มนุษย์เงินเดือน อย่าหลงตัวเองวิเศษเลย
"คนบางประเภท นี่
ก็แนวความคิดมนุษย์เงินเดือนจริงๆ ปากก็บอก ยุ่งไม่ค่อยอยากจะสอนใคร เพราะมันจะเสียเวลางานของตนเอง แต่ไม่เคยนึกถึงตัวเองบ้าง หากมีอะไรไม่เข้าใจ แล้วไปถามคนอื่น แต่ตอบกลับมาว่า กรูยุ่งจะรุ้สึกอย่างไร หรือ จะให้เขามโนเองไหมว่า จะต้องทำอะไรบ้าง ขนาดบางคนพูดซะดิบดี น้องงั้นน้องงี้ แต่ก็ชอบซอกแซกปัญหาคนอื่นแล่วเอาไปนินทาลับหลัง พอถามกลับก็บอกน้องจะรุ้ไปทำไม ตรงนี้เห็นได้ว่า คนเอาแต่หน้ากากเข้าหากันนั่นแหล่ะ คือ ถ้าไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูด
นี่แหล่ะมั้ง หากเป็นพนักงานออฟฟิต ก็ต้องทนๆไป อย่างดีก็เป็นแค่หัวหน้าแผนก แล้วก็ทำจนเขาไล่ออก บางคนนี่ก็พูดมาได้นะ เดี๋ยวถ้าทำจน ไม่ไหว องค์กรจะจ้างเป็นที่ปรึกษา ไอห่าสุดท้าย
ก็ไปเอาเด็กจบใหม่มาแทนไง เพราะยังอ่อนต่อโลก ควบคุมง่าย แล้วก็เพราะแบบนี้หล่ะ คนคิดถึงแต่ตัวเอง มันเลยเป็นปัญหา บางคน
ก็พูดซะดิบดี รักอิสระ เป็นฟรีแลนซ์ มีคอนเน็ตชั่น สุดท้ายก็แค่พวกบ้านรวย มีอันจะกินแค่นั้น ลองถ้ามาตัวเปล่าๆฟรีแลนซ์สิ
แล้วก็มีคนบางประเภท ยอมทิ้งความฝัน ต่างๆ มาเป็นมนุษย์เงินเดือน คือ แบบไม่ต้องเอาเวลาไปนึกถึงมันอีกเลย เพราะ ต้องอุทิศ แรงกายใจ ทั้งวัน เข้าเช้า เลิกสามทุ่ม เพื่อให้ตนเองมีกินใช้ เห็นแล้วก็ปลงจริงๆ ส่วนพวกบ้านมีฐานะหน่อย ก็มักจะตามหาอิสระภาพ แต่เอาเข้าจริงก็บ้านซัพพอร์ตทั้งนั้นแหล่ะ ไม่เป็นลูกจ้างก็ไม่เดือดร้อนอะไรอยุ่แล่ว
ส่วนไอที่บอก ต้องดูลักษณะงานที่ได้รับ ทำให้ก้าวหน้าด้วย แต่เอาเข้าจริงมันจะมีสักกี่คนหล่ะที่ได้ตรงนั้น หลายคนไม่ชอบก็ต้องฝืนทนทำไป เพราะต้องกินต้องใช้ ยังไงก็อย่าเอาคำว่า passion อะไรมาพูดให้สวยหรูเลย เพราะไอตรงนี้ มันไม่ได้มาง่ายๆหรอก ไอคำว่า ความสำเร็จ ที่วัดจากตัวเงิน ที่คนมองว่ายิ่งใหญ่เหลือเกิน"
ใครที่สนใจ อ่านพวกข้อคิด หรือ ทำความเข้าใจสิ่งต่างๆตามจริง
ขอย้ำนะว่า สิ่งต่างๆตามจริงก็เข้ามา พูดคุย อ่านกันได้ทีนี่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
https://www.facebook.com/masterzhun
