[CR] [Road Trip] ดอยเสมอดาว เมืองน่าน ภูสอยดาว ภูทับเบิก 2คน 7วัน 1920กม.




จุดเริ่มต้น

ทริปนี้เกิดจากแฟนของผมนางไปเห็นกระทู้รีวิว "ดอยเสมอดาว" ของใครสักคนเข้า นางเลยมาเปรยๆ กับผมว่านางอยากไป ผมก็ไม่ขัดใจนาง เพราะมีเวลาที่ว่างตรงกันอยู่พอดี ก็เลยตกลงปลงใจไปกับนางแต่โดยดี

จากนั้นเราก็เลยช่วยกันหาข้อมูล เส้นทางที่จะใช้เดินทางว่าผ่านสถานที่ไหนบ้างโดยมี ดอยเสมอดาวเป็นเป้าหมาย
นางก็ร่ายมาว่านางอยากไปภูทับเบิก อยากเที่ยวเมืองน่าน ส่วนผมอยากไปพิชิตภูสอยดาว

ผมก็ได้ทำตามความประสงค์ของนางให้ได้มากที่สุด และกำหนดเวลาของทริปนี้ ประมาณ 7วันด้วยกัน โดยเราจะเริมจากการไปกางเต้นท์ที่ ดอยเสมอดาว อุทยานแห่งชาติศรีน่าน 1คืน ต่อด้วยเข้าไปพักและเที่ยวในเมืองน่าน โดยจะอยู่ที่เมืองน่าน 2คืน จากนั้นจะวิ่งต่อไปยัง อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว 1คืน และจบด้วยที่ ภูทับเบิกอีก 1คืน คร่าวก็ประมาณนี้ โดยที่ระยะเวลา และสถานที่เรากำหนดให้สามารถคลาดเคลื่อนแล้วแต่สถานการณ์จะอำนวย


Let's go...!!!



วันพฤหัสบดีสีแสด
เนื่องจากวันที่เราต้องออกเดินทางนั่นนางมีธุระด่วนที่ต้องไปสะสางก่อนเดินทาง กว่านางจะสะสางทุกอย่างเสร็จก็ปาเข้าไปบ่ายสอง อย่างที่บอกแพลนของพวกเรานั้น สามารถยืดหยุ่นได้ วันที่เราออกเดินทางเป็นวันพฤหัส กลางเดือน ต.ค. ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลของทริปนี้มีอย่างเดียวที่ถูกกำหนดตายตัวคือ โรงแรมที่เราจองไว้ในเมืองนานจำนวน 2คืน คือ คืนวันเสาร์ และอาทิตย์ ทำให้เราพอมีเวลาออกนอกเส้นทางก่อนขึ้นดอยเสมอดาวพอสมควร

"แวะพักกลางทาง"
ในเมื่อเราออกเดินทางตอนบ่ายทำให้เราไม่สามารถไปถึงน่านได้ตามเวลาที่กำหนดซึ่งเราก็ได้สำรองแผนเอาไว้แล้วว่าเราอาจจะแวะพักนอนที่พิษณุโลกกันก่อน เลยหาเบอร์โทรที่พักต่างๆ ที่พิษณุโลกจากสมาร์โฟนของเราทั้งคู่ เมื่อเราไปถึงพิษณุโลกก็มืดเสียแล้ว จัดการโทรหาที่พัก พอได้ที่พักก็รีบบึ่งเข้าที่พัก แล้วพักผ่อนกันทันที

วันศุกร์สีฟ้า


อาหารมื้อแรกของเราที่พิษณุโลก


เช้านี้เรารีบออกจากที่พักเพื่อจะรีบไปหาข้าวปลาอาหารใส่ท้องกัน แล้วต่อด้วยไปไหว้พระพุทธชินราชซึ่งเป็นพระคู่บ้านคู่เมืองของ เมืองพิษณุโลกสองแคว วันนี้เราค่อนข้าวจะมีเวลาพอสมควรเลยแวะไปที่เซนทรัล พิษณุโลกเพื่อ อาหารแห้งสำหรับคืนนี้ ที่เราจะไปกางเต็นท์นอนกันที่ดอยเสมอดาว หลังจากซื้อของที่เซนทรัลเสร็จเราก็ออกเดินทางต่อ โดยมุ่งหน้าไปยัง ดอยเสมอดาวตามเส้นทางที่ที่ Google Map ได้พิจารณาไว้ให้เรา








