หน้าแรก
คอมมูนิตี้
ห้อง
แท็ก
คลับ
ห้อง
แก้ไขปักหมุด
ดูทั้งหมด
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
แท็ก
แก้ไขปักหมุด
ดูเพิ่มเติม
เกิดข้อผิดพลาดบางอย่าง
ลองใหม่
{room_name}
{name}
{description}
กิจกรรม
แลกพอยต์
อื่นๆ
ตั้งกระทู้
เข้าสู่ระบบ / สมัครสมาชิก
เว็บไซต์ในเครือ
Bloggang
Pantown
PantipMarket
Maggang
ติดตามพันทิป
ดาวน์โหลดได้แล้ววันนี้
เกี่ยวกับเรา
กฎ กติกา และมารยาท
คำแนะนำการโพสต์แสดงความเห็น
นโยบายเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล
สิทธิ์การใช้งานของสมาชิก
ติดต่อทีมงาน Pantip
ติดต่อลงโฆษณา
ร่วมงานกับ Pantip
Download App Pantip
Pantip Certified Developer
[CR] ลุยเดี่ยว ฝรั่งเศส-สวิส-อิตาลี 16 วัน 8 เมือง และอีกหลายๆ หมู่บ้าน ตอนที่ 4
กระทู้รีวิว
รถไฟ
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวต่างประเทศ
ตอนที่ 1
http://ppantip.com/topic/34394096
ตอนที่ 2
http://ppantip.com/topic/34396864
ตอนที่ 3
http://ppantip.com/topic/34397638
วันที่ 4 Zurich
วันนี้ตื่นประมาณ 7 โมง อาบน้ำแต่งตัวออกมาจากที่พัก วันนี้จะนั่งรถไฟไป Zurich กะว่าถ้าถึงเร็วจะได้มีเวลาเที่ยวในเมืองและใช้ Swiss pass ให้คุ้มเนื่องด้วยวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการใช้ Swiss pass เกือบมาไม่ทันรถไฟ ไม้งั้นต้องรอขบวนต่อไปอีก 1 ชม. รถไฟออก 8.37 ถึง Zurich ประมาณเที่ยง รถไฟผ่าน Thun แล้วแยกไปทางเมือง Burn ที่แรกว่าจะแวะเที่ยว แต่ก็ไม่ได้แวะ นั่งเลยมาถึง Zurich เลย พอมาถึงสถานี ซึ่งคนเยอะมาก
นางฟ้าประจำสถานีรอต้อนรับ
VOLVO art exhibition
ลากกระเป๋าออกจากสถานีเพื่อจะฝากกระเป๋าไว้ที่ hostel ก่อนเพราะยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน แต่โชคร้าย Hostel ปิดทำการจะเปิดอีกทีตอน บ่าย 3 ก็เลยต้องลากกระเป๋ากลับมาฝากที่ สถานีรถไฟ กระเป๋าใบใหญ่ เสียค่าฝากไป 9 CHF (แพงจริงๆ) จากนั้นก็เดินตรงมาที่ lake Zurich เพื่อล่องเรือ ใช้ Swiss pass ล่องเรือฟรีนะ อ่อ หน้าสถานีรถไฟ ก็แวะ Coop ซื้อ พิซซ่าชิ้นใหญ่ กับน้ำ เพื่อไปกินบนเรือด้วย บรรยากาศบนเรือตอนออกจากท่าเรือก็เย็นสบาย แต่พอไปซักพัก แดดเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้หลบเข้าในเรือแต่อย่างได ยังคงนั่งตากแดด กินพิซซ่า ชมวิว ไปเรื่อยๆ
รูปปั้นริมท่าเรือ
