สวัสดีค่ะเพื่อนชาวพันทิพต้องบอกก่อนว่าเราเป็นคนที่กลัวผีมากกกกกก(ก.ไก่ห้าร้อยตัว)หนังผีละครผีไม่ดูเลยค่ะถ้าไม่มีคนดูเป็นเพื่อนคนที่ดูด้วยคือต้องดูด้วยจริงๆนะคะแบบถ้านั้งด้วยเฉยๆแล้วทำอย่างอื่น เช่น นั้งเล่นโทรศัพ นั้งทำงาน ถึงจะนั้งข้างๆกัน เราก็จะไม่ดูเลยค่ะ (บ้ามาก) จำได้ว่าตอนเด็กๆ พี่สาวและแม่(ในบ้านมีเรากลัวผีคนเดียว)จะชอบนั้งดูรายการช่อง7ที่เล่าเกี่ยวกับเรื่องผี ตอนประมาณ4ทุ่ม-เที่ยงคืน เราต้องนั้งเอานิ้วจิ้มหูเร็วๆเพื่อจะให้ไม่ได้ยินเสียงทีวี ตลอดเวลา(จะได้พักบ้างตอนโฆษณา) เราว่าเราเป็นเอามากจริงๆแหละ แต่จะทำยังไงล่ะก็คนมันกลัวนิ เราเป็นคนที่เชื่อเรื่องพวกนี้นะ ถึงใครจะหาว่า บ้า งมงาย ก็เหอะ ! มีหลายๆคนเคยบอกว่า ยิ่งกลัวจะยิ่งเจอ อันนี้เราไม่รูคนอื่นเป็นมั้ย แต่สำหรับเรา เราว่าจริง
อย่างที่บอกไปข้างต้นเลยค่ะ เราเป็นอีกคนที่เกิดวันพุธกลางคืน มีหลายๆคนบอกว่าคนที่เกิดวันนี้จะจิตอ่อนที่สุด เห็นเรื่องที่คนอื่นไม่เห็น ได้ยินสิ่งที่คนอื่นไม่ได้ยิน หรือง่ายๆคือ เห็นผีนี่แหละค่ะ เราไม่รู้ว่ามันจริงมั้ย เพื่อนๆคนไหนเกิดพุธกลางคืนมาแสดงความคิดเห็นได้นะคะ โดยส่วนตัวเราไม่เคยเห็นแบบเป็นตัวๆนะคะ ส่วนมากจะได้ยินเป็นเสียงมากกว่าค่ะ ทุกครั้งที่เราได้ยินเราจะคิดว่า หูฝาด เพื่อไม่ทำให้ตัวเองกลัว เราจะเล่าประสบการณ์ให้อ่านกันค่ะ (โปรดใช้จักรยานในการอ่าน)
โรงเรียนของเราเป็นโรงเรียนวัดค่ะย่านลาดพร้าวตอนนั้นเราอยู่ม.4เราและเพื่อน ประมาณ7-8 คน รับหน้าที่จัดบอดหลังเพื่อประกวดในวันถัดไป เราจัดกันช่วงเลิกเรียนอยู่กันจนเย็นเลยแหละ ตอนนั้นเราทำงานในส่วนของเราที่รับผิดชอบเสร็จแล้ว เลยออกมายืนดูรุ่นพี่ที่เราชอบซ้อมบาสที่ระเบียงกับเพื่อนอีก1คน ยืนดูไปคุยกับไป ซักแปบนึง มีเพื่อนในห้องเรียกเราให้ไปหากรรไกรให้ พอเราเจอ จังหวะที่กำลังเดินผ่านประตูไปหาเพื่อนที่ระเบียง หางตาเห็นเป็นผู้หญิงนั้งอยู่ที่โต๊ะครูหน้าห้อง ใส่เสื้อสีน้ำเงิน(เสื้อพละโรงเรียนเรา)เราเลยถอยหลังกลับไปดู ตอนกำลังก้าวถอยหลังเราก็พูดขึ้นว่า"นั้งทำไรอ่ะ"แต่พอก้าวพ้นประตูเข้าไปในห้องกลับไม่เห็นใครนั้งอยู่ที่โต๊ะครู ด้วยความที่มันเย็นแล้วประมาณ6โมง ค่อนข้างเงียบเพื่อนในห้องเลยได้ยินทุกคน หันมามองหน้าเราแล้วถามว่าถามใคร เราก็ถามเพื่อนว่า "ใครใส่ชุดพละนั้งอยู่ตรงโต๊ะอาจราย์วะ"ตอนนั้นเราคิดว่าเป็นเพื่อนคนใดคนหนี่ง