▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
เที่ยวยุโรป
ภาพถ่ายทิวทัศน์
เที่ยวต่างประเทศ
[CR] ไปเที่ยวสวิส อย่าคิดมาก (6)
ตอนที่ 2: Luzern - Zug – Kussnacht – Interlaken – Bern อ่านได้ที่ http://ppantip.com/topic/35323829
ตอนที่ 3: Schynige Platte – Lauterbrunnen - Murren – Wengen อ่านได้ที่ http://ppantip.com/topic/35332007
ตอนที่ 4: Grindelwald – First - Vevey – Montreux อ่านได้ที่ http://ppantip.com/topic/35338489
ตอนที่ 5: Zermatt – Sunnegga – St. Moritz อ่านได้ที่ http://ppantip.com/topic/35348778
ไปเที่ยวสวิส อย่าคิดมาก ตอนที่ 6: Richterswil – St. Gallen - Rapperswil
เช้าวันที่เก้าของการเดินทาง วันนี้เป็นวันสุดท้ายที่สามารถใช้ Swiss Pass เดินทางได้ เพราะซื้อแบบ 8 วันติดกัน (มาถึงวันแรกมืดแล้วจึงยังไม่ใช้ เปิดบัตรไว้ให้เริ่มวันรุ่งขึ้น) ออกจาก St. Moritz ขึ้นรถไฟเพื่อจะไปซูริค (Zurich) รถไฟจาก St. Moritz วิ่งย้อนกลับเส้นทางเดิม (ที่มาเมื่อวาน) ไปจนถึงเมืองคูร์ (Chur) ต่างกันตรงที่วันนี้นั่งส่วนที่เป็นโบกี้รถปรกติ (เพราะรถส่วนที่เป็นกลาเซียร์เอ็กซเพรสจะต้องแยกที่ Chur วิ่งไปยัง Zermatt) รถไฟแบบปรกติดีก็ตรงที่หน้าต่างเปิดได้ ทำให้ถ่ายภาพได้สะดวกขึ้น ไม่ต้องคอยระวังเงาสะท้อนเหมือนเมื่อวาน
ภาพวิวทิวทัศน์ระหว่างทาง
รถไฟรางข้างเคียง กระจกโค้งสวยเชียว
ออกจากสถานีฟิริซูร์ (Filisur) ไม่นาน รถไฟก็จะแล่นเข้าถ้ำ พอออกจากถ้ำก็จะเจอสะพานลันด์วัสเซอร์ ต้องเตรียมกล้องไว้ให้พร้อม แต่เป็นการถ่ายย้อนหลังเห็นโบกี้ท้ายๆ ที่เพิ่งออกมาจากถ้ำ
บางช่วงเจอสะพานลักษณะเดียวกันกับสะพานลันด์วัสเซอร์
จุดหมายของการนั่งรถไฟวันนี้ไม่ได้อยู่ที่สถานีหลักในเมืองซูริค หากแต่มุ่งไปที่ Hostel ที่จองไว้ใกล้ๆ ซูริค จะพักอยู่ที่นี่สองคืนเพื่อเที่ยวในซูริคและบริเวณใกล้เคียงก่อนขึ้นเครื่องกลับไทย เรื่องที่พักสองคืนสุดท้ายนี้เดิมทีเดียวเข้าใจว่าอยู่ในเขตเมืองซูริค คิดว่าจะซื้อ Zurich Card มาใช้ในช่วงสองวันสุดท้าย แต่พอลูกชายไปเช็คดูว่า Hostel ที่พ่อแม่จองมานั้นมันอยู่ส่วนไหนของซูริค พอรู้แล้วก็โวยวายขึ้นมาทันทีว่าทำไมไปพักที่นอกเมืองซูริค (เหมือนจะเที่ยววัดโพธิ์ วัดพระแก้วแล้วทำไมไปจองโรงแรมแถวปทุมธานีอะไรทำนองนั้น ทำไมไม่นอนถนนข้าวสาร) พ่อแม่ได้แต่มองหน้ากัน เพราะเดิมผมจองโรงแรมในเมืองไว้แต่ภรรยาเอาข้อมูลในเว๊ปของ Hostel นี้มาให้ดูว่าเป็น Hostel ที่อยู่ติดทะเลสาบซูริค ราคาแค่ครึ่งเดียวของที่ผมจอง เห็นวิวกับราคาแล้วรู้สึกประทับใจรีบเปลี่ยนที่พักที่จองไว้ทันที โดยไม่ได้ดูให้ดีว่าจริงๆ แล้วมันอยู่นอกเมืองซูริคไปไกลเหมือนกัน (นั่งรถไฟจากในเมืองมาที่ Hostel นี้จะต้องใช้เวลาอย่างน้อยครึ่งชั่วโมง) แต่ที่สำคัญก็คือมันอยู่นอกโซนที่จะใช้ Zurich Card (ซึ่งจะพูดถึงเรื่องนี้อีกทีในวันรุ่งขึ้น เพราะวันนี้ยังใช้ Swiss Pass ได้อยู่ ไม่ต้องคิดมาก!)