ใช้เวลาบนเรือประมาณ ชั๋วโมงครึ่งก็กลับมาถึงฝั่ง คิดมีเวลาที่จะเข้า museum ได้ จึงนั่งรถรางกลับมาที่สถานีรถไฟ เพราะ Swiss museum อยู่ข้างสถานีรถไฟ ยังพอมีเวลาอีกเกือบ 2 ชม.ก่อนที่จะปิดทำการในเวลา 5 โมงเย็น ใช้ Swiss pass เข้า museum ฟรี และที่สำคัญมี locker ฝากกระเป๋าได้ฟรีด้วย เสียดายเงิน ที่ฝากกระเป๋าที่สถานีรถไฟ
Swiss museum เป็น museum ไม่ใหญ่มาก บอกเล่าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของสวิส โดยส่วยตัวชอบโซนที่เป็น fashion เครื่องแต่งกาย และลายผ้าต่างๆ
ออกจาก museum 5 โมงเย็นพอดิบพอดี ก็มาเอากระเป๋าจาก locker ที่สถานีรถไฟ แล้วก็ลากมาที่ Hostel ซึ่งอยู่หลังร้านอาหาร ยกกระเป๋าขึ้นบันไดวน 3 ชั้น ไม่มีลิฟท์ เช็คอิน แล้วก็ได้ผ้าปูที่นอนกะปลอกหมอนมาปูทีนอนเอง คืนนี้นอนห้องรวม 6 คน เต็มทุกเตียง
มีเวลาอีก หลาบชั่วโมงก่อนจะมืด หน้าร้อนจะมืดประมาณ 4 ทุ่ม ก็ออกมาเดินเล่นไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมายปลายทาง เดินทั้งในย่านเมืองเก่า และย่านถนน shopping แถวสถานีรถไฟ เดินๆ พักๆ แต่ก็ไม่รู้สึกหิวอะไรเลย สงสัยพิซซ่ายังคงอืดอยู่ในท้อง กลับมานอนที่ hostel ก็เที่ยงคืนกว่า
D&G Shop ใหญ่มาก
วันที 5 Luzern
ตื่นตั้งแต่ 7 โมง ด้วยความหิว เลยรีบอาบน้ำ แล้วเข้าห้องครัวหยิบมาม่าในกระเป๋าออกมาต้ม แล้วก็มี free food เป็นขนมปังกะชีส
พอประทังความหิวได้บ้าง( free food คืออาหารของคนที่เคยพัก ที้งไว้ให้คนที่เข้าพักอยู่สามารถกินได้ ส่วนมาเป็นขนมปัง คุ๊กกี้ ชีสแผ่น)
วันนี้นัดกะเพื่อนที่มามีครอบครัวอยู่ที่นี่ คืนนี้จะไปพักที่บ้านเพื่อน ระหว่างรอก็เดินดูตลาดเล็กๆ ริมถนน มีผลไม้ ดอกไม้และ ขนมปัง และอื่นๆ
พอเจอเพื่อนก็ขับรถตรงไปที่เมือง Luzern ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 1 ชม.
พอมาถึงที่ Luzern ก็เอารถมาจอดแล้วเดินครงไปที่ไม่น้ำ สะพานไม้ชาเพลสัญลักษณ์ของเมืองก็อยู่ตรงหน้า สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 ตกแต่งบนโครงหลังคาหน้าจั่วด้วยภาพวาดในศตวรรษที่ 17 ซึ่งภาพเหล่านี้เป็นการเล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาของเมืองลูเซิร์น โดยมีหอคอย ซึ่งเดิมใช้เป็นที่ขังนักโทษ สะพานแห่งนี้เคยถูกไฟไหม้ไปเมื่อปี ค.ศ. 1993 แล้วก็มีการบูรณะใหม่สะพานชาเพลนี้ถือเป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปเลย วันนี้อากาศดี แดดไม่แรงมาก แต่นักท่องเที่ยวเยอะมาก เพราะวันนี้เป็นวันเสาร์ เดินข้ามสะพาน ตรงมาที่ lake Luzern เพื่อนั่งเรือล่องทะเลสาบ ระหว่างรอก็เห็นไอติมน่ากินก็เลยจัดไปสักหน่อย อร่อยสุด
