The 33 ใต้นรก 200 ชั้น จงมีความหวัง หนังโลกสวยที่จบสวย [MOVIRISTA]

[CR] The 33 ใต้นรก 200 ชั้น จงมีความหวัง หนังโลกสวยที่จบสวย [MOVIRISTA]

กระทู้รีวิว

The 33 (ภาพยนตร์) ภาพยนตร์ชีวิต ภาพยนตร์ต่างประเทศ

เช่นเคยครับที่ผมจะทำการรีวิวแบบไม่สปอยล์ (แต่รีวิวเว็บอื่นๆหรือเพจอื่นๆสปอยล์หนังเรื่องนี้กันกระจาย..ฮ่า!!) ท่านใดที่คิดจะไปชมหนังเรื่องนี้โดยไม่อยากโดนสปอยล์เนื้อเรื่อง เพียงแค่อยากรู้ว่าหนังมันดีพอที่จะดูหรือไม่.. ท่านอ่านรีวิวถูกที่ถูกทางแล้วครับ เพราะเว็บนี้ เราเน้นสโลแกนไม่สปอยล์หนังชนโรง 555+

แน่นอนว่าเราพอจะรู้กันแล้วละ ว่าหนังเรื่องนี้สร้างจากอุบัติภัยในเหมืองที่ชิลีเมื่อ 5 ปี ที่แล้ว คือมันยังสดๆร้อนๆอยู่เลยครับ ฝุ่นควันยังไม่ทันคลุ้ง ฮอลลีวูดก็จับมาทำเป็นหนังซะแหล่ว.. เรื่องราวนี้คนที่ตามข่าวเกาะข่าวกันอย่างใกล้ชิดยังไม่ทันลืมเลยครับ นี่จึงเป็นโจทย์ โค-ตะ-ระ หินของทีมผู้สร้างเลย ว่าจะทำหนังออกมาให้ลุ้นกันให้สนุกอีท่าไหน ในเมื่อก็รู้ๆอยู่ว่าจบแฮบปี้เอนดิ้ง

"ปลายทางหรือตอนจบนั้นไม่สำคัญ ถ้าเรารู้อยู่แล้วว่ามันจะจบยังไง แต่เรื่องราวระหว่างการเดินทางนี่สิ ที่ทำให้ชีวิตเราสนุกและน่าตื่นเต้น"

ผมเคยบอกประโยคในรีวิวหลายๆเรื่อง และเป็นสโลแกนประจำตัวผมเลยครับเวลาดูหนังและใช้ชีวิต หนังหลายๆเรื่องนั้นเราก็รู้ๆอยู่ว่าตอนจบจะเป็นยังไง พระเอกชนะผู้ร้าย นางเอกได้กับพระเอก ผู้ร้ายพ่ายแพ้โดนจับหรือตาย มันก็วนเวียนเป็นลูปอยู่แค่นี้ละครับสูตรสำเร็จหนังทั่วไป แต่ที่เราๆไปดูกัน เพราะเราอยากรู้ว่า วิธีเล่าเรื่องนั้นๆมันน่าสนใจยังไงมากกว่า..

หนังเรื่อง The 33 นี้ก็เช่นกัน ความสนุกมันอยู่ระหว่างทางการเล่าเรื่องครับ การมองโลกในแง่ดีของตัวเอกที่ปลุกเร้าให้เพื่อนๆทั้ง 33 คนอยู่อย่างอดทนและมีความหวัง การพยายามช่วยเหลือของคนภายนอก การเห็นบรรดาญาติๆเฝ้ารอคนในครอบครัวที่ตนรัก

หนังเรื่องนี้สมบูรณ์แบบในแง่ของอารมณ์นักแสดงที่สื่อสารออกมา บางคนอาจคิดว่าเล่นใหญ่ไปหรือเปล่า แต่ผมกลับมองว่า เล่นใหญ่อย่างนี้ละดี เราคนดูจะได้รู้เลยว่าตัวละครอยู่ในอารมณ์ไหนไม่ต้องเดา อย่างน้อยก็ไม่พูดคนเดียวเหมือนละครหลังข่าวหรอกน่า..

คืออินเนอร์นี่มาเต็มครับ บทปะทะคารม บทแสดงซีนที่ต้องบีบคั้นอารมณ์ นักแสดงนำหลักๆหลายๆคนทั้งหญิงและชายทุกๆท่านใส่กันเต็มที่ โดยเฉพาะ แอนโตนิโอ แบนเดอราส นี่จัดหนักตั้งแต่ต้นจนจบทีเดียว แกเล่นเยอะไว้ก่อน ตามสไตร์อเมริกาใต้ของแกนั่นละ เป็นบทพิสูจน์ว่าแกสามารถเล่นบทดราม่าหนักๆได้ดีเยี่ยมคนนึงเลย เอาอยู่และประคองอุ้มหนังทั้งเรื่องไว้ได้ เยอะและใหญ่

ถึงหนังจะดูเหมือนยัดเยียดความหวังและโลกสวยไว้มากมายทั้งเรื่อง แต่นี่คือสิ่งที่ควรจะเป็นสำหรับทุกคนที่ประสบกับเหตุการณ์วิกฤตในชีวิตครับ คือการรับมือสถานการณ์แบบนี้คุณต้องมีสติและมีความหวังจนเฮือกสุดท้าย อย่าถอดใจเด็ดขาด จนกว่าลมหายใจคุณจะหมด ถ้าถอดใจก่อนเวลาอันควร ก็จะจบเหมือนเรื่องเดอะมิส ซึ่ง โทมัส เจน แสดงนำนั่นละครับ อุ๊บส์!!

เมื่อหนังใส่ความหวังมาเต็มที่ขนาดนี้ ตอนจบก็แฮบปี้เอนดิ้งไปตามระเบียบ แหม่.. ก็รู้ๆกันอยู่ว่าจบอย่างนี้ แต่ครับแต่.. ถ้าไม่ได้การแสดงอันทรงพลังของดาราหลายๆคน โดยเฉพาะ Antonio Banderas และ Lou Diamond Phillips เราคงไม่รู้สึกเต็มอิ่มและตื้นตันในตอนจบได้มากมายขนาดนี้แน่นอนครับ

สรุป

เป็นหนังอีกเรื่องที่คนต้องการกำลังใจในชีวิตต้องดูครับ Must Watch เป็นอย่างยิ่ง ใครจะว่าเราโลกสวยวิ่งอยู่กลางทุ่งดอกไม้ลาเวนเดอร์ก็ช่างเค้าครับ เพราะชีวิตเราโลกเรามันโหดร้ายพออยู่แล้ว ไปเติมเต็มความหวังกับหนังดีๆอย่างเรื่อง The 33 กันบ้างก็ดีนะครับ

8.5/10

แก้ไขข้อความเมื่อ