เพื่อนๆก็มองหน้า เราเลยนึกขึ้นมาได้ว่า วันนั้นห้องเราไม่มีเรียนพละ และเพื่อนก็ใส่ชุดนักเรียนทุกคน เราก็บอกเพื่อนนะว่า สงสัยตาฝาดมั้ง แต่หลังจากที่เราพูดเสร็จเพื่อนๆก็เริ่มเก็บของกลับบ้าน ไม่มีใครทำงานอีกเลย พอเช้ามาเพื่อนเราก็มาเล่าให้ฟังว่า ลุงสน ภารโรง เคยเล่าให้มันฟังว่าเคยเห็น ผู้หญิงใส่เสื้อพละบนตึกชั้น4 ตอนนั้นเราไม่ค่อยเชื่อนะ คิดว่าเพื่อนมันแกล้งมากกว่า
แต่มีอีกเหตุการณ์นึงทำให้เราเริ่มคิดว่ามันมีจริง
หลังจากผ่านเหตุการณ์นั้นมาประมาณ เดือน2เดือน เรากับเพื่อนประมาณสิบกว่าคนนั้งเล่นไพ่กันอยู่บนตึกช่วงเย็นๆ เล่นไปได้ซักพักมีเพื่อนทะเลาะกัน(มันเป็นแฟนกัน) จำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร เพื่อนเรา ผู้หญิงก็ร้องไห้แล้วเดินออกจากห้องไป เราก็เฉยๆ ไม่ได้คิดอะไร แต่พอนานขึ้นเราเริ่มเป็นห่วงเพื่อนเพราะมันเย็นมากแลัวเลยชวนเพื่อนอีกคนนึ่ง ไปตามหา ห้องเรียนเราที่เราอยู่ถัดไปอีก2ห้องถึงจะเป็นห้องน้ำถัดจากห้องน้ำก็เป็นบันไดทางลง เราอยู่ชั้น4
พอเรากับเพื่อนเดินผ่านห้องแรกเราเริ่มได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ดังมาจากบันไดเพื่อนเราก็ได้ยิน เพื่อนเราบอกสงสัยนั้งร้องไห้อยู่ตรงบันได เราเลยเดินไปดูปรากฎว่าไม่มีใคร แต่ยังได้ยินเสียงอยู่นะชัดมากเราเลยบอกเพื่อน ในห้องน้ำหรือป่าว เราเลยเดินเข้าไปดูอยู่ๆเสียงก็หายไป เราเปิดดูทุกห้องก็ไม่มีใครอยู่
ตอนนั้นเราเชื่อว่าเราเจอดีเข้าแล้ว ขาแข็งก้าวไม่ออกเลยตอนนั้น เราจับมือกับเพื่อนแน่นมากแล้วบอกว่าห้ามวิ่งนะ เดินไปช้าๆ เพราะขาก้าวไม่ออก เรา2คนจับมือกันเดินจนถึงห้องที่เพื่อนเล่นไพ่อยู่ เห็นเพื่อนผู้หญิงที่เราไปตามนั้งอยู่ข้างแฟน ก็ถามมันว่า ไปไหนมามันบอกไปซื้อขนมมา เรากับเพื่อนก็มองหน้ากัน แต่ไม่บอกเพื่อนคนอื่น ตอนนั้นเรากลัวมากจริงๆ จะเดินลงไปข้างล่างตึกคนเดียวก็ไม่กล้า มันกลัวไปหมด แต่ก็คิดในใจว่าเราคิดมากไปเอง เรานั้งดูเพื่อนเล่นไปได้แปบเดี๋ยว ภารโรงก็ขึ้นมาตามเนื่องจาก จะต้องปิดตึกเรียน เราและเพื่อนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน พอรุ่งเช้าเราก็ลุกขึ้นมาใส่บาตร ให้เขา เราไม่รุ้ว่าเขาเป็นใครและมีจริงมั้ยหรือเราคิดไปเองแต่เราก็ทำ เพื่อให้เราสบายใจ และไม่ฟุ้งซ่าน เหตุการณ์นี้ทำให้เราไม่กล้าอยู่คนเดียวเป็นเดือนเลย อาบน้ำก็ให้พีสาวมานั้งรอหน้าห้องน้ำ ไม่ปิดประตู (เว่อร์เนอะ แต่เป็นเรื่องจริง)