พอได้เวลาก็ล่องเรือใน lakeLuzern ใช้เวลาชิลๆ ประมาณ 1 ชม. ก็ลงจากเรือ (มาสวิสคราวนี้ ล่องเรือหารักไปทั้งหมด 3 ทะเลสาบ ) เดินข้ามสะพานกลับที่จอกรถ ระหว่างมางก็เจอร้านขายของเก่าข้างทาง น่าสนใจ แต่ ไม่ได้ซื้อ
เนื่องจากบนยอดเขา Pilatus มีเมฆเยอะมา ก็เลยตัดสินใจไปขึ้น Rigi Klum แทน โดยขับรถไปขึ้นกระเช้าที่ Weggis แล้วไปต่อรถไฟที่ Rigi Kaltbad
เสียเวลาต่อรถประมาณ 40 นาที พอมาถึงยอด Rigi Klum ก็ได้เห็นวิวสวยๆ ของเมือง Luzern และทะเลสาบ เดินเล่นอยู่ข้างบนซักพัก จะกินอาหารที่ร้านข้างบนก็ยังไม่ถึงเวลาเปินรอบอาหารค่ำ ก็เลยตัดสินใจหิ้วท้องหลับมากินที่บ้าน วิวสองข้างทางระหว่างทางกลับบ้านก็สสวยงามสมกะเป็นสวิส แดนในฝันของใครหลายๆ คน ขับรถประมาณ ชั่วโมงนิดๆ ก็มาถึง Lachen เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบซูริค เข้าบ้านเก็บกระเป๋า เพื่อนก็รีบทำอาหารค่ำให้กิน มื้อนี้ฝีมือเพื่อนอร่อยสุดๆ เล่นกะลูกเพื่อนซักพัก นั่งเม้ากะเพื่อนไปด้วย แล้วก็เข้านอน
ชื่อสินค้า:
Zurich- Luzern
คะแนน:
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ
▼
กำลังโหลดข้อมูล...
▼
แสดงความคิดเห็น
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
รบกวนช่วยตรวจแพลนเที่ยวสวิสเซอร์แลนด์ ช่วงเมษาหน่อยค่ะ
รบกวนเพื่อนๆ ช่วยคอมเมนท์แผนเที่ยวและที่พักหน่อยค่ะ ไปสวิสครั้งแรก เดินทาง 4 คน พ่อแม่ลูก 13 กับ 16 ปี ไปช่วงเมษาใช้ swiss pass 8 day ค่ะ ขอบคุณค่ะ Day 1 ถึง Zurich airport 8
สมาชิกหมายเลข 1675350
รบกวนตรวจแผนการเที่ยว Switzerland ให้หน่อยค่ะ (ไปสิ้นเดือน พ.ค. นี้แล้ว)
ก่อนหน้านี้ได้ตั้งกระทู้ให้ตรวจแผนการเที่ยวไปรอบหนึ่งแล้ว แต่.... พอดีเมื่อวานไปบ้านญาติที่เคยไป Switzerland เลยให้ช่วยตรวจให้ดู ทันทีที่ญาติเห็นก็ถามเลย ว่าจะไปนั่งรถไฟเล่นเหรอ คิวแน่นเชียว เราก็เลยบ
สมาชิกหมายเลข 815110
Fussen เตรียมตัวก่อนเที่ยวเมืองน่ารักของประเทศ Germany
ต่อไปนี้คือแผนการเดินทางที่วางเอาไว้ ก่อนไปเที่ยวจริง หากข้อมูลที่หามาผิดพลาดตรงไหน เพื่อนๆสามารถช่วยแก้ไขได้นะ แผนเที่ยวสวิส Zurich เดินทางวันจันทร์ • ลงเครื่องที่สนามบิน Zurich 19.45 น.
