เมื่อเดือนตุลาคม 2558 ผมได้มีโอกาสเดินทางไปประเทศเกาหลีใต้เป็นครั้งที่สอง คราวนี้ทำการบ้านมาค่อนข้างพอสมควร บวกกับประสบการณ์เมื่อปีที่แล้วจึงทำให้การเดินทางครั้งนี้มีความคล่องตัวมากขึ้น
ผมเห็นว่าจากการเดินทางครั้งนี้ มีสิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะบอกเล่าเกี่ยวกับผู้ที่หาทางเลือกในการใช้อินเตอร์เน็ตนอกเหนือจากการเช่าไข่ (Pocket wifi), โรมมิ่ง และ Free wifi ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแรงและที่มีอยู่ทั่วไปตามสถานที่ต่างๆในเกาหลีใต้
จุดเริ่มต้นที่ผมต้องการหาทางเลือกในการใช้เน็ตสืบเนื่องมาจากเมื่อปีที่แล้วผมเดินทางไปเกาหลีใต้ อาศัยแต่ free wifi ครับ
แต่เมื่อถึงสถานการณ์ที่เราจำเป็นต้องรีบใช้เน็ตเพื่อติดต่อกับคนที่เมืองไทย ซึ่งตอนนั้น ผมอยุ่ Myeongdong แหล่งช๊อปเครื่องสำอางของสาวๆ
free wifi ขณะนั้น ต่อยากมาก ห่วยมาก เพราะคนเยอะนั่นเองครับ จะถามบรรดาผู้ที่ฝากซื้อของก็ลำบากว่าตัวนี้ไม่มี ตัวนั้นหมด ยากครับ
จึงมีความจำเป็นต้องหาความมั่นคงในการติดต่อสื่อสารกับประเทศไทยครับ
เริ่มต้นจากการหาข้อมูลต่างๆจากพี่ Google และเพื่อนๆกูรูเกาหลีมาบอกเล่าให้ฟังว่า ไม่นานมานี้ เพื่อนของเขาไปเกาหลีและพบว่า ตอนนี้ซิมการ์ดสามารถหาซื้อได้แล้วนะตามร้านสะดวกซื้อ แต่รายละเอีดเรื่องราคา และอื่นๆยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัด......
เอาไงละทีนี้ ผมก็ เอาว่ะ เป็นไงเป็นกัน ลองไปเสี่ยงเอาข้างหน้าดูแล้วกัน ยังไงเราเคยไปแล้ว คราวนี้คงหาทางออกสำหรับการใช้อินเตอร์เน็ตที่เกาหลี
เมื่อเดินทางมาถึงสนามบินอินชอน จัดการเรื่อง ตม. และกระเป๋าเรียบร้อย ผมจึงลองเดินเข้าไปที่ GS25 (ร้านสะดวกซื้อคล้ายๆ 7-11) ก็พบป้ายเขียนว่าที่นี่มีซิมการ์ดสำหรับนักท่องเที่ยวขายนะ เอาละ ลองเข้าไปเจรจาดู ก็เข้าไปถามพนักงาน ได้ความว่า ซิมการ์ดมีหลายราคาตามปริมาณที่เราต้องการใช้
35,000 วอน สำหรับเน็ตจำนวน 1 GB และสามารถโทรได้ (กี่นาทีอันนี้ผมจำไม่ได้จริงๆครับ) บอกเขาไปด้วยละว่าใช้กับโทรศัพท์รุ่นไหนยี่ห้ออะไร
ส่วนใหญ่รุ่นยอดฮิตมีครบครับ สำหรับผม iphone 5s เขาก็มี nano sim ขายครับ
จากนั้นจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อย พนักงานแนะนำว่า ให้เดินไปที่เค้าเตอร์นี้ๆนะ(ขออภัยที่ผมจำไม่ได้นะครับ แต่เขาจะมีป้ายเขียนบอกไว้หาไม่ยากครับ)
เขาจะมีเจ้าหน้าที่จัดการให้โดยที่เราไม่ต้องทำอะไรเลย แค่ยื่นโทรศัพท์ และพาสปอตของเรา ใช้เวลาไม่นานครับ เราก็จะสามารถใช้เน็ตของที่นั่นได้
หน้าตาของซิมครับ
ช่วงที่เราเริ่มเล่น วันแรกๆจะมี sms เข้ามาเยอะมากครับ ส่วนใหญ่เป้นภาษาเกาหลี อย่าตกใจครับ ปล่อยมันไป เราอ่านไม่ออกอยู่แล้ว อิอิ
