รัสเซียโดดเด่นในเรื่องสถาปัตยกรรมเป็นอย่างมาก ทั้งตึกราบ้านช่อง สถานที่สำคัญต่างๆ ล้วนแต่ดูยิ่งใหญ่อลังการซะจริงๆ
สืบเนื่องจากตอนที่1 เรานอนหลับปุ๋ยบนรถไฟ และแล้วก็เช้า มาถึงกันที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
ติดตามตอนอื่นๆได้ที่
1. รัสเซีย ดินแดนหลังม่านเหล็ก ตอนที่1: ออกเดินทาง
http://ppantip.com/topic/34415755
2. รัสเซีย ดินแดนหลังม่านเหล็ก ตอนที่3: มอสโคว์ (ตอนจบ)
http://ppantip.com/topic/34447071
วันที่ 8 สิงหาคม 2015
เช้าแล้ว มีพนักงานมาเปิดประตูปลุกด้วย ออกไปล้างหน้าแปรงฟัน แล้วกลับมานั่งชมวิว
รถไฟจะจอดสุดสายที่สถานี Moskovsky station (Моско́вский вокза́л) ซึ่งเชื่อมต่อกับเมโทรสถานี Ploshchad Vosstaniya (Плóщадь Восстáния) สาย L1 สีแดง จุดตัดกับ สาย L3 สีเขียว
มาถึงกัน 7 โมงเช้า เลยฝากกระเป๋าไว้ที่สถานีรถไฟก่อน ที่ฝากจะอยู่ชั้นใต้ดิน เป็นตู้ล็อกเกอร์ เราเลือกแบบเหมา 24 ชั่วโมง 220 รูเบิ้ล
แนะนำแอพพลิเคชั่นสำหรับ Metro map ในเซนท์ปีเตอร์สเบิร์ก Yendex.Metro
แผนที่เมโทรในเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
เมโทรที่เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก สัญลักษณ์เป็นรูปตัว (V) การซื้อตั๋ว ได้ทั้งที่ตู้และเคาท์เตอร์ จะได้มาเป็นเหรียญหยอดที่ตู้ตรงทางเข้า ราคาต่อรอบ 28 รูเบิ้ล
จากสถานีรถไฟมุ่งหน้าไปยังถนน Nevsky ย่านที่พัก นั่งเมโทรไปหนึ่งสถานี ลงที่ Gostiny Dvor สายสีเขียว
เนื่องจากว่ามาถึงเช้ามาก คนยังไม่ค่อยมี ระหว่างทางเดินไปเมโทร เลยเงียบสงบแบบที่เห็น มองไปปลายทาง จิตเริ่มหลอนนึกถึงซอมบี้ บรรยากาศมันใช่เลย
เมืองเซนท์ปีเตอร์สเบิร์กถือว่าเป็นเมืองที่เมโทรลึกที่สุดในโลก เนื่องจากสมัยก่อนใช้เป็นหลุมหลบภัยด้วย
เมโทรแต่ละสถานีมีการออกแบบที่แตกต่างกันไป มันสวยและคลาสสิกมาก ไม่แปลกเลยที่สถานีเมโทรก็ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเช่นกัน เหล่าบรรดากรุ๊ปทัวร์ยังพาลูกทัวร์ลงมาเยี่ยมชม
บรรยากาศภายในขบวน ยังคงดูเป็นรถไฟรุ่นเก่าอยู่
ไม่นานก็ถึงสถานี Gostiny Dvor
แปดโมงแล้ว แต่ร้านอาหารต่างๆยังไม่เปิด หาอะไรรองท้องหน่อยดีกว่า เดินมาเจอซุ้มขายกาแฟกับขนมปัง รสชาติดีไม่เบาหรือว่าหิวก็ไม่รู้ ไส้กรอกมันไม่เหมือนบ้านเรา อธิบายไม่ถูกเหมือนกัน ราคาชิ้นละ 100 รูเบิ้ล
ตามถนนยังคงเงียบคนน้อย เพราะมันเช้าอยู่มั้ง เลยนั่งเล่นเหยียดแข้งเหยียดขาสักหน่อย
มีขบวนจักรยานผ่านมา ตกใจนึกว่า Bike for Mom มาถึงรัสเซีย (ก็มันช่วงสัปดาห์วันแม่พอดี)
คนน้อยๆแบบนี้ เอื้อต่อการถ่ายภาพมากๆ เดินตรงดิ่งไปยังโบสถ์หยดเลือด
บรรยากาศถนนหนทาง ตึกอาคาร 2 ข้างทางระหว่างที่เดินไป
เนื่องจากเป็นเมืองท่า อยู่ติดทะเล จึงมีคลองหลายสายไหลผ่านเมืองนี้
เดินจนมาเจอแยกนี้ มองตรงไปจะเห็นโบสถ์หยดเลือดอยู่ลิบๆ
