ว่าด้วยเรื่องของเกมนัดเมื่อคืนมีใครได้ดูพี่เสือบ้าง นัดเมื่อคืนพี่เสือจัดหนักจัดเต็ม จากที่ตอนแรกตื่นมาดูแบบง่วงๆพอจบเกมแล้วนอนไม่หลับเลยเหมือนหนึ่งกินยาบ้าไป5เม็ด 5555 ดีใจที่พี่เสือชนะแต่ไม่ว่าจะยังไงก็ยังตามเชียร์เมชุตกับพี่แพร์อยู่นะขอให้โชคดีค่าาา
สำหรับวันนี้เราก็มีภาพบรรยากาศหลังเกมมาฝากเช่นเคย ถ้าเพื่อนๆผ่านเข้าทู้มาแวะมาคุยกันก่อนะค่ะ...
ลูกทีมของเป็ป กวาร์ดิโอลา เอาคืนจากความพ่ายแพ้ที่เอมิเรตส์ สเตเดียมได้อย่างสวยงาม ด้วยการเรียงหน้าทำประตูใส่ผู้มาเยือนอย่างขาดลอย
หลังจากพ่ายพลิกล็อคในเกมนัดที่แล้วแบบเหนือความคาดหมายของแฟนบอลไปสักเล็กน้อย เป็ป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดากรทีมบาเยิร์น มิวนิค จัดทีมชุดใหญ่เท่าที่มีอยู่ลงสนามเต็มที่ เมื่อมีโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เป็นหัวหอกในการทำประตู และมีดิเอโก คอสต้า รวมถึงโธมัส มุลเลอร์ และติอาโก อัลคันทารา คอยสร้างเกมรุก
ฝั่งอาร์เซนอลผู้มาเยือน จะไม่มีเฮคเตอร์ เบเยริน แบ็คขวาฟอร์มแรกที่มีอาการบาดเจ็บ จึงค้องส่งมาติเยอ เดอ บูชี ลงเล่นแทน ส่วนสตาร์คนอื่นลงสนามกันครบครับทั้ง เมซูต โอซิล, ซานติ กาซอร์ลา และอเล็กซิส ซานเชซ
เริ่มเกมมา เป็นบาเยิร์น มิวนิคที่ครองบอลบุกเข้าใส่ผู้มาเยือนตามคาด และออกนำได้อย่างรวดเร็ว เมื่อติอาโก อัลคันทารา จ่ายบอลสุดสวยให้เลวานดอฟสกี้ชิงเอาชนะกับดักลำหน้าของอาร์เซนอลโหม่งบอลเข้าประตูไปอย่างง่ายดาย บาเยิร์นนำ 1-0
ถัดมาในนาทีที่ 13 อาร์เซนอลเกือบเอาคืนได้ทันควัน เมื่อเมซุต โอซิล ชาร์จบอลจากการเปิดทางกราบซ้ายเข้าไปกองอยู่ก้นตาข่าย แต่กรรมการไม่เป่าให้ประตู เพราะมิดฟิลด์เยอรมันใช้แชนสัมผัสบอลเสียก่อน
นาทีที่ 16 เลวานดอฟสกี้ ได้โอกาสลองส่องประตูปีเตอร์ เช็คอีกครั้ง แต่นายทวารปืนใหญ่ปัดออกไปได้ไม่มีพลาด
เสือใต้ต้องรอถึงนาทีที่ 29 จึงจะได้ประตูที่สองเมื่อโธมัส มุลเลอร์ พักบอลและวอลเลย์แฉลบกองหลังของอาร์เซนอลเข้าประตูไปอย่างไม่ยากเย็น บาเยิร์น นำ 2-0