netmoneeten
สอบถามการขึ้นเขา Rigi ค่ะ
ถ้าหากล่องเรือมาจาก Luzern มาถึง Vitznau แล้วต้องต่อรถไฟขึ้นยอดเขา ริกิ (Rigi Bahn) ไม่ทราบว่า ต้องไปแลกตั๋วที่สถานีไหมคะ หรือใช้ Swiss pass โชว์ได้เลย (เห็นข้อมูลบอกว่า ถ้ามี swiss pass จะขึ้นเขาริ
Unchanged Melody
ไปเที่ยวสวิส อย่าคิดมาก (6)
ตอนที่ 1: Bangkok – Dubai – Zurich – Luzern อ่านได้ที่ http://ppantip.com/topic/35320750 ตอนที่ 2: Luzern - Zug – Kussnacht – Interlaken – Bern อ่านได้ที่ http://pan
Fototeller
รวมข้อมูลการเที่ยวที่สนใจ
https://ppantip.com/topic/39348943 https://www.swiss-pass.ch/ รถไฟสายโรแมนติกมั้ยคะ มีอยู่ 4 สาย คือ 1.รถไฟเบอร์นิน่าเอ็กซ์เพรส (Bernina Express) -
สมาชิกหมายเลข 1429169
8 วันแรก Plan
สมาชิกหมายเลข 1429169
สอบถามการเที่ยว lausanne luzern และswiss pass หน่อยครับ
คือผมเที่ยว ปารีส-โลซาน-เวนิส ซึ่งปารีส-โลซานและ โลซาน-เวนิส ผมจองรถไฟเรียบร้อยแล้วครับโดยไม่ได้ซื้อswiss pass เพราะรีบจองได้ราคาโปรไม่แพง ซึ่งวันที่1มาถึงโลซานตอนเที่ยงวัน วันที่2อยู่เต็มวัน วันที่3อ
The_Duchess
เที่ยวเอง swiss2023 บันทึกแห่งสายน้ำเวนิสสู่มิลาน 2023 แล้วเจอกันใหม่อิตาลี
เที่ยวเอง swiss2023 บันทึกแห่งสายน้ำเวนิสสู่มิลาน 2023 แล้วเจอกันใหม่อิตาลี เวนิสวันที่2 ล่องเรือก่อนกลับสวิส :: บันทึกการเดินทาง Switzerl
momarmy
รบกวนเพื่อนๆ พี่ๆ ช่วยดูแพลนเที่ยวสวิต ช่วงธันวานี้ + สอบถามเรื่อง glacier express
สวัสดีครับ รบกวนทุกท่านด้วยนะครับ จะขอสอบถามว่า 1. ไปสวิตช่วงวันที่ 24-28 ธันวาคมนี้ จากนั้นไปประเทศอื่นต่อ แพลนประมาณนี้พอโอเค หรือควรปรับตรงไหนไหมครับ Day 1 (24/12/65) Arr&nb
สมาชิกหมายเลข 7322368
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
รถไฟ
บันทึกนักเดินทาง
เที่ยวต่างประเทศ
บนสุด
ล่างสุด
อ่านเฉพาะข้อความเจ้าของกระทู้
หน้า:
หน้า
จาก
แชร์ :
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน
อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่
ยอมรับ
[CR] ลุยเดี่ยว ฝรั่งเศส-สวิส-อิตาลี 16 วัน 8 เมือง และอีกหลายๆ หมู่บ้าน ตอนที่ 4
ตอนที่ 1 http://ppantip.com/topic/34394096
ตอนที่ 2 http://ppantip.com/topic/34396864
ตอนที่ 3 http://ppantip.com/topic/34397638
วันที่ 4 Zurich
วันนี้ตื่นประมาณ 7 โมง อาบน้ำแต่งตัวออกมาจากที่พัก วันนี้จะนั่งรถไฟไป Zurich กะว่าถ้าถึงเร็วจะได้มีเวลาเที่ยวในเมืองและใช้ Swiss pass ให้คุ้มเนื่องด้วยวันนี้เป็นวันสุดท้ายของการใช้ Swiss pass เกือบมาไม่ทันรถไฟ ไม้งั้นต้องรอขบวนต่อไปอีก 1 ชม. รถไฟออก 8.37 ถึง Zurich ประมาณเที่ยง รถไฟผ่าน Thun แล้วแยกไปทางเมือง Burn ที่แรกว่าจะแวะเที่ยว แต่ก็ไม่ได้แวะ นั่งเลยมาถึง Zurich เลย พอมาถึงสถานี ซึ่งคนเยอะมาก
