แม้ว่าวัน Halloween จะสิ้นสุดไปแล้ว
แต่ยังมีร่อยรอยเมื่อย้อนเวลาประวัติศาสตร์
ที่มีผู้คนนับหลายพันหลายหมื่นคนทั่วโลก
ต้องล้มหายตายจากไปเพราะความเชื่อบางประการ
ทุกวันนี้หลายประเทศจะเอาผิดกับ
ใครก็ตามที่นำสตรีมาตั้งข้อหาเป็นแม่มด
เพื่อให้ตกเป็นแพะรับบาปสำหรับเหตุร้ายที่เกิดขึ้น
ทั้งยังได้อนุรักษ์หลุมฝังศพสตรีเหล่านั้น
ไว้เป็นอนุสรณ์สถานแม่มด ดังตัวอย่างคือ.-
1. Unknown, Italy.
กระดูกผู้หญิงอายุกว่า 800 ปีในอิตาลี
ถูกฆ่าตายด้วยข้อหาแม่มด
ในยุคกลางช่วงศาสนาคริสต์เรืองอำนาจ
ศพถูกฝังอยู่ในหลุมตื้น ๆ ไม่มีป้ายหลุมศพ
แต่มีตะปู 7 ตัวตอกตรึงลงในกระดูก
เพื่อสะกดวิญญาณให้อยู่แต่ในหลุมศพ
เพราะชาวบ้านกลัวว่าผีแม่มดจะฟื้นคืนชีพอีก
2. Lilias Adie, Scotland.
ในปี 1704 Lilias Adie ที่ Scotland
ถูกกล่าวหาว่านำโชคร้ายมาสู่ชาวบ้านผู้หญิง
ผู้อาวุโสในหมู่บ้านได้ทรมานจนเธอยอมรับผิด
ในข้อหาว่าปีศาจเป็นชู้รักของเธอ
เธอเสียชีวิตก่อนการประหารชีวิต
ชาวบ้านจึงฝังศพเธอไว้ในชั้นโคลนเหลว
แล้วเอาก้อนหินขนาดใหญ่และหนักมากมากดทับศพเธอ
แต่ศพหายไปแล้วในช่วงหนึ่งที่มีน้ำท่วมหนักมาก
แต่ก้อนหินที่ฝังศพ Lilias Adie ยังอยู่จนทุกวันนี้
3. Chesterville Witch, Illinois
ในช่วงต้นปี 1900
สตรีวัยรุ่นชาว Amish ถูกกล่าวหาว่า
ท้าทายอำนาจ/ความเชื่อทางศาสนจักร
ไม่มีใครรู้ว่าเธอถูกประหารชีวิตอย่างไร
แต่ที่รู้กันมาจนถึงทุกวันนี้ก็คือ
มีการปลูกต้นโอ้ค oak ไว้บนหลุมศพเธอ
เพื่อสะกดวิญญาณของเธอ
4. Meg Shelton, England.
แม้จะมีเสียงเล่าลือกันว่าแม่มดรายนี้
ไม่เคยทำร้ายหรือทำอันตรายใด ๆ กับชาวบ้าน
เธอตายด้วยโรคชราในบั้นปลายชีวิต
แต่ชาวบ้านยังกริ่งเกรงกันว่า
แม่มดที่ตายแล้วอาจจะยังมีฤทธิเดช
ไม่รู้ว่าชั่วร้ายหรือที่ดีงามหรือไม่
ไม่มีใครแน่ใจหรือรับประกันได้
ดังนั้นชาวบ้านจึงฝังศพเธอ
แบบกลับหัวกลับหาง
ด้วยการนำหัวฝังลงดิน เอาตีนชี้ฟ้า
แล้วเอาหินก้อนใหญ่ปิดทับหลุมศพไว้
เพื่อไม่ให้เธอลุกออกจากหลุมศพได้ตลอดกาล
5. Bertha Maynard, Minnesota.
ไม่มีใครจำพฤติกรรมแม่มด Bertha Maynard ได้เลย
แต่เชื่อกันว่าป้ายหลุมศพของเธอจะหายไปทุกวัน Halloween
มีครั้งหนึ่งหายไปเป็นเวลาถึง 7 ปี
ก่อนที่จะกลับมาที่เดิมแบบฉันพลันทันที
6. The Witch of Yazoo, Mississippi.
แม่มดสาวสวยแห่ง Yazoo
ถูกกล่าวหาว่าล่อลวงชายชาวประมง
