สวัสดีครับเพื่อนๆ เพิ่งกลับมาจากทริปตามใจฉันอย่างที่หัวข้อกระทู้บอก และมีใบไม้แดงมาแซมๆนิดหน่อยให้พอมีสีสัน
เอาจริงๆทริปนี้ไม่ได้เน้นไปดูใบไม้แดงเท่าไหร่ เอาแค่ว่าถ้าเห็นก็ดี ไม่เห็นก็ไม่เป็นไร แต่อยากไปเที่ยวที่อยากไป ไปเจออากาศดีๆมากกว่า
การเดินทางในทริปนี้ผมลงที่สนามบิน Narita, Tokyo ครับ จากนั้นก็ขึ้นเหนือล่องใต้ไปหลายเมืองพอสมควร
เพราะครั้งนี้เป็นครั้งที่10พอดี กับการแบกเป้เที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเอง เลยคิดว่าอะไรที่หลายๆคนค้ดว่ามันเป็นขีดจำกัด เช่น เวลาน้อยไม่ควรเที่ยวข้ามโซน จะเหนื่อยเกิน เรารู้สึกว่า มันทำได้ล่ะ แต่อาจจะเหนื่อยหน่อย แล้วก็ใช้ JR pass อยู่แล้ว วางแผนดีๆทำไมจะทำไม่ได้
ส่วนตัวเคยเดินทาง 10วัน9คืน จากโอซาก้าไปซัปโปโรงหรือคันไซไปฮอกไกโด ด้วยรถไฟมาแล้ว เลยคิดว่าไม่ลำบากอะไรนักกับการจะเดินทางไกลครึ่งประเทศในญี่ปุ่น ที่ทุกอย่างคาดเดาได้ และวางแผนได้โอกาสผิดพลาดจากตารางรถไฟมีค่อนข้างต่ำ

สรุปว่าการเดินทางทั้ง9วันในทริปนี้
เป็นประมาณนี้ครับ
Day1-2 โตเกียว
Day 3 Kusatsu onsen
Day 4 Shizuoka-Yokohama
Day 5 Takayama-Shirakawago
Day 6 Himeji-Kobe
Day 7 Fukuoka
Day 8 Osaka-Tokyo
Day 9 Tokyo กลับ

https://www.facebook.com/Gonipponbydrjame/


กระทู้ Part 1 วันนี้ พาไปตะลอนกินในโตเกียวครับ
ตาม plan D1-2 เราอยู่ในโตเกียวกัน เริ่มกินกันเลยเนาะ
ความผิดพลาดเกิดขึ้นตั้งแต่เช้าคือ flight reschedule ออกไปประมาณชม.นึงจากดอนเมือง และลืม pre booking อาหารบนเครื่องไว้ อาหารหมด ก็อดกันไป ได้แต่กินขนมเล็กๆน้อยๆที่ติดตัวมา มาถึง Narita ก็3ทุ่มเข้าไปแล้ว กว่าจะถึงที่พักย่าน Asakusa ก็เกือบ4ทุ่ม
ระหว่างทางเจอตู้ไอติมกรวยกรอบยี่ห้อโปรด ก็กดมารองท้องกันก่อนละครับ ส่วนตัวคิดว่าอร่อยทุกรสนะ ที่สำคัญกรวยกรอบกรุ๊บมากๆยังกะเพิ่งออกจากเตา



เพราะเจอในสถานีใต้ดิน Ueno เลยกดขึ้นไปบนรถไฟ แต่ห้ามกินเด็ดขาดนะ


ออกจากสถานีมาได้ก็เอาล่ะ ขอยืนกินไอติมกันตรงนี้ล่ะ เดินกินก็ไม่ได้อีก มารยาทแบบญี่ปุ่นนี่


พอรองเท้าเรียบร้อยเอากระเป๋าไปเก็บที่พัก2คืนแรกที่ Asakusa ryokan toukaisou ที่พักประจำของเรา จากนั้นก็เดินไปหาร้านซีฟู้ด 24ชม. อย่าง Isomaru saisan สาขา Asakusa ครับ เดินไม่ไกลเลยจากหน้าวัด Sensoji ซัก5นาทีก็ถึงนะ ตามlocation ใน google mapไปได้ครับ