อีกหนึ่งเรื่องที่เราจะเล่าให้ฟัง เราไม่รู้นะว่า คนถูกผีอำมันเป็นยังไง แต่เราจะเล่าเหตุการณ์ให้อ่านค่ะ
เหตุการณ์มีอยู่ว่าวันนั้นเราเลิกเรียนตามปกติด้วยความที่เราและเพื่อนๆยังไม่อยากกลับบ้านกันเราจึงไปนั้งเล่น ดูหนัง บ้านเพื่อนคนนึ่งที่อยู่ใกล้โรงเรียน บ้านเพื่อนคนนี้อยู่ติดกับวัด ละตอนที่เรากำลังนั่งดูหนังกันอยู่เรารู้สึกง่วง เลยขึ้นไปนอนบนเตียงคนเดียว(เพื่อนนั้งดูกันอยู่ปลายเตียง) นอนไปได้สักพักครึ่งหลับครึ่งเรารู้อึดอัดเหมือนหายใจไม่ออก พอเราลืมตาขึ้นมารู้สึกว่าขยับตัวไม่ได้ พยายามยกมือยกเท้าเท่าไหร่ก็ไม่ขยับ อยู่ๆเราก็ได้ยินเสียง ขยำถุงก๊อบแก๊บข้างๆหู ชัดมาก แต่เราขยับตัวไม่ได้ไง ได้แต่มองหางตา เห็นแต่กำแพงขาวๆ เพราะเตียงติดกำแพง ตอนนั้นรู้สึกตื่นเต็มตาแล้ว พยายามเพ่งมองเพื่อนตะโกนเรียกเพื่อน ให้เพื่อนหันมามอง แต่เพื่อนก็ไม่สนใจ นั้งคุยเล่นกัน ความรู้สึกคืออยากจะร้องไห้ แต่น้ำตาไม่ไหล พอตั้งสติได้ เราหลับตาลงและสวดมนต์ จำไม่ได้ว่าสวดบทไหนจำไรได้ก็สวดหมด สวดได้สักพัก ความรู้สึกอึดอัดก็ค่อยๆหายไป จนในที่สุดเราก็สามารถขยับตัวได้ เรารีบลุกขึ้นนั้ง หายใจแรงมากอารมณ์เหมือนคนจมน้ำ สักพักหลังจากหายใจได้ปกติเราก็ลงมานั่งเล่นกับเพื่อนปกติ ไม่กล้าเล่าให้เพื่อนๆฟัง กลัวเพื่อนหาว่าเพ้อเจ้อ จนถึงตอนนี้เราก็ยังไม่ได้เล่า เก็บเป็นความลับต่อไป
แล้วนี้ก็เป็นประสบการณ์คร่าวๆที่เราเคยประสบพอเจอ มาค่ะ ขอบคุณเพื่อนๆที่ทุกคนที่เสียเวลาเข้ามาอ่านค่ะ อ่านแล้วอย่าลืมใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ
แชร์ประสบการณ์ คนเกิดวันพุธกลางคืน
อย่างที่บอกไปข้างต้นเลยค่ะ เราเป็นอีกคนที่เกิดวันพุธกลางคืน มีหลายๆคนบอกว่าคนที่เกิดวันนี้จะจิตอ่อนที่สุด เห็นเรื่องที่คนอื่นไม่เห็น ได้ยินสิ่งที่คนอื่นไม่ได้ยิน หรือง่ายๆคือ เห็นผีนี่แหละค่ะ เราไม่รู้ว่ามันจริงมั้ย เพื่อนๆคนไหนเกิดพุธกลางคืนมาแสดงความคิดเห็นได้นะคะ โดยส่วนตัวเราไม่เคยเห็นแบบเป็นตัวๆนะคะ ส่วนมากจะได้ยินเป็นเสียงมากกว่าค่ะ ทุกครั้งที่เราได้ยินเราจะคิดว่า หูฝาด เพื่อไม่ทำให้ตัวเองกลัว เราจะเล่าประสบการณ์ให้อ่านกันค่ะ (โปรดใช้จักรยานในการอ่าน)
