สวัสดีเพื่อนๆพันทิปทุกคนค่ะ
อย่างที่เราจั่วหัวไว้ต้นกระทู้ เราจะเล่าถึงความเจ็บปวดของเราที่ถูก(แมว)นอกใจ เริ่มเลยนะคะ
เราเลี้ยงแม่แมวตัวหนึ่งซึ่งเป็นแมวจร เธอเดินมาขอข้าวบ้านเราทุกวัน สุดท้ายก็เลยมาเป็นเจ้านายเราชื่อว่าแม่พริ้ง แม่พริ้งนั้นก็เริงเมืองสมชื่อพอสมควร แต่เราไม่ทำหมันนะคะ เพราะบ้านญาติๆทุกคนชอบแมว พอแม่พริ้งคลอดลูกพอโตสักหน่อย ก็ส่งเด็กๆย้ายไปประจำการตามบ้านหลังต่างๆ มีความสุขดี จนมาชุดล่าสุดเป็นหนุ่มหล่อจำนวนสาม วิเชียรมาศหนึ่ง ดำตาทองหนึ่ง ขาวจุดส้มตาเหลืองๆส้มๆอีกหนึ่ง เราไม่พูดถึงสองตัวแรกนะคะ (พวกนางไม่อนุญาต) เลยจะเล่าถึงผู้ที่ทำให้เราเจ็บปวด คือชายหนุ่มผิวขาว ดวงตาสีอำพัน ตัวเป็นจุดส้มๆตามแม่พริ้ง เขาเป็นพี่คนโตเพราะออกมาก่อน (เราทำคลอดแมวเองค่ะ) ชื่อว่า โจโจ้ หรือ พี่โจ้ นั่นเอง
แรกเริ่มที่เราอยู่กับพี่โจ้มีความสุขมาก เพราะพี่โจ้เป็นแมวตาสองชั้นที่ค่อนข้างจะเป็นผู้ใหญ่กว่าน้องๆอีกสอง (รองลงมาคือพี่ต๋า เธอเป็นแมวตัวเมียประเภทสอง และดื้อสุดคือพี่ผ่อง หนุ่มผิวเข้มผู้ชอบกายกรรมตามผ้าม่าน) พี่โจ้ค่อนข้างรู้ความค่ะ กินอาหารเป็นเวลา ขับถ่ายตรงกระบะ ว่างๆก็เลียขนให้น้อง ถุงพลาสติกปลิวออกนอกประตูห้องพี่โจ้ก็จะตามคาบมาเก็บให้ จิ้งจก แมลงสาบ หนูทั้งแม่ทั้งลูก พี่โจ้คาบมาอวดตลอด เรารักพี่โจ้มาก ถ้ามีโอกาสจะหอมพี่โจ้บ่อยๆ (ยกเว้นตอนที่พี่โจ้เพิ่งกัดแมลงสาบหรือขย้ำหนูมา เราจะห่างกันสักพัก อาบน้ำก่อนแล้วค่อยจู๋จี๋กันตามปกติ)
เราเลี้ยงแบบระบบเปิดค่ะ หนุ่มๆก็จะสามารถเดินนวยนาดไปไหนมาไหนได้ จนมีอยู่วันหนึ่งเราต้องไปต่างจังหวัด จึงเตรียมน้ำกับอาหารเผื่อไว้ให้หนุ่มๆและแม่พริ้ง ซึ่งปกติเราจะให้กินของวิสกัส หนุ่มๆกินกันแต่เล็กจนโต บางวันก็มีอกไก่ฉีกบ้าง ปลาทูแกะบ้าง ซึ่งตอนนั้นเตรยมไว้ให้คืออาหารเม็ด ก็ไปธุระสองคืน กลับมาตามปกติ ดูไม่มีปัญหาอะไร
แต่หลังจากนั้น...พี่โจ้จะเริ่มกลับบ้านดึก จากที่กลับมาทุกห้าโมงเย็น (เรากลับบ้านสี่โมงเย็นค่ะ พวกหนุ่มๆจะเข้ามาหลังเราสักพัก) ก็เริ่มกลับสองทุ่ม ห้าทุ่ม จนหายไปทั้งคืน หายไปสองสามคืน เราก็เริ่มใจไม่ดี คิดในแง่ดีว่าพี่โจ้อาจจะไปชอบแมวสาวที่ไหนหรือเปล่า เพราะนัดหมอกำลังทำขันทีให้หนุ่มๆค่ะ เราอยู่กับพี่ต๋าพี่ผ่อง รอพี่โจ้กลับบ้านทุกวัน บางทีรอไม่ไหวก็ต้องทำข้าวเย็นให้ทั้งสองกินก่อน บางวันพี่โจ้กลับมาเราเอาอาหารให้ พี่โจ้ก็ไม่กินแล้ว
