50 สตางค์ บางคนอาจคิดว่าเป็นแค่เรื่องเล็กๆ เเค่เศษเงินก้นกระเป๋าหล่นหายก็ไม่สำคัญอะไร เราก็เคยคิดอย่างนั้นค่ะ แต่คุณรู้มั้ยว่าไอ้เศษเหรียญ 50 สตางค์เนี่ยมันมีค่ามากที่สุดตอนไหน? คำตอบคือ ตอนเดินเข้าห้างไง สินค้าทำไมต้องมีเศษสตางค์? ทำไมไม่คิดเป็นบาท? เพราะนั้นก็เป็นส่วนหนึ่งที่สร้างกำไรให้กับพ่อค้าแม่ค้าได้
เราสงสัยว่าทำไมเดี่ยวนี้ไม่ว่าจะไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อที่ไหนก็เถอะ (โดยเฉพาะ 0711) เวลาคิดเงินออกมามีเศษสตางค์ เราเเปลกใจมากว่าทำไมพนักงานบางคนถึงไม่ทอนคะ? จริงอยู่ว่าคนที่ทอนอ่ะมีไม่ใช่ไม่มี แต่จากประสบการณ์ตรงของเราคือเเบบ มองหน้าก็แล้ว ยืนรอก็แล้ว บางครั้งก็ถึงขั้นถาม แต่คือก็ทำเป็นอินโนเซ้น ไม่รู้เรื่อง เช่นซื้อของ 109.50 จ่าย 120 แต่คุณทอนมา 10 บาท แล้วอีก 50 สตางค์ล่ะคะ ที่คุณไม่ทอนคืออะไร เราเข้าใจนะว่าบางทีเหรียญหมดอ่ะ แต่มันคือความผิดใคร ร้านของคุณรึปล่าว? คุณต้องรับผิดชอบโดยการทอนเต็มหนึ่งบาท หรือไม่ก็แจ้งให้ลูกค้าทราบรึปล่าวคะ? คุณลองนึกดูนะว่า สมมติเราไปซื้อสินค้า ชิ้นเดียว 109.50 แต่ตังเรามีแค่ 109 บาท คุณจะสามารถซื้อสินค้าได้หรอคะ ถ้าเงินคุณไม่พออ่ะ ? (ถ้าไม่มีพนักงานใจดี ลดราคาให้เอง) แล้วไม่ใช่ว่าครั้งเดียว มันคือบ่อยมาก เกือบจะทุกครั้งเลยด้วยซ้ำในสาขาเดิมๆ( บางสาขามีการทอนบ้าง) เราจึงอยากรู้ว่า เงิน 50 สตาค์ที่พวกคุณไม่ทอนนี่ตือ เป็นนโยบายของแต่ละร้าน หรือเป็นการโกงเงินลูกค้าในแต่ละสาขา แต่ละตัวบุคคลคะ? ปกติแล้วเราเป็นคนโลกสวยนะ คือแบบโดนบ่อย ก็ช่างมันๆๆๆ จนมันเริ่มจะไม่ไหวละ เริ่มรู้สึกได้ว่าไม่ใช่เหรียญหมดละ นี่คือตั้งใจไม่ทอนละ บางคนอาจคิดว่าเรื่องแค่นี้จะเอามาตั้งกระทู้ทำไม ? ก็อาจจะใช่นะคะ แต่คุณลองคิดดูนะว่า สมมติ สาขาที่ 1 ไม่ทอน 50 สตางค์ 100 คนต่อวัน คือคุณได้เงินลูกค้าไปแล้ว 50 บาท/วัน แล้วถ้าทั้งประเทศสมมติโดน 1ล้านคนต่อวัน คือคุณได้ไปแล้ว 500,000 บาท นี่แค่ต่อวัน ไม่อยากจะคิดถึงเดือนถึงปีว่าจะได้สักเท่าไร
เราเข้าใจคนไทย ที่อะไรๆก็ช่างมันไม่เป็นไร แต่เราว่าพวกเราถูกโกงทางอ้อมกันมากเกินไปแล้วโดยที่เราปล่อยปะละเลยอ่ะ มีสติกันนิดนึงนะคะ อย่าเห็นว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย คุณก็เห็นแล้วว่า รวมๆกันมันไม่ได้น้อยเลย เราไม่ได้หวังจะได้เงินคืนหรือไร แค่อยากให้กระโกงแบบเนี้ยลดลง เลิกทำสักทีไม่ว่าจะเป้นทางร้านเอง รึทางพนักงานก็อย่าทำเลย เสียความรู้สึกอ่ะ เรารู้ว่าพวกคุณบางคนก็โดนเเต่ก็คิดว่าช่างมันเถอะ อยากให้พวกคุณคิดนิดนึงว่า เงิน 50 สตางค์ของคุณมันก็มีค่านะอย่าให้มันเสียเปล่าไปกับคนเหล่านี้เลย สมทบทุนช่วยเหลือเด็กยากไร้ซะยังจะดีกว่าค่ะ
50 สตางค์ของพวกเรา เข้ากระเป๋าใครกันแน่ ?
