ด้วยการไปใช้สิทธิลงคะแนนเสียงสูงถึงร้อยละ 80 ตบหน้าประเทศเพื่อนบ้านให้รู้เสียว่า ประเทศที่เขาอยากพัฒนามีความเจริญยิ่งๆขึ้นนั้น เขาจะเลือกระบอบประชาธิปไตย ไม่ใช่ระบอบอื่นหรือไปคิดถึงการปิดประเทศ
ประชาธิปไตยนั้นกินไม่ได้ ชาวพม่าก็คงกินประชาธิปไตยไม่ได้ แต่เขาก็ยินดีที่จะมีประชาธิปไตย ยินดีที่ได้ไปเลือกตั้ง
ประชาธิปไตยกินไม่ได้ แต่คนพม่า คนในชาติอื่นทั่วโลกใบนี้ ล้วนต้องการหรือต้องสู้เพื่อให้มีระบอบประชาธิปไตย ในสังคมของตน เหมือนกับที่เรายากลำบากต่อสู้ชีวิต เพื่อเลี้ยงดูบุตรธิดาให้เติบโตขึ้นมา โดยมิได้หวังสิ่งใดตอบแทนจากบุตรหลานของเรา
แต่เพราะมันเป็นหน้าที่ของมนุษย์ที่จะต้องทำในสิ่งที่ถูกต้องที่จะต้องแสวงหาและเรียกร้องเพื่อให้มีระบอบประชาธิปไตยในสังคมของตน โดยมิต้องมาตั้งตำถามว่ามันกินได้หรือเปล่า
หากระบอบประชาธิปไตยเป็นสิ่งที่ชาวพม่าไม่ต้องการ ก็คงมีประชาชนไปใช้สิทธิไม่ถึงร้อยละ 20 แต่นี้ไปเข้าคิวกันยาวเหยียด เพื่อใช้สิทธิที่ตนมีเลือกผู้ที่จะเป็นตัวแทนของตนในการปกครองประเทศปกครองสังคมของตน
อนึ่ง คุณยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้โพสต์เฟสบุคร่วมแสดงความยินดีกับชาวพม่าในเหตุการณ์สำคัญครั้งประวัติศาสตร์คราวนี้ ดังนี้
ขอแถมภาพการเลือกตั้งพม่า ครั้งประวัติศาสตร์นี้
( ขอขอบคุณภาพจาก AFP , news.mthai.com และ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ )
เมื่อมีการใช้สิทธิแล้ว กรรมการเลือกตั้งจะใช้หมึกสีน้ำเงินม่วงป้ายที่นิ้วก้อยของผู้ใช้สิทธิ
แสดงถึงการได้ใช้สิทธิแล้ว
หนทางข้างหน้า สำหรับประชาธิปไตยพม่า คงไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ผมก็หวังว่า พม่าประเทศด้อยพัฒนาประเทศนี้ จะมีประชาธิปไตยที่ก้าวหน้ามั่นคง เพื่อเป็นแบบอย่างให้แก่ประเทศที่พัฒนามากกว่าอย่างประเทศไทยได้เป็นบทเรียน
ประเทศที่ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งต้องเดินฝ่ากบฐนกหวีดเพื่อเข้าไปใช้สิทธิ ประเทศที่มีผู้ปิดล้อมหน่วยเลือกตั้งจนกรรมการเลือกตั้งสั่งปิดหน่วย แต่แล้วท่านกลับชี้ว่าผู้ปิดล้อมไม่ได้กระทำผิด ประเทศที่รัฐบาลตราพระราชกฤษฏีกาเลือกตั้งออกมาอย่างถูกขั้นตอนกฎหมาย แต่ถูกวินิจฉัยให้กลับกลายเป็นโมฆะไปได้อย่างแปลกประหลาดมหัศจรรย์
ประเทศที่สิทธิของประชาชน ไม่ได้มีความสำคัญในสายตาผู้มีอำนาจ คิดจะเอาไปบอก ลบ คูณ หารเข้าสมการอย่างไรก็ได้เพียงเพื่อหวังให้ผลเลือกตั้งออกมาในแบบที่ตนจะพอใจ