พระพุทธชินราช ณ วัดพระศรีรัตนมหาธาตุวรมหาวิหาร จ.พิษณุโลก


"สถานีต่อไปดอยเสมอดาว"
เราออกจากพิษณุโลกประมาณเกือบๆ บ่าย 2โมง Google Map มีเส้นทางให้เราเลือกเดินทางได้ทั้งหมด 3ทางเลือกด้วยกัน และด้วยความที่พวกเรางกน้ำมันมากๆ จริงแล้วพวกเราก็ไม่ได้งกนะ แค่ต้องการจะช่วยโลกลดการใช้พลังงานเท่านั้นเอง(555) เราเลือกเส้นทางที่มีระยะทางน้อยที่สุด เรามุ่งหน้าขึ้น "ดอยเสมอดาว" โดยใช้ทางหลวงหมายเลข 11 ซึ่งที่สามารถไปน่านแล้วย้อนลงมาดอยเสมอดาวได้(เส้นทางนี้เป็นเส้นที่ Google แนะนำเป็นลำดับแรกระยะทาง 321กม จากเมืองพิษณุโลกสองแคว) แต่เราไม่เลือก เราเลือกเส้นทางที่ใกล้กว่า(ระยะทาง 253กม.) แต่ระยะเวลาพอกันคือ เมื่อเดินทางขึ้นเส้นทางหมายเลข 11ไปได้สักระยะ เราก็แยกเข้าทางหลวงหมายเลข 1246 > 1214 > 1047 และเลี้ยวซ้ายเข้าทางหลวงหมายเลข 1339 ตามลำดับ(ถ้าเลี้ยวขวาเราจะสามารถเดินทางไป อุทยานแห่งชาติภูสอยดาวได้ด้วย)

เราแวะพักและเติมน้ำมัน ณ ตรงแยกนั้นที่เราพึ่งจะเลี้ยวซ้ายมา ให้เต็มถังก่อนเดินทางต่อ ซึ่งพนักงานที่ปี๊มบริการดีมาก จนรู้สึกประทับใจ ไม่เหมือนกับหลายๆ ปั๊มในหลายๆ จังหวัดที่เราผ่านมา เราออกเดินทางต่อมาเรื่อยๆ ทางลักษณะเป็นป่าทั้งสองข้างทางจนเราเห็นน้ำ ซึ่งน่าจะเป็น "เขื่อนสิริกิติ์" เราก็เริ่มรู้สึกว่าอีกไม่ไกลเราก็จะถึงฝั่งฝันแล้ว


เส้นทางที่เราใช้เดินทางจาก จ.พิษณุโลก ขึ้นดอยเสมอดาว






แต่ แต่ แต่!!!!
สิ่งที่คิดมักไม่เป็นอย่างที่หวังเอาเสียเลย เมื่อขับมาได้สักระยะ ขณะที่นางนั่งหลับแบบเพลิน ผมก็ต้องหยุดรถ เพราะมันไม่มีถนนลาดยางให้วิ่งต่อไป
นาง : แกทางมันหายไปไหนอ่ะ ตัน?
ข้าพเจ้า : ไม่รู้เหมือนกัน
นาง : ต้องกลับทางเดิม แล้วเริ่มต้นใหม่? (หน้านางเริ่มออกอาการไม่พอใจ)
ผมเปิดดู Google Map อีกครั้ง พร้อมกับขยายแผนที่ดูด้วยความหวัง

"เ-ี้ยแล้ว...Ferry!!!" ผมคิดในใจ และตัดสินใจบอกความจริงกับนาง"
ข้าพเจ้า : มันบอกว่าต้องข้ามโป๊ะอ่ะ ขอลงไปดูแปปนะ... นางพยักหน้าเออ ออ ด้วยสีหน้าไม่สบอารมณ์เป็นอย่างยิ่ง

ผมจอดรถเข้าข้างทาง ลงจากรถมองไปรอบๆ ด้วยความกังวล ตรงนั้นมีน่าจะเป็นศูนย์อะไรสักอย่างของอุทยานจำไม่ได้ว่าใช่ของอุทยานแห่งชาติลำน้ำน่านหรือเปล่า แต่มันสิ้นสุดทางลาดยางแล้ว มีเพียงถนนดินลูกรังที่เลาะลงคันเขื่อน ผมเดินลงไปเรื่อยๆ ตาม Map ก็ยังไม่สิ้นสุดทางหลวงหมายเลข 1339 นี่หน่า แล้วมันต้องข้ามโป๊ะตรงไหน มันต้องมีซิ ผมเดินไปด้วยความหวัง ถ้าทางตันจริงๆ แล้วไม่มีโป๊ะ หรือหมดเวลาที่โป๊ะจะข้ามผมคงเละคารถด้วยน้ำมือนางแน่ๆ TT

