ถนนบางนา-ตราด จะมีแบ่งเป็นเส้นหลักด้านในที่ห้ามสองล้อไม่ว่าจะมอเตอร์ไซค์ หรือจักรยานเข้าไปวิ่ง แต่ก็มีเข้าไปวิ่งให้พบเห็น และนำมาตำหนิกันอยู่บ่อยๆ ส่วนมากจะเป็นมอเตอร์ไซค์ทั้งหลายแหล่ แต่ก็เคยเจอจักรยานบ้างบางครั้งบางคราว ด้วยความที่จักรยานเจอน้อย มีคนถ่ายมาได้ทีก็หนักละครับ

ส่วนตัวแล้วผมก็ไม่เห็นด้วยเลยนะสำหรับรถเล็กทั้งหลายที่จะเข้าไปวิ่งในนั้น ไม่ว่าคุณจะเครื่องใหญ่หลาย CC อย่าง Big Bike ก็ตาม ผมขับรถบนเส้นนั้นอยู่ด้วย ลักษณะการขับขี่ร่วมกันในความเร็วที่มากกว่า 80 km/hr มันค่อนข้างอันตราย ดังนั้นไม่ใช่ว่าผมจะเห็นด้วยกับการให้รถเล็กเข้าไปวิ่งเส้นหลักนะครับ ออกตัวชัดๆตรงนี้ไว้ก่อน

ในขณะเดียวกันกลับมาที่เส้นคู่ขนาน หลายคนไม่ทราบว่าขาออกตั้งแต่พ้นเขตกรุงเทพฯออกไป เป็นเขตสมุทรปราการ มันมีการแบ่งช่องจราจรไว้เป็นทางสำหรับสองล้อ (ใช้ร่วมกันทั้งมอเตอร์ไซค์ และจักรยาน มีป้ายบอกชัดเจน) หลายคนรู้แต่ไม่สนใจ (สำหรับขาเข้าก็มี แต่เส้นจราจรเลือนลางมาก)

ซึ่งก็มักจะมีรถยนต์ชอบมาวิ่งเพื่อแซงซ้ายในเลนนี้กันบ่อยมากกกก บางช่วงก็เข้าใจว่าอีกเดี๋ยวจะถึงปากซอยที่ท่านจะเลี้ยวเข้าแล้ว คงคิดเผื่อว่าข้างหน้าเป็นรถทางตรงติดกันอยู่ ก็เลยแซงซ้ายมาเพื่อกะจะเข้าซ้อย (เข้าใจนะครับ แต่ไม่ได้บอกว่าถูกต้อง) เพราะฉันเหลืออีกนิดเดียวจะถึงบ้านแล้วทำไมฉันจะต้องมาติดด้วยเนี่ย เลนซ้ายก็ว่างๆ ขอรูดหน่อย

แต่ในสภาพความเป็นจริง ณ ปัจจุบัน คือรถยนต์ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นรถส่วนบุคคล รถขนของ รถแท็กซี่ รถเมล์ ก็รูดเลนนี้กันจนมันติดเพิ่มแทบไม่ขยับอีกเลนอยู่แล้วครับ ท่านมาก็ไม่ได้เร็วขึ้นกว่าเดิมนักหนาหรอก โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลายท่านวิ่งลักษณะแซงซ้าย พอแซงมาได้ระยะนึง ติด ก็ต้องปาดกลับ แล้วมันก็ยิ่งชะลอตัว .. อีกอย่างนึงพอช่องมันแคบ ท่านก็ต้องขับกันอย่างระมัดระวังว่าจะไปโดนรถคันอื่น มันก็วิ่งชะลอตัว ผมขับรถอยู่ด้วยสภาพนี้เจอบ่อยๆ บนทางด่วนครับ เปิดเลนไหล่ทางวิ่งกัน มันไม่ได้กว้างพอที่จะวิ่งได้สบายๆ ก็ต้องคอยระมัดระวังกัน แทนที่จะเร็ว มันก็ชะลอตัว

อันที่จริงสำหรับการเลี้ยวซ้ายเข้าซอย ทางเขาก็ออกแบบไว้แล้ว ว่าพอถึงปากซอย เส้นทึบจะเป็นเส้นประ ให้ท่านเลี้ยวได้ทั้งเลี้ยวเข้าและเลี้ยวออก นั่นคือวิธีที่ถูกต้องนะครับ ไม่ใช่เราออกมาก็รูดซ้าย เราจะเข้าซอยก็รูดซ้าย