แล้วเอามีดแทงจนตายอย่างเหี้ยมโหด
ในช่วงที่เธอวิ่งหลบหนีตำรวจกับชาวบ้าน
ที่ไล่ล่าจะจับกุมเธอ
เธอพลัดหล่นลงในหลุมทรายดูดแห่งหนึ่ง
ช่วงเวลาก่อนที่จมทรายดูดตาย
เธอสาปแช่งว่า " จะกลับมาเผาเมืองนี้ให้มอดไหม้ "
ในปี 1904 ทั้งเมือง Yazoo ตกอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิง
หลุมศพแม่มดรายนี้จึงถูกล้อมรอบด้วยโซ่ตรวนขนาดยักษ์
ชาวบ้านเชื่อว่า วันใดที่โซ่ตรวนขาดออกมา
เมืองนี้ทั้งเมืองจะถูกไฟเผาไหม้จนหมดสิ้นอีกครั้ง
แม้ว่าในทุกวันนี้จะไม่มีเรื่องราวแบบนิวนิยายเรื่องเมือง Salem
ที่เมืองทั้งเมืองคือ หลุมศพนับจำนวนไม่ถ้วนของสตรีไร้ความผิด
เรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งคือ แต่ก่อนมีการฆ่าฟันแม่มดทั่วโลก
เรียบเรียง/ที่มา
http://goo.gl/Dw1rXR
เรื่องเดิม
เรื่องเล่าไร้สาระ
ในยุโรปแต่เดิมผู้หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด
มักจะเป็นคนชอบเก็บตัว มีความรู้/รู้จักยาสมุนไพร
มักจะชอบเสาะแสวงหาสมุนไพรตามป่าเขา
หรือเป็นคนที่มีอาการทางจิตบางอย่าง
จึงมักจะเป็นเรื่องง่ายที่ถูกชาวบ้าน
กล่าวหาว่าเป็นแม่มด
แต่มีบางรายที่ชาวบ้านต้องการแย่งชิงสมบัติ
เพราะร่ำรวยกว่าชาวบ้านในละแวกเดียวกัน
เมื่อถูกข้อหาเป็นแม่มดแล้ว มักจะถูกฆ่าทิ้ง
แล้วนำสมบัติคนตายมาแบ่งกัน
สมดังคำพังเพยชาวบ้าน
จนไปคนก็ดูถูก รวยไปคนก็รังเกียจ
ส่วนในเมืองไทยก็ยังมีการไล่ล่าผีปอบ ผีกระสือ ผีกะหัง
ตามที่ปรากฎในหน้าหนังสือพิมพ์บ่อย ๆ
อินเดียหลายรัฐยังมีการไล่ล่าผู้หญิง
ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดเช่นกัน
ทั้งนี้ยังปรากฎตามรายงานสื่อมวลชนว่า
ในอัฟริกาบางประเทศ แถบละตินอเมริกา
ก็ยังมีการไล่ล่าแม่มดด้วยเช่นกัน
ส่วนในอเมริกา และแคนาดาในสมัยก่อน
ก็ยังมีเรื่องราวแบบนี้ด้วยเช่นกัน
แพะรับบาป
มีในคัมภีร์คริสตศาสนายุคแรก
ที่กล่าวถึงการบูชาพระเจ้าด้วยแพะ
ทั้งยังมีความเชื่อของชนเผ่าพื้นเมืองในทะเลทราย
หรือในอินเดียสมัยก่อน(จะไม่ฆ่าวัว)
เวลามีโชคดีหรือเคราะห์ร้ายเกิดขึ้นมา
มักจะมีการฆ่าแพะบูชายัญ
เพื่อเฉลิมฉลอง/เพื่อไถ่โทษ
เป็นการบวงสรวงเทพเทวดาไปในตัวด้วย
แบบ Three in One ทำนองนั้น
ในบางแห่งจะนำแพะมาทำพิธีก่อน
แล้วนำไปปล่อยในเขตทุรกันดาร
หรือปล่อยเข้าป่า หรือ ทะเลทราย
คนที่ทราบที่มาที่ไป
จะไม่มีใครกล้าจับแพะตัวนั้นมากินเป็นอาหาร