พี่โจ้เริ่มหายไปหลายวัน เราเลยเริ่มเป็นห่วง ก็เลยออกตามหาเขา ให้พี่ผ่องกับพี่ต๋าเฝ้าบ้าน จนไปเจอพี่โจ้นอนอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง น่าจะเพิ่งมาอยู่ใหม่ ถัดไปสามสี่หลัง แต่ก็คิดว่าพี่โจ้แค่แวะไปนอนเล่นเท่านั้น คงไม่มีอะไร เราเลยกลับมาที่บ้าน เก็บกวาดบ้านไปตามปกติ จนเราไปเจอคลัง(ขยะ)สมบัติของพี่โจ้ เราเจอซองรอยัลคานิน ซึ่งเรามั่นใจเลยว่าเราไม่เคยซื้อให้ ตอนนั้นรู้สึกว่ายี่ห้อนี้มีดีตรงไหนทำไมพี่โจ้ถึงชอบจนคาบกลับมา
(เราไม่ใช่ม้านะคะ) พอพี่โจ้กลับมาบ้านตอนห้าทุ่ม เราก็ถามพี่โจ้ว่าซองอาหารนี้พี่โจ้ไปเอามาจากไหน พี่โจ้ไม่ตอบ ทำหน้ารำคาญใส่เราก่อนจะสะบัดตูดหนีไปนอนซุกพุงพี่ต๋า ตอนนั้นเราเจ็บจริงๆค่ะ เล่าให้พี่ผ่องฟัง พี่ผ่องก็นอนหงายท้องให้ดู เราเลยต้องเก็บความเจ็บปวดเอาไว้
พี่โจ้เริ่มหายไปอีกครั้ง คราวนี้เราไปที่บ้านหลังเดิมค่ะ เจอพี่โจ้นั่งมองกิ่งก่าที่เกาะรั้วบ้านเขาอยู่ เราไปหาพี่โจ้ เล่นกับพี่โจ้ บอกให้พี่โจ้กลับบ้าน เดี๋ยวเราจะเปลี่ยนเป็นยี่ห้อที่พี่โจ้ชอบ เราเตรียมจะอุ้มพี่โจ้กลับ แต่เจ้าของบ้านนั้นก็มาซะก่อน เขาเรียกพี่โจ้ว่ามิกกี้ ในมือเขามีถุงอาหารแมวรอยัลคานิน เท่านั้นแหล่ะหัวใจเราสลายเลย แมวนอกใจไปมีบ้านน้อย สองคืนจากใจแมวเป็นอื่น ไปมีทาสใหม่คลายเหงาไปแล้ว เราพูดอะไรไม่ออก ได้แต่มองเขาอุ้มพี่โจ้ (ชื่อในวงการคือมิกกี้) กลับเข้าบ้านเขาไป เราจุกมาก เจ็บมากๆ ซุกพุงพี่ต๋าร้องไห้จนโดนตะปบหน้าผากมาสองที ไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหน จะตัดใจหรือจะทำยังไง คิดไม่ออกเลยค่ะ หน่วงหัวใจจริงๆ
จนวันนี้ตอนเที่ยงๆ พี่โจ้กลับมาที่บ้านอีกครั้ง พี่โจ้นอนเงียบๆไม่พูดอะไร พอจะถ่ายรูปพี่โจ้ก็ตบมือถือ ใช้กำลังอยู่นานจนกว่าจแชะมาได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาชอบถ่ายรูปมากมาก เขาเหมือนคนหมดใจแต่ตัดไม่ขาด เราก็ตัดเขาไม่ขาด ได้แต่เจ็บไปรักไปแบบนี้ เราไม่รู้จะบอกบ้านนั้นยังไงว่าพี่โจ้เป็น(แมว)ของเรามาก่อน ลึกๆในใจของเรายังรักพี่โจ้เสมอค่ะ
แนบรูปพี่โจ้นะคะ หกเดือนแล้ว.. พี่ลืมครึ่งปีของเราเพียงเพราะยี่ห้ออาหารยี่ห้อเดียวสินะ...