โรงเรียนของเราเป็นโรงเรียนวัดค่ะย่านลาดพร้าวตอนนั้นเราอยู่ม.4เราและเพื่อน ประมาณ7-8 คน รับหน้าที่จัดบอดหลังเพื่อประกวดในวันถัดไป เราจัดกันช่วงเลิกเรียนอยู่กันจนเย็นเลยแหละ ตอนนั้นเราทำงานในส่วนของเราที่รับผิดชอบเสร็จแล้ว เลยออกมายืนดูรุ่นพี่ที่เราชอบซ้อมบาสที่ระเบียงกับเพื่อนอีก1คน ยืนดูไปคุยกับไป ซักแปบนึง มีเพื่อนในห้องเรียกเราให้ไปหากรรไกรให้ พอเราเจอ จังหวะที่กำลังเดินผ่านประตูไปหาเพื่อนที่ระเบียง หางตาเห็นเป็นผู้หญิงนั้งอยู่ที่โต๊ะครูหน้าห้อง ใส่เสื้อสีน้ำเงิน(เสื้อพละโรงเรียนเรา)เราเลยถอยหลังกลับไปดู ตอนกำลังก้าวถอยหลังเราก็พูดขึ้นว่า"นั้งทำไรอ่ะ"แต่พอก้าวพ้นประตูเข้าไปในห้องกลับไม่เห็นใครนั้งอยู่ที่โต๊ะครู ด้วยความที่มันเย็นแล้วประมาณ6โมง ค่อนข้างเงียบเพื่อนในห้องเลยได้ยินทุกคน หันมามองหน้าเราแล้วถามว่าถามใคร เราก็ถามเพื่อนว่า "ใครใส่ชุดพละนั้งอยู่ตรงโต๊ะอาจราย์วะ"ตอนนั้นเราคิดว่าเป็นเพื่อนคนใดคนหนี่ง เพื่อนๆก็มองหน้า เราเลยนึกขึ้นมาได้ว่า วันนั้นห้องเราไม่มีเรียนพละ และเพื่อนก็ใส่ชุดนักเรียนทุกคน เราก็บอกเพื่อนนะว่า สงสัยตาฝาดมั้ง แต่หลังจากที่เราพูดเสร็จเพื่อนๆก็เริ่มเก็บของกลับบ้าน ไม่มีใครทำงานอีกเลย พอเช้ามาเพื่อนเราก็มาเล่าให้ฟังว่า ลุงสน ภารโรง เคยเล่าให้มันฟังว่าเคยเห็น ผู้หญิงใส่เสื้อพละบนตึกชั้น4 ตอนนั้นเราไม่ค่อยเชื่อนะ คิดว่าเพื่อนมันแกล้งมากกว่า
แต่มีอีกเหตุการณ์นึงทำให้เราเริ่มคิดว่ามันมีจริง
หลังจากผ่านเหตุการณ์นั้นมาประมาณ เดือน2เดือน เรากับเพื่อนประมาณสิบกว่าคนนั้งเล่นไพ่กันอยู่บนตึกช่วงเย็นๆ เล่นไปได้ซักพักมีเพื่อนทะเลาะกัน(มันเป็นแฟนกัน) จำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร เพื่อนเรา ผู้หญิงก็ร้องไห้แล้วเดินออกจากห้องไป เราก็เฉยๆ ไม่ได้คิดอะไร แต่พอนานขึ้นเราเริ่มเป็นห่วงเพื่อนเพราะมันเย็นมากแลัวเลยชวนเพื่อนอีกคนนึ่ง ไปตามหา ห้องเรียนเราที่เราอยู่ถัดไปอีก2ห้องถึงจะเป็นห้องน้ำถัดจากห้องน้ำก็เป็นบันไดทางลง เราอยู่ชั้น4
พอเรากับเพื่อนเดินผ่านห้องแรกเราเริ่มได้ยินเสียงผู้หญิงร้องไห้ดังมาจากบันไดเพื่อนเราก็ได้ยิน เพื่อนเราบอกสงสัยนั้งร้องไห้อยู่ตรงบันได เราเลยเดินไปดูปรากฎว่าไม่มีใคร แต่ยังได้ยินเสียงอยู่นะชัดมากเราเลยบอกเพื่อน ในห้องน้ำหรือป่าว เราเลยเดินเข้าไปดูอยู่ๆเสียงก็หายไป เราเปิดดูทุกห้องก็ไม่มีใครอยู่