นางฟ้าประจำสถานีรอต้อนรับ
VOLVO art exhibition
ลากกระเป๋าออกจากสถานีเพื่อจะฝากกระเป๋าไว้ที่ hostel ก่อนเพราะยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน แต่โชคร้าย Hostel ปิดทำการจะเปิดอีกทีตอน บ่าย 3 ก็เลยต้องลากกระเป๋ากลับมาฝากที่ สถานีรถไฟ กระเป๋าใบใหญ่ เสียค่าฝากไป 9 CHF (แพงจริงๆ) จากนั้นก็เดินตรงมาที่ lake Zurich เพื่อล่องเรือ ใช้ Swiss pass ล่องเรือฟรีนะ อ่อ หน้าสถานีรถไฟ ก็แวะ Coop ซื้อ พิซซ่าชิ้นใหญ่ กับน้ำ เพื่อไปกินบนเรือด้วย บรรยากาศบนเรือตอนออกจากท่าเรือก็เย็นสบาย แต่พอไปซักพัก แดดเริ่มแรงขึ้นเรื่อยๆ แต่ก็ไม่ได้หลบเข้าในเรือแต่อย่างได ยังคงนั่งตากแดด กินพิซซ่า ชมวิว ไปเรื่อยๆ
รูปปั้นริมท่าเรือ
ใช้เวลาบนเรือประมาณ ชั๋วโมงครึ่งก็กลับมาถึงฝั่ง คิดมีเวลาที่จะเข้า museum ได้ จึงนั่งรถรางกลับมาที่สถานีรถไฟ เพราะ Swiss museum อยู่ข้างสถานีรถไฟ ยังพอมีเวลาอีกเกือบ 2 ชม.ก่อนที่จะปิดทำการในเวลา 5 โมงเย็น ใช้ Swiss pass เข้า museum ฟรี และที่สำคัญมี locker ฝากกระเป๋าได้ฟรีด้วย เสียดายเงิน ที่ฝากกระเป๋าที่สถานีรถไฟ
Swiss museum เป็น museum ไม่ใหญ่มาก บอกเล่าเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของสวิส โดยส่วยตัวชอบโซนที่เป็น fashion เครื่องแต่งกาย และลายผ้าต่างๆ
ออกจาก museum 5 โมงเย็นพอดิบพอดี ก็มาเอากระเป๋าจาก locker ที่สถานีรถไฟ แล้วก็ลากมาที่ Hostel ซึ่งอยู่หลังร้านอาหาร ยกกระเป๋าขึ้นบันไดวน 3 ชั้น ไม่มีลิฟท์ เช็คอิน แล้วก็ได้ผ้าปูที่นอนกะปลอกหมอนมาปูทีนอนเอง คืนนี้นอนห้องรวม 6 คน เต็มทุกเตียง
มีเวลาอีก หลาบชั่วโมงก่อนจะมืด หน้าร้อนจะมืดประมาณ 4 ทุ่ม ก็ออกมาเดินเล่นไปเรื่อยๆ อย่างไร้จุดหมายปลายทาง เดินทั้งในย่านเมืองเก่า และย่านถนน shopping แถวสถานีรถไฟ เดินๆ พักๆ แต่ก็ไม่รู้สึกหิวอะไรเลย สงสัยพิซซ่ายังคงอืดอยู่ในท้อง กลับมานอนที่ hostel ก็เที่ยงคืนกว่า
D&G Shop ใหญ่มาก
วันที 5 Luzern
ตื่นตั้งแต่ 7 โมง ด้วยความหิว เลยรีบอาบน้ำ แล้วเข้าห้องครัวหยิบมาม่าในกระเป๋าออกมาต้ม แล้วก็มี free food เป็นขนมปังกะชีส
พอประทังความหิวได้บ้าง( free food คืออาหารของคนที่เคยพัก ที้งไว้ให้คนที่เข้าพักอยู่สามารถกินได้ ส่วนมาเป็นขนมปัง คุ๊กกี้ ชีสแผ่น)
วันนี้นัดกะเพื่อนที่มามีครอบครัวอยู่ที่นี่ คืนนี้จะไปพักที่บ้านเพื่อน ระหว่างรอก็เดินดูตลาดเล็กๆ ริมถนน มีผลไม้ ดอกไม้และ ขนมปัง และอื่นๆ
พอเจอเพื่อนก็ขับรถตรงไปที่เมือง Luzern ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ 1 ชม.
