สวัสดีค่ะ วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์ ตัดผ้าม่าน (ตามหัวข้อเลยค่ะ)
กระทู้นี้เรียกว่าเป็นกระทู้ "ดองเค็ม" เลยก็ว่าได้
เพราะว่าจริง ๆ แล้วตั้งใจจะมาเขียนตั้งแต่ตอนต้นปี 58 แต่ว่าไม่ว่างเข้ามาเขียนเลย
ถึงตอนนี้ฤกษ์งาม ยามดี ว่าแล้วก็เริ่มลุยกันเลยค่ะ
ไอ้เรามันก็เป็นผู้หญิงช่างเลือกอยู่แล้วค่ะ จะตัดผ้าม่านทั้งที งบก็ไม่ใช่น้อย ๆ
ตะเวนไปทั่วค่ะ ทั้งงานเฟอร์นิเจอร์ / บ้านและสวน / พาหุรัด / homepro / ikea / index หรือแม้กระทั้งร้านผ้าม่านแถวบ้าน
ตอนแรกลังเล ว่าจะตัดใหม่ หรือว่าจะซื้อแบบสำเร็จรูปดี ???
พอได้ไปหาข้อมูล ถ้าซื้อแบบสำเร็จรูป ของเราจะมีปัญหาเรื่องขนาดของหน้าต่าง และประตู
ที่มันจะไม่พอดี กับผ้าม่าน และราว ที่มีขาย (ราว มีคนบอกว่าสามารถต่อความยาวได้ แต่เราว่ามันไม่ค่อยแข็งแรง)
ขาด ๆ เกิน ๆ หาที่มันจะพอดียาก ที่สำคัญ บางครั้ง แบบผ้าม่าน สีที่เราชอบ ก็มีไม่พอกับที่เราอยากได้
ที่สำคัญตอนติดตั้งอีก ต้องมาเจาะสว่าน กะ ระยะ เจาะไปดี ไม่มี เจาะเอียง ไม่สวยอีก คิดแล้วกลุ้ม
สุดท้ายตัดใจค่ะ ตัดใหม่ ทั้งหลังเลย งบประมาณเพิ่มขึ้นมาหน่อย แต่ก็ถือว่าถูกใจ
แต่ละร้านที่รับตัด ก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป ตอนแรกเราแปลกใจมาก ตอนไปคุยที่งานเฟอร์นิเจอร์ (ร้านที่เจ้าของร้านเป็นอินเดีย ๆ ค่ะ )
เค้าบอกว่าเป็นร้านผ้ามาจากพาหุรัดเองโดยตรง
ราคาถูกมากกกกกกก ย้ำค่ะว่า ถูกมากจริง ๆ ถ้าเทียบกับการไปคุยกับที่อื่น (ที่เป็นแบบสั่งตัดเหมือนกัน)
เลยเริ่มแปลกใจว่า ทำไมราคาถึงได้ต่างกันจัง
เพื่อเป็นข้อมูลกับเพื่อน ๆ จึงอยากแชร์ข้อมูลไว้ เพื่อการพิจารณานะคะ ว่าหากต้องการที่จะตัดผ้าม่าน ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง
อันนี้เป็นภาพขนาดและจำนวนหน้าต่างของบ้านเราค่ะ
(ทำเป็นภาพแบบละเอียดไปเลย เพราะว่าเวลาไปคุยเค้าต้องถามขนาดหน้าต่าง จำนวน เราเลยขี้เกียจพูดหลาย ๆ รอบ อิอิ)
1.เนื้อผ้าที่จะใช้ ราคาของผ้า จำนวนผ้าที่จะใช้ ส่วนใหญ่ร้านผ้าจะคิดเป็นราคาต่อ หลา อันนี้เป็นตัวแปลสำคัญมาก
ในการคำนวณราคา ร้านที่ถูกมาก ๆ เค้าจะใช้จำนวนผ้าที่น้อย ทำให้ราคาถูก แต่ผ้าม่านที่ออกมาและไม่สวย ไม่เป็นลอนเมื่อดึงผ้าม่านปิด
ส่วนใหญ่ ร้านผ้าม่านจะรับผ้ามาจากโรงงานอีกทอด ซึ่งก็จะมียี่ห้อ เนื้อผ้า ที่ไม่แตกต่างกันมาก
ฉะนั้น จึงควรสังเกตุ ยี่ห้อของผ้าที่เราจะเลือกนะคะ และเอาไว้เปรียบเทียบกับร้านอื่น ๆ
การมีม่านผ้าโปร่ง จะช่วยบังสายตา และทำให้บ้านดูสวยขึ้นอีก 20% หุหุ
ภาพม่านประตู + ผ้าโปร่ง + โชว์ลอนของผ้าม่านเมื่อรูดปิด
2. วัสดุที่จะทำเป็นราวแขวน ก็จะมีหลายแบบค่ะ ทั้งเป็นไม้ เหล็กพ่นสี สแตสเลส อันนี้สามารถเลือกได้ตามรสนิยมเลย
