คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 41
ดิฉันอยู่ที่แคนาดา(ประเทศที่คุณ จขกท. บอกว่าได้สัญชาติมาแล้ว)นะคะ
ที่ทำงานเฉพาะในแผนกที่ดิฉันทำงานอยู่มีมุสลิม 5 คนค่ะ มาจากต่างประเทศกันทั้งหมดแต่ก็เกิดที่แคนาดากัน 4 คนค่ะ ทั้งหมดนี้อาศัยหลักทางศาสนาเอาเปรียบเพื่อนร่วมงานค่ะ เพราะอ้างว่าต้องไปละหมาดตรงตามเวลาที่กำหนด ทางบริษัทก็ยอมนะคะ ให้ไปทำการละหมาดได้ แต่พวกท่านทั้งหลายใช้เวลาในการละหมาดถึง 30 นาทีต่อครั้ง โดยที่ไม่สนใจว่าเพื่อนร่วมงานที่ต้องทำงานแทนนั้นเหนื่อยกันแค่ไหน เพราะว่าลูกค้าเยอะมากๆค่ะ ทำไมดิฉันถึงคิดว่าพวกเขาเหล่านั้นเห็นแก่ตัวและเอาหลักศาสนามาอ้างในการได้พักยาวถึง 3 ช่างเวลา ( ปกติเราจะได้พัก 2 ช่วงเวลาครั้งละ 30 นาทีเท่านั้นค่ะ)ก็เพราะว่าในแผนกที่เกี่ยวข้องกันก็มีหัวหน้าเป็นมุสลิมค่ะ แต่เขาใช้เวลาในการละหมาดแต่ละครั้งไม่ถึง 10 นาทีค่ะ นี่คือตัวอย่างที่พวกเราชาวพุทธและชาวคริสต์ในที่ทำงานมองว่ามันเป็นการเอาเปรียบกัน เพราะว่าพวกเราไม่เคยอ้างถึงเรื่องศาสนาในที่ทำงานเลยค่ะ
ตอนที่เกิดเหตุบุกยิงสำนักสื่อในฝรั่งเศสเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ที่แผนกก็เกิดการวิวาทกันระหว่างมุสลิมกับคนฝรั่งเศสค่ะ รายละเอียดไม่ขอกล่าวถึงนะคะเพราะว่ายังอยู่ในขั้นตอนของการฟ้องร้องกันค่ะ ผู้จัดการแผนกต้องแยกคนฝรั่งเศสให้ไปทำงานแผนกอื่นชั่วคราวเพราะว่าถูกกล่าวอาฆาตมาดร้ายจากมุสลิมค่ะ ดิฉันและเพื่อนร่วมงานอีกสองคนซึ่งเป็นแคเนเดี่ยนแท้อยู่ในเหตุการณ์พอดีค่ะ ก็เลยต้องรับสภาพการเป็นพยานไปโดยปริยาย ขอบอกว่าวุ่นวายขายปลาวาฬมากมายค่ะ
ถ้าท่าน จขกท. ได้ติดตามข่าวของที่นี่บ้างก็คงจะทราบว่า ทางมุสลิมได้ยื่นเรื่องร้องขอให้ทางโรงเรียนใน Toronto (หรือจะทั่วทั้งจังหวัดออนทาริโอด้วยหรือไม่ก็ไม่แน่ใจนะคะ) ให้ทางโรงอาหารของโรงเรียนต่างๆงดขายอาหารที่มีหมูเป็นส่วนประกอบค่ะซึ่งเป็นการขอที่เห็นแก่ตัวมากๆ เนื่องจากที่นี่เป็นที่ที่มีคนทุกชาติศาสนามาอยู่ร่วมกัน บางคนก็อาจจะไม่กินเนื้อวัวหรือเนื้อแพะ เค้าก็ต้องกินหมูแทน โชคดีที่การขอนี้ไม่ผ่านค่ะ มีคนคัดค้านเยอะมาก
และอีกอย่างก็คือการขอให้ยกเลิกกฎหมายที่ว่าการที่จะเข้าสาบานตัวเป็นแคเนเดี่ยนนั้นเค้ามีกฎอยู่ว่าห้ามสวมผ้าคลุมผมที่คลุมมาเกือบทั้งหน้าเข้าไปค่ะ เรื่องจากต้องให้เห็นชัดว่าคนที่เข้ามาสาบานตัวนั้นเป็นคนๆเดียวกับที่ยื่นขอไป ถ้ารัฐบาลยอมให้สวมผ้าคลุมหน้าเข้าไปได้ก็คงต้องยอมยกประเทศให้พวกนี้ไปเลยดีกว่าค่ะ
มุสลิมเป็นพวกที่ไม่ยอมปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่บนแปลงของโลกเลย มีแต่จะให้โลกปรับตัวเข้ากับมุสลิมเท่านั้น
ปล. ดิฉันไม่ได้ต่อต้านศาสนานี้นะคะ มีเพื่อนร่วมงานที่เป็นมุสลิมหลายคนค่ะ บางคนก็สนอิทสนมกันมาก ไปดื่มกินด้วยกันบ่อยค่ะ
แก้ไขสะกดคำผิดค่ะ
............................................