สุดท้ายนี้ขอแสดงความยินดีกับชาวพม่า ที่ได้เริ่มเดินบนเส้นทางแห่งประชาธิปไตย หากแม้มีอุปสรรคก็ขอให้ฝ่าฟันมันไปให้ได้ ขออย่าได้มีชะตากรรมลุ่มๆดอนเหมือนชาวสยามเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ปล.ขอแก้พิมพ์ผิดครับ นิ้วนาง แก้เป็นนิ้วก้อยครับ
۞۞ :::ประชาธิปไตยกินไม่ได้ แต่ชาวพม่าก็เลือกที่จะมีประชาธิปไตย...ขอแสดงความยินดีกับชาวพม่า :::۞۞ ไทโรครับ
ประชาธิปไตยกินไม่ได้ แต่คนพม่า คนในชาติอื่นทั่วโลกใบนี้ ล้วนต้องการหรือต้องสู้เพื่อให้มีระบอบประชาธิปไตย ในสังคมของตน เหมือนกับที่เรายากลำบากต่อสู้ชีวิต เพื่อเลี้ยงดูบุตรธิดาให้เติบโตขึ้นมา โดยมิได้หวังสิ่งใดตอบแทนจากบุตรหลานของเรา
แต่เพราะมันเป็นหน้าที่ของมนุษย์ที่จะต้องทำในสิ่งที่ถูกต้องที่จะต้องแสวงหาและเรียกร้องเพื่อให้มีระบอบประชาธิปไตยในสังคมของตน โดยมิต้องมาตั้งตำถามว่ามันกินได้หรือเปล่า
( ขอขอบคุณภาพจาก AFP , news.mthai.com และ หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ )
เมื่อมีการใช้สิทธิแล้ว กรรมการเลือกตั้งจะใช้หมึกสีน้ำเงินม่วงป้ายที่นิ้วก้อยของผู้ใช้สิทธิ
แสดงถึงการได้ใช้สิทธิแล้ว
หนทางข้างหน้า สำหรับประชาธิปไตยพม่า คงไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ผมก็หวังว่า พม่าประเทศด้อยพัฒนาประเทศนี้ จะมีประชาธิปไตยที่ก้าวหน้ามั่นคง เพื่อเป็นแบบอย่างให้แก่ประเทศที่พัฒนามากกว่าอย่างประเทศไทยได้เป็นบทเรียน
ประเทศที่ผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งต้องเดินฝ่ากบฐนกหวีดเพื่อเข้าไปใช้สิทธิ ประเทศที่มีผู้ปิดล้อมหน่วยเลือกตั้งจนกรรมการเลือกตั้งสั่งปิดหน่วย แต่แล้วท่านกลับชี้ว่าผู้ปิดล้อมไม่ได้กระทำผิด ประเทศที่รัฐบาลตราพระราชกฤษฏีกาเลือกตั้งออกมาอย่างถูกขั้นตอนกฎหมาย แต่ถูกวินิจฉัยให้กลับกลายเป็นโมฆะไปได้อย่างแปลกประหลาดมหัศจรรย์
ประเทศที่สิทธิของประชาชน ไม่ได้มีความสำคัญในสายตาผู้มีอำนาจ คิดจะเอาไปบอก ลบ คูณ หารเข้าสมการอย่างไรก็ได้เพียงเพื่อหวังให้ผลเลือกตั้งออกมาในแบบที่ตนจะพอใจ
สุดท้ายนี้ขอแสดงความยินดีกับชาวพม่า ที่ได้เริ่มเดินบนเส้นทางแห่งประชาธิปไตย หากแม้มีอุปสรรคก็ขอให้ฝ่าฟันมันไปให้ได้ ขออย่าได้มีชะตากรรมลุ่มๆดอนเหมือนชาวสยามเลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้