ซึ่งราคาไม่ค่อยต่างกัน เพราะทางร้านจะคิดราคาเป็นเมตร ส่วนราคาตัวปิด ซ้าย ขวาก็แล้วแต่เเบบที่เลือกค่ะ (ของเราเลือก
แบบที่เป็นสแตนเลส ค่ะ แพงหน่อย แต่ว่าที่เดียวคุ้ม)
ภาพวัสดุ รวมแขวน ต่าง ๆ ค่ะ
3.ระยะเวลาในการเย็บ และการเข้ามาติดตั้งค่ะ ของเราใช้เวลาในการเย็บ 1 สัปดาห์ และทางร้านจะโทรมานัดเพื่อเข้ามาติดตั้งอีกครั้ง
4.ค่าแรงในการเย็บ ทางร้านมีคิดเพิ่มหรือป่าว เพราะบางร้าน จะคิดรวมในราคาผ้า เลย บางร้านคิดค่าผ้า กับค่าแรงในการเย็บ แยกกัน
(ของเราทางร้านคิดรวม) อันนี้ขอแนะนำให้ถามว่าจะมีการใส่โซ่ เพื่อถ่วงให้ผ้าม่านมีน้ำหนักด้วยหรือป่าว ถ้าไม่มีผ้าม่าน
จะไม่ค่อยทิ้งตัว ไม่ค่อยสวยค่ะ
5. การเผื่อจำนวนผ้าม่าน ทั้งด้านบน และด้านล่าง โดยปกติจะเผื่อกันประมาณ 10-15 ซม. ขึ้นอยู่กับคุยกันทางร้านค่ะ
ถ้าเป็นประตูจะเผื่อแต่ด้านบนเท่านั้นนะคะ เพราะด้านล่างถ้าเผื่อมากเดี๋ยวจะลากพื้น ไม่สวย (ของเราเผื่อไว้ประมาณ 15 ซม.)
มีหน้าต่างอยู่ 1 บานที่เราทำติดตั้งแต่เพดานลงมาเลย (ทำเหมือนเป็นม่านประตูซะงั้น) เราว่ามันสวยกว่า ที่จะติดจากขอบหน้าต่าง
แต่ว่างบไม่พอ ที่จะทำทุกบานค่ะ เพราะค่าผ้าจะแพงมากกกก
ภูมิใจนำเสนอ ผ้าม่านหน้าต่าง ที่ทำยาวเหมือนม่านประตู
สรุปของเรา
ใช้ผ้าเนื้อหนา (เพราะกันแสงได้ดี) ราคา 220 บาท ต่อหลา (ราคานี้รวมค่าแรง ค่าติดตั้งตั้งหมด) ใช้ผ้า 140 หลา
เราเลือกผ้าแต่ละห้อง สีไม่เหมือนกันทั้งหลังนะคะ (ไม่มี คชจ เพิ่ม)
อ่อเกือบลืม อันนี้มีผ้าโปร่งด้วย อีก 1 ชุด (ตรงประตูหน้าบ้าน)
ราวสแตนเลส สีเงิน ต่อไปต่อมา ราคารวมอยู่ที่ 32,000 บาท
ร้านที่เลือกอยู่ที่สนามหลวง 2 นะคะ (ใกล้บ้านดี ไม่มีค่าขนส่งเพิ่ม ราคา กับคุณภาพน่าคบหา)
ปล ตัวเลขอาจมีคาดเคลื่อนนิดหน่อยนะคะ เพราะนานมากแล้ว ขออภัย
ประมาณนี้ค่ะ หากเพื่อน มีความคิดเห็นอย่างไรเข้ามาแชร์กันได้นะคะ
หรือหากใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม ก็หลังไมค์มาได้เลย
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจนจบนะคะ ^^
แชร์ประสบการณ์ ตัดผ้าม่าน บ้านแฝด ทั้งหลัง (สนามหลวง 2)
กระทู้นี้เรียกว่าเป็นกระทู้ "ดองเค็ม" เลยก็ว่าได้
เพราะว่าจริง ๆ แล้วตั้งใจจะมาเขียนตั้งแต่ตอนต้นปี 58 แต่ว่าไม่ว่างเข้ามาเขียนเลย
ถึงตอนนี้ฤกษ์งาม ยามดี ว่าแล้วก็เริ่มลุยกันเลยค่ะ
ไอ้เรามันก็เป็นผู้หญิงช่างเลือกอยู่แล้วค่ะ จะตัดผ้าม่านทั้งที งบก็ไม่ใช่น้อย ๆ
ตะเวนไปทั่วค่ะ ทั้งงานเฟอร์นิเจอร์ / บ้านและสวน / พาหุรัด / homepro / ikea / index หรือแม้กระทั้งร้านผ้าม่านแถวบ้าน
ตอนแรกลังเล ว่าจะตัดใหม่ หรือว่าจะซื้อแบบสำเร็จรูปดี ???