เน็ตที่นั่นจะเป็น 3G+ LTE ครับ ซึ่งผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าผมกำลังใช้ 3G หรือ LTE กันแน่ เพราะเจ้าหน้าที่เขาก็เปิดให้หมดเลย แต่ที่หน้าจอขึ้นแต่3G
แต่อย่างไร มันก็ยังแรงกว่าบ้านเราอยู่ดีครับผม
หน้าตาเมื่อเปิดใช้ซิมของเกาหลีครับ (ข้างๆคำว่า olleh จะมีคำว่า 3G นะครับ แต่ว่าขณะแคปหน้าจอ ผมไม่ได้เปิดเน็ตไว้)
สรุปแล้วถามว่า คุ้มไหม? สำหรับผม เดินทางคนเดียว และค่อนข้างอยู่ไม่ติดที่เดินทางไปนู่นนี่ ผมถือว่าคุ้มครับ สำหรับ 12 วัน เน็ตผมยังเหลือๆเลยครับ
แถมยังสามารถโทรได้อีกด้วย ผมสามารถโทรหาเบอร์ในเกาหลีได้ ซึ่งผมได้ใช้มันค่อนข้างเต็มที่ครับในการติดต่อสื่อสารภายในเกาหลีเอง
จริงๆมันสามารถโทรกลับมาเมืองไทยได้ด้วยนะครับ แต่ผมลองทำตามวิธีการแล้วแต่ไม่ค่อยเข้าใจ ก็เลยคิดว่า ไลน์ หรือ skype กลับก็แล้วกันง่ายดี
ส่วนอีกเหตุผลที่เน็ตผมยังเหลืออีกเยอะเพราะว่าเมื่อเวลาเข้าห้องพัก เขาจะมีบริการ Free wifi ให้เราเลือกใช้ แต่ที่ผมชอบมากๆเลยก็คือ wifi 5G นี่แหละครับ แรงสะใจมากๆ skype ไม่มีสะดุดเลย ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เน็ตมากๆก็ตอนกลับห้องพักนี่แหละครับ ส่วนหนึ่งเพราะผมอยากดื่มด่ำบรรยากาศของเกาหลีมากกว่าจะมาก้มหน้า จิ้มๆโทรศัพท์ครับ จึงพยายามห้ามใจไม่ค่อยเล่น ส่วนใหญ่ก็ เช็คอิน อัพรูปบ้าง ไลน์บ้าง หาแผนที่บ้าง เหลือๆครับ
ลอง speed test wifi 5G เล่นๆนะครับ
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังวางแผนเดินทางไปเที่ยวเกาหลีใต้นะครับผม
ซิมการ์ดสำหรับนักท่องเที่ยว ณ ประเทศเกาหลีใต้
ผมเห็นว่าจากการเดินทางครั้งนี้ มีสิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะบอกเล่าเกี่ยวกับผู้ที่หาทางเลือกในการใช้อินเตอร์เน็ตนอกเหนือจากการเช่าไข่ (Pocket wifi), โรมมิ่ง และ Free wifi ที่ขึ้นชื่อเรื่องความแรงและที่มีอยู่ทั่วไปตามสถานที่ต่างๆในเกาหลีใต้
จุดเริ่มต้นที่ผมต้องการหาทางเลือกในการใช้เน็ตสืบเนื่องมาจากเมื่อปีที่แล้วผมเดินทางไปเกาหลีใต้ อาศัยแต่ free wifi ครับ
แต่เมื่อถึงสถานการณ์ที่เราจำเป็นต้องรีบใช้เน็ตเพื่อติดต่อกับคนที่เมืองไทย ซึ่งตอนนั้น ผมอยุ่ Myeongdong แหล่งช๊อปเครื่องสำอางของสาวๆ
free wifi ขณะนั้น ต่อยากมาก ห่วยมาก เพราะคนเยอะนั่นเองครับ จะถามบรรดาผู้ที่ฝากซื้อของก็ลำบากว่าตัวนี้ไม่มี ตัวนั้นหมด ยากครับ
จึงมีความจำเป็นต้องหาความมั่นคงในการติดต่อสื่อสารกับประเทศไทยครับ
เริ่มต้นจากการหาข้อมูลต่างๆจากพี่ Google และเพื่อนๆกูรูเกาหลีมาบอกเล่าให้ฟังว่า ไม่นานมานี้ เพื่อนของเขาไปเกาหลีและพบว่า ตอนนี้ซิมการ์ดสามารถหาซื้อได้แล้วนะตามร้านสะดวกซื้อ แต่รายละเอีดเรื่องราคา และอื่นๆยังไม่มีคำตอบที่แน่ชัด......
