อุ้ม ธีราทร เมื่อ 4 ปีที่นี้คือดาวรุ่งที่โด่งดังที่สุดในยุคนั้นต่างก็ได้รับคาดหมายว่าจะเป็น นิวดุสิต หรือบางคนถึงกับบอกว่าคนนี้จะไปไกลกว่าดุสิตชะอีก อุ้มอีกติดทีมชาติไทยชุดใหญ่ตั้งแต่อายุ 17-18 ปีเป็นการการันตีได้ว่าเขายอดเยี่ยมแค่ไหน แต่เหตุการณ์ที่หลายคนไม่คาดคิดก็เกิดขึ้นเมื่อย้อนกลับไปในเดือนพฤศจิกายน 2554 หรือเมื่อ 4 ปีที่แล้วในเกมที่ต้องพบกับซาอุดิอาระเบียในเกมนั้นมีการเข้าเกมกันหนักมากๆแถมกรรมการดูเหมือนจะปล่อยปะละเลยจนมีการวางมวยกันหลายคน และลงท้ายด้วยเจ้าอุ้มถุกใบแดง กรรมการถูกแบนจาก AFC เพราะเป่าเข้าข้างเจ้าบ้านซาอุ



ถัดจากนั้นอุ้มต้องรีบบินจากซาอุเพื่อมายังอินโดเนเชียมหามิตรเพื่อนบ้านเราเพื่อเล่นซีเกมส์ในวันถัดมาทันที่ แต่แล้วเกมกับมหามิตรอินโดนั้นกรรมการกลับให้ใบเหลืองอุ้มง่ายๆ 2 เหลืองทั้งทีเหตุการณ์ก็ไม่ได้มีอะไรมากมายเหมือนกับว่าอุ้มถูกหมายหัวไวแต่แรกอยู่แล้วเพราะขึ้นชื่อเรื่องการควบคุมอารมณ์ ทำให้เกมนั้นกับอินโดอุ้มใช้เวลาในสนามทั้งสิ้นเพียง 12 นาทีเท่านั้น และเป็นใบแดงที่ 2ของเจ้าตัวในรอบ 2 วันเท่านั้นจาก 2 เกม



ผลสุดท้าย ทีมชาติไทยพ่ายแพ้อินโดนีเซียจากทีเด็ดของชาวอินโดเชื้อสายปาปัวอย่าง “ไตตัส โบไน” กองหน้าความเร็วสูง ไป 3-1 ตกรอบแรกซีเกมส์สองสมัยซ้อน ชื่อของเจ้าอุ้มเป็นที่พูดถึงอย่างหนักอีกครั้ง และตกเป็นแพะจากการพ่ายแพ้ครั้งนั้น เจ้าอุ้มถูกโจมตีอย่างหนักจากชาวไทยในทุกๆเว็บบอร์ด ทุกสำนักข่าวและช่องทีวี สิ่งเหล่านี้ยังตราตรึงใจและความจำของเหล่าแฟนบอลไทยได้เป็นอย่างดีเห็นได้จากกระทู้ "บทเรียนจาก ธีราทร พยัคฆ์อรุณ คอลัมน์ "จะคงมีมาเรื่อยๆเกือบร้อยกระทู้ตลอด 4 ปีที่ผ่านในพันทิบ

"ผมรู้สึกท้อสุดๆ เล่นแล้วก็โดนด่าจนถึงขนาดไปปรึกษาพ่อเพื่อขอเลิกเล่นทีมชาติ แต่พ่อบอกว่าตนเองอุตส่าห์ตามรับตามส่งผมตั้งแต่เด็กหมดเงินเสียเวลาไปไม่รู้เท่าไหร่ ยอมเหนื่อยมาโดยตลอดจะมาเลิกแค่นี้ได้ยังไงให้คิดดูดีๆ ผมจึงตัดสินใจสู้ต่อ” เจ้าอุ้มกล่าว

จากนักเตะซึ่งไม่มีใครเหลียวแล สภาพจิตใจได้รับผลกระทบอย่างนัก แทบหมดอนาคตในการเล่นฟุตบอลและทีมชาติไทย ธีราธรกลับไม่เคยถูก “เนวิน ชิดชอบ” บุรุษผู้ปลุกปั้นบุรีรัมย์พีอีเอขึ้นชิงบัลลังก์ไทยพรีเมียร์ลีกทอดทิ้ง ธีราธรก้มหน้าก้มตาพัฒนาฝีเท้าของตนเองจนขึ้นมาเป็นแบ็คซ้ายชั้นแนวหน้าของประเทศ รวมถึงสร้างชื่อในเวทีระดับเอเชียโดยการพาทีมบุรีรัมย์เข้าถึงรอบ 8 ทีมสุดท้ายและติดตัวสำรองของทีมยอดเยี่ยมของทัวร์นาเม้นต์ AFC Champions League ในปี 2013 นอกจากนี้ เจ้าตัวยังคว้าตำแหน่งแบ็คซ้ายประจำทีมยอดเยี่ยมของรอบแบ่งกลุ่ม ACL ในปี 2015 อีกด้วยและในปัจจุบันเขาคือกัปตันทีมชาติไทยที่ไม่สามารถขาดได้ ด้วยหัวใจที่แข็งแกร่งดังหินผา ทักษะที่ยอดเยี่ยมเกินบรรยายและบทเรียนที่เจ็บปวดที่สุดสู่กัปตันแบ็คซ้ายที่ดีที่สุดเท่าที่ทีมชาติไทยเคยมีมา


แถมรูปอีกอีกเซ้ตใหญ่ๆให้ติ่งอุ้มได้ฟินๆจนน้ำตาไหล หนูก็เป็นติ่งอุ้มคนหนึ่งค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อุ้มสมัยเด็ก

อุ้มสมัยโต










เครดิต อ้างอิงจาก http://www.soccersuck.com/boards/topic/1296195