พอได้ไปหาข้อมูล ถ้าซื้อแบบสำเร็จรูป ของเราจะมีปัญหาเรื่องขนาดของหน้าต่าง และประตู
ที่มันจะไม่พอดี กับผ้าม่าน และราว ที่มีขาย (ราว มีคนบอกว่าสามารถต่อความยาวได้ แต่เราว่ามันไม่ค่อยแข็งแรง)
ขาด ๆ เกิน ๆ หาที่มันจะพอดียาก ที่สำคัญ บางครั้ง แบบผ้าม่าน สีที่เราชอบ ก็มีไม่พอกับที่เราอยากได้
ที่สำคัญตอนติดตั้งอีก ต้องมาเจาะสว่าน กะ ระยะ เจาะไปดี ไม่มี เจาะเอียง ไม่สวยอีก คิดแล้วกลุ้ม
สุดท้ายตัดใจค่ะ ตัดใหม่ ทั้งหลังเลย งบประมาณเพิ่มขึ้นมาหน่อย แต่ก็ถือว่าถูกใจ
แต่ละร้านที่รับตัด ก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันไป ตอนแรกเราแปลกใจมาก ตอนไปคุยที่งานเฟอร์นิเจอร์ (ร้านที่เจ้าของร้านเป็นอินเดีย ๆ ค่ะ )
เค้าบอกว่าเป็นร้านผ้ามาจากพาหุรัดเองโดยตรง
ราคาถูกมากกกกกกก ย้ำค่ะว่า ถูกมากจริง ๆ ถ้าเทียบกับการไปคุยกับที่อื่น (ที่เป็นแบบสั่งตัดเหมือนกัน)
เลยเริ่มแปลกใจว่า ทำไมราคาถึงได้ต่างกันจัง
เพื่อเป็นข้อมูลกับเพื่อน ๆ จึงอยากแชร์ข้อมูลไว้ เพื่อการพิจารณานะคะ ว่าหากต้องการที่จะตัดผ้าม่าน ต้องคำนึงถึงอะไรบ้าง
อันนี้เป็นภาพขนาดและจำนวนหน้าต่างของบ้านเราค่ะ
(ทำเป็นภาพแบบละเอียดไปเลย เพราะว่าเวลาไปคุยเค้าต้องถามขนาดหน้าต่าง จำนวน เราเลยขี้เกียจพูดหลาย ๆ รอบ อิอิ)
1.เนื้อผ้าที่จะใช้ ราคาของผ้า จำนวนผ้าที่จะใช้ ส่วนใหญ่ร้านผ้าจะคิดเป็นราคาต่อ หลา อันนี้เป็นตัวแปลสำคัญมาก
ในการคำนวณราคา ร้านที่ถูกมาก ๆ เค้าจะใช้จำนวนผ้าที่น้อย ทำให้ราคาถูก แต่ผ้าม่านที่ออกมาและไม่สวย ไม่เป็นลอนเมื่อดึงผ้าม่านปิด
ส่วนใหญ่ ร้านผ้าม่านจะรับผ้ามาจากโรงงานอีกทอด ซึ่งก็จะมียี่ห้อ เนื้อผ้า ที่ไม่แตกต่างกันมาก
ฉะนั้น จึงควรสังเกตุ ยี่ห้อของผ้าที่เราจะเลือกนะคะ และเอาไว้เปรียบเทียบกับร้านอื่น ๆ
การมีม่านผ้าโปร่ง จะช่วยบังสายตา และทำให้บ้านดูสวยขึ้นอีก 20% หุหุ
ภาพม่านประตู + ผ้าโปร่ง + โชว์ลอนของผ้าม่านเมื่อรูดปิด
2. วัสดุที่จะทำเป็นราวแขวน ก็จะมีหลายแบบค่ะ ทั้งเป็นไม้ เหล็กพ่นสี สแตสเลส อันนี้สามารถเลือกได้ตามรสนิยมเลย