〒111-0032 Tokyo, Taito, Asakusa, 1 Chome−1−7 唐人商行ビル1・2F 磯丸水産 浅草観音通り店

ตอนนั้นก็4ทุ่มกว่าๆได้ละล่ะ


บรรยากาศภายในร้าน


นั่งลงแล้วก็สั่งที่อยากกินครับ
อารมณ์ประมาณปิ้งย่างล่ะ ราคาไม่แพง รสชาติดี
ที่อยากลองที่สุดก็ Kanimiso หรือมันปูย่าง
ที่สั่งไปก็มี กุ้ง หอย kanimiso แล้วก็ปลาทอด




จับขึ้นเตาย่างกันเลย




มาดูมันปูกันชัดๆ หยดย้อยหยาดเยิ้มมาก


หอยเชลล์อย่างใหญ่


ปิ้งจนสุกซัก10นาทีก็ได้เวลาหม่ำละครับ


มันปูนี่คลุกกับข้าวญี่ปุ่นร้อนๆฟินสุดๆไปเลย
ปิดท้ายด้วยปลาทอด อันนี้ผมไม่อินเท่าไหร่ ถึงจะทอดมาแบบกินทั้งตัวแต่ก้างเล็กๆเยอะเลย เสียดคออยู่เหมือนกัน


ออกจาก Isomaru suisan ก็เดินเล่นแถวๆริมแม่น้ำสุเมดะ


เข้าแฟมมาร์ทหาอะไรล้างคาวซะหน่อยก็เจอ


สตาร์บัคส์คัพรส Pumpkin pie latte ของโปรดอยู่แล้ว สอยมาเล้ย ถึงจะ5ทุ่มกว่าแล่วก็เถอะ เป็น limited ช่วงฮาโลวีนนะครับ หอมอร่อยพายมากๆ กาแฟก็ยังเข้มข้นเหมือนเคย




หมดคืนแรกในโตเกียวในญี่ปุ่นไปแบบอิ่มพอสมควร กลับไปนอนละครับ
วันรุ่งขึ้นเช้ามาก็ต้องสดชื่นกันหน่อย Matcha latte จัดไป




เป้าหมายเช้านี้คือการไปร้านกาแฟร้านโปรดย่าน Omotesando ครับ ร้าน Omotesando Koffee
เป็นร้านกาแฟแนว Modern Japanese ในบ้านญี่ปุ่น สวนแบบญี่ปุ่นครับ คราวก่อนมาแล้วติดใจต้องกลับมาอีก
ร้านเปิด 10โมงเช้านะ
การเดินทางจาก Subway Omotesando station ออกทางออก A2 แล้วเดินตาม map เลยครับ

Omotesando Koffee, Shibuya, Tokyo, Japan





บรรยากาศร้าน




เมนูครับ มีแต่กาแฟเลยนะ
กับขนมชนิดเดียวคือ baked custard






กาแฟที่สังเป็นบาเลย์คาปูชิโน่เย็นหอมกลิ่นข้าวบาเลย์รสชาติกาแฟเข้มครับ


กินกับ baked custard หวานๆขมๆ เข้ากันได้ดี


นั่งจิบกันหน้าร้านบรรยากาศสวนญี่ปุ่นอุณหภูมิ15องศา ดีเลย


จากนั้นก็ออกเดินทางต่อ อ่อมีเคล็ดลับนิดหน่อย แน่นอนว่าบางทีไปเที่ยวออกแต่เช้า อาจไม่ทันได้เข้าห้องน้ำบางทีเวลาเปลี่ยนก็มีผลทำให้ไม่ถ่ายตามเวลามาปวดเอาระหว่างเดินทาง สามารถขอเข้าตามร้านสะดวกซื้อได้เลยนะครับ ซื้อไม่ซื้อของไม่เป็นไรเข้าไปได้หาป้ายห้องน้ำแล้วจัดการธุระได้เลย


สะอาดเอื่ยมอ่องและแน่นอนอัตโนมัตินะ


ทำธุระหนักเบากันเรียบร้อย จาก Omotesando Koffee เดินผ่าน Omotesando hill ไปยัง Cat street เส้นที่จะไปชิบูย่าครับ
Location ตามนี่เลย https://www.facebook.com/pages/Lukes-Lobster/372463976287027
เป้าหมายต่อไปของเราในช่วงเช้านี่คือ Luke's lobster แซนด์วิชกุ้งมังกรแบบอัดแน่น
เห็นร้านแล้ว คนเริ่มต่อกันเยอะแล้วล่ะ ร้านเปิด 11โมงครับไปร่วมวงต่อคิวได้เลย






