สวัสดีค่ะทุกคน เรามีเรื่องจะเล่าแล้วก็ขอคำปรึกษาเกี่ยวกับชีวิตคู่ ที่คาใจเรามานาน แต่ขอเล่า background ประกอบการตัดสินใจก่อนนะคะ
เราอายุ 28 สามีแก่กว่าปีนึง คบกัน 4 ปี แต่งงานกันมาปีกว่าๆ ค่ะ
ความสัมพันธ์ของเราออกแนวเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากๆ ชอบเดินทางไป ตจว. ตปท. ลุยไปด้วยกัน กินเบียร์ ฟังเพลงด้วยกัน ชีวิตแต่งงาน มองเผินๆ แล้วรายรื่นมาก มีความสุขดี ยิ่งอยู่ด้วยกันยิ่งเข้าใจ ทะเลาะกันน้อย เวลาเรามีปัญหา เค้าจะอยู่ข้างๆ ช่วยแก้ และดูแลตลอด เรื่องงุงิบนเตียงมีบ้าง ไม่ค่อยบ่อย แต่เราชินละ เห็นเค้าเหนื่อย ปวดหลัง เลยไม่อยากกวน
เราเป็นคนนิ่งๆ ไม่หวาน ไม่ค่อยตามใจใคร และโลกส่วนตัวสูง นอกจากแม่เราแล้ว เราก็ยอมเค้าอยู่คนเดียวนี่แหละ ดูแลเค้าเต็มที่อย่างที่ไม่เคยทำให้ใคร ชอบทำงาน แล้วก็ต้องเดินทางไป ตปท. บ่อย ส่วนเค้าก็ไม่หวานพอกัน ดุหน่อย จริงจังจนบางคนไม่ชอบ แล้วก็เป็นตัวของตัวเองสูงมากเหมือนเรา ทำงานคนละที่กับเรา งานเค้าจะอยู่ที่ออฟฟิศเป็นหลัก แล้วก็บ้างานเหมือนกัน
ตอนเป็นแฟนกัน เราเคยเห็นอีเมลเค้าในเว็บบอร์ดแนวไซด์ไลน์ค่ะ (วันที่โพสต์ยังไม่ได้คบกัน) ตอนนั้นยังเด็ก รับไม่ค่อยได้ เลยถามเค้าตรงๆ เค้าบอกว่าโดนแฮ็ค อ่ะ..เราก็เชื่อค่ะ จบ ไม่ถามต่อ พยายามเข้าใจว่าถ้าเป็นจริง มันก็เรื่องของผู้ชายเค้า ใจกว้างๆ หน่อย เรื่องแค่นี้เอง
หลังจากแต่งงาน เราสังเกตว่าเค้าจะเอาโทรศัพท์มือถือติดตัวตลอดเวลา เลยคิดเล่นๆ ว่านางแอบคุยกะใครป่ะวะ พอสบโอกาสเลยแอบอ่านไลน์หน่อย ปรากฏว่า ช็อคจ้าาาา...นางคุยกับสาวลาวคนนึง กุ๊กกิ๊ก งุงิ มีใส่ชุดว่ายน้ำโชว์ด้วยนะแหม (เมียใส่บิกินี แกยังไม่เห็นตื่นเต้นขนาดนี้)
เราก็เลยถามสามีไปว่าคุยกับคนอื่นเหรอ (ร้องไห้ด้วย สั่นเป็นเจ้าเข้า) นางก็โวยวายตามสเต็ปเรื่องแอบดูโทรศัพท์ (เห้ย...แล้วตูโดนนอกใจ คือไรวะ?) งอนกันไปซักพัก นางก็มาขอโทษ กอดๆ สุดท้ายก็ดีกัน โดยที่เราก็ไม่คิดจะถามต่อ พยายามเข้าใจอีกแหละ คิดว่าคุยเฉยๆ ไม่มีการสานต่อ (เพราะอยู่ไกล) หายโกรธแล้วก็จบวะ แต่เราก็ไม่คิดจะไปเหยียบลาวอีกเลย แม้จะอยากไปว่ายน้ำที่วังเวียงมากก็ตาม