(ย้ำ เราไม่ใช่ม้านะคะ)
กล้องไม่ชัดเท่าไหร่นะคะ
ขอบคุณทุกคนที่รับฟังค่ะ
แชร์ประสบการณ์ถูก(แมว)นอกใจ
อย่างที่เราจั่วหัวไว้ต้นกระทู้ เราจะเล่าถึงความเจ็บปวดของเราที่ถูก(แมว)นอกใจ เริ่มเลยนะคะ
เราเลี้ยงแม่แมวตัวหนึ่งซึ่งเป็นแมวจร เธอเดินมาขอข้าวบ้านเราทุกวัน สุดท้ายก็เลยมาเป็นเจ้านายเราชื่อว่าแม่พริ้ง แม่พริ้งนั้นก็เริงเมืองสมชื่อพอสมควร แต่เราไม่ทำหมันนะคะ เพราะบ้านญาติๆทุกคนชอบแมว พอแม่พริ้งคลอดลูกพอโตสักหน่อย ก็ส่งเด็กๆย้ายไปประจำการตามบ้านหลังต่างๆ มีความสุขดี จนมาชุดล่าสุดเป็นหนุ่มหล่อจำนวนสาม วิเชียรมาศหนึ่ง ดำตาทองหนึ่ง ขาวจุดส้มตาเหลืองๆส้มๆอีกหนึ่ง เราไม่พูดถึงสองตัวแรกนะคะ (พวกนางไม่อนุญาต) เลยจะเล่าถึงผู้ที่ทำให้เราเจ็บปวด คือชายหนุ่มผิวขาว ดวงตาสีอำพัน ตัวเป็นจุดส้มๆตามแม่พริ้ง เขาเป็นพี่คนโตเพราะออกมาก่อน (เราทำคลอดแมวเองค่ะ) ชื่อว่า โจโจ้ หรือ พี่โจ้ นั่นเอง
แรกเริ่มที่เราอยู่กับพี่โจ้มีความสุขมาก เพราะพี่โจ้เป็นแมวตาสองชั้นที่ค่อนข้างจะเป็นผู้ใหญ่กว่าน้องๆอีกสอง (รองลงมาคือพี่ต๋า เธอเป็นแมวตัวเมียประเภทสอง และดื้อสุดคือพี่ผ่อง หนุ่มผิวเข้มผู้ชอบกายกรรมตามผ้าม่าน) พี่โจ้ค่อนข้างรู้ความค่ะ กินอาหารเป็นเวลา ขับถ่ายตรงกระบะ ว่างๆก็เลียขนให้น้อง ถุงพลาสติกปลิวออกนอกประตูห้องพี่โจ้ก็จะตามคาบมาเก็บให้ จิ้งจก แมลงสาบ หนูทั้งแม่ทั้งลูก พี่โจ้คาบมาอวดตลอด เรารักพี่โจ้มาก ถ้ามีโอกาสจะหอมพี่โจ้บ่อยๆ (ยกเว้นตอนที่พี่โจ้เพิ่งกัดแมลงสาบหรือขย้ำหนูมา เราจะห่างกันสักพัก อาบน้ำก่อนแล้วค่อยจู๋จี๋กันตามปกติ)
เราเลี้ยงแบบระบบเปิดค่ะ หนุ่มๆก็จะสามารถเดินนวยนาดไปไหนมาไหนได้ จนมีอยู่วันหนึ่งเราต้องไปต่างจังหวัด จึงเตรียมน้ำกับอาหารเผื่อไว้ให้หนุ่มๆและแม่พริ้ง ซึ่งปกติเราจะให้กินของวิสกัส หนุ่มๆกินกันแต่เล็กจนโต บางวันก็มีอกไก่ฉีกบ้าง ปลาทูแกะบ้าง ซึ่งตอนนั้นเตรยมไว้ให้คืออาหารเม็ด ก็ไปธุระสองคืน กลับมาตามปกติ ดูไม่มีปัญหาอะไร
แต่หลังจากนั้น...พี่โจ้จะเริ่มกลับบ้านดึก จากที่กลับมาทุกห้าโมงเย็น (เรากลับบ้านสี่โมงเย็นค่ะ พวกหนุ่มๆจะเข้ามาหลังเราสักพัก) ก็เริ่มกลับสองทุ่ม ห้าทุ่ม จนหายไปทั้งคืน หายไปสองสามคืน เราก็เริ่มใจไม่ดี คิดในแง่ดีว่าพี่โจ้อาจจะไปชอบแมวสาวที่ไหนหรือเปล่า เพราะนัดหมอกำลังทำขันทีให้หนุ่มๆค่ะ เราอยู่กับพี่ต๋าพี่ผ่อง รอพี่โจ้กลับบ้านทุกวัน บางทีรอไม่ไหวก็ต้องทำข้าวเย็นให้ทั้งสองกินก่อน บางวันพี่โจ้กลับมาเราเอาอาหารให้ พี่โจ้ก็ไม่กินแล้ว
