ้ำบางจุดที่สีจาง และเพิ่มจุดตามที่ญาติหรือช่างของลูกค้านำมาแจ้งให้ทำ
หลังจากชี้จุด ทำเสร็จ ลูกค้าก็พึงพอใจไประดับหนึ่งแล้ว แต่ไม่นานก็เป็นเช่นนั้นอีก
ล่าสุดลูกค้าต่อว่าเรื่องมาตรฐานผลงาน (ซึ่งเราไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้)
มาตรฐานบริการ (ซึ่งเราก็ยินดีดูแลแก้ไข ปรับเติมแก้ให้ตลอด) แต่รอบนี้ลูกค้าจะขอเงินที่ทำไปคืน
เราจึงนัดลูกค้าเจรจรไปตกลงที่ สน.ท้องที่
โดยทีแรกตั้งใจว่า เพื่อให้จบปัญหา เราจะคืนเงินการสักคิ้วคืนให้ลูกค้า
ทั้งที่ผลงานก่อนออกไป หรือแม้แต่ในปัจจุบัน เราก็มองว่ามันโอเคแล้วในมาตรฐานของเรา
แต่ไม่จบแค่นั้น ณ วันที่ไป สน. ลูกค้าเรียกร้องให้เราคืนเงิน พร้อมเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติม
คือ คืนเงิน พร้อมค่าสักคิ้ว สักปาก สักตา ทั้งหมด (ทั้งที่ตาติดดี) แต่ลูกค้าแจ้งว่าเป็นค่าเสียหายที่ต้องไปแก้ไข
ทั้งที่เรายังยืนยันว่าเราจะดูแลแก้ไขให้ทุกอย่าง ตามที่ลูกค้าต้องการ
ขณะที่มีประเด็นเพิ่มเติม ที่เรียกร้อง คือ สักปาก ลูกค้าบอกว่า
เราเรียกว่า "สักปากชมพู" แต่ปากทำไม ปากลูกค้า ถึงไม่เป็นสีชมพู เหมือนที่พูด คือ ลูกค้าต้องการชมพูเลย !!!!!!!!!
ซึ่งการสักปากเป็นที่ทราบโดยทั่วไป และเราแจ้งก่อนรับบริการแล้วว่า
การสักปากจะเป็นการปรับเคลียร์สีปากให้ใสขึ้น แลดูชมพูขึ้น
ซึ่งผลลัพธ์ก็ขึ้นอยู่กับสภาพแต่ละบุคคล แต่ทุกคนทุกเคสเราบริการด้วยมาตรฐานเดียวกัน
ลูกค้าก็จะฟิว พูดแต่ มาตรฐานของเรามันไม่ดี เราเอาเปรียบลูกค้า (ทั้งที่เราก็จะดูแให้จนกว่าจะพอใจ)
แล้วทำยังไงถึงไม่เอาเปรียบ ลูกค้าก็จะให้ คืนเงินพร้อมค่าเสียหาย
เลยคิดเล่นๆ ว่า ถ้าอย่างนั้นต่อไป มีคนบอกว่า ทำไปแล้วไม่ชอบ ไม่ดี (ทั้งที่เราว่าโอเคแล้ว)
แล้วลูกค้าเรียกเงินคือ พร้อมค่าเสียหายอีก เราจะอยู่ได้อย่างไร ?
ถึงตอนนี้ เลยเจอทางตัน ครับ สรุปไม่ลงตัวกัน เลยบอกลูกค้า ว่าถ้าเราเถีงกันคงไม่จบ
เจ้าพนักงานตำรวจที่ สน. ก็ทำอะไรไม่ได้ แนะนำให้ลูกค้าฟ้องร้อง และให้ศาลตัดสินเอา
เลยอยากปรึกษาทุกท่านที่ทำธุรกิจ ถ้าเจอแบบนี้ จะทำอย่างไร ไปทางไหนดี ?
แต่สิ่งที่เจอตอนนี้ คือ ลูกค้าจะเข้ามาต่อว่า (พาแฟนผู้ชายเข้ามาด้วย) ลูกค้าบอกไม่ได้มาโวยวาย แต่เสียงดังมาก
ลูกค้าท่านอื่น และพนักงาน ตกใจ ขวัญเสียกันหมด
ถ้าเพื่อนๆ พี่ๆ เป็นผม จะทำยังไงต่อไปดี ?
