@@@@@-----เฮ้ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ...............อย่าไปทะเลาะกับเขานะครับ-----@@@@@

ในที่สุดก็ออกมาจนได้ครับ

จากที่ตอนแรก
แค่ออกมาแสดงความยินดีปรีดากับการก่อการร้ายที่ Paris
ถึงตอนนี้กลุ่ม ISIS ก็ออกแถลงการแล้วว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์นี้

http://www.ft.com/cms/s/2/df273ef8-8ab4-11e5-a549-b89a1dfede9b.html#slide0

มันไม่แปลกซักนิดเลยครับ

เพราะ ISIS คือคู่กรณีของขาติตะวันตก






ISIS คือ Islamic state of Iraq and Syria
ชื่อแซ่ก็บอกโต้งๆอยู่แล้วว่าเป็น "กลุ่มรัฐอิสลามที่อยู่ในอิรัก และ ซีเรีย"

ซิกเนเจอร์ประจำตัวก็คือ
การฆ่าตัวประกันแบบ "โหดสัส"
ไม่ว่าจะเผา , เชือดคอ , ยิงทิ้ง , กดน้ำ  ฯลฯ ไอ้พวกนี้ถนัดทั้งนั้น

แรกเริ่มเดิมที
มันก็คือความขัดแย้งกันเอง
ในกลุ่มของนักรบอิสลามที่อยู่คนละนิกายกัน

"อาบู มูซาบ อัล ซาคาวี"
เป็นผู้นำของ "อัลกออิดะห์" ที่อยู่ในอิรัก
และ ได้รวบรวมกลุ่มก้อนของคนที่ต่อต้านมุสลิมชีอะห์เข้าด้วยกัน

ก่อนที่จะพากันไปถล่มมัสยิดสำคัญของชาวชีอะห์ราบเป็นหน้ากลอง

แต่อัล ซาคาวี มันก็ไม่รอดหรอกครับ
เพราะโดนทหารอเมริกันฆ่าตายปิดฉากผู้นำอัลกออิดะห์ในอิรัก



แม้อัล ซาคาวี จะหมดลม
แต่ไอ้กลุ่มนี้มันเงินถุงเงินถัง
เพราะต่อมามัน "รีแบรนดิ้ง" กลับมาใหม่กลายเป็น ISI
ซึ่งในตอนนั้นก็คือกลุ่มอิสลามที่ปักหลักอยู่ในประเทศอิรัก

ก่อนที่ในตอนหลังจะเพิ่มตัว S มาอีกตัวเป็น ISIS
โดยรวมเอา S ซึ่งก็คือ Syria เข้ามาผนึกกำลังเป็นกลุ่มเป็นก้อน


http://edition.cnn.com/interactive/2014/09/world/isis-explained/


สาเหตุที่ ISI เล็ง Syria ตาเป็นมัน
ก็เพราะว่า Syria นั้นมีภูมิประเทศที่เข้าตา
เหมาะที่จะนำมาใช้เป็นฐานที่ตั้งไว้ต่อกรกับประเทศตะวันตกได้อย่างสมน้ำสมเนื้อ

CIA ถึงขนาดเคยระบุว่า
พื้นที่แถบนี้เป็นพื้นที่ "ปราบเซียน"
เพราะ Iraq และ Syria มีพรมแดนติดกัน
การถ่ายเทของกองกำลัง และ การขนย้ายทรัพยากรทำได้ง่ายมาก

และ ปัจจัยที่ว่านี้แหละที่ทำให้ ISIS แข็งแกร่ง



แน่นอนว่า ISIS เป็น "สุหนี่"
และก็ไม่อยากอยู่ร่วมโลกกับ "ชีอะห์"
ดังนั้นมันจึงต้องฆ่ากันตายให้รู้ดีรู้ชั่วกันไปข้างนึง...!!!

ISIS เริ่มสะสมทุน
ด้วยการปล้นสะดมภ์
และ เรียกค่าคุ้มครองจากบรรดานักธุรกิจ

จากนั้นก็เริ่มยึดครองพื้นที่ต่างๆ
โดยเลือกพื้นที่ๆมีทรัพยากรที่มีค่า
ไอ้ทรัพยากรที่ว่านั้นก็คือ "น้ำมัน" นั่นแหละเพราะแถวนั้นมันมีแต่น้ำมัน

พอมีเงินมากขึ้น ISIS ก็หาพวก
มันใช้วิธีบ้านๆแบบในหนังด้วยการบุกโจมตีเรือนจำ
จากนั้นก็ประกาศปล่อยตัวนักโทษทั้งหลาย แล้วเอาเข้ามาเป็นกองกำลังฝึกการรบให้เสร็จสรรพ์