ทุกวันนี้ช่องมอเตอร์ไซค์+จักรยาน ที่ว่าใช้งานได้แค่ระยะสั้นๆเท่านั้นแหละครับ บางช่วงผมใช้แล้วเจอรถเบียดจนขนาดว่าผมลงไปวิ่งบนไหล่ทางจริงๆ ที่เป็นดิน เป็นโคลนแล้ว รถยนต์ยังเบียดมาวิ่งอยู่เลยครับ มันสาหัสมาก

แต่ทั้งหลายทั้งปวงคือเมื่อจุดประเด็นทำนองนี้ขึ้นมา คงมีแน่ๆละคนที่คิดว่า อะไรกันนิดๆหน่อยๆเรื่องแค่นี้ก็เอามาเป็นเรื่องราว , มันมีจักรยานวิ่งกันสักกี่คันเอง (จักรยานเส้นนั้นก็เยอะนะครับ และที่สำคัญมอเตอร์ไซค์มีวิ่งตลอดครับ ถ้าทางมันวิ่งได้) , แบ่งๆกันไป บลา บลา บลา

คือถ้าช่องนี้มันเป็นช่องที่รถยนต์ไม่มาวิ่งรูดกันจนติดกันไปทุกช่องเหมือนในปัจจุบันนะครับ ผมมั่นใจเลยว่ามอเตอร์ไซค์จำนวนมาก ก็จะมาวิ่งช่องนี้ ไม่ไปวิ่งมุดระหว่างคันรถในช่องอื่นให้รำคาญใจกันทุกฝ่ายหรอกครับ เบียดกันมาก เดี๋ยวเฉี่ยวเดี๋ยวชน เป็นรอยเป็นเรื่องกันขึ้นมาอีก ความปลอดภัยมันก็จะเพิ่มขึ้นมาอีกระดับนึง

ทุกวันนี้หลายคนวิ่งช่องที่ทางหน่วยงานเขาออกแบบไว้ให้ไม่ได้ ก็พากันไปวิ่งทางอื่นที่มันวิ่งได้ วิ่งมุดบ้าง หรือไปวิ่งไหล่ทางด้านขวาบ้าง รถยนต์ก็หงุดหงิดว่าสองล้อจะมุดทำไม ทำไมไม่ไปตามกระแส (ตลกดีนะครับ ยังมีประเด็นนี้กันอยู่ ทั้งๆที่เราน่าจะผ่านเรื่องนี้กันมาได้ยี่สิบสามสิบปีแล้ว ๕๕) รถยนต์ก็หงุดหงิดว่าวิ่งเลนขวาอยู่ (ไม่ใช่เส้นหลักด้านใน) เฮ้ย อยู่ดีๆ มีมอไซค์มาวิ่งรูดไหล่ทางด้านขวาได้ยังไง บลา บลา บลา

มันก็วนกันเป็นงูกินหางนี่แหละครับ แต่ผมเชื่อว่า Loop นี้มันเริ่มต้นจากการที่ช่องจราจรสำหรับสองล้อทางซ้ายมันใช้การไม่ได้ มากกว่าเป็นสันดานของผู้ขับขี่ ถ้าหากช่องสองล้อทางซ้ายมันวิ่งได้ ไม่มีปัญหาอะไร แล้วยังมีคนเอาสะดวกจะไปรูดไหล่ทางด้านขวา หรือเอาสะดวกไปวิ่งมุดระหว่างรถ (นึกไม่ออกจริงๆ ว่ามันสะดวกยังไง) อันนั้นก็โทษอะไรไม่ได้แล้วละครับ เป็นที่ตัวผู้ขับขี่ล้วนๆเลย

ที่โพสต์ก็อยากบอกประเด็นว่าช่องซ้ายที่มันเป็นทางสำหรับสองล้อ ขอไว้หน่อยเถอะครับ ทุกวันนี้มันวิ่งไม่ได้เลย ทั้งๆที่จริงๆก็อยากอยู่ในกฎกติกาของถนนหนทางที่เขาออกแบบและกำหนดไว้อ่ะนะครับ