ตึกตรงมุมถนนนี้น่าจะเป็น signature ของเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กรึป่าว ไม่แน่ใจ เหมือนเคยได้ยินมา ถ้ามั่วต้องขออภัยด้วยค่ะ ฮ่าๆ
โบสถ์หยดเลือด The Cathedral of the Resurrection (The Saviour on the Blood) เป็นที่ระลึกถึงพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่2 ที่ถูกลอบปลงพระชนม์โดยถูกกลุ่มกบฏขว้างปาระเบิดใส่รถม้าที่นั่ง ใกล้กับบริเวณนี้
เป็นสถาปัตยกรรมแบบรัสเซีย ได้รับอิทธิพลมาจากโบสถ์เซนต์บาซิล ที่จตุรัสแดง กรุงมอสโคว
หามุมถ่ายรูปยากจังเลย เพราะตั้งอยู่ริมคลอง Griboyedov Loft Travel โดยด้านหน้าโบสถ์ถูกบดบังด้วยตึก ทำให้มีเงามาบังความสวยงามของโบสถ์ในบางช่วง แต่ดีที่มาแต่เช้าเดินเล็งได้ตามสะดวก เพราะคนไม่มี
ตอนนี้โบสถ์ยังไม่เปิด เราจะกลับมาชมด้านในโบสถ์กันในวันถัดไป
ไปต่อกันที่ พิพิธภัณฑ์เฮอร์มิเทจและพระราชวังฤดูหนาว
เป็นที่รวบรวมงานศิลปะระดับโลก และสมบัติล้ำค่ากว่า 3 ล้านชิ้น ประกอบด้วยห้องต่างๆกว่าพันห้อง ตัวอาคารเป็นสีเขียวพาสเทลสลับขาว ดูวินเทจมากๆ ด้านหน้าจะเป็นลานกว้างจนขี้เกียจเดิน
กลางลานกว้างมี “เสาอเล็กซานเดอร์” ที่สร้างถวายพระเกียรติแด่กษัตริย์อเล็กซานเดอร์ที่ 1 ทรงชนะสงครามเหนือโปเลียนของฝรั่งเศส
ภายในพิพิธภัณฑ์ประกอบด้วยห้องต่างๆกว่า 1,000 ห้อง หากจะให้ชมงานศิลปะทุกชิ้น คงต้องใช้เวลาเป็นเดือน
ผู้คนต่อแถวรอซื้อบัตรเข้าชม
ช่วงที่เราไป ด้านในมีการซ่อมแซมอยู่หลายจุด
เสร็จจากพิพิธภัณฑ์ ก็เริ่มหิวแล้ว เดินย้อนกลับมาด้านที่พัก ยืนดูรูปเมนูอาหารอยู่นาน ก็ตัดสินใจเข้าไปกินร้านนี้ (อ่านไม่ออกอีกตามเคย)
ร้านนี้มีหลายสาขาจะอยู่ใกล้กับสถานีเมโทร สำหรับสาขานี้อยู่ตรงข้ามกับสถานี Gostiny Dvor เมื่อออกมาจากสถานี เดินลงทางข้ามมาอีกฝั่งก็จะเจอ
เมนูแรกสั่งเป็นข้าวอบหน้าเนื้อและผักอะไรบางอย่างไม่รู้จัก ราคา 298 รูเบิ้ล
อีกเมนูตั้งใจอยากลองอาหารประจำชาติ ซุปบีทรูท แต่ดันหมด เลยสั่งเป็นซุปครีมมีเนื้อปลา ราคา 198 รูเบิ้ล
บรรยากาศภายในร้าน
อาหารมาแล้ว รูปร่างหน้าตาไม่ได้เหมือนในรูปเล้ยยย
รสชาติกินแรกๆก็อร่อยดี แต่กินจนหมดเนี่ยมีเอียนเล็กน้อย สรุปค่าเสียหายมื้อนี้ 495 รูเบิ้ล ประมาณ 290 บาท
อิ่มแล้ว ก็ข้ามฝั่งนั่งเมโทรไปสถานี Ploshchad Vosstaniya (Плóщадь Восстáния) เพื่อไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ แล้วนั่งเมโทรกลับมาที่ Gostiny Dvor เช่นเดิม (จริงๆแล้วสองสถานีนี้ไม่ไกลกันมากสามารถเดินเล่นๆไปได้ แต่ถ้ามีกระเป๋าคงไม่เวิค)
แถวที่พักเรา เป็นย่านช้อปปิ้ง และจัดงานแสดงต่างๆ และยังมีร้านอาหารรวมถึงร้านนั่งดื่มอยู่เต็มไปหมด
แวะนั่งชิว มองหนุ่มๆรัสเซียดีกว่า ร้านนี้มีที่นั่งแบบเป็นเปลให้ นั่งแล้วสบายมากจนไม่อยากจะลุก
เรานัดเวลาสถานที่กับคนดูแลอพาทเมนต์ไว้ล่วงหน้าทางอีเมล เพราะออฟฟิศเค้าอยู่คนละตึกกับที่เราพัก ก่อนไปแนะนำให้เข้าไปดูใน google map เพื่อดูพิกัดและเห็นสภาพตึกว่าเป็นยังไง จะหาได้ง่ายขึ้น ซึ่งที่พักเราหาไม่ยาก เป็นตึกสีเขียวใหญ่ๆ ติดริมถนนตรงข้ามกับ Anichkov Palace