ลงรถไฟที่สถานี Richterswil ลากกระเป๋าไปไม่ไกล เดินเลียบน้ำไปแค่ 5 นาทีก็ถึง Hostel ที่พัก ตึกที่เห็นทางขวานั่นแหละอาคารที่พวกผมพัก จริงๆ แล้วมีอาคารสองหลัง อีกหลังหนึ่งอยู่ทางขวา (ถูกต้นไม้บัง)
วิวทิวทัศน์มองจากที่พัก
ฝากกระเป๋าเสร็จก็เดินย้อนกลับไปขึ้นรถไฟเพื่อจะเดินทางไปเที่ยวเมืองซังต์กัลเลน (St. Gallen)
อาคารบ้านเรือนใน St. Gallen
โฆษณากลางเมืองเข้าใจเล่นนะ สะดุดตาดี
เดินผ่านถนนที่กำลังจัดงาน มีเต้นท์ขายอาหารหลายชาติมาก
จุดสำคัญที่สุดในเมือง St. Gallen คือมหาวิหารที่มีหอระฆังคู่อันโดดเด่น ซึ่งเมื่อเข้าไปข้างในแล้วผมเชื่อว่าทุกคนจะต้องตื่นตาตื่นใจไปกับภาพที่เพดานโบส์ถที่สุดแสนหวานและอลังการยิ่งนัก ผมเห็นแล้วต้องรีบถอดเปลี่ยนเลนส์ตาปลา (fisheye) ที่หอบหิ้วมา (แต่ไม่ค่อยได้ใช้ ) ทันที เลนส์นี้ทำให้สามารถถ่ายมุมกว้างภายในโบส์ถได้
อีกที่หนึ่งในมหาวิหารที่ไม่ควรพลาดอย่างยิ่งก็คือ ห้องสมุดที่มีชื่อว่า Abbey Library (Stifsbibliotek) ซึ่งทางเข้าอยู่ด้านข้างวิหาร เป็นห้องสมุดที่งดงามอลังการ เสียดายที่เขาไม่อนุญาตให้ถ่ายภาพ ผมลองไปค้นรูปในเน็ตมาให้ชมกันพอให้ได้ฟิลลิ่ง
(Source - https://en.wikipedia.org/wiki/Abbey_library_of_Saint_Gall)
ภายในลานตรงกลางมหาวิหารเป็นสนามฟุตบอลให้เด็กๆ เล่นกันอย่างสนุกสนาน
ออกจาก St. Gallen แวะเที่ยว Rapperswil เมืองที่ได้ชื่อว่าเป็นเมืองแห่งดอกกุหลาบ แต่ตรงที่ลงไปเดินผมยังไม่ได้เห็นว่ามีดอกกุหลาบอะไร ที่ตัดสินใจลงรถไฟที่นี่ เพราะตอนขาไป St. Gellen ผ่านเมืองนี้แล้วเห็นว่ามีทางเดินเหยียดยาวในทะเลสาบดูสวยงามดี อยากจะมาเดินเล่น ตอนขากลับพระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้าก็เลยถือโอกาสแวะมาเดินเล่นกันชิลๆ
เดินไปในเมืองเพื่อหาทางกลับที่พัก
สำหรับข้อสรุปสั้นๆ เรื่องไปสวิสอย่าคิดมากประจำตอนที่หกนี้ก็คือ “อย่าคิดอะไรมากมายกับสิ่งที่ได้ตัดสินใจ (ทำ) ไปแล้ว (เช่น เรื่องจอง Hostel นอกเมือง)” ถ้าจะคิดก็ให้คิดว่า “ทุกปัญหาสามารถแก้ไขได้” จำไว้ว่า “ปัญหามีไว้ให้เราแก้ ไม่ได้มีไว้ให้เรากลุ้ม” จริงๆ แล้วไม่มีสิ่งที่เรียกว่า ‘ปัญหา’ หรอก เราแค่ไปนิยามมันว่าเป็นปัญหา . . ก็แค่นั้น