ก่อนหมดเวลาครึ่งแรกเพียง 1 นาที ดาบิด อลาบา ฟูลแบ็คของบาเยิร์น มิวนิค ก็มาบวกประตูที่สามได้อย่างสุดสวย จากจังหวะลากบอลผ่านแนวรับของปืนใหญ่ของบรรจงปั่นบอลเสียบสามเหลี่ยม ปีเตอร์ เช็ค พุ่งสุดตัวแต่ปัดไม่ถึง ก่อนจะหมดครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ 3-0
เริ่มครึ่งหลังมาได้เพียง 10 นาที อาร์เยน ร็อบเบน ที่ลงมาเป็นสำรองได้ไม่ทันไรก็ทำประตูที่สี่ให้เจ้าถิ่นจากการชาร์จบอลในกรอบเขตโทษตุงตาข่ายชนิดปีเตอร์ เช็ค หมดสิทธิ์รับ บาเยิร์นนำ 4-0
อย่างไรก็ดี นาทีที่ 70 โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ก็มาทำประตูตีไข่แตกให้ทีมเยือนได้ เมื่อกองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส รับบอลจากการเปิดบอลทางกราบซ้ายด้วยการพักอก ก่อนตวัดด้วยเท้าซ้ายเข้าประตูไปอย่างสวยงาม อาร์เซนอลไล่มาเป็น 4-1
ในช่วงท้ายเกม บาเยิร์น มิวนิค ก็ยังไม่ผ่อนเกมและมาได้ประตูที่ 5 จากจังหวะที่โธมัส มุลเลอร์ ได้หลุดเข้าไปวางเท้ายิงผ่านมือปีเตอร์ เช็ค ให้เสือใต้ทิ้งห่างเป็น 5-1
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม บาเยิร์นเอาชนะอาร์เซนอลไป 5-1 เก็บสามคะแนนเต็มพร้อมรักษาตำแหน่งจ่าฝูงของกลุ่ม เอฟ ต่อไปโดยมี 9 คะแนน จาก 4 นัด ขณะที่อาร์เซนอลมี 3 คะแนนอยู่อันดับสุดท้ายของกลุ่ม
****[Bayern Munich]***[5.11.2015] ****[ ภาพบรรยากาศหลังเกม FC Bayern München 5-1 Arsenal]
สวัสดี แฟนๆพี่เสือทุกคนนะค่ะ
ว่าด้วยเรื่องของเกมนัดเมื่อคืนมีใครได้ดูพี่เสือบ้าง นัดเมื่อคืนพี่เสือจัดหนักจัดเต็ม จากที่ตอนแรกตื่นมาดูแบบง่วงๆพอจบเกมแล้วนอนไม่หลับเลยเหมือนหนึ่งกินยาบ้าไป5เม็ด 5555 ดีใจที่พี่เสือชนะแต่ไม่ว่าจะยังไงก็ยังตามเชียร์เมชุตกับพี่แพร์อยู่นะขอให้โชคดีค่าาา
สำหรับวันนี้เราก็มีภาพบรรยากาศหลังเกมมาฝากเช่นเคย ถ้าเพื่อนๆผ่านเข้าทู้มาแวะมาคุยกันก่อนะค่ะ...