ตอนนั้นเราเชื่อว่าเราเจอดีเข้าแล้ว ขาแข็งก้าวไม่ออกเลยตอนนั้น เราจับมือกับเพื่อนแน่นมากแล้วบอกว่าห้ามวิ่งนะ เดินไปช้าๆ เพราะขาก้าวไม่ออก เรา2คนจับมือกันเดินจนถึงห้องที่เพื่อนเล่นไพ่อยู่ เห็นเพื่อนผู้หญิงที่เราไปตามนั้งอยู่ข้างแฟน ก็ถามมันว่า ไปไหนมามันบอกไปซื้อขนมมา เรากับเพื่อนก็มองหน้ากัน แต่ไม่บอกเพื่อนคนอื่น ตอนนั้นเรากลัวมากจริงๆ จะเดินลงไปข้างล่างตึกคนเดียวก็ไม่กล้า มันกลัวไปหมด แต่ก็คิดในใจว่าเราคิดมากไปเอง เรานั้งดูเพื่อนเล่นไปได้แปบเดี๋ยว ภารโรงก็ขึ้นมาตามเนื่องจาก จะต้องปิดตึกเรียน เราและเพื่อนก็แยกย้ายกันกลับบ้าน พอรุ่งเช้าเราก็ลุกขึ้นมาใส่บาตร ให้เขา เราไม่รุ้ว่าเขาเป็นใครและมีจริงมั้ยหรือเราคิดไปเองแต่เราก็ทำ เพื่อให้เราสบายใจ และไม่ฟุ้งซ่าน เหตุการณ์นี้ทำให้เราไม่กล้าอยู่คนเดียวเป็นเดือนเลย อาบน้ำก็ให้พีสาวมานั้งรอหน้าห้องน้ำ ไม่ปิดประตู (เว่อร์เนอะ แต่เป็นเรื่องจริง)
อีกหนึ่งเรื่องที่เราจะเล่าให้ฟัง เราไม่รู้นะว่า คนถูกผีอำมันเป็นยังไง แต่เราจะเล่าเหตุการณ์ให้อ่านค่ะ
เหตุการณ์มีอยู่ว่าวันนั้นเราเลิกเรียนตามปกติด้วยความที่เราและเพื่อนๆยังไม่อยากกลับบ้านกันเราจึงไปนั้งเล่น ดูหนัง บ้านเพื่อนคนนึ่งที่อยู่ใกล้โรงเรียน บ้านเพื่อนคนนี้อยู่ติดกับวัด ละตอนที่เรากำลังนั่งดูหนังกันอยู่เรารู้สึกง่วง เลยขึ้นไปนอนบนเตียงคนเดียว(เพื่อนนั้งดูกันอยู่ปลายเตียง) นอนไปได้สักพักครึ่งหลับครึ่งเรารู้อึดอัดเหมือนหายใจไม่ออก พอเราลืมตาขึ้นมารู้สึกว่าขยับตัวไม่ได้ พยายามยกมือยกเท้าเท่าไหร่ก็ไม่ขยับ อยู่ๆเราก็ได้ยินเสียง ขยำถุงก๊อบแก๊บข้างๆหู ชัดมาก แต่เราขยับตัวไม่ได้ไง ได้แต่มองหางตา เห็นแต่กำแพงขาวๆ เพราะเตียงติดกำแพง ตอนนั้นรู้สึกตื่นเต็มตาแล้ว พยายามเพ่งมองเพื่อนตะโกนเรียกเพื่อน ให้เพื่อนหันมามอง แต่เพื่อนก็ไม่สนใจ นั้งคุยเล่นกัน ความรู้สึกคืออยากจะร้องไห้ แต่น้ำตาไม่ไหล พอตั้งสติได้ เราหลับตาลงและสวดมนต์ จำไม่ได้ว่าสวดบทไหนจำไรได้ก็สวดหมด สวดได้สักพัก ความรู้สึกอึดอัดก็ค่อยๆหายไป จนในที่สุดเราก็สามารถขยับตัวได้ เรารีบลุกขึ้นนั้ง หายใจแรงมากอารมณ์เหมือนคนจมน้ำ สักพักหลังจากหายใจได้ปกติเราก็ลงมานั่งเล่นกับเพื่อนปกติ ไม่กล้าเล่าให้เพื่อนๆฟัง กลัวเพื่อนหาว่าเพ้อเจ้อ จนถึงตอนนี้เราก็ยังไม่ได้เล่า เก็บเป็นความลับต่อไป
แล้วนี้ก็เป็นประสบการณ์คร่าวๆที่เราเคยประสบพอเจอ มาค่ะ ขอบคุณเพื่อนๆที่ทุกคนที่เสียเวลาเข้ามาอ่านค่ะ อ่านแล้วอย่าลืมใช้วิจารณญาณในการอ่านด้วยนะค่ะ ขอบคุณค่ะ