เข้าคิวไม่นานมาก ประมาณ10นาทีก็ถึงคิวเราล่ะ
แน่นอนก็ต้องสั่ง Lobster roll เท่านั้น


สั่งแบบ regular ไปราคาแค่ 980เยน คุ้มมากๆ
สั่งเสร็จจะได้บัตรคิวมาก็รอเรียกครับ อีกไม่เกิน7-8นาทีก็ถึงคิว เข้าไปรับกล่องมา


ได้เวลากัดกุ้งมังกรกันแล้ว
เปิดให้ดูว่าล้นขนาดไหน


ตอนแรกคิดว่าจะมาแบบอุ่นๆแต่ไม่ครับคือเนื้อกุ้งมังกรนี่มาแบบเย็นๆเลย
อร่อยมากด้วยความหวานสดแน่นของเนื้อง ไม่ต้องปรุงอะไรก็อร่อยแล้ว คุ้มค่ามากๆกับ 980เยน แนะนำๆๆ




เดินต่อไปอีกนิดใน Cat street ก็มาเจออีกร้านเด็ดครับ Number sugar


บรรยากาศร้านน่ารักๆเรียบง่าย


ร้านนี้ขายแต่คาราเมล อารมณ์ทอฟฟี่ห่อกระดาษครับ แต่จะมีหลากหลายรสให้เลือก ประมาณนี้




ซื้อแบบรวมมาลองชิมดูอร่อยครับหอมคาราเมลเคี้ยวหนึบหนับ


นอกจากนั้นก็ยังมีคาราเมลซอสขายด้วย


จาก Cat street ย่าน Omotesando ก็เดินไปเรื่อยๆจนถึง Shibuya แวะไปนั่งชิลบนสตาร์บัคส์สาขาห้าแยกวุนวายซักครู่ ดูคนข้ามถนนก็สนุก เพลินดีนะ


เดินเล่นแถวชิบูยาอยู่2ชม. ได้เวลาไปกินอีกหนึ่งร้านเด็ดย่าน Asakusa ครับ กะเวลาเอาไว้อย่างตั้งใจว่าจะไปกินร้านนี้ตอนประมาณบ่าย2-3 เพราะตามที่ดูรีวิวมาร้านนี้คนจะเยอะมาก ไปตอนเที่ยงต่อคิวกันยาวแน่นอน
กับร้าน Daikokuya ข้าวหน้าเทมปุระ หรือ Tendon นั่นเอง การเดินทางตาม map ของร้านไปได้เลยครับ
http://www.tempura.co.jp/english/
อยู่เส้นขนานถนน Nakamise หรือถนนช้อปปิ้งวัดเซนโซจินะ

บรรยากาศในร้าน


สั่งเมนู Tendon กุ้ง4ตัวไปครับ
มาแบบนี้ สวยสดงดงามในชามมีศิลปะ


ดูกันใกล้ๆอีกครั้งหนึ่ง


ผมนี่ยิ้มเลย กุ้ง4ตัวทอดมาอย่างดีแป้งไม่หนานัก ซอสหวานเค็มเข้ากับข้าวหนึบๆ
แนะนำ10กะโหลก


ออกจากร้าน Daikokuya แบบอิ่มและฟินต่อไปคือไปดูวิว Tokyo tower ที่ตึก Worldtrade center ครับไว้มารีวิวจุดนี้ละเอียดกันอีกที


จากนั้นก็ไปเดินเล่นที่ Tokyo station


เดินเล่นดูขนม เบเกอรี่ของกินในห้าง Daimaru สาขา Tokyo station กันไปเพลินๆ


สวยน่ากินละลานตาไปหมด




ปิดมื้อสุดท้ายของวันในโตเกียวไปด้วยข้าวกะเพราะกับไข่คนจากซุปเปอร์แถวนั้นครับ ใช้ได้นะมีขนมจีบพ่วงมาหน่อยอร่อยเลย