หลังจากพ่ายพลิกล็อคในเกมนัดที่แล้วแบบเหนือความคาดหมายของแฟนบอลไปสักเล็กน้อย เป็ป กวาร์ดิโอลา ผู้จัดากรทีมบาเยิร์น มิวนิค จัดทีมชุดใหญ่เท่าที่มีอยู่ลงสนามเต็มที่ เมื่อมีโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ เป็นหัวหอกในการทำประตู และมีดิเอโก คอสต้า รวมถึงโธมัส มุลเลอร์ และติอาโก อัลคันทารา คอยสร้างเกมรุก
ฝั่งอาร์เซนอลผู้มาเยือน จะไม่มีเฮคเตอร์ เบเยริน แบ็คขวาฟอร์มแรกที่มีอาการบาดเจ็บ จึงค้องส่งมาติเยอ เดอ บูชี ลงเล่นแทน ส่วนสตาร์คนอื่นลงสนามกันครบครับทั้ง เมซูต โอซิล, ซานติ กาซอร์ลา และอเล็กซิส ซานเชซ
เริ่มเกมมา เป็นบาเยิร์น มิวนิคที่ครองบอลบุกเข้าใส่ผู้มาเยือนตามคาด และออกนำได้อย่างรวดเร็ว เมื่อติอาโก อัลคันทารา จ่ายบอลสุดสวยให้เลวานดอฟสกี้ชิงเอาชนะกับดักลำหน้าของอาร์เซนอลโหม่งบอลเข้าประตูไปอย่างง่ายดาย บาเยิร์นนำ 1-0
ถัดมาในนาทีที่ 13 อาร์เซนอลเกือบเอาคืนได้ทันควัน เมื่อเมซุต โอซิล ชาร์จบอลจากการเปิดทางกราบซ้ายเข้าไปกองอยู่ก้นตาข่าย แต่กรรมการไม่เป่าให้ประตู เพราะมิดฟิลด์เยอรมันใช้แชนสัมผัสบอลเสียก่อน
นาทีที่ 16 เลวานดอฟสกี้ ได้โอกาสลองส่องประตูปีเตอร์ เช็คอีกครั้ง แต่นายทวารปืนใหญ่ปัดออกไปได้ไม่มีพลาด
เสือใต้ต้องรอถึงนาทีที่ 29 จึงจะได้ประตูที่สองเมื่อโธมัส มุลเลอร์ พักบอลและวอลเลย์แฉลบกองหลังของอาร์เซนอลเข้าประตูไปอย่างไม่ยากเย็น บาเยิร์น นำ 2-0
ก่อนหมดเวลาครึ่งแรกเพียง 1 นาที ดาบิด อลาบา ฟูลแบ็คของบาเยิร์น มิวนิค ก็มาบวกประตูที่สามได้อย่างสุดสวย จากจังหวะลากบอลผ่านแนวรับของปืนใหญ่ของบรรจงปั่นบอลเสียบสามเหลี่ยม ปีเตอร์ เช็ค พุ่งสุดตัวแต่ปัดไม่ถึง ก่อนจะหมดครึ่งแรกไปด้วยสกอร์ 3-0
เริ่มครึ่งหลังมาได้เพียง 10 นาที อาร์เยน ร็อบเบน ที่ลงมาเป็นสำรองได้ไม่ทันไรก็ทำประตูที่สี่ให้เจ้าถิ่นจากการชาร์จบอลในกรอบเขตโทษตุงตาข่ายชนิดปีเตอร์ เช็ค หมดสิทธิ์รับ บาเยิร์นนำ 4-0
อย่างไรก็ดี นาทีที่ 70 โอลิวิเยร์ ชิรูด์ ก็มาทำประตูตีไข่แตกให้ทีมเยือนได้ เมื่อกองหน้าทีมชาติฝรั่งเศส รับบอลจากการเปิดบอลทางกราบซ้ายด้วยการพักอก ก่อนตวัดด้วยเท้าซ้ายเข้าประตูไปอย่างสวยงาม อาร์เซนอลไล่มาเป็น 4-1
ในช่วงท้ายเกม บาเยิร์น มิวนิค ก็ยังไม่ผ่อนเกมและมาได้ประตูที่ 5 จากจังหวะที่โธมัส มุลเลอร์ ได้หลุดเข้าไปวางเท้ายิงผ่านมือปีเตอร์ เช็ค ให้เสือใต้ทิ้งห่างเป็น 5-1
ช่วงเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ จบเกม บาเยิร์นเอาชนะอาร์เซนอลไป 5-1 เก็บสามคะแนนเต็มพร้อมรักษาตำแหน่งจ่าฝูงของกลุ่ม เอฟ ต่อไปโดยมี 9 คะแนน จาก 4 นัด ขณะที่อาร์เซนอลมี 3 คะแนนอยู่อันดับสุดท้ายของกลุ่ม
ขอบคุณข่าวจาก GOAL.COM และภาพสวยๆจาก Getty Images