เพิ่มเติมนะคะ
ตอนนี้ทางรัฐบาลกำลังจะไปรับเอาเหามาใส่หัวค่ะ คือจะเอาเครื่องบินไปรับผู้อพยพ(ซึ่งอ้างว่าลี้ภัยสงคราม)มาอยู่ที่นี่ 25,000 คนค่ะ ไม่อยากจะคิดว่าต้องเอาเงินภาษีที่รีดจากพวกเราที่ทำงานงกๆไปใช้จ่ายในการนี้อีกสักเท่าไหร่ ไหนจะค่ากินอยู่ ค่าที่พักและที่สำคัญก็คือพวกท่านจะมาถึงที่นี่ในช่วงที่หนาวจัดของปีพอดี ก็ต้องซื้อเสื้อผ้าเครื่งนุ่งห่มกันหนาวให้พวกท่านอีก ของถูกๆก็คงจะไม่ยอมรับกันอีกแน่นอน และถ้าปล่อยให้อยู่ไปนานๆก็คงจะมีเด็กเกิดใหม่กันมากมายแน่นอน คิดแล้วเซ็งค่ะ
สงสารก็แต่คนที่มีความรู้ความสามารถที่ยื่นขอ Permanent Resident: Skill workers type ก็ต้องทนรอกันนานหลายปี แต่คนพวกนี้มาได้อย่างสบาย งานก็ไม่ต้องทำ
ที่ทำงานเฉพาะในแผนกที่ดิฉันทำงานอยู่มีมุสลิม 5 คนค่ะ มาจากต่างประเทศกันทั้งหมดแต่ก็เกิดที่แคนาดากัน 4 คนค่ะ ทั้งหมดนี้อาศัยหลักทางศาสนาเอาเปรียบเพื่อนร่วมงานค่ะ เพราะอ้างว่าต้องไปละหมาดตรงตามเวลาที่กำหนด ทางบริษัทก็ยอมนะคะ ให้ไปทำการละหมาดได้ แต่พวกท่านทั้งหลายใช้เวลาในการละหมาดถึง 30 นาทีต่อครั้ง โดยที่ไม่สนใจว่าเพื่อนร่วมงานที่ต้องทำงานแทนนั้นเหนื่อยกันแค่ไหน เพราะว่าลูกค้าเยอะมากๆค่ะ ทำไมดิฉันถึงคิดว่าพวกเขาเหล่านั้นเห็นแก่ตัวและเอาหลักศาสนามาอ้างในการได้พักยาวถึง 3 ช่างเวลา ( ปกติเราจะได้พัก 2 ช่วงเวลาครั้งละ 30 นาทีเท่านั้นค่ะ)ก็เพราะว่าในแผนกที่เกี่ยวข้องกันก็มีหัวหน้าเป็นมุสลิมค่ะ แต่เขาใช้เวลาในการละหมาดแต่ละครั้งไม่ถึง 10 นาทีค่ะ นี่คือตัวอย่างที่พวกเราชาวพุทธและชาวคริสต์ในที่ทำงานมองว่ามันเป็นการเอาเปรียบกัน เพราะว่าพวกเราไม่เคยอ้างถึงเรื่องศาสนาในที่ทำงานเลยค่ะ
ตอนที่เกิดเหตุบุกยิงสำนักสื่อในฝรั่งเศสเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ที่แผนกก็เกิดการวิวาทกันระหว่างมุสลิมกับคนฝรั่งเศสค่ะ รายละเอียดไม่ขอกล่าวถึงนะคะเพราะว่ายังอยู่ในขั้นตอนของการฟ้องร้องกันค่ะ ผู้จัดการแผนกต้องแยกคนฝรั่งเศสให้ไปทำงานแผนกอื่นชั่วคราวเพราะว่าถูกกล่าวอาฆาตมาดร้ายจากมุสลิมค่ะ ดิฉันและเพื่อนร่วมงานอีกสองคนซึ่งเป็นแคเนเดี่ยนแท้อยู่ในเหตุการณ์พอดีค่ะ ก็เลยต้องรับสภาพการเป็นพยานไปโดยปริยาย ขอบอกว่าวุ่นวายขายปลาวาฬมากมายค่ะ