เอาไงละทีนี้ ผมก็ เอาว่ะ เป็นไงเป็นกัน ลองไปเสี่ยงเอาข้างหน้าดูแล้วกัน ยังไงเราเคยไปแล้ว คราวนี้คงหาทางออกสำหรับการใช้อินเตอร์เน็ตที่เกาหลี
เมื่อเดินทางมาถึงสนามบินอินชอน จัดการเรื่อง ตม. และกระเป๋าเรียบร้อย ผมจึงลองเดินเข้าไปที่ GS25 (ร้านสะดวกซื้อคล้ายๆ 7-11) ก็พบป้ายเขียนว่าที่นี่มีซิมการ์ดสำหรับนักท่องเที่ยวขายนะ เอาละ ลองเข้าไปเจรจาดู ก็เข้าไปถามพนักงาน ได้ความว่า ซิมการ์ดมีหลายราคาตามปริมาณที่เราต้องการใช้
35,000 วอน สำหรับเน็ตจำนวน 1 GB และสามารถโทรได้ (กี่นาทีอันนี้ผมจำไม่ได้จริงๆครับ) บอกเขาไปด้วยละว่าใช้กับโทรศัพท์รุ่นไหนยี่ห้ออะไร
ส่วนใหญ่รุ่นยอดฮิตมีครบครับ สำหรับผม iphone 5s เขาก็มี nano sim ขายครับ
จากนั้นจ่ายเงินเสร็จเรียบร้อย พนักงานแนะนำว่า ให้เดินไปที่เค้าเตอร์นี้ๆนะ(ขออภัยที่ผมจำไม่ได้นะครับ แต่เขาจะมีป้ายเขียนบอกไว้หาไม่ยากครับ)
เขาจะมีเจ้าหน้าที่จัดการให้โดยที่เราไม่ต้องทำอะไรเลย แค่ยื่นโทรศัพท์ และพาสปอตของเรา ใช้เวลาไม่นานครับ เราก็จะสามารถใช้เน็ตของที่นั่นได้
หน้าตาของซิมครับ
ช่วงที่เราเริ่มเล่น วันแรกๆจะมี sms เข้ามาเยอะมากครับ ส่วนใหญ่เป้นภาษาเกาหลี อย่าตกใจครับ ปล่อยมันไป เราอ่านไม่ออกอยู่แล้ว อิอิ
เน็ตที่นั่นจะเป็น 3G+ LTE ครับ ซึ่งผมก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าผมกำลังใช้ 3G หรือ LTE กันแน่ เพราะเจ้าหน้าที่เขาก็เปิดให้หมดเลย แต่ที่หน้าจอขึ้นแต่3G
แต่อย่างไร มันก็ยังแรงกว่าบ้านเราอยู่ดีครับผม
หน้าตาเมื่อเปิดใช้ซิมของเกาหลีครับ (ข้างๆคำว่า olleh จะมีคำว่า 3G นะครับ แต่ว่าขณะแคปหน้าจอ ผมไม่ได้เปิดเน็ตไว้)
สรุปแล้วถามว่า คุ้มไหม? สำหรับผม เดินทางคนเดียว และค่อนข้างอยู่ไม่ติดที่เดินทางไปนู่นนี่ ผมถือว่าคุ้มครับ สำหรับ 12 วัน เน็ตผมยังเหลือๆเลยครับ
แถมยังสามารถโทรได้อีกด้วย ผมสามารถโทรหาเบอร์ในเกาหลีได้ ซึ่งผมได้ใช้มันค่อนข้างเต็มที่ครับในการติดต่อสื่อสารภายในเกาหลีเอง
จริงๆมันสามารถโทรกลับมาเมืองไทยได้ด้วยนะครับ แต่ผมลองทำตามวิธีการแล้วแต่ไม่ค่อยเข้าใจ ก็เลยคิดว่า ไลน์ หรือ skype กลับก็แล้วกันง่ายดี
ส่วนอีกเหตุผลที่เน็ตผมยังเหลืออีกเยอะเพราะว่าเมื่อเวลาเข้าห้องพัก เขาจะมีบริการ Free wifi ให้เราเลือกใช้ แต่ที่ผมชอบมากๆเลยก็คือ wifi 5G นี่แหละครับ แรงสะใจมากๆ skype ไม่มีสะดุดเลย ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เน็ตมากๆก็ตอนกลับห้องพักนี่แหละครับ ส่วนหนึ่งเพราะผมอยากดื่มด่ำบรรยากาศของเกาหลีมากกว่าจะมาก้มหน้า จิ้มๆโทรศัพท์ครับ จึงพยายามห้ามใจไม่ค่อยเล่น ส่วนใหญ่ก็ เช็คอิน อัพรูปบ้าง ไลน์บ้าง หาแผนที่บ้าง เหลือๆครับ
ลอง speed test wifi 5G เล่นๆนะครับ
หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ที่กำลังวางแผนเดินทางไปเที่ยวเกาหลีใต้นะครับผม