และแล้วเมื่อผมเดินลงไปได้ประมาณ 30เมตร ก็พบป้ายมีโป๊ะบริการ มันเป็นทางลูกรังคดเคี้ยวที่ไม่สามารถมองเห็นปลายทางได้ ผมเดินลงไปอีกราวๆ 50-100เมตร ผมก็คาดว่ามันน่าจะมีโป๊ะแน่ๆ ผมเลยวิ่งกลับมาที่รถเพื่อที่จะไม่ให้นางต้องรอนานจนเสียอารมณ์จนเกินไป
ผมวิ่งขึ้นมาถึงที่รถจอดฟรีเครื่องอยู่ พร้อมกับเปิดประตูและบอกนางว่า "ขับรถลงไปเถอะ ท่าโป๊ะอยู่ข้างล่าง"
นาง : รู้ได้ไงลงไปเห็นมาแล้วหรอ
ข้าพเจ้า : ป่าวหรอก เห็นป้ายมันเขียนไว้ว่ามีโป๊ะบริการ แต่ยังเดินลงไปไม่สุด --"
นาง : แล้วจะเอารถลงไปได้ไง ลงไปดูมาให้แน่ใจก่อน
ข้าพเจ้า : เคๆ ได้ๆ งั้นรออีกแปปนะ (ด้วยความที่รถเป็นรถใหม่ ทำให้นางจะดูเป็นห่วงรถมากกว่าสุขภาพของผม 555)

ผมรีบวิ่ง(ย้ำว่าวิ่งกลับลง) ไปทางเดิม ทางที่แสนจะชัน และมีแสงแดดตอนบ่ายสามโมงครึ่งสาดส่อง มันไม่ได้ใกล้เท่าที่ควร ระยะทางมันราวๆ 300-400เมตรได้ จนพบกับแพร้านอาหารเล็ก ผมรีบเดินเข้าไปในแพ ก็ได้พบกับคุณลุงท่านหนึ่ง

ข้าพเจ้า : สวัสดีครับ ที่นี่มีโป๊ะข้ามไปฝั่งโน้นใช่ไหมครับ
ลุง : ฝั่งน่านใช่ไหม มีๆ แล้วไหนรถละ
ข้าพเจ้า : จอดอยู่ข้างบนครับ
ลุง : แล้วทำไมไม่ขับลงมา
ข้าพเจ้า : ผมกลัวลงมาไม่ได้ แล้วค่าบริการเท่าไหร่ ครับลุง
ลุง : 250 ไปขับลงมาจอดรอเลยเดี๋ยวลุง ว. บอกเขาให้
ข้าพเจ้า : ครับ ผมตอบรับพร้อมกับรีบวิ่งกลับขึ้นมา ขาลงมันไม่เท่าไหรหรอกครับ แต่ขาวิ่งขึ้นนี่ซิ ทั้งหอบและเหนื่อย ที่วิ่งก็เพราะไม่อยากให้นางอารมณ์เสียไปมากกว่าที่เป็นอยู่ ไม่นานนักด้วยสปีดของนักกีฬาเก่าอย่างผม ก็ทำให้ผมขึ้นมาถึงรถ พร้อมกับอาการหอบที่เอาการอยู่ เมื่อผมเปิดประตูนางก็เห็นอาการหอบและเหงื่อที่ไหลย้อยของผม นางยิ้มและขำออกมาพร้อมกับถามว่า

"มันไกลมากเลย?"
ผม : เด๋วลงไปก็รู้
นาง : แล้ววิ่งทำไม
ผม : ก็กลัวแกรอนาน เลยรีบวิ่งขึ้นมา

แล้วนางก็ขำ ผมก็บอกราคานาง และขับพานางลงไป นางก็ตกใจนิดๆ และเหมือนจะสะใจเบาๆ หลังจากเห็นเส้นทางที่ผมได้วิ่งขึ้นวิ่งลงจนหอบ- เราจอดรถและลงไปนั่งรอโป๊ะที่แพของคุณลุง ลุงออกมาต้อนรับหาเก้าอี้ให้เราทั้งสองได้นั่ง