ถ้าท่าน จขกท. ได้ติดตามข่าวของที่นี่บ้างก็คงจะทราบว่า ทางมุสลิมได้ยื่นเรื่องร้องขอให้ทางโรงเรียนใน Toronto (หรือจะทั่วทั้งจังหวัดออนทาริโอด้วยหรือไม่ก็ไม่แน่ใจนะคะ) ให้ทางโรงอาหารของโรงเรียนต่างๆงดขายอาหารที่มีหมูเป็นส่วนประกอบค่ะซึ่งเป็นการขอที่เห็นแก่ตัวมากๆ เนื่องจากที่นี่เป็นที่ที่มีคนทุกชาติศาสนามาอยู่ร่วมกัน บางคนก็อาจจะไม่กินเนื้อวัวหรือเนื้อแพะ เค้าก็ต้องกินหมูแทน โชคดีที่การขอนี้ไม่ผ่านค่ะ มีคนคัดค้านเยอะมาก
และอีกอย่างก็คือการขอให้ยกเลิกกฎหมายที่ว่าการที่จะเข้าสาบานตัวเป็นแคเนเดี่ยนนั้นเค้ามีกฎอยู่ว่าห้ามสวมผ้าคลุมผมที่คลุมมาเกือบทั้งหน้าเข้าไปค่ะ เรื่องจากต้องให้เห็นชัดว่าคนที่เข้ามาสาบานตัวนั้นเป็นคนๆเดียวกับที่ยื่นขอไป ถ้ารัฐบาลยอมให้สวมผ้าคลุมหน้าเข้าไปได้ก็คงต้องยอมยกประเทศให้พวกนี้ไปเลยดีกว่าค่ะ
มุสลิมเป็นพวกที่ไม่ยอมปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่บนแปลงของโลกเลย มีแต่จะให้โลกปรับตัวเข้ากับมุสลิมเท่านั้น
ปล. ดิฉันไม่ได้ต่อต้านศาสนานี้นะคะ มีเพื่อนร่วมงานที่เป็นมุสลิมหลายคนค่ะ บางคนก็สนอิทสนมกันมาก ไปดื่มกินด้วยกันบ่อยค่ะ
แก้ไขสะกดคำผิดค่ะ
............................................
เพิ่มเติมนะคะ
ตอนนี้ทางรัฐบาลกำลังจะไปรับเอาเหามาใส่หัวค่ะ คือจะเอาเครื่องบินไปรับผู้อพยพ(ซึ่งอ้างว่าลี้ภัยสงคราม)มาอยู่ที่นี่ 25,000 คนค่ะ ไม่อยากจะคิดว่าต้องเอาเงินภาษีที่รีดจากพวกเราที่ทำงานงกๆไปใช้จ่ายในการนี้อีกสักเท่าไหร่ ไหนจะค่ากินอยู่ ค่าที่พักและที่สำคัญก็คือพวกท่านจะมาถึงที่นี่ในช่วงที่หนาวจัดของปีพอดี ก็ต้องซื้อเสื้อผ้าเครื่งนุ่งห่มกันหนาวให้พวกท่านอีก ของถูกๆก็คงจะไม่ยอมรับกันอีกแน่นอน และถ้าปล่อยให้อยู่ไปนานๆก็คงจะมีเด็กเกิดใหม่กันมากมายแน่นอน คิดแล้วเซ็งค่ะ
สงสารก็แต่คนที่มีความรู้ความสามารถที่ยื่นขอ Permanent Resident: Skill workers type ก็ต้องทนรอกันนานหลายปี แต่คนพวกนี้มาได้อย่างสบาย งานก็ไม่ต้องทำ
ความคิดเห็นที่ 21
มีน้องคนหนึ่งเป็นมุสลิม.มาฝึกงานด้วย..ได้ใกล้ชิด.เพราะกลางวันก็ทานข้าวกัน..เลยได้นั่งคุยกันเรื่องเหล่านี้.