พี่โจ้เริ่มหายไปหลายวัน เราเลยเริ่มเป็นห่วง ก็เลยออกตามหาเขา ให้พี่ผ่องกับพี่ต๋าเฝ้าบ้าน จนไปเจอพี่โจ้นอนอยู่หน้าบ้านหลังหนึ่ง น่าจะเพิ่งมาอยู่ใหม่ ถัดไปสามสี่หลัง แต่ก็คิดว่าพี่โจ้แค่แวะไปนอนเล่นเท่านั้น คงไม่มีอะไร เราเลยกลับมาที่บ้าน เก็บกวาดบ้านไปตามปกติ จนเราไปเจอคลัง(ขยะ)สมบัติของพี่โจ้ เราเจอซองรอยัลคานิน ซึ่งเรามั่นใจเลยว่าเราไม่เคยซื้อให้ ตอนนั้นรู้สึกว่ายี่ห้อนี้มีดีตรงไหนทำไมพี่โจ้ถึงชอบจนคาบกลับมา (เราไม่ใช่ม้านะคะ) พอพี่โจ้กลับมาบ้านตอนห้าทุ่ม เราก็ถามพี่โจ้ว่าซองอาหารนี้พี่โจ้ไปเอามาจากไหน พี่โจ้ไม่ตอบ ทำหน้ารำคาญใส่เราก่อนจะสะบัดตูดหนีไปนอนซุกพุงพี่ต๋า ตอนนั้นเราเจ็บจริงๆค่ะ เล่าให้พี่ผ่องฟัง พี่ผ่องก็นอนหงายท้องให้ดู เราเลยต้องเก็บความเจ็บปวดเอาไว้
พี่โจ้เริ่มหายไปอีกครั้ง คราวนี้เราไปที่บ้านหลังเดิมค่ะ เจอพี่โจ้นั่งมองกิ่งก่าที่เกาะรั้วบ้านเขาอยู่ เราไปหาพี่โจ้ เล่นกับพี่โจ้ บอกให้พี่โจ้กลับบ้าน เดี๋ยวเราจะเปลี่ยนเป็นยี่ห้อที่พี่โจ้ชอบ เราเตรียมจะอุ้มพี่โจ้กลับ แต่เจ้าของบ้านนั้นก็มาซะก่อน เขาเรียกพี่โจ้ว่ามิกกี้ ในมือเขามีถุงอาหารแมวรอยัลคานิน เท่านั้นแหล่ะหัวใจเราสลายเลย แมวนอกใจไปมีบ้านน้อย สองคืนจากใจแมวเป็นอื่น ไปมีทาสใหม่คลายเหงาไปแล้ว เราพูดอะไรไม่ออก ได้แต่มองเขาอุ้มพี่โจ้ (ชื่อในวงการคือมิกกี้) กลับเข้าบ้านเขาไป เราจุกมาก เจ็บมากๆ ซุกพุงพี่ต๋าร้องไห้จนโดนตะปบหน้าผากมาสองที ไม่รู้จะหันหน้าไปทางไหน จะตัดใจหรือจะทำยังไง คิดไม่ออกเลยค่ะ หน่วงหัวใจจริงๆ
จนวันนี้ตอนเที่ยงๆ พี่โจ้กลับมาที่บ้านอีกครั้ง พี่โจ้นอนเงียบๆไม่พูดอะไร พอจะถ่ายรูปพี่โจ้ก็ตบมือถือ ใช้กำลังอยู่นานจนกว่าจแชะมาได้ ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาชอบถ่ายรูปมากมาก เขาเหมือนคนหมดใจแต่ตัดไม่ขาด เราก็ตัดเขาไม่ขาด ได้แต่เจ็บไปรักไปแบบนี้ เราไม่รู้จะบอกบ้านนั้นยังไงว่าพี่โจ้เป็น(แมว)ของเรามาก่อน ลึกๆในใจของเรายังรักพี่โจ้เสมอค่ะ
แนบรูปพี่โจ้นะคะ หกเดือนแล้ว.. พี่ลืมครึ่งปีของเราเพียงเพราะยี่ห้ออาหารยี่ห้อเดียวสินะ...
(ย้ำ เราไม่ใช่ม้านะคะ)
กล้องไม่ชัดเท่าไหร่นะคะ
ขอบคุณทุกคนที่รับฟังค่ะ