ความในใจของ "ผู้ให้บริการ" กับ "ลูกค้าผู้บริโภค" รบกวนปรึกษาพี่ๆ ที่ทำธุรกิจครับ
เรื่องนี้อาจจะยาว แต่อยากเรียนปรึกษา เพราะอึดอัดใจ หดหู่ใจ และหาทางออกด้วยตัวเองไม่ได้จริงๆ
ผมทำธุรกิจสถาบันความงาม ให้บริการสักคิ้ว โดยมีช่างสักที่ฝีมือใช้ได้ ทำงานมาด้วยกันกว่า 3 ปีแล้ว
โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ไม่เคยมีปัญหาเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเลย
วันหนึ่งมีลูกค้า สมมติว่า ชื่อ คุณเจ มาใช้บริการสักคิ้ว สักปาก สักตา กับเราไป
โดยวันแรกที่เข้ามา และก่อนกลับออกไป ลูกค้า Happy มากๆ กับการรับบริการในครั้งนี้
แต่หลังรับบริการไป 2 วัน ลูกค้าติดต่อเข้ามาด้วยท่าทีที่เปลี่ยนไป ว่า ไม่ชอบคิ้วที่สัก
ทางร้านเราจึงได้แจ้งลูกค้าว่าไม่ชอบเพราะอะไร เพราะก่อนกลับก่อนออกไป ก่อนจะถ่ายรูป After ลูกค้าก็ชอบแล้วพึงพอใจเรา
แล้วถึงปล่อยผลงานการสักให้กลับไปได้
แต่ลูกค้า เมื่อไม่ชอบแล้ว ก็ตีความอีกว่าเราผลักความผิดไปที่ลูกค้า
ทั้งที่เรายืนยันว่า เรามองว่าสวยแล้ว และ ลูกค้าก็พอใจแล้ว จึงกลับออกไป
เราได้นัดให้ลูกค้า โดยเว้นเวลาระยะห่าง พอที่จะทำซ้ำได้ เพื่อกลับมาแก้ไข และเติมสี
หลังจากนั้นประมาณเกือบ 1 เดือน ลูกค้ากลับมาเติม
มาโวยวายเรียกร้องถึงมาตรฐานคุณภาพ และได้รับการแก้ไขกับไป
โดยที่เราก็ยืนยันว่า ผลงานโอเคแล้วจึงให้กลับไป
ลูกค้าจะใช้ว่า "นี่หรอมาตรฐานของที่นี่" "นี่หรือคุณภาพ" "นี่งานของคุณเป็นอย่าง" "นี่ฉันใช้ชีวิตเป็นปกติสุขไม่ได้เลยอายมาก"
แต่เราและหลายคนก็มองว่า มันโอเคแล้วจริงๆ
ไม่นานหลังจากกลับไป ลูกค้าติดต่อมาอีกว่า ไม่พอใจในผลงาน คุณภาพผลงานเราไม่มีคุณภาพ คิ้วคนละทรง
(ซึ่งก่อนออกเราดูแล้วว่าสวยเป๊ะ จึงปล่อยผลงานออกไป ให้ลูกค้ากลับบ้าน มีถ่ายรูป After ด้วย ซึ่งถ่าไม่ผ่าน ลูกค้าไม่น่าจะออก)
ปรากฎว่า ลูกค้าเข้ามาต่อว่า ไม่พอใจในบริการ และการดูแลของเรา
พร้อมนำช่าง ซึ่งทีแรกบอกว่าเป็นญาติ เป็นช่างสัก แต่ตอนหลังบอกว่าเป็นแค่ช่างเสริมสวย มาช่วยดู ช่วยออกแบบ ช่วยชี้จุด
ซึ่งทางเราก็มองว่าก่อนหน้านั้น โอเคอยู่แล้ว เลยย้ำสี หรือ ซ้ำบางจุดที่สีจาง และเพิ่มจุดตามที่ญาติหรือช่างของลูกค้านำมาแจ้งให้ทำ