ดอกที่สอง...เราแอบอ่านแชทในเฟซเค้าอีก เนื่องจากมีหญิงนางหนึ่งชอบมากดไลค์โพสต์แฟนเราบ่อยๆ แถมบ้านอยู่ใกล้ร้านขนมที่เราชอบไปกะแฟนอีก เลยส่องแชทซะ อันนี้โป๊ะเชะที่สุดค่าาาา เพราะช่วงที่จัดงานแต่งงาน ทางบ้านแฟนเราติดปัญหานิดหน่อย จนต้องเลื่อนงานแต่ง บ้านเราไม่ยอมเพราะเตรียมงานไปเยอะแล้ว คุณแฟนเราเลยมาระบายปรึกษาแม่สาวแบ๊วนี่ อีเจ้นี่ก็เต็มที่ค่ะ วิจารณ์บ้านเรา และบอกว่าถ้าเป็นนาง นางจะทำแบบนี้ๆๆๆๆ โดยที่นางไม่เคยรู้จักเร่เลย แฟนเราก็ดีค่ะ บอกนางไปว่าอยากแต่งงานกะนางแทนเรา สุดท้ายคืนนั้นก็ทะเลาะกันตามระเบียบ งอนกันอยู่ซักพัก แฟนเราก็มาง้อ แล้วก็ดีกันโดยที่เราไม่ได้ถามไรต่ออีก แล้วไปแล้วสำหรับเรื่องงานแต่ง เพราะมันก็จบลงด้วยดี พอใจกันทั้งสองฝ่าย แต่สำหรับอีเจ้แม่พระนั่น ก็โดนเราจิกกัดไปเล็กน้อย จนตอนนี้นางมีแฟนเป็นของตัวเองไปละ และหลังจากนั้นแฟนเราก็เข้ารหัสโทรศัพท์ไว้เลย เราก็ปิดหูปิดตาไปซักพัก ดูเหมือนโง่แต่สบายใจ
ต่อกันที่ดอกที่สาม เดือนที่แล้วเองค่า นางเลิกใช้พาสเวิร์ด ไฟแว้บๆ ที่เตือนว่ามีข้อความเข้า ช่างเย้ายวนใจให้เราเผือกชีวิตนางอีกละ คราวนี้พบว่าสาวลาวนั่นยังอยู่ ตามด้วยสาวหน้าตาพริตตี้ที่เราไม่รู้จักอีกเพียบ! เราเลือกดูแม่นางคนล่าสุด คราวนี้แทบโดดหน้าต่างบ้านตาย เพราะคุณสามีเราเพิ่งนัดโอ้บะๆ กับนางเมื่ออาทิตย์ก่อน โดยบอกเราว่าทำงาน เลิกดึกเราก็นั่งทำงานรอที่ออฟฟิศคนเดียว รอเค้ามารับ วันรุ่งขึ้นเรากะเค้าก็ไปเที่ยว ตจว. กันหนุกหนาน! (แป๊บนะคะ ก้มหน้ามาก เขาทิ่มจอโทรศัพท์)
งานนี้มีแหลกค่ะ เรานอยด์ไปพักนึงเลย จนกระทั่งเราไปทำงานที่ต่างประเทศ เล่นเฟซไม่ได้ ไลน์ได้เฉพาะในโรงแรม ซึ่งเวลาที่ไทยก็ดึกมาก เรารายงานตัวกับแฟน บอกว่าทำงานสนุกมาก จากที่เคยแพลนไว้ว่าจะทำแค่ปีเดียว แล้วค่อยมีลูก อาจจะยืดไปอีกหน่อย
แฟนเราโกรธค่ะ เพราะเป็นห่วงเรื่องอายุที่มากขึ้น แต่เราแบบ...แล้วถ้ากรูท้องอยู่ แล้วเมิงก็หนีไปนอนกะคนอื่น กรูต้องทำไงวะฮะ? นางก็โกรธ เราก็หนีไปทำงานละ ออนไม่ได้ยาวๆ
ตกกลางคืนนางก็ไลน์มาขอโทษ พร้อมสัญญาว่าจะปรับปรุงตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่นางไม่เคยพูดมาก่อนตั้งแต่รู้จักกันมา พร้อมเล่าให้ฟังว่าชีวิตบัดซบแค่ไหนตอนที่เราไม่อยู่ แล้วเราก็ใจอ่อน ยกโทษให้จนได้
หลังจากเรากลับมาจาก ตปท. นางทำตัวดีขึ้นมากนะคะ มารับเราหลังเลิกงานตรงเวลา เราไป ตปท. อีกรอบก็ยังอุตส่าห์วีดิโอคอลมาคุยด้วยทุกวัน แต่ยังไม่วายพกโทรศัพท์ติดตัวตลอดเวลา พร้อมพาสเวิร์ดเครื่องและพาสเวิร์ดไลน์!!