ผมขอบอกได้เลยว่า...อนาคต.น่ากลัวมาก...เยาวชน.คนหนุ่มสาวเหล่ามุสลิมนี้..ถูกฝังความเชื่อในหัว.จนหลุดไปในมุมของศาสนาด้านความรุนแรง.อย่างมาก
เขาอ้างว่า..เรื่องทั้งหมด.เป็นเรื่องที่ยิวและอเมริกาปั้นเรื่องขึ้น.เหตุการ 9/11 ยิวเป็นคนวางแผน.ทำกัน..หรือถึงขนาด.บางเวลาบอก.เป็นหนังที่ฮอลิวู้ด.ทำไว้หลอกโลก.ให้เชื่อ..........นี่แค่เรื่องแรกนะ.
คุณเจ้าของกระทู้ลองคิดแบบนี้นะ..
-มุสลิมไปอยู่ไหน.ทำไม.จะต้องเรียกร้องสิทธิ.และทำตัวแตกต่างจากชุมชนนั้นๆ.ขออภิสิทธิ์นับถือและปฏิบัติตัว.ไม่เหมือนคนรอบข้าง.ทั้งๆที่ชุมชนนั้นเป็นของเจ้าของประเทศเดิมอยู่............ถ้าเขาไม่เห็นพ้องด้วย..ก้อ้างว่า..ถูกกดขี่ กลั่นแกล้งรังแก.ถูกเลือกปฏิบัติ..ยกตัวอย่างเช่น.ในแคนนาดา.เคยได้ิยินไหม.ที่ชาวมุสลิมร้อง ผู้ว่าเมือง?? ไม่ให้ขายอาหารผสมเนื้อหมูในเมือง..............(ยังหาข่าวไม่เจอ.ถ้าเจอจะมาแป๊ะไว้ให้)
-ถ้ามุสลิม.ขยายเผ่าพันธ์มากขึ้นจนเป็นส่วนมากของสังคม...ก้จะกดขี่ รังแก.คนพื้นที่.คนดั้งเดิมให้อยู่ไม่ได้.ให้ไล่ออกจากพื้นที่.โดยอ้างว่า.เป็นคำสั่งของพระเจ้า..และถึงขั้น ทำร้าย.ฆ่าคนส่วนน้อยนั้นต่อไป..ตัวอย่างในหลายพื้นที่ของโลก
แค่นี้ก่อนนนะครับ..เดี่ยวว่างๆ จะมาต่อ
ผมขอบอกได้เลยว่า...อนาคต.น่ากลัวมาก...เยาวชน.คนหนุ่มสาวเหล่ามุสลิมนี้..ถูกฝังความเชื่อในหัว.จนหลุดไปในมุมของศาสนาด้านความรุนแรง.อย่างมาก
เขาอ้างว่า..เรื่องทั้งหมด.เป็นเรื่องที่ยิวและอเมริกาปั้นเรื่องขึ้น.เหตุการ 9/11 ยิวเป็นคนวางแผน.ทำกัน..หรือถึงขนาด.บางเวลาบอก.เป็นหนังที่ฮอลิวู้ด.ทำไว้หลอกโลก.ให้เชื่อ..........นี่แค่เรื่องแรกนะ.
คุณเจ้าของกระทู้ลองคิดแบบนี้นะ..