ลุง : ต้องรอสักพักนะ ประมาณครึ่ง ชม. รอให้ลมกับฝนผ่านไปก่อน ถึงจะให้เขาลากไปได้ เพราะถ้ามีลมกับฝนเรือเล็กมันลากไม่ไป
ข้าพเจ้า : แล้วโป๊ะที่นี่มีทั้งวันไหมครับ
ลุง : มีตลอด 24ชม.
ข้าพเจ้า : แล้วใช้เวลาประมาณกี่นาทีถึงฝั่งน่านอ่ะครับ
ลุง : ประมาณ ไม่เกินครึ่ง ชม. นั่งรอไปก่อนนะหนุ่ม
สิ้นประโยคลุงก็เดินกลับเข้าไปในแพอีกหลัง
ราวๆ 4โมง ครึ่ง เรือเล็ก ก็ลากโป๊ะมาเทียบท่าให้เรา นางเดินขึ้นไปรอบนโป๊ะทันทีให้ ผมนั้นเป็นคนขับรถขึ้นโป๊ะ
ซึ่งโป๊ะเป็นโป๊ะเล็กๆ รถยนต์จอดได้ไม่น่าจะเกิน 2คัน ใช้เรือหางยาวเล็กๆ เป็นพาหนะในการลากจูง











บรรยากาศระหว่างล่องโป๊ะครั้งแรกในชีวิตของผม แต่ไม่ใช่ของนาง หัวเราะ


วิวสองข้างโป๊ะนั้นสวยเอาการอยู่ ผมและนางต่างซึมซับความสวยงามนั้นไว้ มันทำให้ผมเองได้รู้ว่าบางครั้งการการเดินทางอาจจะไม่เป็นดั่งเช่นที่เราคาดคิดไว้ แต่หาเราลองเปิดใจ และเผชิญหน้ากับมัน เราก็อาจจะได้พบความสวยงามที่ซ่อนอยู่ภายใต้ขวากหนามที่ขวางกั้นอยู่ ดั่งที่ผมกับนางกำลังซึมซับกันอยู่ ณ เวลานั้น เวลาครึ่ง ชม. ที่โป๊ะล่องมานั้นมันเหมือนระยะเวลาสั้นๆ ที่สวยงามของพวกเราทั้งสองคนไม่น้อย

เราข้ามฝั่งมาฝั่งน่าน จากคำบอกของลุงเราต้องเดินทางต่อไปอีกราวๆ 2ชม. จึงจะถึงจุดหมาย และเรามารู้ภายหลังว่าตรงท่าที่เราข้ามมานั้นเขาเรียกว่า "ปากนาย" แหล่งรวมสัตว์นั้นที่มีชื่อของจังหวัดน่านเลยทีเดียว.....

"ไม่ถึงจุดหมายก็ไปต่อ รอไร!!!"
เราขับรถออกจากท่าโป๊ะก็มุ่งเข้าสู่เส้นทางหวังจะเดินทางไปต่อเพื่อให้ถึงจดหมายโดยเร็มที่สุดเท่าที่จะทำได้ แต่ผมก็ไม่สามารถเข้าโค้งได้เร็วเท่าที่ควรนักเพราะนางจะมองตาขวางมาที่ผมโดยพลัน แสงอาทิตย์อ่อนลงเรื่อยๆ รถวิ่งไปตามสันเขาที่สูงและเขียวขจีไปทั่วอนาบริเวณ มันสวยกว่าในละคร หรือในภาพยนตร์ที่เราต่างเคยดูเสียอีก น่าเสียดายที่ไม่ได้เก็บภาพอันสวยงามนั้นไว้ในเมมโมรี่ของกล้องตัวโปรดมากเท่าที่ควร

เพราะด้วยความเร่งรีบของพกเราที่พยายามจะขึ้นไปบนดอยเสมอดาวให้ไวที่สุดและจัดแจงกลางเต็นท์เพื่อนเป็นที่นอนของคืนนี้ให้ได้ก่อนที่นางจะอารมณ์บูดอีกครั้ง 5555 เราขับผ่านที่ที่วิวสวยๆ หลายๆ โค้ง หลายๆ ที่ด้วยกันแต่ไม่ได้ย้อนกลับไปถ่ายภาพเก็บไว้ ได้เพียงแต่เก็บไว้ในความทรงจำของเราสองคนหวังว่าสักวันเราจะกลับมาเก็บภาพ ณ ทางหลวงเส้นนี้อีกครั้ง......
ชื่อสินค้า:   Road Trip
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่