ซึ่งราคาไม่ค่อยต่างกัน เพราะทางร้านจะคิดราคาเป็นเมตร ส่วนราคาตัวปิด ซ้าย ขวาก็แล้วแต่เเบบที่เลือกค่ะ (ของเราเลือก
แบบที่เป็นสแตนเลส ค่ะ แพงหน่อย แต่ว่าที่เดียวคุ้ม)
ภาพวัสดุ รวมแขวน ต่าง ๆ ค่ะ
3.ระยะเวลาในการเย็บ และการเข้ามาติดตั้งค่ะ ของเราใช้เวลาในการเย็บ 1 สัปดาห์ และทางร้านจะโทรมานัดเพื่อเข้ามาติดตั้งอีกครั้ง
4.ค่าแรงในการเย็บ ทางร้านมีคิดเพิ่มหรือป่าว เพราะบางร้าน จะคิดรวมในราคาผ้า เลย บางร้านคิดค่าผ้า กับค่าแรงในการเย็บ แยกกัน
(ของเราทางร้านคิดรวม) อันนี้ขอแนะนำให้ถามว่าจะมีการใส่โซ่ เพื่อถ่วงให้ผ้าม่านมีน้ำหนักด้วยหรือป่าว ถ้าไม่มีผ้าม่าน
จะไม่ค่อยทิ้งตัว ไม่ค่อยสวยค่ะ
5. การเผื่อจำนวนผ้าม่าน ทั้งด้านบน และด้านล่าง โดยปกติจะเผื่อกันประมาณ 10-15 ซม. ขึ้นอยู่กับคุยกันทางร้านค่ะ
ถ้าเป็นประตูจะเผื่อแต่ด้านบนเท่านั้นนะคะ เพราะด้านล่างถ้าเผื่อมากเดี๋ยวจะลากพื้น ไม่สวย (ของเราเผื่อไว้ประมาณ 15 ซม.)
มีหน้าต่างอยู่ 1 บานที่เราทำติดตั้งแต่เพดานลงมาเลย (ทำเหมือนเป็นม่านประตูซะงั้น) เราว่ามันสวยกว่า ที่จะติดจากขอบหน้าต่าง
แต่ว่างบไม่พอ ที่จะทำทุกบานค่ะ เพราะค่าผ้าจะแพงมากกกก
ภูมิใจนำเสนอ ผ้าม่านหน้าต่าง ที่ทำยาวเหมือนม่านประตู
ใช้ผ้าเนื้อหนา (เพราะกันแสงได้ดี) ราคา 220 บาท ต่อหลา (ราคานี้รวมค่าแรง ค่าติดตั้งตั้งหมด) ใช้ผ้า 140 หลา
เราเลือกผ้าแต่ละห้อง สีไม่เหมือนกันทั้งหลังนะคะ (ไม่มี คชจ เพิ่ม)
อ่อเกือบลืม อันนี้มีผ้าโปร่งด้วย อีก 1 ชุด (ตรงประตูหน้าบ้าน)
ราวสแตนเลส สีเงิน ต่อไปต่อมา ราคารวมอยู่ที่ 32,000 บาท
ร้านที่เลือกอยู่ที่สนามหลวง 2 นะคะ (ใกล้บ้านดี ไม่มีค่าขนส่งเพิ่ม ราคา กับคุณภาพน่าคบหา)
ปล ตัวเลขอาจมีคาดเคลื่อนนิดหน่อยนะคะ เพราะนานมากแล้ว ขออภัย
ประมาณนี้ค่ะ หากเพื่อน มีความคิดเห็นอย่างไรเข้ามาแชร์กันได้นะคะ
หรือหากใครอยากได้ข้อมูลเพิ่มเติม ก็หลังไมค์มาได้เลย
ขอบคุณที่เข้ามาอ่านจนจบนะคะ ^^