หลังจากชี้จุด ทำเสร็จ ลูกค้าก็พึงพอใจไประดับหนึ่งแล้ว แต่ไม่นานก็เป็นเช่นนั้นอีก
ล่าสุดลูกค้าต่อว่าเรื่องมาตรฐานผลงาน (ซึ่งเราไม่เคยมีปัญหาเรื่องนี้)
มาตรฐานบริการ (ซึ่งเราก็ยินดีดูแลแก้ไข ปรับเติมแก้ให้ตลอด) แต่รอบนี้ลูกค้าจะขอเงินที่ทำไปคืน
เราจึงนัดลูกค้าเจรจรไปตกลงที่ สน.ท้องที่
โดยทีแรกตั้งใจว่า เพื่อให้จบปัญหา เราจะคืนเงินการสักคิ้วคืนให้ลูกค้า
ทั้งที่ผลงานก่อนออกไป หรือแม้แต่ในปัจจุบัน เราก็มองว่ามันโอเคแล้วในมาตรฐานของเรา
แต่ไม่จบแค่นั้น ณ วันที่ไป สน. ลูกค้าเรียกร้องให้เราคืนเงิน พร้อมเรียกค่าเสียหายเพิ่มเติม
คือ คืนเงิน พร้อมค่าสักคิ้ว สักปาก สักตา ทั้งหมด (ทั้งที่ตาติดดี) แต่ลูกค้าแจ้งว่าเป็นค่าเสียหายที่ต้องไปแก้ไข
ทั้งที่เรายังยืนยันว่าเราจะดูแลแก้ไขให้ทุกอย่าง ตามที่ลูกค้าต้องการ
ขณะที่มีประเด็นเพิ่มเติม ที่เรียกร้อง คือ สักปาก ลูกค้าบอกว่า
เราเรียกว่า "สักปากชมพู" แต่ปากทำไม ปากลูกค้า ถึงไม่เป็นสีชมพู เหมือนที่พูด คือ ลูกค้าต้องการชมพูเลย !!!!!!!!!
ซึ่งการสักปากเป็นที่ทราบโดยทั่วไป และเราแจ้งก่อนรับบริการแล้วว่า
การสักปากจะเป็นการปรับเคลียร์สีปากให้ใสขึ้น แลดูชมพูขึ้น
ซึ่งผลลัพธ์ก็ขึ้นอยู่กับสภาพแต่ละบุคคล แต่ทุกคนทุกเคสเราบริการด้วยมาตรฐานเดียวกัน
ลูกค้าก็จะฟิว พูดแต่ มาตรฐานของเรามันไม่ดี เราเอาเปรียบลูกค้า (ทั้งที่เราก็จะดูแให้จนกว่าจะพอใจ)
แล้วทำยังไงถึงไม่เอาเปรียบ ลูกค้าก็จะให้ คืนเงินพร้อมค่าเสียหาย
เลยคิดเล่นๆ ว่า ถ้าอย่างนั้นต่อไป มีคนบอกว่า ทำไปแล้วไม่ชอบ ไม่ดี (ทั้งที่เราว่าโอเคแล้ว)
แล้วลูกค้าเรียกเงินคือ พร้อมค่าเสียหายอีก เราจะอยู่ได้อย่างไร ?
ถึงตอนนี้ เลยเจอทางตัน ครับ สรุปไม่ลงตัวกัน เลยบอกลูกค้า ว่าถ้าเราเถีงกันคงไม่จบ
เจ้าพนักงานตำรวจที่ สน. ก็ทำอะไรไม่ได้ แนะนำให้ลูกค้าฟ้องร้อง และให้ศาลตัดสินเอา
เลยอยากปรึกษาทุกท่านที่ทำธุรกิจ ถ้าเจอแบบนี้ จะทำอย่างไร ไปทางไหนดี ?
แต่สิ่งที่เจอตอนนี้ คือ ลูกค้าจะเข้ามาต่อว่า (พาแฟนผู้ชายเข้ามาด้วย) ลูกค้าบอกไม่ได้มาโวยวาย แต่เสียงดังมาก
ลูกค้าท่านอื่น และพนักงาน ตกใจ ขวัญเสียกันหมด
ถ้าเพื่อนๆ พี่ๆ เป็นผม จะทำยังไงต่อไปดี ?