ภาพหน้าตึกที่พักจาก google map
ถึงแล้วก็อาบน้ำอาบท่า นอนเล่นดูทีวี แล้วเผลอหลับไป ตื่นมาอีกทีตอนสองทุ่ม แต่ฟ้ายังสว่างอยู่เลย ออกไปเดินเล่นรอพระอาทิตย์ตกดินกันดีกว่า
กว่าจะมืดก็ปาเข้าไปสี่ทุ่ม แถมเวลาที่นั่นช้ากว่าไทย 4 ชั่วโมงอีก ไม่ไหวแล้ว ขอลาไปนอนก่อน
[CR] รัสเซีย ดินแดนหลังม่านเหล็ก ตอนที่2: เซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
สืบเนื่องจากตอนที่1 เรานอนหลับปุ๋ยบนรถไฟ และแล้วก็เช้า มาถึงกันที่นครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก
ติดตามตอนอื่นๆได้ที่
1. รัสเซีย ดินแดนหลังม่านเหล็ก ตอนที่1: ออกเดินทาง http://ppantip.com/topic/34415755
2. รัสเซีย ดินแดนหลังม่านเหล็ก ตอนที่3: มอสโคว์ (ตอนจบ) http://ppantip.com/topic/34447071
แนะนำแอพพลิเคชั่นสำหรับ Metro map ในเซนท์ปีเตอร์สเบิร์ก Yendex.Metro
เนื่องจากว่ามาถึงเช้ามาก คนยังไม่ค่อยมี ระหว่างทางเดินไปเมโทร เลยเงียบสงบแบบที่เห็น มองไปปลายทาง จิตเริ่มหลอนนึกถึงซอมบี้ บรรยากาศมันใช่เลย
ตอนนี้โบสถ์ยังไม่เปิด เราจะกลับมาชมด้านในโบสถ์กันในวันถัดไป
เป็นที่รวบรวมงานศิลปะระดับโลก และสมบัติล้ำค่ากว่า 3 ล้านชิ้น ประกอบด้วยห้องต่างๆกว่าพันห้อง ตัวอาคารเป็นสีเขียวพาสเทลสลับขาว ดูวินเทจมากๆ ด้านหน้าจะเป็นลานกว้างจนขี้เกียจเดิน
ผู้คนต่อแถวรอซื้อบัตรเข้าชม
ร้านนี้มีหลายสาขาจะอยู่ใกล้กับสถานีเมโทร สำหรับสาขานี้อยู่ตรงข้ามกับสถานี Gostiny Dvor เมื่อออกมาจากสถานี เดินลงทางข้ามมาอีกฝั่งก็จะเจอ
อิ่มแล้ว ก็ข้ามฝั่งนั่งเมโทรไปสถานี Ploshchad Vosstaniya (Плóщадь Восстáния) เพื่อไปเอากระเป๋าที่ฝากไว้ แล้วนั่งเมโทรกลับมาที่ Gostiny Dvor เช่นเดิม (จริงๆแล้วสองสถานีนี้ไม่ไกลกันมากสามารถเดินเล่นๆไปได้ แต่ถ้ามีกระเป๋าคงไม่เวิค)
แถวที่พักเรา เป็นย่านช้อปปิ้ง และจัดงานแสดงต่างๆ และยังมีร้านอาหารรวมถึงร้านนั่งดื่มอยู่เต็มไปหมด
แวะนั่งชิว มองหนุ่มๆรัสเซียดีกว่า ร้านนี้มีที่นั่งแบบเป็นเปลให้ นั่งแล้วสบายมากจนไม่อยากจะลุก
เรานัดเวลาสถานที่กับคนดูแลอพาทเมนต์ไว้ล่วงหน้าทางอีเมล เพราะออฟฟิศเค้าอยู่คนละตึกกับที่เราพัก ก่อนไปแนะนำให้เข้าไปดูใน google map เพื่อดูพิกัดและเห็นสภาพตึกว่าเป็นยังไง จะหาได้ง่ายขึ้น ซึ่งที่พักเราหาไม่ยาก เป็นตึกสีเขียวใหญ่ๆ ติดริมถนนตรงข้ามกับ Anichkov Palace
ภาพหน้าตึกที่พักจาก google map
ถึงแล้วก็อาบน้ำอาบท่า นอนเล่นดูทีวี แล้วเผลอหลับไป ตื่นมาอีกทีตอนสองทุ่ม แต่ฟ้ายังสว่างอยู่เลย ออกไปเดินเล่นรอพระอาทิตย์ตกดินกันดีกว่า
กว่าจะมืดก็ปาเข้าไปสี่ทุ่ม แถมเวลาที่นั่นช้ากว่าไทย 4 ชั่วโมงอีก ไม่ไหวแล้ว ขอลาไปนอนก่อน
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น