และยิ่งช่วงนี้นางกำลังคิดหางานใหม่ ค่อนข้างเครียดมาก อยากรีบออกแล้วไปขับ Uber ระหว่างหางานใหม่ไปด้วย ซึ่งเราก็โอเคกับ Uber นะ แต่ห่วงเรื่องความปลอดภัยบนถนน และเรื่องผู้หญิงนี่แหละ เพราะมันเท่ากับปล่อยเสือเข้าป่าชัดๆ เค้าเห็นว่าเรากังวล เลยตัดสินใจไม่ไปขับ รู้สึกผิดเลยค่ะ ดูตัวเองงี่เง่ามาก
ร่ายมาซะยาว เราขอปรึกษาดังนี้ค่ะ
1. เราไม่คิดจะตามจิกเค้าอยู่แล้ว เราควรจัดการกับตัวเองยังไง ให้กลับมาไว้ใจเค้าเหมือนเดิม หรือเลิกกังวลกับเรื่องพวกนี้ เพื่อชีวิตที่สงบ ไม่ต้องระแวงกัน
2. ทุกคนคิดว่าความเชื่อใจมันสร้างใหม่ได้มั้ยคะ
ขอบคุณค่ะ
ปล. เรื่องนี้เราเล่าให้เพื่อนที่สนิทกันฟังแค่ไม่กี่คน ส่วนทางแม่ๆ ยังไม่ทราบเรื่องนี้ค่ะ ที่มาตั้งกระทู้เพราะอยากได้ความเห็นที่หลากหลายจากคนที่อยู่นอกวงบ้าง เผื่อเราจะคิดไรได้มากขึ้นค่ะ
คุณคิดว่าความเชื่อใจที่ถูกทำลายไปแล้ว สร้างขึ้นใหม่ได้หรือเปล่า? (ยาวหน่อยแต่ม้วนเดียวจบ)
เราอายุ 28 สามีแก่กว่าปีนึง คบกัน 4 ปี แต่งงานกันมาปีกว่าๆ ค่ะ
ความสัมพันธ์ของเราออกแนวเป็นเพื่อนที่สนิทกันมากๆ ชอบเดินทางไป ตจว. ตปท. ลุยไปด้วยกัน กินเบียร์ ฟังเพลงด้วยกัน ชีวิตแต่งงาน มองเผินๆ แล้วรายรื่นมาก มีความสุขดี ยิ่งอยู่ด้วยกันยิ่งเข้าใจ ทะเลาะกันน้อย เวลาเรามีปัญหา เค้าจะอยู่ข้างๆ ช่วยแก้ และดูแลตลอด เรื่องงุงิบนเตียงมีบ้าง ไม่ค่อยบ่อย แต่เราชินละ เห็นเค้าเหนื่อย ปวดหลัง เลยไม่อยากกวน
เราเป็นคนนิ่งๆ ไม่หวาน ไม่ค่อยตามใจใคร และโลกส่วนตัวสูง นอกจากแม่เราแล้ว เราก็ยอมเค้าอยู่คนเดียวนี่แหละ ดูแลเค้าเต็มที่อย่างที่ไม่เคยทำให้ใคร ชอบทำงาน แล้วก็ต้องเดินทางไป ตปท. บ่อย ส่วนเค้าก็ไม่หวานพอกัน ดุหน่อย จริงจังจนบางคนไม่ชอบ แล้วก็เป็นตัวของตัวเองสูงมากเหมือนเรา ทำงานคนละที่กับเรา งานเค้าจะอยู่ที่ออฟฟิศเป็นหลัก แล้วก็บ้างานเหมือนกัน
ตอนเป็นแฟนกัน เราเคยเห็นอีเมลเค้าในเว็บบอร์ดแนวไซด์ไลน์ค่ะ (วันที่โพสต์ยังไม่ได้คบกัน) ตอนนั้นยังเด็ก รับไม่ค่อยได้ เลยถามเค้าตรงๆ เค้าบอกว่าโดนแฮ็ค อ่ะ..เราก็เชื่อค่ะ จบ ไม่ถามต่อ พยายามเข้าใจว่าถ้าเป็นจริง มันก็เรื่องของผู้ชายเค้า ใจกว้างๆ หน่อย เรื่องแค่นี้เอง