-มุสลิมไปอยู่ไหน.ทำไม.จะต้องเรียกร้องสิทธิ.และทำตัวแตกต่างจากชุมชนนั้นๆ.ขออภิสิทธิ์นับถือและปฏิบัติตัว.ไม่เหมือนคนรอบข้าง.ทั้งๆที่ชุมชนนั้นเป็นของเจ้าของประเทศเดิมอยู่............ถ้าเขาไม่เห็นพ้องด้วย..ก้อ้างว่า..ถูกกดขี่ กลั่นแกล้งรังแก.ถูกเลือกปฏิบัติ..ยกตัวอย่างเช่น.ในแคนนาดา.เคยได้ิยินไหม.ที่ชาวมุสลิมร้อง ผู้ว่าเมือง?? ไม่ให้ขายอาหารผสมเนื้อหมูในเมือง..............(ยังหาข่าวไม่เจอ.ถ้าเจอจะมาแป๊ะไว้ให้)
-ถ้ามุสลิม.ขยายเผ่าพันธ์มากขึ้นจนเป็นส่วนมากของสังคม...ก้จะกดขี่ รังแก.คนพื้นที่.คนดั้งเดิมให้อยู่ไม่ได้.ให้ไล่ออกจากพื้นที่.โดยอ้างว่า.เป็นคำสั่งของพระเจ้า..และถึงขั้น ทำร้าย.ฆ่าคนส่วนน้อยนั้นต่อไป..ตัวอย่างในหลายพื้นที่ของโลก
แค่นี้ก่อนนนะครับ..เดี่ยวว่างๆ จะมาต่อ
ความคิดเห็นที่ 3
คุณเกิดที่ประเทศไทย คุณก็คือคนไทยแล้วครับ ความน่าสงสารของลูกพี่ลูกน้องคุณไม่สามารถแก้ปัญหาผู้ก่อการร้ายอ้างอิงคำภีรอัลกุรอานเพื่อทำสงครามศาสนาได้ครับ การที่คุณอ้างว่าประเทศใหญ่ๆยิงคนอิสลามซึ่งมีทั้งเด็กๆ พ่อแม่พี่น้องทำให้พวกเขาลุกฮือกันต่อต้าน เลยทำให้พวกคุณจึงมีความชอบธรรมในการฆ่าคนนอกศาสนาแบบเดียวกัน ก็ไม่ได้ช่วยให้สันติได้เกิดครับ ในทางพุทธ พวกเราเรียกสิ่งนี้ว่า กรรมบาปที่กระทำต่อกันไม่มีวันจบสิ้นจนกว่าจะอโหสิ
คุณไม่ใช่คนเลวร้าย และผมมองว่าคนทุกคนในโลกนี้ไม่ได้เลวร้ายไปซะหมด แต่คนดีบางคนถูกคนเลวอ้างหลักศาสนาชักจูงให้ฆ่าผู้บริสุทธิ์ แสดงว่าตัวคำสอนบางอย่างมีข้อบกพร่องที่ทำให้สามารถอ้างถึงหรือสื่อถึงหรือตีความให้ฆ่าคนได้อย่างชอบธรรม
คุณเชื่อว่าผู้ก่อการร้ายที่อ้างทำเพื่อพระเจ้าจะหมดไป ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยครับ ตราบใดที่อัลกุรอานยังคลุมเคลือ หรือพี่น้องอิสลามยังเห็นดีเห็นงามกับการโต้ตอบผู้บริสุทธิ์ของพวกผู้ก่อการร้าย
ผมจะยกตัวอย่างนะครับ
นาย A โดนนาย B ต่อย (นาย C เป็นพี่น้องกับนาย A และรู้สึกเห็นใจนาย A ที่โดนรังแก)
นาย A หยิบหินขว้างใส่นาย B ( นาย C คิดว่าสมควรแล้วเพราะนาย B แกล้งนาย A ก่อน)
นาย A โดนนาย B ตีด้วยไม้ ( นาย C รู้สึกโกรธและประนามว่าใช้อาวุธ)
นาย A หยิบมีดไล่ฟันนาย B ( นาย C รู้สึกว่าสมควรแล้วเพราะนาย B ใช้อาวุธก่อน เราเห็นด้วยกับการตอบโต้)