ใครไม่เป็นพวกมันก็คงต้องไปเฝ้าพระอัลเลาะห์สถานเดียว (โคตรโหดเลย)



รัฐบาลอิรักเคยออกมาฉะซาอุฯ และ การ์ต้า
ว่าเป็น "กลุ่มทุน" ที่อยู่เบื้องหลังในการสนับสนุน ISIS
และก็แน่นอนว่าทั้งซาอุฯ และ การ์ต้า ต่างก็พากันปฏิเสธเสียงแข็ง

ไปๆมาๆ
จาก ISIS ที่มีกันแค่ Iraq และ Syria
ถึงตอนนี้มีทั้งญี่ปุ่น ออสเตรเลีย เชชเนีย ฝรั่งเศส อังกฤษ
และ คนอีกหลายๆชาติที่แห่กันไปเป็นนักรบให้ ISIS เฉยเลย

The Economist ประเมินว่า
ISIS น่าจะมีกองกำลังมากกว่า 6,000 คนในอิรัก
และ มีอยู่อีก  3,000 ถึง 5,000 คนในซีเรีย ....!!!!!!!!

และ อาจจะมี "ชาวบ้าน" มาเป็นทหารกองหนุนอีกถึง 15,000 คน

โอววววววว.....จะ "ขรำ" ดีมั๊ยเนี่ยยยยย...????

http://www.economist.com/news/middle-east-and-africa/21604230-extreme-islamist-group-seeks-create-caliphate-and-spread-jihad-across


ISIS ไม่ได้มีแต่ "ลูกโหด"
เพราะในด้านของ CSR ก็มีด้วยเช่นกัน

ISIS จัดตั้งกลุ่มทำงานด้าน CSR เพื่อซื้อใจคนในพื้นที่
มีการจัดกิจกรรมเพื่อเด็กๆ , มีการทำ "ประชานิยม" แจกเครื่องอุปโภคบริโภค ,
มีการออกหน่วยแพทย์เคลื่อนที่เพื่อดูแลสุขภาพให้กับชาวบัาน ซึ่งเป็นการซื้อใจในแบบ "ทุนนิยม" ชัดๆ (ฮา...)

แต่ไม่ว่าจะอย่างไร "ลูกโหด" ก็ยังอยู่ครบ    

เพราะ ISIS ถนัดมากในเรื่องของระเบิดพลีชีพ
เนื่องจากมันสามารถฆ่าคนได้เป็นจำนวนมากในครั้งเดียว
และ เมื่อโจมตีฝ่ายรัฐได้แล้ว ISIS ก็จะยึดเอาอาวุธของอีกฝ่ายมาไว้ใช้อีกต่างหาก

ความฝันอันสูงสุดของ ISIS นั้น
พวกเขาตั้งเป้าหมายเอาไว้ว่าจะตั้ง "รัฐอิสลาม" ขึ้นมา
และ ตรากฏหมายของตัวเองออกมาใช้ที่ชื่อว่า Sharia Law

http://edition.cnn.com/2014/06/12/world/meast/who-is-the-isis/

กฎหมายที่ว่านี้
จะออกแนวจิตๆโหดๆ
มีความเข้มงวด และ มีบทลงโทษกันที่รุนแรง

โห.....ที่เป็นอยู่ตอนนี้ยังโหด ยังรุนแรงไม่พออีกเหรอเนี่ย..?????



"อาบู นิดาล" อาจโดนเก็บไปนานแล้วที่ตูนีเซีย
(จ่าอยู่ที่นั่นในตอนที่มีการบุกไปฆ่านิดาลจนเป็นข่าวดังทั่วโลก)
"บิน ลาเดน" อาจจะลาโลกไปแล้วด้วยฝีมือของอเมริกาชนิดหาศพไม่เจอ

แต่ไอ้ที่เหลืออยู่อย่าง ISIS นี่แหละครับ ที่ดูๆไปแล้วท่าทางจะน่ากลัวกว่าเยอะ

เพราะมันทั้งโหด ทั้งจิต
เหมือนดูหนังของ เควนติน ทารันติโน่
ผสมกับหนังของ อัลเฟรด ฮิทช์ค็อก ที่ชวนให้ขนพองสยองเกล้าทุกทีที่พวก ISIS ก่อเหตุ

กะลานิเซียอย่าไปทะเลาะกับเขานะครับ
เพราะขนาดแค่ทำให้ตุรกีเคืองเรื่องอุยกูร์เรื่องเดียวก็แย่แล้ว...!!!!!












ขอบคุณพี่ผุยแห่งห้องย่อยบีเทิ่ลส์ ที่สละล็อคอินมาให้จ่าลุยต่อครับ






จ่าพิเชษฐ์
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่