หลังจากแต่งงาน เราสังเกตว่าเค้าจะเอาโทรศัพท์มือถือติดตัวตลอดเวลา เลยคิดเล่นๆ ว่านางแอบคุยกะใครป่ะวะ พอสบโอกาสเลยแอบอ่านไลน์หน่อย ปรากฏว่า ช็อคจ้าาาา...นางคุยกับสาวลาวคนนึง กุ๊กกิ๊ก งุงิ มีใส่ชุดว่ายน้ำโชว์ด้วยนะแหม (เมียใส่บิกินี แกยังไม่เห็นตื่นเต้นขนาดนี้)
เราก็เลยถามสามีไปว่าคุยกับคนอื่นเหรอ (ร้องไห้ด้วย สั่นเป็นเจ้าเข้า) นางก็โวยวายตามสเต็ปเรื่องแอบดูโทรศัพท์ (เห้ย...แล้วตูโดนนอกใจ คือไรวะ?) งอนกันไปซักพัก นางก็มาขอโทษ กอดๆ สุดท้ายก็ดีกัน โดยที่เราก็ไม่คิดจะถามต่อ พยายามเข้าใจอีกแหละ คิดว่าคุยเฉยๆ ไม่มีการสานต่อ (เพราะอยู่ไกล) หายโกรธแล้วก็จบวะ แต่เราก็ไม่คิดจะไปเหยียบลาวอีกเลย แม้จะอยากไปว่ายน้ำที่วังเวียงมากก็ตาม
ดอกที่สอง...เราแอบอ่านแชทในเฟซเค้าอีก เนื่องจากมีหญิงนางหนึ่งชอบมากดไลค์โพสต์แฟนเราบ่อยๆ แถมบ้านอยู่ใกล้ร้านขนมที่เราชอบไปกะแฟนอีก เลยส่องแชทซะ อันนี้โป๊ะเชะที่สุดค่าาาา เพราะช่วงที่จัดงานแต่งงาน ทางบ้านแฟนเราติดปัญหานิดหน่อย จนต้องเลื่อนงานแต่ง บ้านเราไม่ยอมเพราะเตรียมงานไปเยอะแล้ว คุณแฟนเราเลยมาระบายปรึกษาแม่สาวแบ๊วนี่ อีเจ้นี่ก็เต็มที่ค่ะ วิจารณ์บ้านเรา และบอกว่าถ้าเป็นนาง นางจะทำแบบนี้ๆๆๆๆ โดยที่นางไม่เคยรู้จักเร่เลย แฟนเราก็ดีค่ะ บอกนางไปว่าอยากแต่งงานกะนางแทนเรา สุดท้ายคืนนั้นก็ทะเลาะกันตามระเบียบ งอนกันอยู่ซักพัก แฟนเราก็มาง้อ แล้วก็ดีกันโดยที่เราไม่ได้ถามไรต่ออีก แล้วไปแล้วสำหรับเรื่องงานแต่ง เพราะมันก็จบลงด้วยดี พอใจกันทั้งสองฝ่าย แต่สำหรับอีเจ้แม่พระนั่น ก็โดนเราจิกกัดไปเล็กน้อย จนตอนนี้นางมีแฟนเป็นของตัวเองไปละ และหลังจากนั้นแฟนเราก็เข้ารหัสโทรศัพท์ไว้เลย เราก็ปิดหูปิดตาไปซักพัก ดูเหมือนโง่แต่สบายใจ