ผู้รู้บางคนระบุว่าเป็นการขยายพันธุ์อีกทางหนึ่ง
โดยปล่อยแพะตัวที่แข็งแรงอยู่รอดได้
ไปช่วยในการปรับปรุงพันธุกรรมแพะในพื้นที่
ที่มักจะมีสายเลือดชิดกันจนเกินไปแล้ว
เพราะส่วนใหญ่จะนิยมใช้แพะตัวผู้เป็นแพะรับบาป
หลุมฝังศพแม่มด 6 แห่ง
แต่ยังมีร่อยรอยเมื่อย้อนเวลาประวัติศาสตร์
ที่มีผู้คนนับหลายพันหลายหมื่นคนทั่วโลก
ต้องล้มหายตายจากไปเพราะความเชื่อบางประการ
ทุกวันนี้หลายประเทศจะเอาผิดกับ
ใครก็ตามที่นำสตรีมาตั้งข้อหาเป็นแม่มด
เพื่อให้ตกเป็นแพะรับบาปสำหรับเหตุร้ายที่เกิดขึ้น
ทั้งยังได้อนุรักษ์หลุมฝังศพสตรีเหล่านั้น
ไว้เป็นอนุสรณ์สถานแม่มด ดังตัวอย่างคือ.-
ถูกฆ่าตายด้วยข้อหาแม่มด
ในยุคกลางช่วงศาสนาคริสต์เรืองอำนาจ
ศพถูกฝังอยู่ในหลุมตื้น ๆ ไม่มีป้ายหลุมศพ
แต่มีตะปู 7 ตัวตอกตรึงลงในกระดูก
เพื่อสะกดวิญญาณให้อยู่แต่ในหลุมศพ
เพราะชาวบ้านกลัวว่าผีแม่มดจะฟื้นคืนชีพอีก
ถูกกล่าวหาว่านำโชคร้ายมาสู่ชาวบ้านผู้หญิง
ผู้อาวุโสในหมู่บ้านได้ทรมานจนเธอยอมรับผิด
ในข้อหาว่าปีศาจเป็นชู้รักของเธอ
เธอเสียชีวิตก่อนการประหารชีวิต
ชาวบ้านจึงฝังศพเธอไว้ในชั้นโคลนเหลว
แล้วเอาก้อนหินขนาดใหญ่และหนักมากมากดทับศพเธอ
แต่ศพหายไปแล้วในช่วงหนึ่งที่มีน้ำท่วมหนักมาก
แต่ก้อนหินที่ฝังศพ Lilias Adie ยังอยู่จนทุกวันนี้
สตรีวัยรุ่นชาว Amish ถูกกล่าวหาว่า
ท้าทายอำนาจ/ความเชื่อทางศาสนจักร
ไม่มีใครรู้ว่าเธอถูกประหารชีวิตอย่างไร
แต่ที่รู้กันมาจนถึงทุกวันนี้ก็คือ
มีการปลูกต้นโอ้ค oak ไว้บนหลุมศพเธอ
เพื่อสะกดวิญญาณของเธอ
ไม่เคยทำร้ายหรือทำอันตรายใด ๆ กับชาวบ้าน
เธอตายด้วยโรคชราในบั้นปลายชีวิต
แต่ชาวบ้านยังกริ่งเกรงกันว่า
แม่มดที่ตายแล้วอาจจะยังมีฤทธิเดช
ไม่รู้ว่าชั่วร้ายหรือที่ดีงามหรือไม่
ไม่มีใครแน่ใจหรือรับประกันได้
ดังนั้นชาวบ้านจึงฝังศพเธอ
แบบกลับหัวกลับหาง
ด้วยการนำหัวฝังลงดิน เอาตีนชี้ฟ้า
แล้วเอาหินก้อนใหญ่ปิดทับหลุมศพไว้
เพื่อไม่ให้เธอลุกออกจากหลุมศพได้ตลอดกาล
แต่เชื่อกันว่าป้ายหลุมศพของเธอจะหายไปทุกวัน Halloween
มีครั้งหนึ่งหายไปเป็นเวลาถึง 7 ปี
ก่อนที่จะกลับมาที่เดิมแบบฉันพลันทันที
ถูกกล่าวหาว่าล่อลวงชายชาวประมง
แล้วเอามีดแทงจนตายอย่างเหี้ยมโหด
ในช่วงที่เธอวิ่งหลบหนีตำรวจกับชาวบ้าน
ที่ไล่ล่าจะจับกุมเธอ
เธอพลัดหล่นลงในหลุมทรายดูดแห่งหนึ่ง
ช่วงเวลาก่อนที่จมทรายดูดตาย
เธอสาปแช่งว่า " จะกลับมาเผาเมืองนี้ให้มอดไหม้ "
