ช่วยแชร์ให้หน่อยค่ะไม่อยากให้ใครตกเป้นเหยื่อค่ะคือตอนนี้สถาพทางบ้านลำบากมากค่ะอยากร้องเรียนธนาคารเกียรตินาคินค่ะคือตั้งแต่ปี2554ค่ะจนตอนนี้4ปีล่ะค่ะยังไม่มีอะไรคืบหน้ายังไม่มีความช่วยเหลือเยียวยากับทางธนาคารเรยค่ะทางพ่อดิฉันได้ทำการเช่าซื้อรถยนต์กับทางธนาคาคเกียรตินาคินค่ะขอเล่าก่อนนะคะพ่อดิฉันทำอาชีพขับรถรับส่งนักเรียนค่ะได้ซื้อรถและทำการผ่อนกับธนาคารเกียรตินาคินค่ะก้อผ่อนมาเรื่อยๆไม่มรปันหาค้างชำระนะคะจนกระทั่งวันเกิดเหตุค่ะน้องชายดิฉันได้ขับรถตู้พ่อพาแม่ไปตลาดและไปจอดรถที่ตลาดแม่ลงไปซื้อของอยู่ๆมีเจ้าหน้าที่3คนมาเคาะกระจกเรียกน้องชายที่รถน้องชายดิฉันได้เปิดกระจกแร้วก้อลงมาจากรถเจ้าหน้ามี่คนนึงแสดงตัวว่าเป้นเจ้าหน้าที่เร่งรัดหนี้สินของธนาคารบอกกับน้องชายดิฉันว่าจะมายึดรถเนื่องจากค้างชำระ3งวดน้องชายดิฉันไม่ทราบเรื่องค้างชำระจึงบอกให้ติดต่อคุณพ่อก่อนที่จะยึดรถไปแต่เจ้าหน้าที่ปฏิเสธเค้าบอกน้องชายดิฉันว่าให้พ่อเข้าไปติดต่อที่ธนาคารเองหลังจากนั้นน้องชายดิฉันโทรหาพ่อ ว่ามีเจ้าหน้าที่ธนาคารมายึดรถไปเค้าบอกว่าค้างชำระพ่อดิฉันเรยตกใจและบอกน้องว่าพ่อไม่เคยค้างชำระเเล้วเจ้าหน้าที่ที่เอารถไปเป้นใครหลังจากนั้นพ่อดิฉันทำการติดต่อที่ธนาคารเกียรตินาคินธนาคารแจ้งว่าไม่มีเจ้าหน้าที่นำรถเข้าธนาคารแต่การที่พ่อดิฉันตรวจสอบรายชื่อเจ้าหน้าที่เร่งรัดหนี้สินของธนาคารแร้วผลสรุปมีชื่อเจ้าหน้าที่คนมายึดรถกับน้องชายดิฉันติดอยุ่บนบอร์ดเจ้าหน้าที่ฝ่ายเร่งรัดของธนาคารเมื่อปี2554 พ่อของดิฉันได้ทำการพูดคุยกับทางธนาคารถึงความเสียหายที่เกิดขึ้นเนื่องจากไม่มีรถใช้ในการทำมาหากิน แต่ทางธนาคารได้ออกหนังสือปฏิเสธมาว่าไม่ใช่เจ้าหน้าของทางธนาคารและบอกกับทางเราว่าคดีแบบนี้คือการโจรกรรมรถซึ่งไม่เกี่ยวกับทางธนาคารเพราะไม่มีรถเข้ามาที่ธนาคารพ่อดิฉันลำบากมากต้องทำมาหากินไหนจะหาทนายมาช่วยในการดำเนินคดีต้องเสียเงินเสียทองเท่าไหร่แถมคุยยังไม่รับผิดชอบยังต้องมานั่งติดหนี้แบงค์อีกเกือบล้านคุณทำแบบนี้กับคนหาเช้ากินค่ำได้ยังไงหลังจากนั้นพวกเราก้อไม่ยอมแพ้ค่ะต่อสู้คดีจนจับคนร้ายได้จนคนร้ายรับสารภาพในชั้นศาลว่าเป้นเจ้าาพนักงานของบริษัทแห่งหนึ่งที่ถูกการว่าจ้างจากธนาคารเกียรตินาคินให้ดูแลเรื่องการเร่งรัดหนี้สินจนจบคดีตอนนี้คนร้ายได้ถูกจำคุกอยุ่ค่ะในระยะเวลาเกือบ4ปีที่เราผ่านมาได้มันไม่ง่ายเรยนะคะมันเหมือนครอบครัวเราโดนตัดมือตัดตีนไม่มีเครื่องมือในการทำมาหากินต้องไปกู้หนี้ยืมสินเค้ามาไหนจะค่าเช่ารถไปรับส่งนักเรียนไหนจะค่าทนายไหนจะค่ากินค่าอยุ่พอจบคดีมาได้ก้อคิดว่าจะดีจะได้รับการเยียวยาจากทางธนาคารพอจบคดีค่ะพ่อเราเรยรียไปติดต่อกับทางธนาคาร ทางธนาคารให้ทำการยื่นเรื่องไว้หลังจากนั้นติดต่อพ่อเรามาพูดคุยเจรจาโดยทางธนาคารยื่นข้อเสนอให้แม่เราเป้นคนออกรถตู้ใหม่คือพูดง่ายๆอ่ะค่ะเป้นหนี้ใหม่และพ่อเราก้อยังคงค้างหนี้เก่าอยุ่โดยที่ไม่ไถ่ถอนแบล็คลิสให้พ่อเรามันถูกต้องแร้วหรอคะพ่อเราทำธุรกรรมอะไรไม่ได้เรยมาเป้นเวลา4ปีต้องเป้นหนี้เป้นสินเป้นล้านเมื่อก่อเรากับน้องเราอีก2คนได้เรียนจนตอนนี้อ่ะหรอต้องช่วยกันทำงาน งกๆเพื่อช่วยค่าใช้จ่ายทุกวันนี้รถก้อต้องเช่าเค้ารับส่งนักเรียนจ่ายเงินเป้นวันๆถ้าไม่ทำพ่อเราก้อจะไม่มีงานทำขาดรายได้อยากให้เพื่อนช่วยแชร์ไว้เป้นประสบการณ์นะคะเผื่อเจอสถานะการแบบครอบครัวเรา
เช่าซื้อรถกับธนาคารดังทำชีวิตครอบครัวตกอับใครผิด????