นาย A ถูกนาย B ใช้ปืนไล่ยิง ( ณ จุดนี้ นาย C เริ่มทนไม่ไหว เข้าไปช่วยนาย A )
นาย A และ นาย C ช่วยกันไล่ยิง นาย B
มันคือการโต้ตอบ และเอาศาสนามาอ้างเพื่อความถูกต้อง อีกทั้งยังมีความสงสารความเห็นผิดๆ ทำให้สงครามมันลุกลาม ตราบใดที่พี่น้องอิสลายังมีความคิดเหมือนนาย C สงครามก็ไม่มีวันหมดไป
คุณไม่ใช่คนเลวร้าย และผมมองว่าคนทุกคนในโลกนี้ไม่ได้เลวร้ายไปซะหมด แต่คนดีบางคนถูกคนเลวอ้างหลักศาสนาชักจูงให้ฆ่าผู้บริสุทธิ์ แสดงว่าตัวคำสอนบางอย่างมีข้อบกพร่องที่ทำให้สามารถอ้างถึงหรือสื่อถึงหรือตีความให้ฆ่าคนได้อย่างชอบธรรม
คุณเชื่อว่าผู้ก่อการร้ายที่อ้างทำเพื่อพระเจ้าจะหมดไป ซึ่งเป็นไปไม่ได้เลยครับ ตราบใดที่อัลกุรอานยังคลุมเคลือ หรือพี่น้องอิสลามยังเห็นดีเห็นงามกับการโต้ตอบผู้บริสุทธิ์ของพวกผู้ก่อการร้าย
ผมจะยกตัวอย่างนะครับ
นาย A โดนนาย B ต่อย (นาย C เป็นพี่น้องกับนาย A และรู้สึกเห็นใจนาย A ที่โดนรังแก)
นาย A หยิบหินขว้างใส่นาย B ( นาย C คิดว่าสมควรแล้วเพราะนาย B แกล้งนาย A ก่อน)
นาย A โดนนาย B ตีด้วยไม้ ( นาย C รู้สึกโกรธและประนามว่าใช้อาวุธ)
นาย A หยิบมีดไล่ฟันนาย B ( นาย C รู้สึกว่าสมควรแล้วเพราะนาย B ใช้อาวุธก่อน เราเห็นด้วยกับการตอบโต้)
นาย A ถูกนาย B ใช้ปืนไล่ยิง ( ณ จุดนี้ นาย C เริ่มทนไม่ไหว เข้าไปช่วยนาย A )
นาย A และ นาย C ช่วยกันไล่ยิง นาย B
มันคือการโต้ตอบ และเอาศาสนามาอ้างเพื่อความถูกต้อง อีกทั้งยังมีความสงสารความเห็นผิดๆ ทำให้สงครามมันลุกลาม ตราบใดที่พี่น้องอิสลายังมีความคิดเหมือนนาย C สงครามก็ไม่มีวันหมดไป
ความคิดเห็นที่ 48
จริงๆ แล้ว ศาสนาเป็นเพียง "ความเชื่อและศรัทธา" ให้มนุษย์ดำรงตนอยู่ในทำนองคลองธรรมที่ถูกที่ควร เป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจให้ไม่กระทำเลว ของหมู่ชนเหล่านั้น
- ทำไมอิสลามถึงไม่ยอมรับใน "ความเชื่อและความศรัทธา" ของศานาอื่น เหตุใดจึงคิดว่าศาสนาของตัวเองดีและถูกต้องฝ่ายเดียว ผู้อื่นนอกศาสนาคือผู้ผิด (ส่วนตัวเราคิดว่า คำสอนแบบนี้ไร้เหตุผล) อ้างอิงจากความคิดเห็นที่ 29-5
- ศาสนาทุกศาสนาบนโลกนี้สอนให้ทุกคนทำความดีละความชั่ว แล้วเหตุใดศาสนาอิสลามถึงยกให้การเข่นฆ่าในสงครามเพื่อพระเจ้าคือความดี และดีมากกว่าการทำดีทั่วไป อัลลอฮ ต้องการให้ผู้อื่นตายเพียงเรื่อง เชื่อและไม่เชื่อ จริงๆหรือ (ส่วนตัวเราคืดว่า คำสอนที่แท้จริงไม่ได้เจตนาแบบนี้ แต่ผู้สอนให้เชื่อแปลเจตนารมย์ไปในทางผิด และไม่มีใครคิดคัดค้านเพราะกลัวว่าตัวเองจะบาปเพราะไม่ศรัทธาพระเจ้า)
