สวัสดีค่ะ มีที่พักดีๆ มาแนะนำสำหรับเพื่อน ๆ ที่หาที่เที่ยวแบบธรรมชาติ วิวน้ำ ภูเขา ต้องที่นี่เลย เรือนแพ ริเวอร์แคว จังเกิลราฟท์
ขอบอกบรรยากาศธรรมชาติจริง ไม่มีไฟฟ้ามีแต่แสงไฟจากตะเกียงเท่านั้น จขกท.ได้ไปเที่ยวมาเมื่อ วันที่ 7 พ.ย.58 ที่ผ่านมา โดยรถยนต์ส่วนตัว การเดินทางจะต้องนำรถมาจอดที่ท่าเรือ รีโซเทล
ทางเข้าไปท่าเรือจากปากทางประมาณ 2-3 กิโล เพื่อนั่งเรือหางยาวต่อเข้าไปยังที่พัก
ที่จอดรถเป็นลานกว้างมากเลือกจอดได้ตามสบายเลย ช่วงที่มายังไม่มีคนมากนัก เวลาเช็คอิน ประมาณบ่าย 2 โมง แต่ จขกท.มาก่อนเวลา เลยต้องนั่งรอเรือเลยถ่ายรูปไปพลาง ๆ เจ้าหน้าที่พอเห็นเราเอารถเข้ามาจอดก็เดินมาสอบถามว่าจะไปพักแพไหน เราบอกจังเกิ้ลราฟท์ เค้าก็ดูรายชื่อ พอดีว่าเราไม่ได้เช่าเรือเหมาลำเลยต้องรอนักท่องเที่ยวรายอื่น ๆ  ให้ได้ครบเที่ยว
ประมาณ 30 นาที เรือก็มาจัดการขนกระเป๋าขึ้นเรือ รอบนี้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเยอะมาก
ผ่านเดอะ โฟลตเฮาส์ ริเวอร์แคว รีสอร์ท
นั่งเรือชมธรรมชาติข้างทาง สักพักก็มาถึงที่พัก
น้อง ๆ พนักงานส่วนมากเป็นชาวมอญก็ออกมาต้อนรับพร้อมกับพาไปเช็คอินแล้วก็แนะนำว่าห้องพักอยู่ตรงไหน ดินเนอร์ อาหารเช้าตั้งกี่โมง บลา ๆ จขกท.ได้ห้องพักที่ 43 กุญแจทำออกมาน่ารักดีมีไฟฉายให้ด้วย เห็นจิ๋วแบบนี้สว่างมากน่ะตอนใช้ไว้ส่องทางเดินกลางคืน
ได้กุญแจแล้วก็เดินหาห้องพักได้ห้องที่ 43 เป็นห้องริมโชคดีมาก แล้วก็จะมีห้องติด ๆ กันอีก 3 ห้อง แยกกันแพหลังหนึ่งมี 4 ห้องติดกัน
ถึงห้องพักแล้วภายในห้องดูกระทัดรัดดีมี เตียงใหญ่ กับเตียงเล็ก นอนได้ 3 คนเลย มีผ้าเช็ดตัวให้ 2 ชุด แชมพู ไม้แขวนผ้า

หลังห้องมีเปลให้นอนเล่นด้วย
มาดูบรรยากาศหน้าห้องบ้างมีเปลให้นอนเล่นเหมือนกันทุกห้องเลย
แอบไปเล่นน้ำมาน้ำเย็นมาก ต้องไปกระโดดจากหัวแพน้ำจะไม่ค่อยแรง แล้วปล่อยให้ไหลไปตามกระแสน้ำ กิจกรรมนี้ฮิตมากใครมาแล้วไม่เล่นเคาบอกว่ามาไม่ถึงที่

ยังมีบริการนวดแผนไทยด้วย ถ้าจำไม่ผิดค่าบริการชั่วโมงละ 400 บาท นักท่องเที่ยวชาวต่างชาตินิยมมาก

หลังจากเล่นน้ำเสร็จเย็น ๆ ก็ไปเดินเล่นหมูบ้านมอญ อยู่บริเวณหลังที่พัก เค้าทำทางขึ้นสะดวกมาก ในหมู่บ้านมีชาวบ้านที่ทำงานให้กับรีสอร์ทพักอาศัยอยู่ มีโรงเรียนเล็ก ๆ วัด สนามฟุตบอล

มีช้างให้นักท่องเที่ยวได้นั่งชมธรรมชาติด้วย

เดินเที่ยวจนเหนื่อย ถึงเวลากลับที่พักแล้ว กลับมาอีกทีพนักงานเตรียมจุดตะเกียงไว้หน้าห้องและทางเดินแต่ละห้องแล้ว ดูสวยงามมาก แต่กลิ่นน้ำมันก๊าดนี่แรงจริง ๆ
ถึงเวลาดินเนอร์มื้อค่ำ ที่นี่เค้าจะตั้งโต๊ะประมาณ 1 ทุ่ม พนักงานจะส่งสัญญาณเรียกดังทั่วแพ อาหารที่นี่รสชาติกลาง ๆ เพื่อให้นักท่องเที่ยวชาวต่างชาติได้ด้วย วันที่ไปพักมีอาหาร 5 อย่าง ซี่โครงหมูทอด แกงส้มไก่ใส่ฟัก ผัดบวบใส่ไข่ ผัดเผ็ดไก่ใส่ถั่วฝักยาว ปิดท้ายด้วยผลไม้ มีสัปรดกับแตงโม  ภาพมืดไปหน่อยมองไม่เห็น แต่เติมได้ตลอด

หลังจากกินมื้อค่ำเรียบร้อยแล้ว ประมาณ 3 ทุ่มก็จะมีการแสดงของมอญ ดนตรีนี่คึกคักเลย แสดงประมาณ 30 นาที การแสดงสิ้นสุดลงก็กลับห้องของตัวเอง นอนฟังคลื่นน้ำกระทบฝั่งจนหลับไปเลย

ตื่นเช้ามาสดชื่นมากมีหมอกเต็มไปหมดเสียดายไม่ได้เก็บภาพ หลังจากนั้นก็หาอาหารเช้ากินกัน ที่นี่เค้าจะตั้งโต๊ะประมาณ 7 - 9 โมงเช้าค่ะ ต้องรีบมาไม่งั้นจะอดได้ที่นั่งริม ๆ อาหารก็ง่าย ๆมีนม น้ำส้ม ชา กาแฟแล้วแต่เราจะเลือก  ขนมปัง ไข่แฝด แล้วปิดท้ายด้วยสัปรด แอบเปรี้ยวไปหน่อย


กินอิ่มแล้ว..หาที่เอนกายสักพัก ประมาณ 9 โมงเราก็เช็คเอาท์ออก
สักพักเจ้าหน้าที่ก็โทรบอกเรือให้มารับ เป็นทริปที่ประทับใจมาก...แล้วจะมาใหม่น้าาา