เราสงสัยว่าทำไมเดี่ยวนี้ไม่ว่าจะไปซื้อของในร้านสะดวกซื้อที่ไหนก็เถอะ (โดยเฉพาะ 0711) เวลาคิดเงินออกมามีเศษสตางค์ เราเเปลกใจมากว่าทำไมพนักงานบางคนถึงไม่ทอนคะ? จริงอยู่ว่าคนที่ทอนอ่ะมีไม่ใช่ไม่มี แต่จากประสบการณ์ตรงของเราคือเเบบ มองหน้าก็แล้ว ยืนรอก็แล้ว บางครั้งก็ถึงขั้นถาม แต่คือก็ทำเป็นอินโนเซ้น ไม่รู้เรื่อง เช่นซื้อของ 109.50 จ่าย 120 แต่คุณทอนมา 10 บาท แล้วอีก 50 สตางค์ล่ะคะ ที่คุณไม่ทอนคืออะไร เราเข้าใจนะว่าบางทีเหรียญหมดอ่ะ แต่มันคือความผิดใคร ร้านของคุณรึปล่าว? คุณต้องรับผิดชอบโดยการทอนเต็มหนึ่งบาท หรือไม่ก็แจ้งให้ลูกค้าทราบรึปล่าวคะ? คุณลองนึกดูนะว่า สมมติเราไปซื้อสินค้า ชิ้นเดียว 109.50 แต่ตังเรามีแค่ 109 บาท คุณจะสามารถซื้อสินค้าได้หรอคะ ถ้าเงินคุณไม่พออ่ะ ? (ถ้าไม่มีพนักงานใจดี ลดราคาให้เอง) แล้วไม่ใช่ว่าครั้งเดียว มันคือบ่อยมาก เกือบจะทุกครั้งเลยด้วยซ้ำในสาขาเดิมๆ( บางสาขามีการทอนบ้าง) เราจึงอยากรู้ว่า เงิน 50 สตาค์ที่พวกคุณไม่ทอนนี่ตือ เป็นนโยบายของแต่ละร้าน หรือเป็นการโกงเงินลูกค้าในแต่ละสาขา แต่ละตัวบุคคลคะ? ปกติแล้วเราเป็นคนโลกสวยนะ คือแบบโดนบ่อย ก็ช่างมันๆๆๆ จนมันเริ่มจะไม่ไหวละ เริ่มรู้สึกได้ว่าไม่ใช่เหรียญหมดละ นี่คือตั้งใจไม่ทอนละ บางคนอาจคิดว่าเรื่องแค่นี้จะเอามาตั้งกระทู้ทำไม ? ก็อาจจะใช่นะคะ แต่คุณลองคิดดูนะว่า สมมติ สาขาที่ 1 ไม่ทอน 50 สตางค์ 100 คนต่อวัน คือคุณได้เงินลูกค้าไปแล้ว 50 บาท/วัน แล้วถ้าทั้งประเทศสมมติโดน 1ล้านคนต่อวัน คือคุณได้ไปแล้ว 500,000 บาท นี่แค่ต่อวัน ไม่อยากจะคิดถึงเดือนถึงปีว่าจะได้สักเท่าไร
เราเข้าใจคนไทย ที่อะไรๆก็ช่างมันไม่เป็นไร แต่เราว่าพวกเราถูกโกงทางอ้อมกันมากเกินไปแล้วโดยที่เราปล่อยปะละเลยอ่ะ มีสติกันนิดนึงนะคะ อย่าเห็นว่ามันเป็นเรื่องเล็กน้อย คุณก็เห็นแล้วว่า รวมๆกันมันไม่ได้น้อยเลย เราไม่ได้หวังจะได้เงินคืนหรือไร แค่อยากให้กระโกงแบบเนี้ยลดลง เลิกทำสักทีไม่ว่าจะเป้นทางร้านเอง รึทางพนักงานก็อย่าทำเลย เสียความรู้สึกอ่ะ เรารู้ว่าพวกคุณบางคนก็โดนเเต่ก็คิดว่าช่างมันเถอะ อยากให้พวกคุณคิดนิดนึงว่า เงิน 50 สตางค์ของคุณมันก็มีค่านะอย่าให้มันเสียเปล่าไปกับคนเหล่านี้เลย สมทบทุนช่วยเหลือเด็กยากไร้ซะยังจะดีกว่าค่ะ