ในปี 1904 ทั้งเมือง Yazoo ตกอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิง
หลุมศพแม่มดรายนี้จึงถูกล้อมรอบด้วยโซ่ตรวนขนาดยักษ์
ชาวบ้านเชื่อว่า วันใดที่โซ่ตรวนขาดออกมา
เมืองนี้ทั้งเมืองจะถูกไฟเผาไหม้จนหมดสิ้นอีกครั้ง
แม้ว่าในทุกวันนี้จะไม่มีเรื่องราวแบบนิวนิยายเรื่องเมือง Salem
ที่เมืองทั้งเมืองคือ หลุมศพนับจำนวนไม่ถ้วนของสตรีไร้ความผิด
เรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งคือ แต่ก่อนมีการฆ่าฟันแม่มดทั่วโลก
เรียบเรียง/ที่มา
http://goo.gl/Dw1rXR
เรื่องเล่าไร้สาระ
ในยุโรปแต่เดิมผู้หญิงที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มด
มักจะเป็นคนชอบเก็บตัว มีความรู้/รู้จักยาสมุนไพร
มักจะชอบเสาะแสวงหาสมุนไพรตามป่าเขา
หรือเป็นคนที่มีอาการทางจิตบางอย่าง
จึงมักจะเป็นเรื่องง่ายที่ถูกชาวบ้าน
กล่าวหาว่าเป็นแม่มด
แต่มีบางรายที่ชาวบ้านต้องการแย่งชิงสมบัติ
เพราะร่ำรวยกว่าชาวบ้านในละแวกเดียวกัน
เมื่อถูกข้อหาเป็นแม่มดแล้ว มักจะถูกฆ่าทิ้ง
แล้วนำสมบัติคนตายมาแบ่งกัน
สมดังคำพังเพยชาวบ้าน
จนไปคนก็ดูถูก รวยไปคนก็รังเกียจ
ส่วนในเมืองไทยก็ยังมีการไล่ล่าผีปอบ ผีกระสือ ผีกะหัง
ตามที่ปรากฎในหน้าหนังสือพิมพ์บ่อย ๆ
อินเดียหลายรัฐยังมีการไล่ล่าผู้หญิง
ที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นแม่มดเช่นกัน
ทั้งนี้ยังปรากฎตามรายงานสื่อมวลชนว่า
ในอัฟริกาบางประเทศ แถบละตินอเมริกา
ก็ยังมีการไล่ล่าแม่มดด้วยเช่นกัน
ส่วนในอเมริกา และแคนาดาในสมัยก่อน
ก็ยังมีเรื่องราวแบบนี้ด้วยเช่นกัน
แพะรับบาป
มีในคัมภีร์คริสตศาสนายุคแรก
ที่กล่าวถึงการบูชาพระเจ้าด้วยแพะ
ทั้งยังมีความเชื่อของชนเผ่าพื้นเมืองในทะเลทราย
หรือในอินเดียสมัยก่อน(จะไม่ฆ่าวัว)
เวลามีโชคดีหรือเคราะห์ร้ายเกิดขึ้นมา
มักจะมีการฆ่าแพะบูชายัญ
เพื่อเฉลิมฉลอง/เพื่อไถ่โทษ
เป็นการบวงสรวงเทพเทวดาไปในตัวด้วย
แบบ Three in One ทำนองนั้น
ในบางแห่งจะนำแพะมาทำพิธีก่อน
แล้วนำไปปล่อยในเขตทุรกันดาร
หรือปล่อยเข้าป่า หรือ ทะเลทราย
คนที่ทราบที่มาที่ไป
จะไม่มีใครกล้าจับแพะตัวนั้นมากินเป็นอาหาร
ผู้รู้บางคนระบุว่าเป็นการขยายพันธุ์อีกทางหนึ่ง
โดยปล่อยแพะตัวที่แข็งแรงอยู่รอดได้
ไปช่วยในการปรับปรุงพันธุกรรมแพะในพื้นที่
ที่มักจะมีสายเลือดชิดกันจนเกินไปแล้ว
เพราะส่วนใหญ่จะนิยมใช้แพะตัวผู้เป็นแพะรับบาป