ผู้โดยสารหญิงคนหนึ่งบนเครื่องบินของสายการบิน บริติช แอร์เวย์ส ซึ่งกำลังเดินทางไปยังเมืองบอสตัน สหรัฐฯ ถูกผู้โดยสารคนอื่นๆ บนเครื่อง ช่วยกับควบคุมตัวเอาไว้ หลังจากเธอพยายามเปิดประตูเครื่องบิน...
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นบนเครื่องบินโดยสาร เที่ยวบินที่ 213 ของสายการบินบริติช แอร์เวย์ส ซึ่งกำลังเดินทางจาก กรุงลอนดอน อังกฤษ ไปยัง เมืองบอสตัน สหรัฐฯ เมื่อผู้โดยสารหญิงคนหนึ่งเกิดอาการคลุ้มคลั่ง พยายามเปิดประตูทางออกบนเครื่อง ทำให้เครื่องบินลำนี้ต้องลงจอดฉุกเฉิน ขณะที่ หญิงรายนี้ถูกผู้โดยสารคนอื่นๆ ช่วยกันจับตัวเอาไว้
เครื่องบินลงจอดฉุกเฉินได้อย่างปลอดภัยที่สนามบิน โลแกน ในเมืองบอสตัน ในเวลา 13.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตำรวจรัฐแมสซาชูเซสต์รออยู่แล้ว หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากลูกเรือของเที่ยวบิน 213 ตั้งแต่เครื่องยังไม่ลงจอดว่า มีผู้โดยสารหญิงคลุ้มคลั่งบนเครื่อง โดยหลังจากสอบปากคำ ตำรวจระบุว่า หญิงรายนี้มีอายุประมาณ 30 ปี มีอาการมึนเมา และขณะนี้กำลังอยู่ในการควบคุมของตำรวจ
ทั้งนี้ เหตุการณ์ผู้โดยสารคลุ้มคลั่งอาละวาดบนเครื่องบิน ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการเมาสุรา อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจิง หลังเกิดเหตุก่อการร้ายในกรุงปารีส เมืองหลวงของฝรั่งเศส เมื่อ 13 พ.ย.
http://www.thairath.co.th/content/540144
สาวเมาคลั่ง พยายามเปิดประตูเครื่องบิน 'British Airways' ต้องลงจอดฉุกเฉิน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นบนเครื่องบินโดยสาร เที่ยวบินที่ 213 ของสายการบินบริติช แอร์เวย์ส ซึ่งกำลังเดินทางจาก กรุงลอนดอน อังกฤษ ไปยัง เมืองบอสตัน สหรัฐฯ เมื่อผู้โดยสารหญิงคนหนึ่งเกิดอาการคลุ้มคลั่ง พยายามเปิดประตูทางออกบนเครื่อง ทำให้เครื่องบินลำนี้ต้องลงจอดฉุกเฉิน ขณะที่ หญิงรายนี้ถูกผู้โดยสารคนอื่นๆ ช่วยกันจับตัวเอาไว้
เครื่องบินลงจอดฉุกเฉินได้อย่างปลอดภัยที่สนามบิน โลแกน ในเมืองบอสตัน ในเวลา 13.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น ซึ่งตำรวจรัฐแมสซาชูเซสต์รออยู่แล้ว หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากลูกเรือของเที่ยวบิน 213 ตั้งแต่เครื่องยังไม่ลงจอดว่า มีผู้โดยสารหญิงคลุ้มคลั่งบนเครื่อง โดยหลังจากสอบปากคำ ตำรวจระบุว่า หญิงรายนี้มีอายุประมาณ 30 ปี มีอาการมึนเมา และขณะนี้กำลังอยู่ในการควบคุมของตำรวจ
ทั้งนี้ เหตุการณ์ผู้โดยสารคลุ้มคลั่งอาละวาดบนเครื่องบิน ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ โดยสาเหตุส่วนใหญ่มาจากการเมาสุรา อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ทุกหน่วยจัดการเรื่องนี้อย่างจริงจิง หลังเกิดเหตุก่อการร้ายในกรุงปารีส เมืองหลวงของฝรั่งเศส เมื่อ 13 พ.ย.
http://www.thairath.co.th/content/540144