มนุษย์เงินเดือน อย่าหลงตัวเองวิเศษเลย คุณก็แค่ลูกจ้าง ไม่ได้ใหญ่กว่าเจ้าของ
"คนบางประเภท นี่ก็แนวความคิดมนุษย์เงินเดือนจริงๆ ปากก็บอก ยุ่งไม่ค่อยอยากจะสอนใคร เพราะมันจะเสียเวลางานของตนเอง แต่ไม่เคยนึกถึงตัวเองบ้าง หากมีอะไรไม่เข้าใจ แล้วไปถามคนอื่น แต่ตอบกลับมาว่า กรูยุ่งจะรุ้สึกอย่างไร หรือ จะให้เขามโนเองไหมว่า จะต้องทำอะไรบ้าง ขนาดบางคนพูดซะดิบดี น้องงั้นน้องงี้ แต่ก็ชอบซอกแซกปัญหาคนอื่นแล่วเอาไปนินทาลับหลัง พอถามกลับก็บอกน้องจะรุ้ไปทำไม ตรงนี้เห็นได้ว่า คนเอาแต่หน้ากากเข้าหากันนั่นแหล่ะ คือ ถ้าไม่อยากพูดก็ไม่ต้องพูด
นี่แหล่ะมั้ง หากเป็นพนักงานออฟฟิต ก็ต้องทนๆไป อย่างดีก็เป็นแค่หัวหน้าแผนก แล้วก็ทำจนเขาไล่ออก บางคนนี่ก็พูดมาได้นะ เดี๋ยวถ้าทำจน ไม่ไหว องค์กรจะจ้างเป็นที่ปรึกษา ไอห่าสุดท้ายก็ไปเอาเด็กจบใหม่มาแทนไง เพราะยังอ่อนต่อโลก ควบคุมง่าย แล้วก็เพราะแบบนี้หล่ะ คนคิดถึงแต่ตัวเอง มันเลยเป็นปัญหา บางคนก็พูดซะดิบดี รักอิสระ เป็นฟรีแลนซ์ มีคอนเน็ตชั่น สุดท้ายก็แค่พวกบ้านรวย มีอันจะกินแค่นั้น ลองถ้ามาตัวเปล่าๆฟรีแลนซ์สิ
แล้วก็มีคนบางประเภท ยอมทิ้งความฝัน ต่างๆ มาเป็นมนุษย์เงินเดือน คือ แบบไม่ต้องเอาเวลาไปนึกถึงมันอีกเลย เพราะ ต้องอุทิศ แรงกายใจ ทั้งวัน เข้าเช้า เลิกสามทุ่ม เพื่อให้ตนเองมีกินใช้ เห็นแล้วก็ปลงจริงๆ ส่วนพวกบ้านมีฐานะหน่อย ก็มักจะตามหาอิสระภาพ แต่เอาเข้าจริงก็บ้านซัพพอร์ตทั้งนั้นแหล่ะ ไม่เป็นลูกจ้างก็ไม่เดือดร้อนอะไรอยุ่แล่ว
ส่วนไอที่บอก ต้องดูลักษณะงานที่ได้รับ ทำให้ก้าวหน้าด้วย แต่เอาเข้าจริงมันจะมีสักกี่คนหล่ะที่ได้ตรงนั้น หลายคนไม่ชอบก็ต้องฝืนทนทำไป เพราะต้องกินต้องใช้ ยังไงก็อย่าเอาคำว่า passion อะไรมาพูดให้สวยหรูเลย เพราะไอตรงนี้ มันไม่ได้มาง่ายๆหรอก ไอคำว่า ความสำเร็จ ที่วัดจากตัวเงิน ที่คนมองว่ายิ่งใหญ่เหลือเกิน"
ใครที่สนใจ อ่านพวกข้อคิด หรือ ทำความเข้าใจสิ่งต่างๆตามจริง
ขอย้ำนะว่า สิ่งต่างๆตามจริงก็เข้ามา พูดคุย อ่านกันได้ทีนี่
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้