- การกดขี่ข่มเหงทางเพศ ให้เพศหญิงดูต้อยต่ำ ดูไร้คุณค่า มีความเป็นมนุษย์น้อยกว่าเพศชายในประเทศที่นับถือศานาอิสลามอย่างตะวันออกกลาง เป็นเรื่องที่ศาสนาอิสลามเห็นควรว่าภูกต้องเช่นนั้นหรือ (ส่วนตัวสงสัยว่า มุสลิมเพศหญิงมีความสุขกับความเชื่อแบบนี้จริงๆหรือ)
- ศาสนาอื่นบนโลกนี้ไม่เคยเข่นฆ่ากันโดยเอาหลักศาสนามาเป็นสาเหตุเลย พุทธไม่เคยก่อสงครามเพราะรังเกียจคริสต์ คริสต์ไม่เคยฆ่าฮินดูเพราะไม่เชื่อในพระเยซู ทั้งๆที่ทุกศาสนาก็มีหลายนิกายแยกกันไปตามภูมิภาค และข่าวความรุนแรงทั้งหมดที่มีมายาวนานทางด้านศาสนานั้นก็มักมีอิสลามเป็นคู่กรณีทั้งสิ้น เป็นสงครามทางศาสนา
เราว่านี่คือสิ่งที่คนในสังคมโลกนี้เค้าเคลือบแคลงและสงสัยในคำสอนของศาสนาอิสลาม มันมีข่าวด้านที่ไม่ดีมากเสียจนกลบความดีของเนื้อแท้ในศาสนาอิสลามไปหมด และก็ไม่เคยเห็นผู้มีอิทธิพลในศาสนานี้ออกมาชี้แจงหรือทำความกระจ่างให้คนในสังคมโลกนี้เข้าใจเลย
ถึงแม้เรามีเพื่อนเป็นมุสลิมหลายคน มองแต่ตัวบุคคลเค้าก็เป็นคนดีกันทุกคน แต่ทุกครั้งที่คุยกันเรื่องเหตุผลหรือต้องใช้ปัญญาแก้ปัญหา เค้ามักยึดถือแต่ "ทุกสิ่งเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า" และปล่อยให้มันเป็นแบบนั้นต่อไปโดยไม่แก้ไขปัญหาใดๆ เหมือนใช้ชีวิตไปเรื่อยเปื่อย แล้วแค่สวรรค์จะพาไป ซึ่งเราคิดว่ามันเป็นความคิดที่ฉุดความเจริญของชีวิต และล้าหลังมากไปจริงๆ
- ทำไมอิสลามถึงไม่ยอมรับใน "ความเชื่อและความศรัทธา" ของศานาอื่น เหตุใดจึงคิดว่าศาสนาของตัวเองดีและถูกต้องฝ่ายเดียว ผู้อื่นนอกศาสนาคือผู้ผิด (ส่วนตัวเราคิดว่า คำสอนแบบนี้ไร้เหตุผล) อ้างอิงจากความคิดเห็นที่ 29-5
- ศาสนาทุกศาสนาบนโลกนี้สอนให้ทุกคนทำความดีละความชั่ว แล้วเหตุใดศาสนาอิสลามถึงยกให้การเข่นฆ่าในสงครามเพื่อพระเจ้าคือความดี และดีมากกว่าการทำดีทั่วไป อัลลอฮ ต้องการให้ผู้อื่นตายเพียงเรื่อง เชื่อและไม่เชื่อ จริงๆหรือ (ส่วนตัวเราคืดว่า คำสอนที่แท้จริงไม่ได้เจตนาแบบนี้ แต่ผู้สอนให้เชื่อแปลเจตนารมย์ไปในทางผิด และไม่มีใครคิดคัดค้านเพราะกลัวว่าตัวเองจะบาปเพราะไม่ศรัทธาพระเจ้า)