พอมาถึงที่ Luzern ก็เอารถมาจอดแล้วเดินครงไปที่ไม่น้ำ สะพานไม้ชาเพลสัญลักษณ์ของเมืองก็อยู่ตรงหน้า สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยศตวรรษที่ 14 ตกแต่งบนโครงหลังคาหน้าจั่วด้วยภาพวาดในศตวรรษที่ 17 ซึ่งภาพเหล่านี้เป็นการเล่าเรื่องราวประวัติความเป็นมาของเมืองลูเซิร์น โดยมีหอคอย ซึ่งเดิมใช้เป็นที่ขังนักโทษ สะพานแห่งนี้เคยถูกไฟไหม้ไปเมื่อปี ค.ศ. 1993 แล้วก็มีการบูรณะใหม่สะพานชาเพลนี้ถือเป็นสะพานไม้ที่เก่าแก่ที่สุดในยุโรปเลย วันนี้อากาศดี แดดไม่แรงมาก แต่นักท่องเที่ยวเยอะมาก เพราะวันนี้เป็นวันเสาร์ เดินข้ามสะพาน ตรงมาที่ lake Luzern เพื่อนั่งเรือล่องทะเลสาบ ระหว่างรอก็เห็นไอติมน่ากินก็เลยจัดไปสักหน่อย อร่อยสุด
พอได้เวลาก็ล่องเรือใน lakeLuzern ใช้เวลาชิลๆ ประมาณ 1 ชม. ก็ลงจากเรือ (มาสวิสคราวนี้ ล่องเรือหารักไปทั้งหมด 3 ทะเลสาบ ) เดินข้ามสะพานกลับที่จอกรถ ระหว่างมางก็เจอร้านขายของเก่าข้างทาง น่าสนใจ แต่ ไม่ได้ซื้อ
เนื่องจากบนยอดเขา Pilatus มีเมฆเยอะมา ก็เลยตัดสินใจไปขึ้น Rigi Klum แทน โดยขับรถไปขึ้นกระเช้าที่ Weggis แล้วไปต่อรถไฟที่ Rigi Kaltbad
เสียเวลาต่อรถประมาณ 40 นาที พอมาถึงยอด Rigi Klum ก็ได้เห็นวิวสวยๆ ของเมือง Luzern และทะเลสาบ เดินเล่นอยู่ข้างบนซักพัก จะกินอาหารที่ร้านข้างบนก็ยังไม่ถึงเวลาเปินรอบอาหารค่ำ ก็เลยตัดสินใจหิ้วท้องหลับมากินที่บ้าน วิวสองข้างทางระหว่างทางกลับบ้านก็สสวยงามสมกะเป็นสวิส แดนในฝันของใครหลายๆ คน ขับรถประมาณ ชั่วโมงนิดๆ ก็มาถึง Lachen เมืองเล็กๆ ริมทะเลสาบซูริค เข้าบ้านเก็บกระเป๋า เพื่อนก็รีบทำอาหารค่ำให้กิน มื้อนี้ฝีมือเพื่อนอร่อยสุดๆ เล่นกะลูกเพื่อนซักพัก นั่งเม้ากะเพื่อนไปด้วย แล้วก็เข้านอน