ต่อกันที่ดอกที่สาม เดือนที่แล้วเองค่า นางเลิกใช้พาสเวิร์ด ไฟแว้บๆ ที่เตือนว่ามีข้อความเข้า ช่างเย้ายวนใจให้เราเผือกชีวิตนางอีกละ คราวนี้พบว่าสาวลาวนั่นยังอยู่ ตามด้วยสาวหน้าตาพริตตี้ที่เราไม่รู้จักอีกเพียบ! เราเลือกดูแม่นางคนล่าสุด คราวนี้แทบโดดหน้าต่างบ้านตาย เพราะคุณสามีเราเพิ่งนัดโอ้บะๆ กับนางเมื่ออาทิตย์ก่อน โดยบอกเราว่าทำงาน เลิกดึกเราก็นั่งทำงานรอที่ออฟฟิศคนเดียว รอเค้ามารับ วันรุ่งขึ้นเรากะเค้าก็ไปเที่ยว ตจว. กันหนุกหนาน! (แป๊บนะคะ ก้มหน้ามาก เขาทิ่มจอโทรศัพท์)
งานนี้มีแหลกค่ะ เรานอยด์ไปพักนึงเลย จนกระทั่งเราไปทำงานที่ต่างประเทศ เล่นเฟซไม่ได้ ไลน์ได้เฉพาะในโรงแรม ซึ่งเวลาที่ไทยก็ดึกมาก เรารายงานตัวกับแฟน บอกว่าทำงานสนุกมาก จากที่เคยแพลนไว้ว่าจะทำแค่ปีเดียว แล้วค่อยมีลูก อาจจะยืดไปอีกหน่อย
แฟนเราโกรธค่ะ เพราะเป็นห่วงเรื่องอายุที่มากขึ้น แต่เราแบบ...แล้วถ้ากรูท้องอยู่ แล้วเมิงก็หนีไปนอนกะคนอื่น กรูต้องทำไงวะฮะ? นางก็โกรธ เราก็หนีไปทำงานละ ออนไม่ได้ยาวๆ
ตกกลางคืนนางก็ไลน์มาขอโทษ พร้อมสัญญาว่าจะปรับปรุงตัว ซึ่งเป็นสิ่งที่นางไม่เคยพูดมาก่อนตั้งแต่รู้จักกันมา พร้อมเล่าให้ฟังว่าชีวิตบัดซบแค่ไหนตอนที่เราไม่อยู่ แล้วเราก็ใจอ่อน ยกโทษให้จนได้
หลังจากเรากลับมาจาก ตปท. นางทำตัวดีขึ้นมากนะคะ มารับเราหลังเลิกงานตรงเวลา เราไป ตปท. อีกรอบก็ยังอุตส่าห์วีดิโอคอลมาคุยด้วยทุกวัน แต่ยังไม่วายพกโทรศัพท์ติดตัวตลอดเวลา พร้อมพาสเวิร์ดเครื่องและพาสเวิร์ดไลน์!!
และยิ่งช่วงนี้นางกำลังคิดหางานใหม่ ค่อนข้างเครียดมาก อยากรีบออกแล้วไปขับ Uber ระหว่างหางานใหม่ไปด้วย ซึ่งเราก็โอเคกับ Uber นะ แต่ห่วงเรื่องความปลอดภัยบนถนน และเรื่องผู้หญิงนี่แหละ เพราะมันเท่ากับปล่อยเสือเข้าป่าชัดๆ เค้าเห็นว่าเรากังวล เลยตัดสินใจไม่ไปขับ รู้สึกผิดเลยค่ะ ดูตัวเองงี่เง่ามาก
ร่ายมาซะยาว เราขอปรึกษาดังนี้ค่ะ
1. เราไม่คิดจะตามจิกเค้าอยู่แล้ว เราควรจัดการกับตัวเองยังไง ให้กลับมาไว้ใจเค้าเหมือนเดิม หรือเลิกกังวลกับเรื่องพวกนี้ เพื่อชีวิตที่สงบ ไม่ต้องระแวงกัน
2. ทุกคนคิดว่าความเชื่อใจมันสร้างใหม่ได้มั้ยคะ
ขอบคุณค่ะ
ปล. เรื่องนี้เราเล่าให้เพื่อนที่สนิทกันฟังแค่ไม่กี่คน ส่วนทางแม่ๆ ยังไม่ทราบเรื่องนี้ค่ะ ที่มาตั้งกระทู้เพราะอยากได้ความเห็นที่หลากหลายจากคนที่อยู่นอกวงบ้าง เผื่อเราจะคิดไรได้มากขึ้นค่ะ