- การกดขี่ข่มเหงทางเพศ ให้เพศหญิงดูต้อยต่ำ ดูไร้คุณค่า มีความเป็นมนุษย์น้อยกว่าเพศชายในประเทศที่นับถือศานาอิสลามอย่างตะวันออกกลาง เป็นเรื่องที่ศาสนาอิสลามเห็นควรว่าภูกต้องเช่นนั้นหรือ (ส่วนตัวสงสัยว่า มุสลิมเพศหญิงมีความสุขกับความเชื่อแบบนี้จริงๆหรือ)
- ศาสนาอื่นบนโลกนี้ไม่เคยเข่นฆ่ากันโดยเอาหลักศาสนามาเป็นสาเหตุเลย พุทธไม่เคยก่อสงครามเพราะรังเกียจคริสต์ คริสต์ไม่เคยฆ่าฮินดูเพราะไม่เชื่อในพระเยซู ทั้งๆที่ทุกศาสนาก็มีหลายนิกายแยกกันไปตามภูมิภาค และข่าวความรุนแรงทั้งหมดที่มีมายาวนานทางด้านศาสนานั้นก็มักมีอิสลามเป็นคู่กรณีทั้งสิ้น เป็นสงครามทางศาสนา
เราว่านี่คือสิ่งที่คนในสังคมโลกนี้เค้าเคลือบแคลงและสงสัยในคำสอนของศาสนาอิสลาม มันมีข่าวด้านที่ไม่ดีมากเสียจนกลบความดีของเนื้อแท้ในศาสนาอิสลามไปหมด และก็ไม่เคยเห็นผู้มีอิทธิพลในศาสนานี้ออกมาชี้แจงหรือทำความกระจ่างให้คนในสังคมโลกนี้เข้าใจเลย
ถึงแม้เรามีเพื่อนเป็นมุสลิมหลายคน มองแต่ตัวบุคคลเค้าก็เป็นคนดีกันทุกคน แต่ทุกครั้งที่คุยกันเรื่องเหตุผลหรือต้องใช้ปัญญาแก้ปัญหา เค้ามักยึดถือแต่ "ทุกสิ่งเป็นพระประสงค์ของพระเจ้า" และปล่อยให้มันเป็นแบบนั้นต่อไปโดยไม่แก้ไขปัญหาใดๆ เหมือนใช้ชีวิตไปเรื่อยเปื่อย แล้วแค่สวรรค์จะพาไป ซึ่งเราคิดว่ามันเป็นความคิดที่ฉุดความเจริญของชีวิต และล้าหลังมากไปจริงๆ
ความคิดเห็นที่ 10
คุณบอกเกิดมากับศาสนานี้ และจะตายไปกับศาสนานี้ แค่นี้ก็น่ากลัวแล้ว
ไม่ได้ห้ามนะคะว่าให้คุณเลิกนับถือ ถ้านะคะเพื่อส่วนรวม เพื่อความสงบสุขของโลก ดิฉันยินที่จะไม่นับถือศาสนาอะไรทั้งสิ้น
แล้วคุณละคะ ยินดีเลิกนับถือศาสนาได้ไหม หันมาใช้ชีวิตเหมือนพวกเราธรรมดา
ไม่ต้องมีศาสนาอะไร พวกเราเป็นมนุษย์นี่ละที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์กันเมื่อเวลาลําบาก
คุณทําได้ไหมละ คะ
ไม่ได้ห้ามนะคะว่าให้คุณเลิกนับถือ ถ้านะคะเพื่อส่วนรวม เพื่อความสงบสุขของโลก ดิฉันยินที่จะไม่นับถือศาสนาอะไรทั้งสิ้น
แล้วคุณละคะ ยินดีเลิกนับถือศาสนาได้ไหม หันมาใช้ชีวิตเหมือนพวกเราธรรมดา
ไม่ต้องมีศาสนาอะไร พวกเราเป็นมนุษย์นี่ละที่จะช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์กันเมื่อเวลาลําบาก
คุณทําได้ไหมละ คะ
แสดงความคิดเห็น
ขอความเห็นใจคนๆนึง ที่ถูกกล่าวหาค่ะ